ค่าของสิ่งของสิ่งหนึ่ง
ค่าของสิ่งของสิ่งหนึ่ง
ทหารหนุ่มแอบหลงรักเจ้าหญิงเลอโฉม
เขาตระหนักถึงความสูงส่งของเธอ
เฉกเช่นเดียวกับที่ตระหนักถึงความต่ำต้อยตน
แต่เขายังรวบรวมความกล้า เดินเสี่ยงตายเข้าไปบอกเธอว่า
“รัก”
และจะอยู่บนโลกต่อไปโดยไม่มีเธอไม่ได้
เจ้าหญิงผู้เป็นดวงใจตอบเขาว่า
”ถ้าสามารถรอคอยอยู่ใต้ระเบียงห้องเธอได้ติดต่อกัน
100 วัน 100 คืน เธอจะเป็นของเขาตลอดไป”

ณ ใต้ระเบียง ทหารหนุ่มเฝ้ารอคอยอยู่ตรงนั้น
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยไม่ยอมขยับเขยื้อนกายไปไหน
เขารอคอยในสายลมบาดผิว
รอคอยในสายฝนกระหน่ำ
รอคอยในความหนาวเหน็บของหิมะ
วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า
โดยมีเจ้าหญิงของเขาเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา
เธอเห็นหยาดน้ำตาของเขาพรูพรายเป็นสาย
จนกระทั่งในคืนที่ 99
ทหารหนุ่ม หยุดร้องไห้
หยุดรอคอย
หยุดทุกอย่างไว้
แล้วหันหลังเดินจากไป
เรื่องนี้ไม่มีตอนจบ แต่มีบางคำถาม บางคำตอบในใจ
ความรักของเธอกับเขาอาจจะเหมือน “นาฬิกาทราย “
เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มหมดรักไปในใจอีกฝ่ายหนึ่งกลับรักขึ้นมาใหม่เต็มเปี่ยม

แต่บางทีทหารหนุ่มอาจตั้งใจแค่แสดงให้เห็นว่าเขารักเธอจริงแท้แค่ไหน

แค่พิสูจน์ให้เห็น แต่ไม่ต้องการ ครอบครองไว้
หรือบางทีเขาอาจเสียใจ
ต้องตัดใจจากไปเพราะรักเขาถูกทำร้ายย่ำยี
หรือบางทีเป็นเจ้าหญิงเองที่เสียใจ
เพราะไม่เคยมีใครรักเธอได้อีกถึงเพียงนี้...

ความรัก เป็นสิ่งที่ออกแบบไม่ได้
ความรัก เป็นเรื่องที่บังคับใจกันไม่ได้
ความรัก ที่บริสุทธิ์ คือ การให้...
ให้โดยที่ไม่หวังว่าจะได้อะไรตอบแทน

.........แต่ในความเป็นจริงแล้ว
ผู้ที่ให้มักจะหวังอยู่ลึกๆ
ที่จะได้ความรักเป็นสิ่งตอบแทน..เสมอ
และเมื่อเค้าได้ ความรัก กลับมาแล้ว
มีเพียงน้อยคนนักที่จะสามารถให้ในลักษณะนี้ได้ตลอดไป

ความอดทนอยู่คู่กับความรักไม่ได้
แต่ความเข้าใจต่างหากที่ควรเคียงคู่กันไป
ถูกต้องที่ “เวลา” เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ทุกอย่าง
โดยเฉพาะความรัก

การประคองให้รักกันได้ตลอดไป
เป็นสิ่งที่ยากกว่าการจะทำอย่างใรให้รักกัน

เจ้าหญิงไม่ผิด และ ทหารผู้นี้ก็ไม่ผิด
เพียงแต่เวลาของ ความรัก ของสองคนนี้...
ไม่เท่ากันเท่านั้นเอง


เราจะรู้ค่าของสิ่งของสิ่งหนึ่ง เมื่อเราได้รู้ว่า เรา... “ได้เสียมันไปแล้ว”


fw mail



Create Date : 05 ธันวาคม 2550
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 13:08:06 น.
Counter : 686 Pageviews.

0 comment
วันนี้คุณบอกรัก...ใครหรือยัง
วันนี้คุณบอกรัก...ใครหรือยัง จาก Forward Mail


เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ฉันอายุ 6 ขวบ
ขณะกำลังเล่นอยู่ที่ฟาร์มในแคลิฟอร์เนีย
ฉันได้พบเด็กชายที่แลดูธรรมดาคนหนึ่ง
ประเภทที่เขาอาจแหย่คุณและคุณก็แหย่เขากลับ กลั่นแกล้งกันไปมา
พูดง่ายๆ ว่าตอนพบกันครั้งแรกนั้นเรารู้สึกดีต่อกันแล้วพอได้มาเจอกันอีกก็แหย่กันเล่นตรงบริเวณรั้ว
และที่นั่นก็กลายเป็นที่ที่เราพบกันและเล่นด้วยกันเสมอมา
ฉันน่าจะเล่าความลับของฉันทั้งหมดให้เขาฟังได้นะ
เขาเป็นคนเงียบ ๆ คอยแต่นิ่งฟังเวลาที่ฉันเล่าโน่นนี่
เป็นคนที่ฉันสามารถคุยด้วยได้ทุกๆ เรื่อง
ตอนอยู่ในโรงเรียนเราอยู่คนละกลุ่ม
แต่พอกลับบ้านเราก็จะคุยกันถึงเรื่องราวในโรงเรียน

.....วันหนึ่งฉันบอกเขาว่า
เด็กผู้ชายที่ฉันชอบคนหนึ่งหักอกฉัน
เขาปลอบว่าไม่เป็นไรหรอก สักพักมันจะดีไปเอง
ฉันเลยสบายใจขึ้นและยิ่งทำให้นึกว่า
เขาเป็นเพื่อนแท้คนหนึ่งของฉัน
นั่นเป็นความรู้สึกตอนนั้นของฉันจริง ๆ
.....เราเรียนด้วยกันเรื่อยมาจากมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัย
คบหากันมาโดยตลอดแม้ฉันจะคิดเสมอว่า
เราเป็นแค่เพื่อนแต่ลึก ๆ แล้ว...ฉันรู้ว่ามันไม่ใช่
ในคืนวันสำเร็จการศึกษาเราต่างมีคู่นัดไปนั่งฟังเพลงกัน
แต่ฉันก็ยังอยากจะพบเขาอยู่ดี เมื่อทุกคนกลับบ้านกันหมด
ฉันแวะไปหาเขาเพื่อจะบอกว่าฉันอยากจะขอพบเธอ อือ ...นั่นดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของฉันทีเดียว
แต่ที่สุดแล้วเราแค่นั่งดูดาว ผลัดกันเล่าแผนการชีวิตของกันและกัน...
ฉันจ้องตาเขาขณะฟังเขาเล่าว่าเขาอยากแต่งงานและวางหลักปักฐาน
ทั้งยังคุยถึงวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองร่ำรวยและประสบความสำเร็จในชีวิต
...โดยมีฉันนั่งคุดคู้อยู่ข้าง ๆ เขา
คืนนั้น ฉันกลับบ้านพร้อมความรู้สึกอันปวดร้าว
ด้วยเหตุที่ฉันไม่ได้พูดออกไปดังใจปรารถนา
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หัวใจฉันเจ็บปวด
สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
ฉันอยากจะบอกเล่าให้เขาฟังใจจะขาด
แต่ทุกครั้งจะต้องมีใครสักคนอยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ

...หลังจากนั้นเขาก็ได้งานทำในนิวยอร์ก
แน่นอนฉันยินดีกับอนาคตอันสดใสนั้น
แต่ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองเช่นเดิม
ขณะที่เขากำลังจากไปฉันกอดเขาแล้วร้องไห้
คิดว่านั่นเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะมีเขาอยู่เคียงข้าง
คืนนั้นฉันร้องไห้จนตาบวมและยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อนึกถึงว่าที่สุดแล้ว
ฉันก็ยังไม่ได้เล่าความในใจให้เขาฟัง
ฉันเริ่มต้นด้วยงานเลขาฯ แล้วย้ายสายงานมาเป็นนักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์
รู้สึกภูมิใจในตัวเองที่ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

วันหนึ่ง

ฉันก็ได้รับการ์ดแต่งงานใบหนึ่งทางไปรษณีย์ มาจากเขานั่นเอง
ใจหนึ่งฉันก็ยินดีกับเขา แต่อีกใจก็ยะเยียบเศร้า
ได้แต่พร่ำบอกกับตัวเองว่า
ฉันไม่มีโอกาสได้อยู่เคียงข้างเขาอีกแล้ว
อย่างมากที่สุดเราก็เป็นได้แค่เพื่อนกัน
...งานแต่งงานได้จัดขึ้นอย่างอลังการทีเดียว ณ โบสถ์ใหญ่แห่งหนึ่ง
ขณะที่งานเลี้ยงจัดในโรงแรมฉันได้พบจ้าสาว และแน่ล่ะได้พบเขาด้วย
แล้วฉันก็ตกหลุมรักเขาอีกครั้งหนึ่ง
ฉันเก็บความลับนี้ไว้กับตัวเอง...ไม่อยากให้มันไปทำลายวันอันเป็นมงคลของเขา
คืนนั้นฉันพยายามทำตัวให้สนุก แต่กลับกลายเป็นว่าฉันกำลังฆ่าตัวเอง
ด้วยการเผชิญหน้ากับคนที่กำลังดูมีความสุขมากอย่างเขา
ฉันจึงจำเป็นต้องพยายามฝืนยิ้ม และทำตัวให้มีความสุข
เพื่อกลบเกลื่อนหยาดน้ำตาที่ซุกซ่อนไว้ในใจ
แต่แล้วเขาก็มาปรากฎตัวตรงหน้าก่อนที่ฉันจะก้าวขึ้นเครื่องบิน
เขามาเพื่อจะบอกลา พร้อมกับกล่าวว่า ดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อกลับถึงบ้านฉันพยายามลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ก
มันถึงเวลาแล้วที่ฉันต้องเดินไปตามวิถีทางของฉันเองบ้าง

ตลอดหลายปีมานี้เรายังคงติดต่อกันทางจดหมาย
เขาย้ำเสมอว่าคิดถึงฉันมากอยากจะมีโอกาสได้คุยกับฉันอีก

..และแล้วเขาก็เงียบหายไปหลังจากที่ฉันเขียนไปหาเขา 6 ฉบับ

ฉันเริ่มกังวลว่าอาจจะมีเรื่องร้าย ๆ อะไรเกิดขึ้น
แต่แล้วก็ได้รับโน้ตสั้นๆบอกว่า 'ขอให้มาพบผมตรงรั้ว ณ ที่เดิมที่เราเคยเล่าอะไรต่ออะไรให้กันฟัง'
ฉันไปตามนัดและพบเขาอยู่ที่นั่นจริง ๆ เขากำลังอกหักและดูโศกเศร้ามาก
เรากอดกันแน่นและหายใจแทบไม่ออก
และเขาก็เล่าเรื่องการหย่าร้างให้ฉันฟังทั้งน้ำตา
เขาร้องไห้...ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมา...ในที่สุด
เราก็เดินเข้าไปในบ้านคุยกันและหัวเราะเมื่อนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ
อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงเก็บความลับนั้นไว้
ไม่ได้เล่าความในใจให้เขาฟัง
หลายวันที่อยู่ด้วยกันทำให้เขากลับมามีความสุขและลืมปัญหาการหย่าร้าง
ขณะที่ฉันได้ตกหลุมรักเขาอีกครั้ง
เมื่อถึงวันที่เขาต้องกลับไปนิวยอร์ก...ฉันต้องไปส่งเขาด้วยน้ำตา
ไม่อยากเห็นภาพเขาเดินจากไป
แม้เขาสัญญาว่าจะบินมาหาฉันทุกเมื่อที่ฉันสามารถลางานได้
แต่ฉันไม่สามารถรอเขาได้อีกต่อไป
โดยส่วนลึกในหัวใจแล้วเราต่างมีความสุขเสมอ
เมื่ออยู่ด้วยกัน

วันหนึ่ง เขาก็ไม่ได้กลับมาอย่างที่เขาเคยสัญญาไว้
ฉันได้แต่คิดว่าคงเป็นเพราะเขางานยุ่งเกินกว่าที่จะปลีกตัวมาได้
มันผ่านไปจากวันนั้นเป็นเดือนจนลืมเรื่องนี้ไป
และแล้วทนายความจากนิวยอร์กก็แจ้งข่าวร้ายนี้ให้ฉันทางโทรศัพท์

...เขาเพิ่งเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างที่กำลังเดินทางไปสนามบิน

ฉันเข้าใจทันทีถึงความรู้สึกของคนหัวใจสลาย เพิ่งรู้ว่าทำไมเขาไม่มาหาฉัน
ในวันนั้นนี่เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองอกหัก
คืนนั้นฉันร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
ถามตัวเองว่าทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับคนดี ๆ อย่างเขา
ฉันเดินทางไปนิวยอร์กอีกครั้งเพื่อร่วมรับฟังการเปิดพินัยกรรม
แน่นอนที่สุดสมบัติต่าง ๆ เขามอบให้กับครอบครัวและอดีตภรรยา
นี่เป็นอีกครั้งที่ฉันได้พบภรรยาเขาอีก
เธอเล่าถึงความเป็นอยู่ของเขาให้ฉันฟัง และยังบอกว่าเขาได้ทำอะไรให้เธอบ้าง
แต่กลับสัมผัสได้ว่าเขาไม่มีความสุขเลย
แม้ว่าเธอพยายามเอาอกเอาใจต่าง ๆ นานาแล้วก็ตาม
แต่ไม่สามารถทำให้เขามีความสุขอย่างคืนวันแต่งงานได้เลย
ในพินัยกรรมระบุว่าฉันจะได้รับสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่เป็นสมบัติส่วนตัวของเขา ที่ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจเช่นนั้น

เมื่อเสร็จธุระฉันจึงบินกลับไปยังแคลิฟอร์เนีย
ระหว่างเดินทางฉันหวนระลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ของเรา

...และเปิดสมุดบันทึกออกอ่านสมุดบันทึกนั้น เริ่มบันทึกขึ้นจากวันแรกที่เราได้พบกัน

อ่านไปชั่วขณะหนึ่งฉันเริ่มร้องไห้เมื่อพบข้อความว่า
เขาได้ตกหลุมรักฉันในวันที่ฉันถูกหักอก แต่เขาก็ขลาดเกินไปที่จะบอกฉันว่าเขารู้สึกอย่างไร
นั่นเป็นเหตุผลว่า

ทำไมวันนั้น....

เขาจึงนิ่งเงียบและคอยแต่จะเป็นผู้ฟัง
จากบันทึกทำให้ฉันรู้ว่า เขาพยายามจะบอกฉันหลายครั้ง
แต่เขาก็ไม่มีความกล้าหาญพอ
เวลาที่เขารู้สึกดีใจที่สุดจึงเป็นโอกาสที่เขาได้พบฉัน และเต้นรำด้วยกันในวันแต่งงาน
ซึ่งเขาพยายามจินตนาการว่านั่นเป็นงานวิวาห์ของเรา

นี่ละสาเหตุที่ทำให้เขาไม่มีความสุข จนกระทั่งเขาได้หย่าขาดจากภรรยา

...ส่วนเวลาที่มีความสุข กลับเป็นวินาทีที่เขากำลังอ่านจดหมายของฉัน

ในที่สุดสมุดบันทึกก็จบลงด้วยข้อความว่า

"แล้วก็มาถึงวันนี้ ...วันนี้แล้วที่ผมจะได้บอกรักเธอ ... "

แต่มันกลับเป็นวันที่เขาต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

...วันที่ฉันเพิ่งมาค้นพบว่าเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับฉันตลอดมา....!





Create Date : 05 ธันวาคม 2550
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 13:07:15 น.
Counter : 638 Pageviews.

0 comment
เมื่อรักหมายถึง "ใส่ใจ"
เมื่อรักหมายถึง "ใส่ใจ"
เคยมีใครถามคุณไหมว่า “ความรักคืออะไร?”
ผมคิดว่าวันนี้ผมมีคำตอบให้คุณแล้วล่ะ
คำที่ใช้แทนคำว่า “ความรัก” ได้ดีที่สุด
น่าจะเป็นคำว่า “ใส่ใจ”

หากคุณคิดที่จะบอกรัก หรือรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะรักใครซักคน
ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน?

ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ
หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า
คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้
ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อซื้อซื้อของเยอะแยะมากมาย เพื่อเอาใจ...
นั่นแหละถึงเรียกว่า ความใส่ใจ

ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง
หากคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืน
ถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น...
นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ

ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว
หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณซักอย่างด้วยความตั้งใจ
แต่คุณกลับไม่ชอบมัน คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป
ใส่ใจในความรู้สึกของเค้าด้วย

หากคุณทะเลาะกับคนรัก แต่แล้ววันรุ่งขึ้น
คนรักของคุณยังโทรมา แสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆ วัน
ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ...
นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ

หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง
เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ...นั่นแหละเรียกว่า
ความใส่ใจ

คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครซักคนคอยใส่ใจเราบ้าง

หากคุณต้องเดินทางไกล
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า
“ถึงหรือยัง” “ปลอดภัยดีไหม” “เหนื่อยไหม”

หากคุณต้องปฏิบัติภาระกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องเรียน
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้ และโทรมาบอกว่า
“โชคดีนะ” “ชั้นจะคอยเป็นกำลังใจให้ “

หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า “ขับรถดีๆนะ”

หากคุณป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนให้คุณกินยา และพักผ่อนมากๆ

ความใส่ใจ กับ ความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆ ด้าน
คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่
ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน
แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่
ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน

ความเกรงใจเป็นสิ่งดี
และเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน
คุณเห็นไหมล่ะว่า ไม่ยากเลยที่จะแสดงความใส่ใจต่อใครซักคน

fw mail



Create Date : 05 ธันวาคม 2550
Last Update : 5 ธันวาคม 2550 13:06:21 น.
Counter : 759 Pageviews.

1 comment
ทำไมคนถึงต้องมีความรัก
ทำไมคนถึงต้องมีความรัก
ทำไมคนเราต้องมีความรัก
ก็เพราะว่าเราทุกคนล้วนมีหัวใจ

ทำไมคนเราจึงต้องโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา
ก็เพราะเราต้องการใครสักคนมาช่วยเราดูแลหัวใจของเรา

ทำไมคนเราถึงไม่เคยพอกับความรัก
ก็เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรักใครคนเดียว

ทำไมคนบางคนถึงไม่เคยพบกับความรักสักที
ก็เพราะว่าเขาไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร

ทำไมคนบางคนไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
ก็เพราะว่าเขาอาจจะกำลังรอใครสักคนอยู่

ทำไมคนบางคนถึงต้องอกหักอยู่บ่อย
ก็เพราะว่าเขาปล่อยใจตัวเองตกหลุมรักอยู่ตลอดเวลา

ไม่ต้องเสียใจที่เขาไม่รักเรา
เพราะเราและเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อรักกัน

ทำไมคนบางคนไม่เคยสมหวังกับความรัก
ก็เพราะว่าเขาอาจจะยังไม่เจอคู่แท้ของเขา

ทำไมคนบางคนยังไม่พบคู่แท้ของเขา
ก็เพราะว่าเขาอาจจะไม่เคยตามหาเลยก็ได้

ทำไมเราควรจะทำตัวเราให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา
ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจเมื่อไร

ไม่ต้องเสียใจที่เรายังไม่เจอคนที่เรารัก
เพราะว่าเมื่อเราเจอเขาคนนั้นเมื่อไร
เราจะรู้ว่ามันคุ้มค่ามากแค่ไหนกับเวลาที่เรารอคอย

จงทะนุถนอมหัวใจของเราไว้ให้ดี
เพราะว่าเมื่อเราเจอคนที่ใช่ จะได้มอบมันให้เขาด้วยความภูมิใจ
อย่าปล่อยให้โชคชะตาลิขิตชีวิตเราทั้งหมด
แต่จงใช้มันเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต

โชคชะตาสามารถทำให้เราพบคนที่ถูกใจ
แต่ตัวเราเองเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาคนนั้นรักเราได้

fw mail



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 23:29:18 น.
Counter : 712 Pageviews.

0 comment
วิธีเขียนจดหมายขอความรักให้สมหวัง
วิธีเขียนจดหมายขอความรักให้สมหวัง
ถึงเธอสุดที่รัก :

ผมชอบคุณมากๆเลย พูดได้ว่าถึงขั้นรักคุณเข้าแล้วนะ

เวลาอยู่กับคุณทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

เพราะฉะนั้นผมถึงเขียนจดหมายฉบับนี้ให้คุณ

หวังว่าคุณจะยอมรับความรักของผม

อยู่เคียงคู่ผมไปจนชั่วฟ้าดินสลาย…

แต่ว่า คุณยังไม่ต้องรีบตอบผมก็ได้

ผมจะเล่าเรื่องบางเรื่องให้คุณฟังก่อน…

เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วได้มั้ง

มีผู้หญิงผู้โชคดีคนหนึ่งดังเช่นคุณ

ได้รับจดหมายรักจากผมฉบับหนึ่งเช่นเดียวกันกับคุณ…

ในตอนนั้นเธอตอบผมว่า “ขอโทษนะ

ฉันรู้สึกว่าคุณกับฉันไม่สามารถเป็นไปได้มากกว่าเพื่อน”

ผมเสียใจมากเมื่อได้ยินคำตอบเช่นนี้

ผมจึงหั่นเธอออกเป็นท่อนๆเก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้านผม…

และก็ 4 ปีก่อน ผมหนีออกมาจากความเศร้าเมื่อ 5 ปีก่อนนั้นได้แล้ว

และเขียนจดหมายหนึ่งฉบับให้แก่หญิงสาวผู้โชคดีอีกคนหนึ่ง…

คำตอบของเธอคือ “ฉันมีแฟนอยู่แล้ว”

ผมจึงนัดแฟนเธอออกมาเจรจากันตัวต่อตัว

เมื่อเขาเผลอ


ผมจึงใช้ก้อนอิฐทุบหัวเขาจนตายแล้วยัดไว้ในถังใส่ปูนซีเมนต์ทิ้งลงทะเลไป

หลังจากนั้น ผมก็ใช้ยาพิษฆ่าเธอตาย แล้วแช่ฟอร์มาลีน

เก็บร่างเธอไว้ในห้องใต้ดินบ้านผม…

3 ปีก่อน ผมหาแฟนสาวได้คนนึง แต่ไม่นานเธอก็โวยวายขอเลิกกับผม

ผมไม่ต้องการให้เธอจากไป

จึงใช้เชือกรัดคอเธอตายแล้วผูกไว้ที่เพดานบ้านผม…

หลังจากนั้น ผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะที่จะมีคนรักได้

จึงปิดหัวใจตัวเองไว้

เวลาผ่านมาได้ 2 ปี

ผมได้พบกับคุณ คุณได้เปิดหัวใจอันว้าเหว่ของผมแล้ว...

ตอนนี้ คุณสามารถตัดสินใจตอบผมได้แล้ว คุณรักผมไหม?

fw mail



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 23:28:45 น.
Counter : 1073 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend