เสี้ยวหนึ่งของชีวิต
เสี้ยวหนึ่งของชีวิต
เช้าวันศุกร์ ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง อีกสองวันก็ถึงวันที่ผมรอคอยและเตรียมตัวมาตลอด 2 ปี ผมเรียนพิเศษตลอด 2 ปี ก็เพื่อจุดหมายเดียวที่พ่อหวังไว้ ผมต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อให้ได้ ผมใช้เวลาวันละเกือบสิบชั่วโมง ใน 2 เดือนสุดท้าย เพื่อเตรียมตัวให้เหนือกว่าคู่แข่ง

ช่วง 2 เดือนนี่เองที่ผมต้องนั่งทำแบบฝึกหัดจนถึงตี 3 ทุกวัน และก็ทุกวัน พ่อผมจะหากิจกรรมส่วนตัวของเขามานั่งทำเป็นเพื่อน เรานั่งอยู่ด้วยกันจนเกือบเช้าทุกวัน ทุกๆคืน ผมจะมีไมโลร้อนๆมาวางอยู่ข้างหน้า พร้อมๆกับมือของพ่อที่จะคอยตบบ่าให้กำลังใจ คอยเตือนว่า "นอนได้แล้วหละลูก อย่าเครียดเกินไปเลย" ผมแทบจะไม่ได้ยินเสียงนั้นลอดหูเข้ามาเลย มันเป็นเสียงที่คุ้นเคยทุกวัน จนบางทีก็ออกจะรำคาญที่ถูกเตือนให้นอน

เมื่อคืนก็เป็นเหมือนทุกคืน พ่อยังคงชงไมโลมาให้ แต่แปลกหน่อยตรงที่เมื่อคืนพ่อคุยกับแม่จนดึก แล้วค่อยมานั่งเป็นเพื่อนผม วันนี้วันศุกร์ อีกสองวันเอง ผมเดินสวนพ่อเข้าห้องน้ำด้วยความรู้สึกแปลกๆ รู้สึกว่าอยากจะพูดอะไรด้วย แต่ก็ไม่ได้พูด ผมเดินไปแปรงฟันและอาบน้ำ ตอนเดินออกมาพ่อก็ออกไปทำงานเสียแล้ว วันนี้รู้สึกดีใจเป็นพิเศษ ผมทำคะแนนจากข้อสอบปีเก่าๆได้คะแนนสูงมากกว่าที่ประเมินไว้

ประมาณสิบเอ็ดโมง ผมทำข้อสอบชุดสุดท้ายเสร็จ และก็ตั้งใจว่าถัดจากนี้ไป 2 วัน จะเป็นวันพักผ่อน เพราะไม่ต้องการให้เครียดก่อนวันสอบมาถึง ผมทำข้อสอบอยู่ชั้นสองของบ้าน น้องชายก็ขึ้นมาบอกว่าพ่อแวะเอาอาหารเข้ามาให้เรา ความรู้สึกตอนนั้นผมอยากจะลงไปบอกพ่อว่าทำคะแนนได้ดี แต่ก็คิดว่าอีกซักเดี๋ยวค่อยลงไป พอลงไปอีกทีพ่อก็ออกไปทำธุระเสียแล้ว

ผมนั่งดูทีวีอยู่จนกระทั่งบ่ายสามโมง มีโทรศัพท์ดังขึ้น ผมเดินไปรับ เสียงของผู้หญิงลอดมาตามสาย ผมจับใจความได้ว่า เค้าพูดถึงชื่อพ่อผม และก็บอกว่ารถคว่ำเพราะหักหลบเด็กวิ่งข้ามถนน อาการไม่หนักนัก ผมเขียนโน๊ตไว้บนโต๊ะ แล้วรีบไปโรงพยาบาล ในใจตอนนั้นคิดว่าไปถึงพ่อคงใส่เฝือกอะไรแค่นั้น พอไปถึงอาผมก็ไปถึงพร้อมกันพอดี หมอนำเอกสารอนุญาติให้ผ่าตัดมาให้เซ็นต์ แล้วก็บอกว่าตอนนี้อยู่ห้อง X-Ray อาการไม่ค่อยดี เลือดคั่งในสมองต้องผ่าตัดด่วน แล้วเค้าก็เอาตัวพ่อเค้าห้องผ่าตัด ผมไม่ได้เจอพ่อเลย ตอนเย็นแม่มา ก็สั่งให้เรากลับบ้าน มีอะไรจะโทรไปบอก

เช้าวันเสาร์แม่โทรมาบอกว่าตอนนี้พ่ออาการดีขึ้นแล้ว อยู่ห้อง ICU แต่ยังไม่ได้สติ ผมตัดสินใจบอกแม่ว่าวันจันทร์ผมไม่เข้าสอบ ผมอยากเฝ้าอาการพ่อ แม่รีบกลับมาบ้านโดยให้อาเฝ้าที่โรงพยาบาลแทน แล้วก็บอกกับผมว่ารู้รึเปล่าว่าพ่อเค้าอยากให้ผมสอบติดแค่ไหน แล้ววันนี้ที่เค้ารีบออกไป รู้ไหมว่าเค้าไปไหน ผมบอกว่า "ไม่รู้" แม่ขอร้องให้ผมไปเข้าสอบ แล้วแม่ก็บอกว่า "พ่อเค้ากำลังจะไปบนพระพรหม ขอให้ลูกสอบติด แต่รถคว่ำเสียก่อน"

วันนั้นผมบอกแม่ว่าผมกลัวว่าพ่อได้สติขึ้นมาแล้วจะรู้ว่าผมไม่เข้าสอบ และจะเสียใจ ผมตกลงเข้าสอบ ผมหลบเข้าห้องน้ำ ยืนนิ่งแล้วก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าต้องเจอกับปัญหาที่หนักมาก ผมร้องไห้อยู่นานมาก ............ วันอาทิตย์แม่โทรมาบอกว่าพ่อได้สติแล้ว แต่ยังไม่ให้ผมไปเยี่ยม บอกแค่ว่าขอให้สอบให้เสร็จก่อน ทางนี้แม่จะดูแลเอง ผมสบายใจขึ้น คิดอย่างเดียวว่าพ่อจะต้องดีใจถ้ารู้ว่าผมสอบติด ผมมั่นใจมาก

ทุกๆวันอาการของพ่อดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แม่ก็ไม่ยอมให้ผมไปเยี่ยม ผมและน้องเข้าสอบพร้อมกันอยู่ 5 วันจนเสร็จ ที่แรกที่ผมและน้องไป คือโรงพยาบาลทั้งชุดนักเรียนแบบนั้นแหละ ผมไปถึงแม่และอาก็ยังคงอยู่หน้าไอซียู แม่ถามว่าสอบเสร็จแล้วเหรอ ผมบอกว่าเสร็จแล้ว ทำข้อสอบได้ไม่ดีนัก แต่มั่นใจว่าน่าจะติดที่ไหนสักแห่ง แม่ให้เข้าไปเยี่ยมพ่อ พอผมเห็นพ่อ ผมยืนตัวแข็งเดินต่อเข้าไปไม่ได้ พ่อผมถูกโกนศรีษะเพื่อผ่าตัด พ่อยังไม่ฟื้น แม่ขอโทษ แม่บอกว่าอาการจริงๆดีขึ้น แต่ยังไม่รู้สึกตัว ผมเดินเข้าไปกุมมือพ่อ ผมเริ่มน้ำตาคลอ แต่ก็บอกกับพ่อว่าผมสอบเสร็จแล้ว รีบตื่นมาดูผลสอบด้วยกันนะ ทุกคนเห็นว่านิ้วมือพ่อขยับได้ นิ้วมือเขาขยับได้จริงๆ นางพยาบาลเดินเข้ามาดูอาการ แล้วก็บอกกับผมว่าอย่างนี้คงไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว

วันรุ่งขึ้นตอนหกโมงเช้า แม่ไปถึงโรงพยาบาล โทรกลับมาบ้านแต่เช้า บอกว่าข้างเตียงเมื่อคืนเห็นพ่อลืมตามองไปรอบๆ แม่ดีใจมาก ผมบอกว่าผมจะรีบไปก่อนแปดโมง ........... ซักเจ็ดโมงนิดๆ แม่โทรมาอีกครั้ง แม่บอกว่าให้เอาเสื้อสูทของพ่อไปด้วย..... ตอนนั้นผมร้องไห้ออกมาทันที ผมรู้ว่าแม่หมายถึงอะไร ผมรู้ว่าผมได้สูญเสียคนที่ผมรักที่สุดในชีวิตไปแล้ว ผมไม่มีโอกาสจะได้คุยกับพ่ออีกแล้ว พ่อรอจนกระทั่งผมสอบเสร็จ ........ พ่อรอจนกระทั่งลูกของพ่อเดินไปบอกว่าสอบได้แล้วพ่อถึงไปอย่างสงบ ........... ครั้งเดียวในชีวิตที่ผมร้องไห้มากที่สุด ผมจะไม่มีใครชงไมโลมาให้อีกแล้ว ผมจะไม่มีใครมาคอยตบบ่าให้กำลังใจ ผมจะไม่มีวันได้พูดว่ารักพ่อ........... ทั้งๆที่เค้าคือคนที่ผมรักที่สุด วันนี้เวลาผ่านไปเกือบสิบปี สิ่งหนึ่งที่ยังคงทำให้ผมเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ คือวันศุกร์เมื่อสิบปีที่แล้ว ผมเดินสวนกับพ่อโดยที่ไม่ได้คุยกับพ่อซักคำ ผมควรจะได้พูดว่าผมรักพ่อมากแค่ไหน แต่ผมก็เดินสวนไปเฉยๆ ทุกวันนี้ผมไม่เคยหยุดที่จะคิดเมื่อเวลาบอกคนที่ผมรักว่าผมรักเค้ามากแค่ไหน ผมจะไม่ยอมเสียใจกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำอีก ……. "พ่อครับ...ผมรักพ่อ

ที่มา FW Mail



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:30:55 น.
Counter : 610 Pageviews.

0 comment
ท่านพลาดข้อไหน
ท่านพลาดข้อไหน
A-Z The (Friend) Series มีหลายสิ่งที่คุณรู้สึกได้ในมิตรภาพที่ไร้ข้อจำกัดของความเป็นพื่อน
ความผูกพันเหล่านั้นถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษรเพื่อบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่แสนจะพิเศษของทุกๆ คนที่มีเพื่อน คุณขาดข้อไหนหรือเปล่า

Always be honest , would you want them to lie to you?
จงซื่อสัตย์เสมอ...... คุณต้องการให้เพื่อนโกหกคุณเหรอ

Be there when they need you, or you may wind up alone
จงอยู่เคียงข้างเมื่อเขาต้องการ.....หรือคุณต้องการจะอยู่คนเดียว

Cheer them on, we all need encouragement now and then
ให้กำลังใจ......เราทุกคนต่างก็ต้องการการสนับสนุนเป็นบางครั้ง

Don't look for their faults, even if you have none
อย่ามองหาข้อผิดพลาดของเขา.....แม้ว่าคุณจะไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่ข้อเดียว

Encourage their dreams, what would we be without them?
สนับสนุนให้เขาทำตามความฝัน.......เราจะอยู่อย่างปราศจากความฝันได้อย่างไร

Forgive them, you just may do something wrong sometime
ให้อภัย ....คุณอาจจะเคยทำผิดพลาดในบางเวลา

Get together often, misery loves company, so does glee
เจอกันบ่อยๆ...... เมื่อมีความทุกข์ต้องมีเพื่อนเพราะการคบค้าสมาคมทำให้เกิดความสนุกสนาน

Have faith in them, the human animal is remarkable
มีศรัทธาในเพื่อน.....การมีศรัทธาเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสิ่งมีชีวิตอื่น

Include them, you may need to be included sometime
รวมเขาเข้าไปด้วย......คุณก็อาจจะต้องการถูกรวมบ้างบางครั้ง

Just be there when they need you
อยู่ข้างๆ.......เมื่อเขาต้องการคุณ

Know when they need a hug, and couldn't you use one?
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาต้องการให้กอด...เคยกอดเพื่อนบ้างหรือยัง

Love them unconditionally, that is the only condition
รักโดยไร้ข้อแม้........นี่เป็นเพียงเงื่อนไขข้อเดียวเท่านั้น

Make them feel special, because aren't we all special?
ทำให้เขารู้สึกเป็นคนพิเศษ.. เพราะเราทุกคนก็เป็นคนพิเศษไม่ใช่เหรอ

Never forget them, who wants to feel forgotten
อย่าลืมเพื่อน........ ใครบ้างอยากถูกลืม

Offer to help, and know when " No thanks" is just politeness
เสนอตัวที่จะช่วยเหลือ......และควรรู้ว่าเมื่อไหร่ที่คำว่า
"ไม่เป็นไร ขอบคุณ "เป็นคำพูดแค่เพื่อมารยาท

Praise them honesly and openly
ยกย่องเพื่อนอย่างจริงใจ และเปิดเผย

Quietly disagree, noisy No's make enemies
อย่าโต้แย้งอย่างโจ่งแจ้ง........การทำเช่นนั้นก่อให้เกิดศัตรู

Really listen, a friendly ear is a soothing balm
ตั้งใจรับฟัง.......การรับฟังของเพื่อนคือยารักษาอาการ

Say you're sorry, don't let them assume it
กล่าวคำขอโทษ.......อย่าปล่อยให้เพื่อนต้องสันนิษฐานเอาเอง

Talk frequently, communication is important
พูดคุยกันบ่อย ๆ ........การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ

Use good judgement
ใช้ข้อตัดสินที่ดี

Verbalsise your feelings
อธิบายความรู้สึกของคุณเป็นคำพูด

Wish them luck, hopefully good
อวยพรให้โชคดี ..........หวังว่าเขาจะพบแต่เรื่องดี

Examine your motives before you "help" out
ตรวจสอบเจตนาของคุณ ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือ

Your words count, use them wisely
คำพูดของคุณมีค่า ......จงใช้อย่างชาญฉลาด

Zip your lips when they told a secret
ปิดปากให้สนิทเมื่อเพื่อนบอกความลับ




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:30:07 น.
Counter : 709 Pageviews.

0 comment
ใส่ใจเขา...เหมือนห่าน
ใส่ใจเขา...เหมือนห่าน
คุณเคยสังเกตเห็นไหมว่า...ในฤดูใบไม้ร่วง
ฝูงห่าน มักบินมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ ในลักษณะที่เป็นตัวอักษรวี (V)
จาการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า
เหตุใดฝูงห่านจึงต้องบินเช่นนั้น ในขณะที่ห่านตัวหนึ่งกระพือปีก
ห่านที่บินตามมาจะได้รับแรงยกตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น
การที่ฝูงห่านบินเป็นตัวอักษรตัว v นั้น
จะทำให้ประสิทธิภาพการบินเพิ่มขึ้น 76% กว่าการบินเดี่ยวเพียงตัวเดียว
"เฉกเช่น...คนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีม ซึ่งไปในทิศทางเดียวกัน
สามารถไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่า และง่ายกว่า เพราะว่าคนเหล่านั้นมุ่งหน้าไป
โดยอาศัยความไว้วางใจในเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ"

เมื่อห่านบินอยู่ข้างหน้ารู้สึกเหนื่อย
มันจะบินไปอยู่ข้างหลัง และให้ห่านตัวอื่นบินขึ้นข้างหน้าแทน

"เฉกเช่น...เราต้องมีการแบ่งปันภาวะการเป็นผู้นำ และผลัดเปลี่ยนกันในการทำงานหนัก"

ฝูงห่านที่บินอยู่ข้างหลังจะส่งเสียงร้อง
เพื่อให้กำลังใจห่านที่บินอยู่ข้างหน้า ให้รักษาระดับความเร็วต่อไป

"เฉกเช่น...คำพูดชมเชย และกำลังใจ จะทำให้คนที่อยู่แนวหน้ายังคงมุ่งหน้าต่อไปได้
ท่ามกลางความกดดันและความอ่อนล้าที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน"

ท้ายที่สุด หากว่าห่านตัวใดตัวหนึ่งป่วยหรือได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถบินร่วมฝูงได้
ห่านอีก 2 ตัว จะบินตามลงมา
เพื่อช่วยเหลือและปกป้องห่านตัวที่บาดเจ็บ จนกระทั่งห่านตัวนั้นหายดีหรือว่าตายไปแล้ว
ห่านทั้ง 2 ตัวนั้นจึงจะเข้ากลุ่มกับฝูงห่าน เพื่อตามหาฝูงห่านเดิมให้ทัน

"เฉกเช่น...หากเรามีสัญชาตญาณเหมือนห่าน
เราจะยืนเคียงข้างคนอื่นๆ ในช่วงเวลาที่เขาเกิดความยุ่งยากลำบากทั้งกายและใจ"

หากคุณมีโอกาส ได้เห็นฝูงห่านอีก จงอย่าลืมว่า
มันเป็นรางวัล ความท้าทาย และย้ำเตือนสิทธิพิเศษ...ในการเป็นส่วนหนึ่งของทีม





Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:29:26 น.
Counter : 592 Pageviews.

0 comment
ความคิดถึง
ความคิดถึง
เรื่องดีๆ น่าอ่าน ที่เกี่ยวกับความคิดถึงจ้า!!! :) *********************************************************

รถบรรทุกคันนี้ ขับมานานมาก เวลาผ่านไป ความคิดถึง ก็มากขึ้นตามลำดับ........มากขึ้น..มากขึ้น และมากขึ้น จนเต็มคันรถ..........เลยหลังคาหน้ารถออกมา........

ถึงแม้หนทางจะยาวไกล ฝนจะตก ฟ้าจะร้องหนัก ถึงจะหนัก....... แต่เจ้าของไม่เคยเลย....... ...ที่จะปล่อยให้ความคิดถึง ร่วงหล่นเลยสักความคิดถึง...จนรถบรรทุกคันนี้ ได้มาเจออุโมงค์ ใหญ่ แต่เพดานต่ำ ......แค่ผ่านอุโมงค์ เจ้าของรถ ก็จะได้ไปส่งเอาความคิดถึง อันมหาศาลให้กับ เธอคนนั้น.... แต่อุโมงค์มันต่ำ....ต่ำกว่ากองแห่งความคิดถึง เพียง 1นิ้ว

แค่หยิบเอาเศษเสี้ยว ความคิดถึงนั้น.......ออกไป สัก 1 นิ้ว เจ้าของรถก้จะได้เจอเธอคนนั้นดังใจหมาย.......แต่เขาไม่ยอม ไม่ยอมแม้แต่ จะเอาความคิดถึงออกไปสักนิดเดียว เพราะเขารู้ดีว่า มันมีค่ามากแค่ไหน............

หนทางอีกแค่ ระยะทางอุโมงค์......300 เมตร..... แต่เขากลับไปไม่ได้...เขาจะทำยังไง...... จะขน 2 รอบหรือ แล้วมันหล่นไประหว่างทางหรือ ไม่??? เพื่อน ๆ ข่วยคิดหน่อยดิ........ ช่วยเขาเอาความคิดถึงไปให้แด่เธอ อันเป็นที่รัก...........โดยไม่เอากองแห่งความคิดถึงออกไป........;-)

เฉลย อยู่ข้างล่างน้า....


เขาคนนั้นได้ตัดสินใจที่จะปล่อยยางของรถลงล้อละ 1 นิ้ว ถึงแม้ว่าจะวิ่งช้าลง...... ทำให้ถึงที่หมายช้าขึ้น....... แต่ความมั่นคง...........ที่มีจุดหมายปลายทาง......ถึงแม้ว่า จะใช้เวลานาน....เขาก็พร้อมที่จะเผชิญ......ที่จะรอ จนกว่า เจอเธอ.......ดีกว่าที่จะทิ้งความคิดถึงที่มีต่อ เธอคนนั้นออกไป..ออกไป แม้แต่.........เสี้ยวหนึ่งก็ตาม...




Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 23:28:46 น.
Counter : 665 Pageviews.

0 comment
ทำเดี๋ยวนี้
ทำเดี๋ยวนี้
ในชั้นเรียนศึกษาผู้ใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ทำสิ่งที่"ให้อภัยไม่ได้" อย่างหนึ่ง
ผมให้การบ้านนักเรียนไป การบ้านที่ให้คือ "ไปหาใครสักคนที่คุณรักภายในสัปดาห์หน้า และบอกเขาว่าคุณรักเขา ต้องเป็นคนที่คุณไม่เคยพูดคำนี้มาก่อน
หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นคนที่คุณไม่เคยพูดคำนี้มานานแล้ว"

งานนี้ฟังดูไม่น่าจะลำบากยากเย็นอะไรนัก จนกระทั่งคุณหยุดคิดได้ว่าคนส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้อายุมากกว่า 35 ปีแล้วและได้รับการเลี้ยงดูในรุ่นที่ถูกสอนมาว่า
การแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเปิดเผยนั้นไม่ใช่ "ลูกผู้ชาย" การแสดงความ รู้สึกหรือการร้องไห้ทำไม่ได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นงานที่สร้างความทรมานใจสำหรับบางคนมาก

ต่อมาตอนเริ่มชั่วโมงเรียน ผมถามว่าใครต้องการเล่าสู่กันฟังบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนบอกคำนี้กับคนที่เรารัก ผมหวังเอามากๆ ว่าคงจะมีใครสักคนอาสาสมัครแน่ เพราะปกติจะเป็นอย่างนั้น แต่เย็นวันนี้กลับมีผู้ชายยกมือเพียงคนเดียว ดูเขากระตือรือร้นมาก และตัวสั่นเล็กน้อย

เขาเริ่มด้วยการพูดว่า "เดนนิส สัปดาห์ก่อน ผมโกรธคุณมากตอนที่คุณให้งานนี้กับเรา ผมรู้สึกว่าไม่รู้จะพูดคำนั้นกับใครดี และยิ่งกว่านั้นคุณเป็นใครถึงมาสั่งให้ผมทำเรื่องส่วนตัวอย่างนั้น แต่พอผมเริ่มขับรถกลับบ้าน สำนึกของผมก็เริ่มพูดกับผม มันบอกผมว่า ผมรู้ดีอยู่แล้วว่าผมอยากจะพูดว่าผมรักคุณกับใคร..

5 ปีก่อนนั้นผมกับพ่อมีความเห็นไม่ตรงกันอย่างรุนแรง และไม่เคยปรับความเข้าใจกันได้อีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น เราหลีกเลี่ยงการเจอหน้ากัน แทบจะไม่พูดกันเลย ดังนั้นวันอังคารที่ผ่านมาตอนกลับบ้านผมก็ยืนยันกับตัวเองว่าผมจะบอกพ่อว่า ผมรักท่าน"

"ผมแทบบ้า แต่ตัดสินใจจะทำก็เหมือนจะช่วยยกภูเขาออกจากอกยังไงยังงั้น...พอถึงบ้าน ผมก็รีบเข้าบ้านเพื่อบอกภรรยาว่าผมจะทำอะไร เธอเข้านอนแล้ว แต่ผม
ปลุกให้เธอลุก พอผมบอกเธอ เธอไม่ใช่แค่ยันตัวลุกขึ้น แต่เธอถึงกับเด้งผึงมาแล้วกอดผม และเป็นครั้งแรกในชีวิตแต่งงานของเราที่เธอเห็นผมร้องไห้ เราอยู่
ด้วยกันจนดึก ดื่มกาแฟและคุยกัน เยี่ยมมากทีเดียว"

"เช้าวันต่อมา ผมตื่นแต่เช้าตรู่ด้วยความแจ่มใส ผมตื่นเต้นมากจนแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ผมไปที่ทำงานแต่เช้า และรีบทำงานได้มากขึ้น ซึ่งเสร็จภายใน 2 ชม.แทนที่จะต้องใช้เวลาทั้งวันเหมือนก่อน"

"5 โมงครึ่ง ผมก็กดกริ่งอยู่หน้าบ้านท่าน ในใจภาวนาว่าพ่อคงมาเปิดประตูเองนะผมกลัวว่าถ้าแม่มาเปิด ผมคงปอดแหกบอกแม่แทน แต่โชคดี..พ่อมาเปิด..ผมไม่ยอมเสียเวลา ก้าวเข้าไปในบ้านก้าวหนึ่ง และพูดว่า"พ่อ..ผมแค่แวะมาบอกว่าผมรักพ่อ'"

"ราวกับความเปลี่ยนแปลงโถมเข้าหาพ่อยังงั้น สีหน้าท่านอ่อนโยนลงทันที ดูเหมือนความยากลำบากจะอันตรธานไป และท่านก็เริ่มร้องไห้เดินมากอดผม และพูดว่า.. "พ่อก็รักแก ลูก แต่พ่อไม่เคยพูดออกมา'"

"เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากจนผมแทบไม่อยากขยับตัว แม่เดินน้ำตาคลอเบ้าออกมา ผมโบกมือและเอียงแก้มให้ท่านจูบ เรากอดกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วผมก็จากไป ผมไม่
เคยรู้สึกดีๆแบบนี้มานานมากๆ"

"แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของผม.. 2 วันหลังจากผมไปเยี่ยมท่าน พ่อของผมซึ่งเป็นโรคหัวใจ แต่ไม่เคยบอกผม ก็หัวใจล้มเหลว และต้องเข้าโรงพยาบาลโดยไม่รู้ตัว.. ผมไม่รู้ว่าแกจะหายดีหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณทุกคนในห้องเรียนนี้ก็คือ หากคุณรู้ว่าอะไรควรทำ ก็อย่ารีรอ อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าผมรีรอที่จะ
บอกพ่อ ผมอาจไม่มีโอกาสอีกเลย.. จงทำสิ่งที่คุณต้องการจะทำ และทำเดี๋ยวนี้"

from FW Mail



Create Date : 26 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 0:08:50 น.
Counter : 714 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend