วิญญาณรัก
วิญญาณ รัก
ขนหัวลุก
ใบหนาด
"เล็กน้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณพี่สาว
ดิฉันมีลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อพี่ตุ้ม อายุราว 46-47 ปี เธออ้วนดำ รวบผมตึงไว้ที่ท้ายทอยเสมอ พี่อ๊อดสามีรูปหล่อของพี่ตุ้มดูจะรักเธอมากจนไม่มีนัยน์ตาไปมองสาวอื่น ทั้งนี้เพราะพี่ตุ้มเป็นคนจิตใจดี เธอรักและคอยห่วงใย คอยดูแลและแคร์ความรู้สึกของทุกคน ไม่เฉพาะแต่น้องแต๋มกับน้องตาล-ลูกสาวสุดสวาทขาดใจของเธอเท่านั้น
ครอบครัวพี่ตุ้มมีฐานะปานกลาง สามีทำงานธนาคาร เงินเดือนที่ได้มาก็ต้องประหยัดกันสุดขีด พี่ตุ้มเองเป็นแม่บ้านเต็มตัวเพราะลาออกจากงานเมื่อมีน้องแต๋ม เธอเลี้ยงลูกเอง ทำงานบ้านเอง ไม่ยอมมีคนรับใช้
จนกระทั่งลูกโต พี่ตุ้มจึงทำขนมเปี๊ยะขายหารายได้เสริม
ทีแรกพวกเราก็ว่าจะขายได้ยังไง ทำขนมเปี๊ยะอย่างเดียวใครเขาจะมาซื้อทุกวี่ทุกวัน! แต่เราคิดผิดค่ะ พี่ตุ้มทำขายแทบไม่ทันเพราะมีลูกค้าเยอะมาก เดี๋ยวคนนั้นสั่งจอง เดี๋ยวคนนี้โทร.มาขอซื้อทีละมากๆ ยิ่งใกล้ปีใหม่พี่ตุ้มยิ่งมือเป็นระวิง
วันเกิดเหตุ ลูกค้าสั่งขนมเปี๊ยะไว้ 50 กล่อง เพราะมีงานเลี้ยงที่พุทธมณฑล พี่ตุ้มอดหลับอดนอนทำขนมทั้งคืน คิดว่าพอรุ่งเช้าขับรถไปส่งลูกค้าแล้วก็จะกลับมานอน...
แต่ชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลบหลีกได้พ้นจริงๆ ค่ะ!
หลังจากส่งขนมเสร็จ ตอนขากลับรถสิบล้อเบรกแตก พุ่งข้ามเลนมาชนรถพี่ตุ้มเสียยับเยิน...ร่างกายพี่ตุ้มก็เช่นกัน
ดิฉัน เสียใจมาก พอๆ กับกลัวผี...ตลอดเวลางานสวด ดิฉันไม่ยอมอยู่คนเดียวเลย พอกลับจากวัดต้องให้สามีอยู่เป็นเพื่อนตลอด
คืนที่ 3 หลังการตายของพี่ตุ้ม ดิฉันเข้านอนตอนห้าทุ่มเศษ สามีซึ่งปกตินอนดึกราวตี 1 ตี 2 ต้องละจากงานที่ทำค้างไว้มาเข้านอนพร้อมกันด้วย แถมยังไม่ยอมให้เขาปิดไฟหัวเตียงซะอีก...ไฟดวงนิดเดียวไม่รบกวนสายตาหรอกค่ะ ยามกลัวผีแบบนี้ดิฉันหลับได้สบายมาก
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ดิฉันก็ต้องตื่นขึ้นมา...มันตื่นเอง! ไม่ได้ปวดปัสสาวะหรือมีเสียงรบกวนอะไรเลย มันน่าโมโหมั้ยเนี่ย...ตื่นมาทำไมก็ไม่รู้? ดูซิ! สามีก็กำลังกรน หลับสนิทเชียว
ดิฉันพลิกตัว ดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ ตั้งใจจะหลับต่อ...แต่คุณพระช่วย!
...ที่เก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ห่างจากดิฉันไม่กี่ก้าว มีร่างอวบอ้วนของพี่ตุ้มมานั่งมองอยู่นิ่งๆ เจ้าประคุณเอ๋ย...หัวใจแทบจะขาด! น้ำตาทำท่าจะไหลพรากออกมารอมร่อ...มือก็เอื้อมไปเขย่าสามี แต่เขาไม่ยอมตื่น ดิฉันได้แต่นอนตัวแข็งทื่อเหมือนรูปปั้นตามเดิม
"ไม่ต้องกลัวพี่หรอก น้อย...พี่มีเรื่องมาขอร้องให้ช่วย..."
พี่ตุ้มพูดโดยปากของเธอไม่ขยับสักนิด ดิฉันนอนใจเต้นระรัวอยู่กับที่...เธอบอกว่าในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า และลิ้นชักบนสุด ใต้เอกสารสำคัญต่างๆ มีกรมธรรม์ประกันภัยที่เธอทำไว้ ซึ่งยังไม่มีใครรู้แม้แต่พี่อ๊อด...
ผลประโยชน์จากการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุนั้นให้สามีเป็นผู้รับ!
เมื่อสั่งเสียเรียบร้อย...เป็นการสั่งเสียหลังจากที่เจ้าตัวตายไปแล้ว พี่ตุ้มก็นั่งนิ่งๆ ร่างที่เหมือนคนธรรมดาของเธอทำท่าจะเปลี่ยนเป็นศพ...คือเขียวคล้ำและบวมช้ำ ไปหมด...ดิฉันปากคอสั่น พูดไม่ออก ได้แต่นึกอยู่ว่า...พอแล้วค่ะพี่ตุ้ม! อย่าให้กลัวกว่านี้เลย...
พี่ตุ้มมองดิฉันคล้ายเพิ่งรู้ว่ากำลังกลัวแทบตายตามเธอ ร่างนั้นค่อยๆ เลือนรางจางหายไป...เธอคงไม่ได้ใจร้าย คิดจะหลอกหลอนดิฉันหรอกค่ะ เชื่อว่าที่เธอค่อยๆ กลายร่างเป็นอสุภก็เพราะเสียใจต่อการตายของตัวเอง กับห่วงลูกๆ และสามี
รุ่งขึ้น ดิฉันรีบโทร.ไปเล่าให้พี่อ๊อดฟัง เขาไม่ได้หาว่าดิฉันบ้าหรอกค่ะ แต่ขึ้นไปดูในลิ้นชักตามคำบอกเล่า แล้วรีบโทร.กลับมารายงานอย่างตื่นเต้น...สิ่งที่ดิฉันเล่านั้นเป็นความจริง ทุกประการ!
โธ่! จะไปรู้ได้อย่างไรคะถ้าวิญญาณพี่ตุ้มไม่มาบอกน่ะ จิตดิฉันคงจะอ่อนกว่าพี่อ๊อดมั้งคะ เธอถึงติดต่อมาได้?
เรื่อง นี้ฮือฮาในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย ดิฉันคิดว่าคงมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย เลยเขียนมาเล่าสู่กันฟัง...วิญญาณมีจริงค่ะ! หมั่นทำความดีไว้เถอะนะคะ
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREV6TURVMU13PT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdOUzB4TXc9PQ==