...ที่ว่าง...
...ที่ว่าง...
ก่อนเคยคิดว่ารักต้องอยู่ด้วยกันตลอด เติบโตจึงได้รู้ความจริง ..
หากเคียงชิดใกล้ .. แ ต่ เ ธ อ ต้อ ง ทิ้ ง ทุ ก อ ย่ า ง เ พื่ อ ฉั น
ประโยชน์ที่ใด .. ห า ก รั ก ทํ า ร้ า ย ตั ว เ อ ง
หากเดินแนบกาย .. แ ต่ เ ธ อ ต้ อ ง ล้ ม ล ง เ จ็ บ ด้ ว ย กั น
ห่างเพียงนิดเดียว .. ใ ห้ รั ก เ ป็ น ส า ย ล ม ผ่ า น ร ะ ห ว่ า ง เ ร า
แบ่งที่ว่างตรงกลางไว้คอย .. เ พื่ อ ใ ห้ เ ธ อ ไ ด้ ต า ม ห า ฝั น ข อ ง เ ธ อ
------------------------

เมื่อก่อนตอนฉันเป็นเด็ก .. ได้แต่คิดว่า
คิ ด ถึ ง เ ธ อ .. อยากอยู่กับเธอตลอด 24 ชม.
แต่พอโตขึ้นมา มานั่งคิดอีกที
ที่ ว่ า ง ข อ ง ค ว า ม รั ก .. บางทีก้อจำเป็นนะ
ที่ ว่ า ง ข อ ง เ ธ อ แ ล ะ ฉั น .. โลกส่วนตัวที่ต่างฝ่าย ต่างมี
ที่ ว่ า ง ข อ ง ค ว า ม รั ก .. ไม่ใช่ ก า ร ท อ ด ทิ้ ง น ะ
ที่ ว่ า ง ข อ ง เ ธ อ แ ล ะ ฉั น .. เพื่อที่เราสองคน จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป
---------------------------
fw mail



Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:18:58 น.
Counter : 591 Pageviews.

0 comment
สายใย
สายใย

"โอ๊ย....." "ไปให้พ้นหน้าร้านตูเดี๋ยวนี้ ไอ้เด็กสกปรก"
เสียงเจ้าของร้านข้าวหน้าเป็ดตะโกนไล่ เบื้องใช้มือยันพื้นลุกขึ้นยืน
และก้มลงมองแผลถลอกที่มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นทางที่หัวเข่าและดึงกางเกงที่เปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นลงไปเช็ด
เขามองหน้าชายเจ้าของร้านข้าวหน้าเป็ดด้วยความแค้นและเดินจากมา "ไอ้เจ๊กขี้งก
แค่มองเฉยๆ ก็ไม่ได้"
เขาคิดและยกมือที่เต็มไปด้วยคราบไคลขึ้นปาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
เขาเริ่มแสบและคันยุบยิบที่แผลบนหัวเข่าบ้างแล้ว จึงก้มลงไปดู เลือดยังคงไหลไม่หยุด
ยิ่งทำให้เขาแค้นไอ้เจ้าของร้านข้าวหน้าเป็ดมากขึ้นอีก แต่ก็ได้แค่เก็บมันไว้ในใจ
เพราะเด็กเล็กๆอย่างเขาจะไปทำอะไรได้
"เบื้องไปทำอะไรมา หัวเข่าถึงเลือดไหลขนาดนั้น"
" เราหิวน่ะเดือน เลยไปยืนดูเป็นที่ร้านข้าวริมถนน
แต่ไอ้เจ้าของร้านมันผลักเราล้ม แล้วก็ไล่เราอย่างกับหมูกับหมา"
เบื้องตอบเดือนผู้เป็นพี่สาว
"คราวหน้าก็อย่าไปยืนดูอีกก็แล้วกัน มานี่มา มาล้างแผลก่อน"
เดือนบอกและพาเบื้องไปยังใต้สะพานข้างแม่น้ำ
เธอใช้มือวักน้ำในแม่น้ำขึ้นมาทำความสะอาดแผลให้เบื้อง "โอ๊ย...เดือนเราแสบนะ"
" แสบก็ต้องทน ถ้าแผลสกปรกแล้วเน่าขึ้นมา ไม่รู้ด้วยนะ"
เมื่อได้ยินพี่สาวบอกดังนั้นเบื้องจึงยืนนิ่งให้เดือนล้างแผลแต่โดยดี
"เอ้านี่ข้าว...วันนี้มีคนใจบุญเยอะเลยได้เงินพอซื้อข้าวตั้งสองห่อแน่ะ"
เดือนบอกเบื้อง "เหรอดีจัง..ว่าแต่ว่าวันนี้แดดร้อนไหม
เราเห็นเดือนนั่งอยู่บนสะพานได้ทั้งวัน ไม่รู้ทำได้ยังไง" เบื้องพูด
"ไม่ต้องพูดมาก มีให้กินก็ดีแล้ว" เดือนพูดแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนลำคอตีบตัน
น้ำในตาจะล้นออกมาให้ได้
ก็ที่เธอนั่งตากแดดขอเศษเงินทั้งวันก็เพื่อให้เบื้องและเธอมีข้าวกิน
มีชีวิตรอดต่อไปในวันพรุ่งนี้ที่แสนจะลำบาก
ชีวิตที่ไร้เงาของพ่อกับแม่มาตั้งแต่เธอจำความได้
แถมยังมีน้องชายติดสอยห้อยตามมาอีก เธอและน้องต้องมาอาศัยนอนที่ใต้สะพานแห่งนี้
จนตอนนี้เธอคิดว่า เธอคงอายุได้สิบเอ็ดขวบแล้ว
เพราะเธอเองก็ไม่รู้วันเกิดที่แน่นอนของตัวเองเลย
"เดือนเราอยากกินเป็ดที่แขวนอยู่จัง"
เบื้องพูดและคิดถึงภาพเป็ดอบน้ำผึ้งสีแดงเข้ม ชุ่มฉ่ำ ที่แขวนอยู่บนตะขอในตู้
" เอาไว้วันไหนถ้าพี่ขอเงินได้มากๆแล้วจะไปซื้อให้กินแล้วกันนะ"
เดือนบอกเบื้องทั้งๆ ที่รู้ว่ามันยากแสนยากจนดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเป็นไปได้

มืดแล้วเงาจันทร์ลอยอ้อยอิ่งอยู่บนผิวน้ำ ลมหนาวพัดล่องมาบนสายน้ำ
เสียงรถบนสะพานก็เริ่มขาดหาย เบื้องนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มที่ขาดรุ่งริ่ง
โดยมีเดือนนอนขดตัวด้วยความหนาวอยู่ข้างๆโดยปราศจากผ้าห่ม
ที่เดิอนผ่านทุกค่ำคืนมาได้ก็เพราะความรักที่มีต่อน้องชายของเธอนั่นเอง
เพราะหากว่าเธอล้มลงไปเสียคน แล้วเบื้องจะอยู่ได้อย่างไร " ปุ....ปุ"
เสียงหนึ่งดัง

ก้องขึ้นบนท้องฟ้า ปลุกให้ทั้งสองตื่นจากการหลับใหล " เดือนดูสิ
พลุสวยจัง มีตั้งหลายสีแน่ะ" เบื้องบอกเดือน "จริงด้วย
ดูดอกสีแดงนั่นสิกระจายเป็นวงกลมสวยจัง"
" ใช่ๆ เบื้องอยากจุดพลุอย่างนี้บ้างจัง"
เบื้องพูดพลางวาดภาพถึงตอนที่เขาได้มีโอกาสจุดพลุสวยๆอย่างนี้ด้วยตัวเองขึ้นในสมอง
เขายิ้มอย่างสุขใจ เดือนมองหน้าน้องชายอย่างอ่อนโยนและโอบเขาไว้ด้วยแขนที่ลีบเล็ก
"เดือนหนาวไหม มาห่มผ้ากับเรานะ" เบื้องพูดและขยับผ้าห่มคลุมไหล่ของเดือน
เดือนยิ้มให้เขาและโอบเขาแน่นกว่าเดิม
ทั้งสองนั่งดูพลุจนผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน

แสงแดดสาดลงแผดเผาพื้นดินจนร้อนระอุ
เดือนกำลังง่วนอยู่กับการคุ้ยกองขยะเพื่อหาอะไรบางอย่าง
เธอพยายามหามันมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว แต่เธอก็ยังไม่เจอสิ่งที่เธอค้นหา
มือที่เล็กและแสนเปราะบางของเธอคุ้ยเขี่ยลงไปบนกองขยะอย่าไม่รังเกียจ
ด้วยความหวังว่าจะได้พบสิ่งนั้น กลิ่นเหม็นเน่าของขยะอบอวลไปทั่วทั้งอากาศ
เศษซากขยะต่างๆกองสูงจนท่วมหัวของเดือน แล้วเธอก็พบสิ่งนั้น
สิ่งที่เธอเฝ้าตามหามาตลอดเช้า ใบหน้าของเธอแสดงความยินดีออกมาจนเห็นได้ชัด
เธอหยิบมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
" ของใหม่เสียด้วย ดีจริงๆ"
เธอพึมพำและมุ่งหน้ากลับไปยังใต้สะพานซึ่งเป็นบ้านของเธอ

" เบื้อง เบื้อง......" "อะไรเหรอเดือน"
เบื้องละสายตาจากแม่น้ำตรงหน้าไปหาพี่สาว "มานี่สิ พี่มีอะไรจะให้"
เดือนยิ้ม "อะไรเหรอ" เบื้องรีบวิ่งมาทันที
เดือนเอาของที่หลบไว้ข้างหลังออกมาให้เบื้องดู
ดอกไม้ไฟที่ทำเป็นรูปโอ่งใบเล็กๆในมือของเดือน มันทำให้เบื้องกระโดดโลดเต้น
และตะโกนส่งเสียงร้องด้วยความยินดี เดือนเองก็พลอยยิ้มไปเบื้องด้วยเช่นกัน
"ลองจุดดูสิเบื้อง" เดือนยิ้มและล้วงเอาไม้ขีดไฟในกระเป๋ากางเกงออกมา
เบื้องรับไปและรีบจุดด้วยความตื่นเต้น ไฟเริ่มเลียลามจากปลายชนวนอย่างรวดเร็ว
เบื้องมองตามไฟที่ลามเลียไปด้วยความยินดี เดือนมองน้องชายอย่างมีความสุข
เหมือนเธอได้ช่วยทำความฝันของเบื้องให้เป็นจริงขึ้นมา "ตูม...."
เสียงระเบิดดังขึ้น แต่ไม่มีแสงสีของดอกไม้ไฟเลย
มีเพียงแค่ประกายไฟของการระเบิดและเสียงที่ดังกึกก้องเท่านั้น
เบื้องและเดือนตะลึงกับ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเบื้องก็ปล่อยโฮออกมา "เดือนโกหกเรา เราเกลียดเดือน"
เบื้องตะโกนและวิ่งหนีไป "เบื้อง..." เดือนเรียกแต่เขาไม่ยอมหยุด
และก็เกินที่แรงของเดือนจะวิ่งตามไปได้เพราะเศษดินเผาของดอกไม้ไฟที่ระเบิดนั้นกระเด็นมาฝังอยู่ที่ขาของเธอจนปวดแปลบ
เธอทั้งเจ็บแผลและเจ็บปวดใจกับคำพูดของเบื้องที่ทำลายความหวังดีของเธอ
"เบื้อง ...พี่ขอโทษ" เดือนพึมพำและทรุดนั่งลงร้องไห้

เบื้องเดินร้องไห้ไปตามถนน เขาผิดหวังกับความฝันที่เพิ่งพังทลายลงไป
ในเมื่อความฝันมันจะไม่สำเร็จแล้วทำไมต้องมีอะไรมาทำให้เขามีความหวังด้วยนะ
เขาจะโทษใครดี เขาจะหาคนผิดได้อย่างไรในเมื่อมันไม่มีใครผิด
เบื้องเฝ้าแต่คิดและสุดท้ายเขาก็ได้แต่โทษตัวเองที่เกิดมาจนแล้วยังอยากฝันจนเกินตัวไป
"ทำไมนะ..ทำไมเราไม่เกิดมารวย ทำไม.." เบื้องเฝ้าแต่ทบทวนประโยคนี้หลายต่อหลายรอบ
จนสุดท้ายเขาก็คิดหาคำตอบไม่ได้

ฟ้ามืดแล้ว เงาของดวงจันทร์เสี้ยวลอยคว่ำอยู่กลางสายน้ำที่มืดมิด
เบื้องเดินคอตกกลับมายังใต้สะพาน ที่นั่นเดือนยังคงรอเขาอยู่
"กินข้าวสิเบื้อง....พี่เก็บเอาไว้ให้" เดือนพูด
"อืม..." เบื้องตอบและรับข้าวมากิน
เดือนมองเบื้องกินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ในท้องของเธอกลับว่างเปล่า
เพราะเธอเก็บข้าวเอาไว้ให้เบื้องโดยที่เธอไม่ยอมกินเลยสักนิด
เธอรู้สึกผิดเหลือเกินที่เธอเป็นคนทำลายความฝันของน้องไป
เบื้องวางจานลงเหม่อมองไปยังระลอกคลื่นบนผืนน้ำ
"ทำไมนะ ทำไมเราไม่เกิดมารวย" คำถามประโยคนี้ยังคงฝังอยู่ในใจของเขา
เดือนลูบศีรษะน้องชายอย่างปลอบโยน เบื้องหันมามองเดือน
และเขาก็เห็นแผลที่ขาของเธอ มันใหญ่จนดูน่ากลัว
เลือดสีแดงที่แห้งกรังติดอยู่เต็มปากแผล "พี่เดือน..." เบื้องเรียก
"อะไรเหรอเบื้อง" เดือนมองหน้าน้องชาอย่างสงสัย
เบื้องกระเถิบเข้าไปใกล้พี่สาวและใช้หลังมืออังที่แผลของเธออย่างนุ่มนวล
เบื้องมองหน้าที่อ่อนล้าของเดือน ความรู้สึกผิดอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นในใจของเบื้อง
"พี่เดือน....เราขอโทษนะ" "ไม่เป็นไรหรอกเบื้อง"
ความอัดอั้นและเสียใจเข้าไปจุกอยู่ที่อก ลำคอของเบื้องตีบตัน
แล้วน้ำตาใสก็หยดลงที่ขาของเดือน "พี่เดือนเจ็บมากไหม...."
เบื้องพูดพลางใช้มือลูบแก้มของพี่สาว
เดือนตื้นตันใจจนบอกไม่ถูกแล้วน้ำตาของเธอก็เอ่อล้นลงมาเช่นกัน
"อย่าร้องไห้สิพี่เดือน"
เบื้องพยายามบอกเธอโดยไม่ให้เสียงของเขาสั่นและเลื่อนมือขึ้นปาดน้ำตาของเดือนทั้งๆที่น้ำตาของเขาเองก็ไหลลงมาไม่ขาดสาย
เดือนเลื่อนมือของเธอไปกุมมือของน้องชายอย่างนุ่มนวล
เธอไม่เคยเสียใจเลยที่มีน้องชายอย่างเบื้อง
เบื้องลุกขึ้นและออกแรงฉุดเดือนให้ลุกขึ้นตาม "พี่เดือน มาล้างแผลก่อนนะ"
"พี่ล้างแล้วเบื้อง" เดือนบอก
"ดูสิเลือดยังเกาะเต็มไปหมดเลย...ไปล้างอีกทีนะ
เดี๋ยวแผลสกปรกแล้วเน่าไม่รู้ด้วยนะ"
เบื้องพูดตามอย่างเดือนเหมือนครั้งที่เดือนเคยล้างแผลให้เขา
เดือนยกมือขึ้นปาดน้ำตาและเดินตามไปอย่างว่าง่าย "พี่เดือนนั่งห้อยขานะ
เดี๋ยวเราล้างให้เอง" เบื้องใช้มือวักน้ำขึ้นมาล้างแผลให้เดือน
"แสบไหม..พี่เดือนทนหน่อยนะ" เบื้องพูดแล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอีก
เลือดถูกล้างออกไปจนหมดแล้ว เบื้องล้มตัวลงนอนไปบนตักของเดือน
เดือนเลื่อนมือขึ้นลูบศีรษะของเบื้องอย่างเอ็นดู
เบื้องนอนกอดกระชับเอวของเดือนไว้แน่น

"พี่เดือนเราขอโทษนะ...เราขอโทษ"
เบื้องพึมพำออกมาไม่ขาดปากพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสาย
"ไม่เป็นไรหรอกเบื้อง..ไม่เป็นไร" เดือนพูดย้ำๆ พร้อมกับน้ำตาของเธอที่ไหลลงเช่นกัน

fw mail



Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:13:31 น.
Counter : 576 Pageviews.

0 comment
หลักการของความรักของบุคคลต่างสาขา
หลักการของความรักของบุคคลต่างสาขา
หลักการของคนทั่วไป :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอกลับมาหาคุณ เธอเป็นของคุณ
ถ้าเธอไม่กลับมา เธอก็จะไม่เป็นของคุณ

คนมองโลกในแง่ร้าย :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอกลับมาหาคุณ เธอเป็นของคุณ
ถ้าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง เธอก็เป็นแบบนั้นของเธอแหละ
อย่าไปหวังอะไร

คนมองโลกในแง่ดี :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ไม่ต้องกลุ้มใจ เธอจะกลับมาหาคุณ

คนขี้สงสัย :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอกลับมา ถามเธอว่าทำไม

นักรักษาสิทธิสัตว์ :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
เพราะความจริงที่ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดสมควรได้รับความเป็นอิสระ

นักกฏหมาย :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
จากวรรคที่ 1a ของย่อหน้าที่ 13a-1 ในบทบัญญัติว่าด้วยการแต่งงานเล่มที่ 2
ความเป็นอิสระ กล่าวไว้ว่า ...

นักชีววิทยา :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
เธอจะมีวิวัฒนาการ

นักสถิติ :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอรักคุณ ความน่าจะเป็นที่เธอจะกลับมาสูง
ถ้าเธอไม่รักคุณ ความสัมพันธ์ของคุณไม่มีความเป็นไปได้

แฟนของอาโนลชวาสเนคเกอร์ :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป "SHE'LL BE BACK!"

คนขี้หวง :
ถ้าคุณรักใครสักคน อย่าปล่อยเธอไป

นักเขียนโปรแกรมภาษา C++ :
if(you-love(m_she)) m_she.free() if(m_she == NULL) m_she= new CShe;

บิลเกต :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอกลับมา ผมคิดว่าเราสามารถคิดราคาค่าติดตั้ง (re-installation) ใหม่
และบอกเธอว่าเธอกำลังจะถูก upgrade

คนไม่มีความอดทน :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าสักพักเธอไม่กลับมา ก็ลืมเธอไปซะ

คนมีความอดทน :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอไม่กลับมา รอ รอ รอ จนกระทั่งเธอกลับมา

คนขี้เล่น :
ถ้าคุณรักใครสักคน ปล่อยเธอไป
ถ้าเธอกลับมาและถ้าคุณยังรักเธอ
ปล่อยเธอไปอีกครั้ง ทำอย่างนี้ซ้ำ ๆ เรื่อยไป

fw mail



Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:12:54 น.
Counter : 613 Pageviews.

0 comment
ด้วยรักและหน้าที่
ด้วยรักและหน้าที่

"ไปเก็บอันโน้น อ้ายติ๊ดตื๋อ" เจ้าหมาไม่มีแซ่ไม่มีพันธุ์สกุลวิ่งหูตูบ
ข้ามเกลียวคลื่นที่แตกฟอง
เหมือนใครพึ่งมาซักผ้าไว้แถวนี้ คลื่นซัดวัตถุที่ลอยตุ๊บป่องลอยกระเพื่อมไปมา
ปากอ้ายติ๊ดตื๋อตรงรี่เข้างับเป้าหมาย
มันเหวี่ยงหัวแบบสโลวโมเมชั่นจนหัวคอนเพื่อสลัดน้ำเค็มทิ้ง

"หงับ" ขวดน้ำพลาสติก ที่ลอยตุ๊บป่องติดหมับเข้าที่ซอกฟันของอ้ายติ๊ดตื๋อ
ฝีมือการงับของมัน
ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว มันคงนึกในใจ

"เก่งจริงว้อย" น้ำเสียงหัวเราะบ่งบอกว่าเจ้าของเสียงนั้นอายุประมาณว่าคงเป็นลุง
หรือว่าคงแก่กว่าลุง
ลุงเดินไปหยิบขวดพลาสติกจากปากอ้ายติ๊ดตื๋อ แล้วจับยัดลงใส่ถุงสีดำที่ลากมาด้วย

อาทิตย์ยามเช้าของหาดพัทยาเหนือ กลาง ใต้ หรือ ตะวันออกเฉียงใต้
เป็นสีทองอำไพเหมือนกันรึเปล่า
ลุงกับอ้ายติ๊ดตื๋อคงไม่ได้ใส่ใจนัก กระป๋องโค๊ก เป๊บซี่
หรือจะออกรสมียี่ห้อไหนก็เถอะ ถุงพลาสติก
หรือว่า ขวดน้ำเมามาก เมาน้อย นั่นต่างหากที่สองชีวิตกำลังออกตามหาอยู่

"มา ตามมาอ้ายติ๊ดตื๋อ ข้าจะไปเก็บทางโน้น" ลุงเดินลากถุงนำลิ่ว
มีอ้ายตื๊ดตื๋อเดินกระดิกหางจังก้าอยู่ด้านหลัง
ต่างคนต่างหมา ผลัดกันเก็บขวด เก็บกระป๋อง ใส่ในถุงจนตะวันไต่ระดับไปอยู่ตรงกลางหัว

"เองว่าไหม เดี๋ยวนี้ข้าเดินไม่ทนเหมือนแต่ก่อนเลยว่ะ เหนื่อยเร็วจริง
ไม่เหมือนเองที่แรงยังดี"
ลุงพูดพลางยันตัวนั่งลงบนหาด หลังจากเก็บกระป๋องไปได้อีกห้าหกใบ
ส่วนอ้ายติ๊ดตื๋อพลอยนั่งลงฟังลุงอยู่ข้างๆ อย่างตั้งใจ
มันเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอมาแต่ไหนแต่ไร

"หิวหละซิ ทำน้ำลายสอ ออกทางตาก็เป็นนะเอง ฮ่าๆๆๆๆ "
ลุงงัดกล่องข้าวใบใหญ่ออกมาจากย่ามที่พึ่งปลดลงมาจากบ่า
จัดแจงเขี่ยข้าวส่วนหนึ่งลงบนฝากล่องให้อ้ายติ๊ดตื๋อ
ส่วนตัวลุงนั่งกินข้าวที่เหลือในกล่อง มีภาพวิวของ บาบาน่าโบ๊ท วิ่งวนบ้าง คว่ำบ้าง
อยู่ตรงหน้า

"อิ่มยังวะ ข้าจะไปต่อแล้วนะเอง"
ลุงสะบัดทรายออกจากตัว จับกล่องข้าวใส่ลงในย่ามอย่างเดิม
เดินนำหน้าอ้ายติ๊ดตื๋อที่กำลัง
งัวเงียหลังอาหารกลางวัน

"อิ่มแล้วก็ง่วงสิท่าเองนี่"
อ้ายติ๊ดตื๋อถึงง่วงอย่างไรก็ไม่มีทางปล่อยให้ลุงเดินท่อมๆ ไปคนเดียวหรอก
มันวิ่งนำพันแข่งพันขาลุง ไปอย่างแก้เขินที่ถูกลุงรู้ทัน
สองชีวิตก็ออกเดินทางต่อเพื่อไปเก็บอะไรนะ
นั่นเหละ ขยะนั่นเหละ

แดดเล่นแอบซ่อนอยู่หลังเมฆ ตะวันกำลังจะกลับบ้านแล้ว
ลุงหิ้วถุงซึ่งตอนนี้เต็มแน่นพิกัดด้วยนานาขยะ
เดินหลังงุ้มงอ เข้าไปในซุ้มเตียงผ้าใบที่วางอยู่ดาดเดื่อนเต็มหาด
สมัยนี้ลุงดูแค่ดวงอาทิตย์อย่างเดียวคงไม่รู้
หรอกว่ามันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว

"แม่หนูๆ กี่โมงแล้วจ๊ะ"
สาวน้อยผัดหน้าขาวนั่งจิ้มลิ้มอยู่กับชายหนุ่มหน้าขาวกว่าเธออีก
ซึ่งลุงมองแล้วลงความ
เห็นว่าเจ้าหนุ่มคงไม่ใช่คนแถวนี้แน่ๆ พูดอะไรฟังไม่ได้เป็นภาษาไทยเล้ย
ผมของสาวเจ้าก็ยาวเสียเหลือเกินจนลมพัดทีไปพันกับเก้าอี้บ้าง พันกับเสาปักร่มบ้าง
ลุงแกคิดระหว่างรอคำตอบ

"ห้าโมง" สาวน้อยกระชากเสียงเสร็จ ก็หันไปเจรจากับพ่อหนุ่มต่างถิ่นนั่นต่อ
"ขอบใจมากนะแม่หนู"
ลุงเดินหลังงุ้มออกมาหาเจ้าติ๊ดตื๋อที่ยืนคุมสัมภาระทำหน้าเข้มอยู่เป็นกองหลัง

"ได้เวลาแล้ว อ้ายติ๊ดตื๋อ" ลุงลากถุงขยะมายืนอยู่ริมถนนหน้าหาด
ส่วนเจ้าติ๊ดตื๋อเดินดมอะไรวน
ไปวนมา เหมือนหมากำลังหาที่ปล่อยทุกข์

คาดว่าสิบนาทีผ่านไป รถเก๋งสีตะกั่วหยุดมาจอดเทียบอยู่หน้าลุง
ชายหนุ่มสูงใหญ่ผูกเนคไท
วิ่งลงจากรถมา รับถุงขยะจากลุง แล้วโยนใส่ลงกระโปรงท้ายรถ
ชายหนุ่มเปิดประตูด้านข้างคนขับ
ให้ลุง มีเจ้าติ๊ดตื๋อวิ่งแจ๋นขึ้นเบาะท้าย

"วันนี้ขยะเยอะเหรอครับพ่อ ถุงหนักเชียว" ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แต่แสดงออกถึงความเป็นห่วง
"ใช่ หมู่นี้ก็เยอะอย่างนี้เหละนะ ก็มันปีอะแมสซิ่งไทยแลนด์นี่" ลุงตอบลูกชาย
มือพลางหมุนหาคลื่นวิทยุอย่างชำนาญ
"ถ้าวันนี้พ่อเหนื่อย พรุ่งนี้พ่อก็ไม่ต้องมาเก็บหรอกนะครับ"
ชายหนุ่มหันมาบอกก่อนที่จะลง
ไปเปิดกระโปรงรถเอาถุงขยะเหวี่ยงทิ้งที่จุดทิ้งขยะ

"โอย ไม่เอาหรอก ถ้าข้าไม่ไปเก็บแล้วใครจะเก็บวะ ขืนทิ้งไว้ขยะได้เกลื่อนหาด
ว่าไหมอ้ายติ๊ดตื๋อ"
ลุงหันไปพยักเพยิดกับอ้ายติ๊ดตื๋อ ซึ่งท่าทางมันจะเห็นด้วย
เพราะมันไม่เคยขัดใจลุงอยู่แล้ว
ไม่เหมือนลูกของลุงห้ามอยู่ได้ทุกวัน

fw mail



Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:12:21 น.
Counter : 570 Pageviews.

0 comment
ขนมของคนรักกัน
ขนมของคนรักกัน
.......... ** ขนมแห่งความรัก ** ..........
ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ ชายหนุ่มโผงผาง ผู้กำพร้าพ่อแม่ อยู่ตัวคนเดียว
พูดจริงทำจริง ขยันขันแข็งเอางานเอาการ
เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย
ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรัก และเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย ที่ดันมาหลงรัก ไอ้ทิด้วยเช่นกัน
แม่แป้ง ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน
นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์ ..........
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจ ฝ่าฟันข้ามไป
แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้ ..............
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ ์ 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือ
ไอ้ทิไม่ว่ากระไร ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่ ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ท
ิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงานให้ ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้ จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้...
แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์ ......
ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า ...
คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหา ให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง ......
ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตาไอ้ ทิทันที
อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไป เพื่อช่วยเหลือ
อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นายของผู้ใหญ่ปลั่ง ............ รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ
เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น ...
รุ่งเช้า ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล
ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิ .......... ตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข
เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี
ทุกแรมหกค่ำเดือนหกชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืด เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก
หรือเรียกย่อๆ ว่า " ขนม ค.ร.ก." ...(ขนมของ "คนรักกัน" )

fw mail



Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 0:11:46 น.
Counter : 565 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend