ข้อเสียกับข้อดีของคนใกล้ๆ
ข้อเสียกับข้อดีของคนใกล้ๆ
...อยู่วันหนึ่งผมก็เกิดมีชีวิตขึ้นมาผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ผมมีความรู้สึก ผมมีความคิด แต่ผมพูดไม่ได้
ผมไม่ต้องทานอาหารไม่ต้องสืบพันธุ์
ผมสามารถได้ยินในรัศมีไม่เกินสองเมตร
ผมคือโต๊ะอาหารในฟู๊ดเซ็นเตอร์ที่อาคารทีซีซีแห่งนี้
อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางถนนสีลม ซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญ
ทุกๆวันระหว่างจันทร์ถึงศุกร์สถานที่แห่งนี้จะมีคนทำงาน ออฟฟิศมากมายมาทานอาหารเที่ยงกัน
ในช่วงระหว่างเวลาเที่ยงถึงราวบ่ายโมงครึ่ง ด้วยเหตุที่สนนราคาที่ไม่แพงเกินไปสำหรับคนชั้นกลางที่ทำงานในละแวกใกล้เคียง
ผมได้ยินเรื่องราวมากมายจากคนเหล่านี้ไม่ซ้ำหน้าไม่ซ้ำเรื่อง หลากหลายรสชาด
วันนี้ลองดูซิครับว่ามีเรื่องอะไรที่โต๊ะของผม
วันนี้ผู้คนดูบางตาไปเนื่องจากด้านนอกฝนตกในห้องอาหาร ฟาสต์ฟู๊ดวันนี้เลยมีคนน้อยลงไปมาก
เจ้าโต๊ะสอดรู้สอดเห็นอย่างผมเลยพลอยหงอยเหงาไปด้วย รอบๆตัวผมไม่มีผู้คนเลยมีแต่เจ้าโต๊ะเปล่าตั้งอยู่
วันนี้ผมคงจะไม่มีเรื่องน่าสนใจมาเล่า ให้คุณฟังแล้วกระมัง
ผมได้ยินเสียงแว่วๆของสุภาพสตรีสองคนด้านหลังทางซ้ายมือ
ผมเลยชำเลืองมองดู (อย่าสงสัยเลยนะครับว่ามองจากอะไร เพราะผมเป็นโต๊ะผมมีดวงตาที่ไม่เหมือนคนอย่างพวกท่านหรอกครับ)
ผมเห็นสุภาพสตรีอายุราวๆ 25 ปี สองคนแต่งตัวในชุดทำงาน ดูเหมือนจะเป็นยูนิฟอร์มของธนาคารใดธนาคารหนึ่งในสีลม
คนหนึ่งผมสั้น อีกคนผมยาวทั้งสองมีถาดอาหารเข้าใจว่าจะเป็นมังสะวิรัติเพราะมีแต่ผักเต็มจาน
คนผมยาวนั่งลงก่อนแล้วเอ่ยปากขึ้นว่า "ใจเย็นๆน่าเล็ก ทานไปคุยไปก็ละกันนะ"
น้ำเสียงอ่อนโยนที่แสดงให้เห็นว่าเธอเอาใจใส่เพื่อนของเธอคนนี้มาก
คนผมสั้นเอ่ยตอบว่า "โอเค โอเคฉันเชื่อเธอกบ เพราะมีแต่เธอแหละที่ฉันกล้าคุยเรื่องในครอบครัวให้ฟัง"
สาวผมสั้นค่อยๆบรรจงวางถาดอาหารลง เธอเริ่มต้นทานอาหารไปอย่างช้าๆ พร้อมๆกับเอ่ยปากเล่าเรื่องของเธอต่อไปว่า
"ฉันละเซ็งคุณแดงสามีของฉันเหลือเกิน หากฉันจะลิสท์ (list) คุณสมบัติยอดห่วยของสามีฉันละก้อ เธอเอ๋ย
หน้ากระดาษหนึ่งคงไม่พอ กลับบ้านค่ำ แถมเอางาน กลับมาอีก ไม่ชอบดูละคร ดูแต่เคเบิ้ลทีวี เวลาดูก็หมุนเปลี่ยนทุกช่องชอบเก็บกวาดบ้านด้วยตนเอง
ไม่เคยให้ความสนใจดูแลฉันเลย โอ๊ยฉันละเบื่อ ทีกับลูกน้องตัวเองละก็ ประคบประหงมยิ่งกว่าลูกอีก เฮ้อ"
เธอถอนหายใจเสียงดัง หลังจากเล่าจบ เธอเอ่ยถามคู่หูคนสนิทต่อ "กบเธอแต่งงานมาตั้งห้าปีแล้วมากกว่าฉันตั้งสามปี
ทำไมไม่เห็นบ่นเรื่องสามีของเธอเลย เธอคงมองโลกในแง่ดีมากเลยนะ ฉันอิจฉาเธอจังเลย" กบเอ่ยตอบ
"เล็กฉันก็เคยเป็นอย่างเธอเหมือนกันเมื่อสองสามปีที่แล้ว วันหนึ่งฉันอัดอั้นมากจนทนไม่ไหว ด้วยสายเลือดเลขามืออาชีพของฉันซึ่ง
เหมือนๆกับเธอนี่แหละ ฉันหยิบกระดาษออกมาแล้วระบายลงไปเลยว่ารายการ ความห่วยของสามีฉันเป็นอย่างไร เธอรู้ไหมว่าฉันได้กี่ข้อ"
เล็กรีบถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น "กี่ข้อละ" กบตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "สามสิบสองข้อ เท่ากับขนาดเอวของสามีฉันเลยละ"
เล็กกลั้นหัวเราะไม่อยู่ข้าวในปากกระเด็นออกมา โชคดีที่เธอทานคำไม่โต
เธออุทานกลั้วเสียงหัวเราะว่า "แหมเธอนี่ช่างเปรียบเทียบจริงๆนะ " กบเล่าต่อ
"เย็นวันนั้นฉันตั้งใจว่ากลับบ้านแล้วฉันจะส่ง รายงานชิ้นเอกให้สามีของฉันดู เพียงแต่ว่าฉันต้องไปงานศพลุงของฉันก่อน
พอเลิกงานฉันก็รีบรุดไปงานศพของลุงฉันซึ่งอายุ เพิ่งห้าสิบเองคุณป้าฉันก็อายุห้าสิบเหมือนกัน ลุงฉันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถยนต์คว่ำซึ่งถือว่า
เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่ได้ คาดคิดมาก่อน ป้าฉันตกใจมากเธอไม่เคยเตรียมใจสำหรับเรื่องนี้มาก่อน
ฉันสนิทกับป้าฉันคนนี้มากเป็นพิเศษ เมื่อฉันไปถึงงานศพ
ฉันก็ไปนั่งคุยกับคุณป้า เมื่อไปถึงคุณป้าก็ซึ่งมีสีหน้าเศร้าสร้อยอยู่ก็ดีใจที่พบหน้าฉัน เราสองคนนั่งคุยกันสักพักคุณป้าก็หยิบกระดาษโน๊ต
สองสามแผ่นออกมา แล้วก็ส่งให้ฉันดู ฉันรับมาดูแล้วก็นั่งอ่านในกระดาษนั้น มีข้อความดังต่อไปนีเธอบรรยายข้อความใน
กระดาษโน๊ตของป้าเธอต่อ "ถึงสามีที่รัก วันนี้ทั้งวันฉันนึกถึงแต่เธอตลอดเวลาสิบห้าปีที่เราอยู่ด้วยกัน
ฉันมักจะบ่นต่อว่าในข้อเสียของเธอมาตลอด จนกระทั่งถึงวันที่เธอจากไป เมื่อฉันมีโอกาสทบทวนดูชีวิตคู่ของเราฉัน
พบว่าฉันได้มองข้ามสิ่งดีๆของเธอไปมากมาย"
กบเล่าด้วยเสียงสั่นเครือ เธอเอ่ยต่อว่า
"ในกระดาษโน๊ตนั้นคุณป้าของฉันบรรยายคุณความดีของลุง ไว้นับร้อยข้อพอฉันอ่านจบ น้ำตาของฉันก็นองหน้า"
ป้าฉันเอ่ยกับฉันว่า
"ป้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เป็นผู้บอกสิ่งดีๆเหล่านี้ในระหว่างที่คุณลุงของหนู ยังมีชีวิตอยู่หลานอย่าทำพลาดแบบป้าอีกคนละ"
"ฉันนั่งฟังอยู่แล้วคิดตามไปว่า มีคนจำนวนมากที่เมื่อคนรักของตนจากไปแล้ว ค่อยบันทึกคุณความดีของผู้จากไปลงที่หลุมฝังศพ หรือจัดพิมพ์เป็นเอกสารอย่างดีแต่ว่าผู้จากไปกลับไม่มีโอกาสอ่าน ซึ่งขณะที่เขามีชีวิตอยู่กลับได้ยินแต่สิ่งที่เป็นข้อบกพร่อง ของเขา
คิดได้อย่างนั้น ฉันรีบดึงเอาลิสต์รายการของสามีฉันออกมา แล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เลิกงานศพแล้วฉันรีบกลับบ้านทันที พอเจอหน้าสามีฉันก็กระโดดกอดเขาเลย เสร็จแล้วฉันก็ถือโอกาสาธยายคุณความดีทั้งหลาย
ของเขาว่ามีอะไรบ้าง สามีฉันมีสีหน้าแปลกใจเล็กๆ แต่ว่าท่าทีเขาดูอ่อนโยนมากขึ้น และเอื้ออาทรกับฉันขึ้นมาทันที
ฉันเองก็เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อเขามาก หากเรารักใครแล้วเราบอกสิ่งที่ดีของเขาให้เขาได้ยิน เขาก็จะรักเราตอบและบอกสิ่งที่ดีตอบกลับมา
สามีฉันก็เผยความในใจถึงข้อดีของฉันอีกมากมายที่ ฉันไม่เคยรู้มาก่อน" "
ตั้งแต่นั้นมาฉันก็เลิกคิดถึงรายการจุดอ่อนของคนที่เรารัก ฉันคิดว่าเราควรจะรักเขา อย่างที่เขาเป็นแหละ อย่าไปหวังให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ที่แตกต่างกับเราเลยความรักที่แท้จริงก็คือ
UnconditioningLove คือ
การที่เรารักเขาแล้วไม่ได้ตั้งเงื่อนไขให้เขาเปลี่ยนแปลงอะไร จงรักเขาอย่างที่เขาเป็น แล้วโฟกัสในสิ่งที่ดีของเขาซะเราก็จะมีความสุข
เขาก็จะมีความสุข"กบเล่าจบด้วยสีหน้าอิ่มเอิบเล็ก ซึ่งนั่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ นัยน์ตาเธอมีน้ำตาคลอเบ้าอยู่
ในมือเธอกำแน่นด้วยเศษกระดาษลิสต์รายการที่บัดนี้ถูกเธอ ฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อยู่ๆ เล็กเอ่ยขึ้นว่า"ขอบใจมากจ๊ะกบฉันว่าเรารีบกลับ ออฟฟิศเถอะ ฉันอยากโทรหาสามีของฉันหน่อย
ีข้อดีของเขาอีกมากที่ฉันควรจะบอกเขา"

fw mail



Create Date : 29 กันยายน 2550
Last Update : 29 กันยายน 2550 23:22:25 น.
Counter : 713 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend