พบกันที่คาเฟ่
พบกันที่คาเฟ่

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"จอห์นนี่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของนักเที่ยวราตรี

ผมเป็นหนุ่มวัยใกล้ 40 มีการงานทำเป็นหลักเป็นฐาน ถึงแม้ว่าค่าครองชีพจะถีบตัวพรวดๆ ขึ้นทุกวัน เนื่องจากน้ำมันขึ้นราคาสูงลิ่วเป็นประวัติการณ์ แต่ผมก็ไม่เดือดร้อนเพราะยังดำรงสถานภาพชายโสดอยู่น่ะซีครับ!

แหม! ถ้ามีเมียมีลูกกำลังกินกำลังเล่น โดยเฉพาะอยู่ในวัยกำลังเรียนแบบเพื่อนรุ่นพี่อีกหลาย

คน...มีหวังประสาทไม่ค่อยเป็นปกติเหมือนกันละน่า

ตอนนี้ยังมีโอกาสก็ต้องหาความสุขใส่ตัวไว้ก่อน ใครจะว่าอะไรก็ช่าง

คิดดูซีครับ ถ้าเราห่วงอนาคต เขาก็ให้เราคิดถึงวันนี้เท่านั้น แต่พอเราทำตาม เขาก็บอกให้เราคิดถึงอดีตเอาไว้ จะได้ไม่ลืมตัว...อ้าว? พอเราคิดถึงอดีต เขาก็หาว่าเป็นคนคิดมากฟุ้งซ่าน...ขอให้คิดถึงปัจจุบันดีกว่า...ไม่รู้จะให้ทำยังไงกันแน่?

ฮะแอ้ม! ผมชอบคำคมที่ว่า...เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่นานนัก จะกลัดกลุ้มเป็นกังวลไปทำไม หาเวลาหยุดดมดอกไม้ซะมั่งเถอะน่า!

ดอกไม้สุดโปรดของผม หาง่ายที่สุดเพราะเป็นดอกไม้ริมทางไงครับ

ไม่ต้องมีพันธะผูกพันใดๆ ดีไม่ดีจะกลายเป็นภาระหนักอึ้งที่หลัง...ก็เรายังไม่พร้อมนี่นา จะหาห่วงมาผูกคอทำไม? ผมเลยหาโอกาสเที่ยวเตร่ตามผับตามบาร์ คาเฟ่ หรือคาราโอเกะที่ผุดสะพรั่งเต็มบ้านเต็มเมืองเหมือนดอกเห็ดฤดูฝน

ต้องออกตัวว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน รวมทั้งตัวเอง เพราะผมไม่ได้เที่ยวแบบสำมะเลเทเมา แต่เอาสนุกเข้าว่า ไม่ถึงกับบ่อยแบบคนติดเที่ยว แต่ระวังสุขภาพตามสมควร กับคอยดูเงินในกระเป๋าไว้ด้วย

ผมอยู่คนเดียวในบ้านแถวบางขุนนนท์ พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจะลาโลกไป แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะมีเพื่อนบ้านช่วยดูแลเวลาผมไม่อยู่ อาหารการกินก็จัดการข้างนอกเรียบร้อย...นานๆ จะนึกครึ้มซื้อหาอะไรมากินเอง

ระยะหลังๆ มานี่ผมชอบเที่ยวคาเฟ่ครับ!

ไม่ว่าคาเฟ่ใหญ่ๆ อย่างกรุงธนคอมเพล็กซ์ หรือธนบุรีพลาซ่า นักร้องเกือบร้อยคนแน่ะครับ แถมมีนักร้องนุ่งบิกินี เซ็กซี่อย่าบอกใคร...ลงมาถึงระดับราคาย่อมเยาแถวย่านปิ่นเกล้าฯ ช่วงหลังนี่ผมไปปิ๊งนักร้องน้องรักที่นั่น จนเกิดเรื่องขนหัวลุกขึ้นมา...

"น้องอร" เคยร้องอยู่ตามคาเฟ่หลังพาต้ามาก่อน ผมรู้จักเธอที่นั่นแหละ ก่อนที่น้องอรจะย้ายไปอยู่คาเฟ่แถวถนนอรุณอัมรินทร์ ย่านใกล้ๆ กันนั่นเอง

ทำไมผมถึงปิ๊งน้กร้องน้องรักคนนี้เข้าเต็มเปาน่ะหรือครับ?

ขาว สวย หุ่นดีมาก พูดจาดี ไม่มีวี่แววว่าจะรอบจัดใดๆ โธ่! ผมเที่ยวราตรีมาเกือบ 20 ปีทำไมจะดูไม่ออกว่าใครเป็นยังไง? สาวสวยดูใสซื่อนี่สเป๊กผมจริงๆ เอ้า!

น้องอรย้ายคาเฟ่ ผมก็ย้ายที่เที่ยวตามเธอ เรื่องจะมีแฟนหรือแขกมาติดน่ะผมไม่สนให้เมื่อย ใครดีใครได้นะครับ เรื่องแบบนี้น่ะ

ผมแวะไปหาเธอ 2-3 ครั้ง น้องอรก็ปราดเข้ามานั่งโต๊ะด้วยทุกครั้ง นักร้องตั้ง 30-40 คน ไม่ต้องกลัวว่าแขกจะเหงาเพราะขาดเพื่อนคุย...ที่นั่นดีอย่างที่ไม่มีดริงก์มากวนใจแขก นอกจากตอนที่น้องหนูร้องเพลง เราก็ติดมาลัยน้ำใจทีละ 2-3 ร้อยบาท บางคนใจถึงติดแบงก์สีม่วงก็มี

เท่าที่เคยพบกันน่ะ น้องอรไม่ได้นั่งโต๊ะใครนอกจากผม...อาจจะเห็นว่าผมเที่ยวคนเดียว หรือถูกชะตาผมเป็นพิเศษก็ได้...เรื่องของคนกลางคืนน่ะ ไม่ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

คืนหนึ่ง ผมชวนเธอออกไปหาอะไรกิน น้องอรก็ออกไปด้วยตอนคาเฟ่เลิกตี 3 โดยไม่เปลี่ยนชุดยาวสีฟ้า ปักดิ้นเลื่อมพราวเชียว...ตอนลงจากรถเดินไปร้านข้าวต้มติงลี่เล่นเอาผู้คนที่นั่นหันมองเป็นตาเดียวกัน...

ตอนจบ เธอขอตัวกลับห้องเช่าในซอยแถวนั้น ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร...

จนกระทั่งวันเสาร์ต่อมา ผมนั่งชงเหล้าอยู่ที่ระเบียงบ้านเตี้ยๆ ว่าจะไม่ออกไปไหนแล้วเชียวนา...มารู้ตัวอีกทีก็ไปนั่งซดเหล้ามองดูหน้าสวยๆ ของน้องอรที่มุมสลัวในคาเฟ่ซะแล้ว...ซักพักใหญ่ๆ เธอก็บอกว่าจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่เชียงราย คงจะอยู่ที่นั่นหลายวัน

"เดี๋ยวเราออกไปเลยนะพี่ อรลาผู้จัดการเรียบร้อยแล้ว" เธอบอกให้ผมลิงโลดใจ...ไปกินข้าวต้มที่ติงลี่ตามเคย แค่คืนนั้นไม่มีใครสนใจเหมือนคืนก่อน...ผมขอไปส่งเธอที่ห้องแต่น้องอรบอกว่า...ขอไปค้างบ้านพี่ละกัน!

เรื่องแบบนี้เอาแน่ไม่ได้จริงๆ ครับ...ผมรีบพาเธอมาขึ้นแท็กซี่มุ่งหน้ากลับบ้านทันที...พอเข้าห้องนอนผมก็ใส่กลอนเรียบร้อย กลิ่นน้ำหอมอวลกรุ่นเย้ายวนใจสิ้นดี

เราโผเข้าหากันเหมือนถูกแม่เหล็กดึงดูด...ไม่ช้าก็ขึ้นไปคลุกเคล้ากันอยู่บนเตียง เสื้อผ้าหลุดกระเด็นไปไหนไม่มีใครสนใจอีกแล้ว นอกจากการกอดจูบอย่างเร่าร้อน อ้อมแขนสองคู่โอบกระหวัดรัดกันแนบแน่นเหมือนจะผนึกเป็นเนื้อเดียวกันตลอดกาล...

มาตื่นอีกทีก็สายมากแล้ว น้องอรไม่ได้อยู่บนเตียง...ในห้องน้ำก็ไม่มี ประตูห้องยังใส่กลอนเหมือนเดิม ผมเผ่นไปที่หน้าต่างทั้งหัวนอนและด้านข้าง...มันติดเหล็กดัดแน่นหนาจนไม่มีใครเล็ดลอดออกไปได้แน่ๆ ยกเว้นแต่ว่าน้องอรจะไม่ใช่คน!

คุณพระช่วย! เมื่อคืนผมนอนกับผีน่ะซี?

กลิ่นน้ำหอมของเธอยังอ้อยอิ่งอยู่ในห้อง เล่นเอาผมตาลายพร่า เย็นสันหลังวูบวาบ เข่าอ่อนจนต้องเซซังไปนั่งแหมะที่ขอบเตียง...สองหูอื้ออึง แต่ได้ยินเสียงใครถอนใจยืดยาวเหมือนคนเหน็ดเหนื่อยเต็มประดา...

คงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าผมเลิกเที่ยวคาเฟ่ตั้งแต่นั้นมา!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEUzTVRJMU1BPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd055MHhNaTB4Tnc9PQ==



Create Date : 17 ธันวาคม 2550
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 19:39:00 น.
Counter : 803 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend