สำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตาย
สำหรับคนที่อยากฆ่าตัวตาย
แบบที่ 1 แขวนคอตาย

คนหลายๆคนอาจคิดว่า คนที่ตายด้วยวิธีนี้ คือการขาดอากาศหายใจจากการรัดของเชือก เกือบถูกนะ จริงๆแล้วเมื่อเราแขวนคอตัวเอง เชือกที่ผูกคอเราจะดึงตัวเราและน้ำหนักของเราทั้งหมด กระดูกตรงที่เชือกผูกอยู่ที่คอ เรียกว่ากระดูกคอนั้นล่ะ ท่อนบนสุด จุดที่ติดกับก้านสมอง หรือศูนย์รวมประสาทส่วนกลาง คือก้านสมองนี้จะมีหน้าที่สังให้หัวใจเต้น สั่งให้รายกายขยับ สั่งให้ร่างกายเราหายใจ กระดูกคอส่วนนั้นถูกแรงทำให้ยืดออก ทำให้การสั่งงานการสมองขาดลง ร่างกายไม่หายใจ หัวใจไม่เต้น ร่างการเสียการควบคุม ไม่เชื่อลองได้ครับ ท่านที่คิดว่า แขวนคอตัวเองเล่นๆแล้วเปลี่ยนใจจะใช้มือดึงตัวเองขึ้น ทำไม่ได้แน่ครับ ถ้าไม่มีคนช่วย ตายแหง.. ฉนันอย่าเล่นแขวนคอตัวเอง

แบบที่ 2 ตัดคอ

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกิโยติน หรือการใช้ดาบฟันให้ขาด ก่อนมีการประหาร นักโทษจะหวาดกลัวตืนเต้น ทำให้เลือดสูบฉีด มาก ร่างกายได้รัป อ๊อกซิเจน มากกว่าปกติ รวมทั้งสมองด้วยสมองของคนถูกตัดคอยังมีชีวิตอีกประมาณ3-5นาที แล้วแต่อ๊อกสิเจนในสมอง ในขณะนั้น เขายังได้เห็น ได้ยิน อยู่ อีก 3-5นาที เห็นว่ากันว่าคนที่ตัดคอนักโทษด้วยเครื่องกิโลติน เมื่อตัดคอเสร็จ ได้นำหัวของนักโทษมาดู และได้เห็นแววตาครั้งสุดท้าย......... ผู้อ่านลองนึกภาพเองแล้วกัน

แบบที่ 3 ยิงด้วยปืนที่หัว

บริเวณทัดดอกไม้ มันจะเจ็บมาก สมองบางส่วนยังดีอยู่และก้านสมองยังดีอยู่ ร่างกายจะยังคงทำงานไปได้อีกพัก จนกว่าเลือดจะคังในสมอง มากจนไปกดทับการสั่งงานของระบบประสาท (อย่ายิงเข้าขมับนะครับมันจะทำให้ท่านรอด และตาจะบอด )

แบบที่ 4 ยิงด้วยปืนเข้าที่หัวใจ

อันนี้จะปวดแบบหวิวๆวูปๆ นึกภาพนะครับร่ายกายเสียความดันไปอย่างรวดเร็ว รายกายหมดแรง จากการเสียแรงดัน เลือดไหลออกมาเป็นท่อน้ำประปาจนเลือดไม่พอไปเลี้ยงสมองจนตาย ก่อนตายคงได้กลิ่นคาวเลือดตัวเองพอสมควร

แบบที่ 5 ขาดอากาศหายใจ

ในที่ๆมีอากาศหายใจแต่ไม่มี อ๊อกซิเจน ก่อนอ๊อกซิเจนหมด จะมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด เม็ดเลือดจะมีคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ สูงมากจนกลายเป็น พิษในเม็ดเลือด รายกายจะค่อยๆชาหายใจเร็วมากกว่าปกติ เพื่อต้องการอ๊อกซิเจน หน้ามืด เวียนหัว จนสลบ และตายในที่สุด แบบที่ 6 จมน้ำ อันนี้เขาว่าเป็นที่สุดของที่สุด ใครตายด้วยวิธีนี้ ทรมาณมาก รายกายเต็มไปด้วยความหวาดกลัวพยายามกระเสือกกระสน เอาชีวิตตัวเองให้รอด หายใจเข้าไปมีแต่น้ำ สำลักน้ำ น้ำจะเข้าไปอยู่ในกระเพาะและปอดจนเต็ม แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนขาดอากาศหายใจตาย ผู้เขียน เคยไปเก็บศพคนจมน้ำตายมา เหมือนศพจะบอกความรู้สึกให้ผู้เขียน นอกนั้น ผู้เขียนนึกไม่ออกครับ นึกได้แค่เนี๊ยะล่ะ... ไม่ได้แนะนำให้ใครทำตามนะเพียงแต่อยากบอกว่า ถ้าเราจะหนีปัญหาโดยการตายน่ะ มันไม่ โสภา สักเท่าไร่ ครับ..

------------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูล จากคุณซีอุย ใน MTha! ครับ



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 23:40:41 น.
Counter : 711 Pageviews.

0 comment
ความจริงใจในมิตรภาพ
ความจริงใจในมิตรภาพ
ทุกคนแสวงหาเพื่อนแท้
ถือเป็นสิ่งมีค่าในชีวิต

เมื่อเราต้องการความจริงใจจากเพื่อน
ก็ควรสำรวจตนเองก่อนว่า
เราคบเพื่อนอย่างจริงใจเพียงใด

........................
ในความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน
การให้และการรับสมดุลกัน

เมื่อล่วงรู้ความต้องการของเพื่อน
ควรรีบให้โดยเขาไม่ต้องร้องขอ

และเมื่อเขายินดีให้ด้วยน้ำใจ
ควรรับไว้ไม่ว่าค่ามากน้อยเพียงใด

เพราะคุณค่าแท้จริงของสิ่งของนั้น
อยู่ที่น้ำใสใจจริงของการให้

สิ่งที่แลกเปลี่ยนระหว่างเพื่อน
มีมากกว่าวัตถุสิ่งของหรือเงินทอง

.........................

รากฐานที่สำคัญคือน้ำใจไมตรี
คือความรักสนใจใยดี
ปรารถนาให้เพื่อนเป็นสุข
ห่วงใยเมื่อเพื่อนมีทุกข์ร้อน
พลอยปลื้มปิติด้วยเมื่อเพื่อนสัมฤทธิผล

เมื่อเพื่อนมีปัญหาก็ช่วยแก้
ไม่ละทิ้งยามยากลำบาก
เราจริงใจต่อเพื่อนได้ดังนี้หรือเปล่า?

เมื่อเราทำตนเป็นเพื่อนที่ดีแล้ว
ควรหวังได้ว่าจะไม่ขาดเพื่อนที่ดี

ผู้ที่คร่ำครวญว่าไม่มีใครจริงใจด้วย
ควรสำรวจตนเองว่ามีความจริงใจกับใครหรือเปล่า

ผู้ที่คิดว่าตนเองไม่มีมิตรแท้เลยนั้น
ทำตนเป็นมิตรแท้ของใครสักคนหรือเปล่า?

หรือเมื่อเราได้พบผู้เป็นมิตรที่ดีแล้ว
เราได้รับรู้หรือสำนึกคุณค่าของมิตรภาพหรือเปล่า?

.................................

อันที่จริงนั้น
เรามีมิตรแท้ตั้งแต่เยาว์วัย

พ่อแม่เป็นยอดปิยมิตรของลูก
ให้ทั้งน้ำนม ข้าว น้ำ ไออุ่นของอ้อมแขน
และความรักใคร่เอ็นดู

ครูบาอาจารย์เป็นกัลยาณมิตรของศิษย์
ปรารถนาจะเห็นศิษย์มีสติปัญญากล้าแข็ง
ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ
ชี้แนวทางปฏิบัติเพื่อความสำเร็จในชีวิต

การรับรู้และสำนึกคุณค่า
ของพ่อแม่และครูอาจารย์
จะเป็นรากฐานให้เราเรียนรู้จัก
รับรู้และสำนึกในคุณค่า
ของมิตรภาพที่แท้จริงในชีวิต

---------------------------------------------
จาก เพ่งพินิจเรื่องชีวิต โดย ระวี ภาวิไล



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 23:40:05 น.
Counter : 794 Pageviews.

0 comment
ศิลปะการด่า
ศิลปะการด่า
มีเพื่อนร่างท้วมตั้งสมญานามให้ผมว่า เป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ซึ่งค่อนข้างจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะมีปฏิสัมภิทาที่รวดเร็วกว่าชาวบ้าน จึงปฏิรูปออกมาเป็นสากกระเบือแจกจ่ายออกไป ดีกว่าเก็บเอาไว้ เป็นพยาบาทวิตกเหมือนพวกปากหวาน ก้นเปรี้ยว

ศิลปะการด่า หรือวิชาที่ว่าด้วยการผรุสวาทนั้นมีหลายระดับ เริ่มตั้งแต่การด่าแบบพริมิทีฟ (primitive) ซึ่งเป็นการด่า แบบดึงเอาของใกล้ตัว เช่น หม้อ ไห กระทะ อวัยวะ หรือสิ่งของต่างๆ มา สมาส หรือ สนธิกับคำอีกคำหนึ่ง เช่น เอาใบหน้าที่เป็นของสูง มารวมกับ son-teen ที่เป็นอวัยวะเบื้องต่ำ เป็นต้น การด่าแบบนี้ ถือเป็นผรุสวาทวาจาที่บริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นการระบายอารมณ์แบบเฉียบพลันทันที เป็นการด่าที่ได้อารมณ์และใจความชัดเจน ไม่ซับซ้อน จึงเป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวาง

ศาสตร์ของผรุสวาทวิชาในขั้นที่สูงขึ้นมาอีกหน่อย เราจะเรียกว่าเป็นการด่าแบบ 'aesthetics' หรือ abstract ก็ได้ เป็นศาสตร์แห่งการด่าเพื่อให้เกิดความงามหรือ ปรัชญาแห่งความงาม การด่าประเภทนี้ ค่อนข้างจะ pretentious หรือ ดัดจริตขึ้นมาหน่อย เป็นการด่าแบบแอดวานซ์
โดยใช้ความสวยงามของภาษาเป็นสื่อให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ

สรุปแล้วการด่านั้น เป็นการระบายอารมณ์ให้หมดไป คนด่าชอบด่าจึงเป็นพวกอารมณ์นิยม (emotovism) เป็นพฤติกรรมที่ปฏิเสธค่าทางจริยธรรม มุ่งแสดงอารมณ์หรือความรู้สึกต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นหลัก
---------------------------------
คัดมาจากบทบรรณธิการ ของนิตยสารลิปส์ โดยคุณศักดิ์ชัย กาย



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 23:39:32 น.
Counter : 1065 Pageviews.

0 comment
ข้อควรจำในการดำเนินชีวิต
ข้อควรจำในการดำเนินชีวิต
แง่มุมของชีวิต (ข้อมูลจาก หนังสือชุดเก็บตกดอทคอมม สำนักพิมพ์แจ่มใส) อยากให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกัน

1. จงอย่าประเมินค่าของตนเองให้ต่ำต้อย โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่น พึงระลึกเสมอว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และทุกคนก็มีเอกลักษณ์พิเศษเป็นของตนเอง

2. อย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า ด้วยการปล่อยเวลาให้ผ่านไป จงคิดว่าทุกๆวันที่ผ่านพ้นไป คือส่วนหนึ่งของชีวิตเราที่ผ่านไปด้วยเช่นกัน

3. อย่าละความพยายามเมื่อเจอปัญหา จงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้น เมื่อคุณละทิ้งความพยายามของคุณเอง

4. อย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนเส้นผมบางๆ ที่บังตา ไม่ให้คุณมองเห็นคนอื่นและสิ่งรอบข้าง

5. จงอย่ากลัวการเสี่ยง เพราะมันคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ

6. อย่าทิ้งความรักไปจากชีวิต โดยการบอกว่าไม่มีทางที่จะหามันพบ หนทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับความรัก คือการรู้จักให้ และการรักษาความรักที่ดีที่สุด คือการให้อิสระกับมัน จำไว้ว่ายิ่งคุณพยายามไขว่คว้ามันไว้กับตัวคุณมากเท่าไร มันก็ยิ่งจะจากไปจากคุณได้เร็วเท่านั้น

7. อย่าลืมที่จะระลึกอยู่เสมอว่า คุณมาจากที่ไหน และคุณกำลังจะไปที่ใด

8. พึงตระหนักว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องการคือความประทับใจ

9. จงอย่ากลัวการรับรู้ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ความรู้นั้นไร้น้ำหนัก แต่เป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่มันจะติดตัวคุณไป และไม่มีใครที่สามารถขโมยมันไปจากคุณได้

10. จงใช้เวลาและคารมอย่างระมัดระวัง เพราะทกสิ่งที่ผ่านไปจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้ เหมือนสายน้ำที่จะไม่มีวันไหลย้อนกลับ

11. จงรู้ว่าชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน แต่ชีวิตคือการเดินทาง คือการสัมผัสรับรู้ในแต่ละก้าวที่เดินไป

12. และสุดท้าย จงจำไว้ว่าความดีนั้นไมมีขายในท้องตลาด อยากได้ต้องทำเอาเอง

fw mail



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 23:38:52 น.
Counter : 737 Pageviews.

0 comment
ส้ม 9 ผล
ส้ม 9 ผล
มีผู้ใจดีซื้อส้มชั้นดีคัดพิเศษ 9 ลูก ราคา 45 บาท
แล้วจากนั้นก็แจกให้กับคนกลุ่มหนึ่ง......

- ส้มผลแรก อยู่กับขอทาน ขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่ง
แล้วอีกครึ่งหนึ่งก็ ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส...แล้วก็บ่นว่า..
" {~_~}แย่จัง..ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว "

- ส้มผลที่สอง
อยู่กับลูกของผู้ใจดี ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที
เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า.." ส้มนี้..อร่อยดีนะ "

- ส้มผลที่สาม
อยู่กับแม่ของผู้ใจดี แม่ของผู้ใจดีนี้ นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม
แล้วแช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหาย จึงนำมาดื่ม...
" แหมม..น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง "
- ส้มผลที่สี่
อยู่กับร้านขายของชำ เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้
ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย
ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่
เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่ แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาทาน
เมื่อทานเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่...." เท่าไหร่ครับ "
..........." 10 บาท ครับ "

- ส้มผลที่ห้า
อยู่กับพ่อค้าน้ำผลไม้ พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้
ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย
ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก แช่ไว้ในตู้น้ำแข็งบนรถเข็น
แล้วเดินเข็นจำหน่ายไปเรื่อยๆ
มีคนหนึ่งเดินสวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง
ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น
เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้ หนึ่งหลอดแล้วส่งให้คนๆนั้น....
" เท่าไหร่ครับ "..........." 20 บาท ครับ "
และคนๆ นั้นก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้มนั้นเดินจากไป

- ส้มผลที่หก
อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว
เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้
ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย
ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น วันนั้น
มีหนุ่มสาว คู่หนึ่งเดินเข้ามา
เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญและหาที่นั่งให้
ฝ่ายหญิง...." น้ำส้มแก้วหนึ่ง ค่ะ "
ฝ่ายชาย..." กาแฟ ร้อน ครับ "
เจ้าของร้านจึงนำน้ำส้มที่คั้นไว้นำมาใส่แก้วใบใหม่
แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง
รอบๆ แก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็กๆ น่ารัก สีแดงติดอยู่
ภายในแก้วใบนั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่
ตรงปลายหลอดนั้นงอได้ แต่เจ้าของร้านไม่ได้มา เสริฟเอง
แต่มีเด็กเสริฟใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว กระโปรงสีดำมาเสริฟ
แทน เมื่อทานเสร็จ..........เช็คบิล..............
น้ำส้มแก้วนี้ 50 บาท

- ส้มผลที่เจ็ด
อยู่กับภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของร้าน
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี
และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้าภัตตาคารนั้นมา
และมีความประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
เพื่อชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย ในจำนวนรายการที่สั่งนั้น
ฝ่ายหญิง..." น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง ค่ะ "
และแล้ว...น้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น
ถูกเสริฟโดย บริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น
แก้วที่ใช้เป็นทรงสูงมีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติก
ใสตรงปลายหลอดงอได้
สิ่งที่โดดเด่นนั้นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้วนั้น
มีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่
เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง......สิ่งที่ปรากฎในบิลนั้น....100 บาท
เป็นราคาของน้ำส้มแก้ว นี้

- ส้มผลที่แปด
อยู่กับคลับเฮาซ์สุดหรูย่านปทุมธานี และเช่นเดียวกัน
ส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน
ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน
ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง
และหนึ่งในนั้นก็สั่ง...
" น้ำส้มคั้น หนึ่ง ".... น้ำส้มคั้นแก้วนี้
ถูกเสริฟโดยบริกรหนุ่ม หน้าตาคมสันคนหนึ่ง
มาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือ
ของบริกรหนุ่มคนนั้น คือถาดสีเงิน
บนถาดนั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่
แก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ ป็นแก้วคริสตัล
ทรงสูงเจียรนัยอย่างดี เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษตรงขอบปากแก้ว
มีส้มกลีบหนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็น รูปนกตัวหนึ่งเกาะ(เสียบ)
อยู่ที่ปากแก้วนั้น หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส
บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมแก้วคริสตัล
มีสลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย.... 300 บาท
...ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจดปากกาเซ็นลงไป

- ส้มผลที่เก้า
อยู่กับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเช่นเดียวกัน
ส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้น
เหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง
น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี
ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับ
หนุ่มสาวชาวต่างประเทศ คู่หนึ่ง
ที่ เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส
และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน
เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ. มุมมองตรงนั้น
สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรัตนโกสินทร์
อย่างชัดเจน ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา
เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป
จะมองเห็นสะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม
หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว
ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า.." Orangeade "...
และฝ่ายชายว่า..." American Expresso "...
สักพักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้นกลับมา
พร้อมกับกาแฟร้อนและ น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง
แก้วนั้น เป็นแก้วคริสตัลอย่างดี
ตรงฐานแก้วและขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง 18 เค
ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา
และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมาถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี
เมื่อแสงไฟตกกระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้ จะเป็นประกายแวววับ
ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ตรงกลางของแก้วใบนี้
มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่เป็นเคลือบทอง 18 เค
เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส
ตรงปลายได้ขดเป็นเกลียว
ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า " ช้างเผือก " เสียบอยู่
เมื่อแสงไฟที่เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ ช้างเผือก
ดอกนี้ จะเกิดเป็นสีขาวเรืองๆ ขึ้นมาอย่างสวยงาม
บริกรโค้งคำนับก่อนที่จะเสริฟ และ โค้งคำนับเมื่อเสริฟเสร็จแล้ว
หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนนี้
พอสมควรแล้ว ฝ่ายชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า..
" Cash Please " บริกรโค้งคำนับ
ก่อนที่จะเดินไปที่แคชเชียร์
Ticket ที่ออกมา .... Orangeade 500 Baht ......

ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ 5 บาทเหมือนกัน
อาจจะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน
อยู่กิ่งก้านเดียวกัน หรือ อาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป
แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึงต่างกันมากมาย
หรือว่าเป็นเพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน
ครับ...ช่วงเวลาและสถานการณ์, สถานที่ ที่ต่างกันนั่นแหละ
เป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม
.........และ...........ของตัวคุณเอง..!!!!
บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับ....งาน, ตกงาน, คนรอบข้าง, ครอบครัว,
หรือแม้กระทั่ง กับ ตัวเราเอง
แต่อยากจะบอกว่า...ขอให้อดทนเพราะช่วงเวลานี้...มันไม่ใช่ของเรา
ส้มนั้นถูกคนเป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น
แล้วทำไมเราถูกไม่กำหนดมูลค่าของตัวเรา ขึ้นมาบ้างหละ
ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป
แต่เชื่อแน่ว่า หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า
ทางเดินเส้นนี้เราได้ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว
จงตั้งมั่นและก้าวต่อไป อดทนเพื่อรอเวลาของเรา
ไม่แน่นะว่า.....
มูลค่าของเราอาจจะมากมายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไปได้
...............ใครจะไปรู้หละ..

fw mail



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2550 23:37:56 น.
Counter : 788 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend