วิญญาณบรรพชน

วิญญาณบรรพชน
เรื่องนี้คุณแม่เล่าให้ฟังค่ะ

ตระกูลดิฉันมาจากเมืองจีนซัวเถา ก็ทำมาหากินมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทำงานเก็บเงินได้ก็ส่งกลับบ้านไปที่เมืองจีน คุณแม่เล่าว่าคุณยายของดิฉันรับจ้างทำงานทุกอย่าง และทำงานที่ท่าเรือขนข้าวที่ล่องเรือมาจากอยุธยา กินอยู่อย่างประหยัดอดออม ไม่ค่อยกล้ากินกล้าใช้อะไร เวลากินข้าวก็กินแต่ข้าวต้มใส่เผือกกับใบปอ(แต่ว่าขมมากค่ะ) เพราะกลัวว่าจะไม่มีเงินส่งกลับบ้านไปที่เมืองจีน พอได้เงินมาก็แลกเป็นเงินจีนเป็นแบงค์ใส่กระสอบไว้หลายสิบถุงผูกไว้บนขื่อบ้าน เพราะว่าเที่ยวนี้อยากกลับไปเยี่ยมบ้านด้วย แต่ยังไม่ทันได้ไปก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่เมืองจีน ปิดประเทศเข้าได้ลำบากมาก แต่ที่สำคัญคือได้ประกาศยกเลิกเงินที่คุณยายแลกไว้ที่จะนำกลับไปใช้ที่บ้านเกิด

คุณแม่เล่าว่าตอนนั้นการเมืองการปกครองที่เมืองจีนสับสน แต่ละเมืองพิมพ์เงินออกมาใช้เอง แต่คุณยายทำงานอยู่เมืองไทยกว่าจะรู้เรื่อง รัฐบาลคอมมิวนิสต์ก็ยกเลิกเงินทั้งหมดแล้ว แล้วประกาศเงินกลางที่ออกโดยรัฐบาลใช้เหมือนกันทั้งประเทศ ทำให้คุณยายเสียใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ส่งจดหมายไป พอไม่นานก็ได้รับจดหมายว่าคุณทวดได้ตายไปหลายเดือนแล้ว และได้ฝากรูปกับป้ายชื่อมากับเรือให้คุณยาย คุณยายเสียใจมากที่ไม่ได้ไปงานศพ และยังไม่มีโอกาสไปเช็งเม้งอีกด้วย เพราะคุณยายเป็นลูกสาวที่คุณพ่อรักมากเป็นห่วงมาก คุณยายมัวตั้งใจเก็ฐเงินให้ได้มาก เพราะจะได้กลับบ้านที่เมืองจีน แต่คุณยายได้จัดทำพิธีที่เมืองไทยแล้ว ใช้เงินที่แลกเผาส่งไปให้ทั้งหมดด้วย หลังจากนั้นมาคุณยายก็คิดปักหลักที่เมืองไทย แต่ที่บ้านมีธรรมเนียมว่าต้องทานข้าวต้มใส่เผือก และใบปอทุกเดือนๆละ 1 ครั้ง และดิฉันก็ได้ทานด้วยค่ะ เพราะจะได้ไม่ลืมความยากลำบาก ดิฉันเรียกว่าทานข้าวต้มระลึกชาติค่ะ

หลังจากนั้นคุณยายได้ให้คุณแม่เป็นคนจุดธูปไหว้คุณทวดทุกวัน พอคุณแม่ของดิฉันแต่งงานกับคุณพ่อได้ 2 ปีก็ยังไม่มีลูก คุณแม่ได้กลับบ้านไปเยี่ยมคุณยาย บ่นให้คุณยายฟังเรื่องยังไม่มีลูก คุณยายเลยให้ไปจุดธูปไหว้คุณทวด และเจ้าแม่โพสพที่นำมาจากเมืองจีน คุณแม่ได้อธิษฐานขอลูกแล้วก็กลับบ้าน ตกดึกคืนนั้น คุณแม่ฝันว่ามีชายแก่นุ่งกางเกงขาก๊วย คาดเข็มขัด มีหนวดเครายาว ไม่ใส่เสื้อ ถือโคมไฟสีเหลืองกับสีแดงมา แล้วบอกให้คุณแม่เลือก คุณแม่ได้หยิบสีเหลือง จากนั้นอีก 1 เดือนคุณแม่ก็ได้ตั้งท้องพี่ชายคนโตของดิฉัน คุณแม่ดีใจมาก ได้กลับไปเยี่ยมคุณยายพร้อมเล่าความฝันให้ฟังด้วย คุณยายบอกแม่ให้ไปดูรูปคุณทวดว่าเหมือนในความฝันหรือเปล่า คุณแม่ดูแล้วบอกว่าใช่ คุณยายจึงบอกว่าจุดธูปไหว้ท่านอยู่เสมอไม่เคยสังเกตบ้างเลยหรือ คุณยายเล่าให้ฟังว่า ตอนคุณทวดยังมีชีวิตอยู่คุณทวดชอบแต่งตัวแบบนี้ แถมท่านเป็นคนดุมากอีกด้วย คุณยายก็เลยให้ป้ายวิญญาณคุณทวด กลับไปบูชากจุดธูปที่บ้าน อีกไม่นานคุณพ่อคุณแม่ต้องย้ายบ้าน เพราะหมดสัญญาเช่า คุณพ่อได้หาบ้านเช่าอยู่นาน แล้วก็มีคนมาแนะนำว่าให้ไปดูบ้านแถวคลองสามเสน ฝั่งพระนคร พอไปถึงบ้านที่จะเช่าก็มีคนเช่าไปแล้ว แต่มีบ้านหลังใหญ่กว่าเป็น 2 ชั้น จะให้เช่าแถมค่าเช่าถูกกว่า แต่ว่าเคยมีคนตาย เลยไม่มีใครกล้าเช่า คุณพ่อดูแล้วเห็นว่าไปมาสะดวก และจำเป็ฯเพราะสิ้นเดือนต้องขนย้ายออกจากบ้านเดิม เลยตกลงเช่า แต่ไม่เล่าให้คุณแม่ฟัง เห็ฯว่ากำลังท้องกลัวตกใจ พอย้ายเข้าไปอยู่ได้ไม่กีวัน คุณแม่ที่ตั้งท้องพี่ชายอยู่ได้นอนหลับในตอนกลางวัน และฝันว่ามีผู้หญิงมาดึงขาให้ตกเตียง คุณแม่ขืนตัวสู้ แต่สู้แรงไม่ได้ จึงถูกลากลงมาทางบันได คุณแม่ขืนตัวไปจนชนราวบันไดทำให้ตื่น ก็พบตัวเองอยู่ที่ทางบันไดตามฝันจริงๆ ยิ่งทำให้กลัวมาก ตกเย็นคุณพ่อทำงานกลับมาคุณแม่ได้เล่าให้ฟัง คุณพ่อได้แต่ปลอบคุณแม่แล้วบอกว่าไม่มีอะไร คงละเมอมากกว่า

ก่อนนอนคุณแม่ได้สวดมนต์แล้วไปจุดธูปไหว้คุณทวดให้ช่วยคุมครองด้วย พอคุณแม่หลับก็ได้ฝันเห็นผู้หญิงคนเดิมเมื่อตอนกลางวันอีก มาลากขาคุณแม่อีก ผู้หญญิงคนนั้นบอกว่า "บ้านหลังนี้กูอยู่มาก่อน พวกเอ็งไม่มีสิทธิ์เข้ามาอยู่" แล้วก็ลากคุณแม่ไปถึงบันได ในฝันคุณแม่คิดว่าถ้าตกบันไดไปต้องตายแน่ แต่แล้วก็มีชายแก่นุ่งกางเกงขาก๊วย คาดเข็มขัดไม่ใส่เสื้อ มาช่วยคุณแม่ไม่ให้ตกบันไดไป แล้วผู้ชายคนนั้นก็ถอดเข็มขัดออกมาตีผู้หญิงคนนั้น พร้อมตวาดออกมาเป็นภาษาจีนว่า "จะมาทำอะไรหลานกับเหลนของข้าไม่ได้เด็ดขาด จงไป ถ้าไม่ไปจะตีให้ตาย"

ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าไม่ไป ทำให้ชายแก่คนนั้นฟาดด้วยเข็มขัดไปอีกหลายที พร้อมทั้งถีบผู้หญิงคนนั้นตกบันไดไป แล้วคุณย่าได้ยินเสียงดังก็ออกมาดูเห็นคุณแม่อยู่หน้าบันได รีบปลุกคุณแม่แล้วบอกว่ามาทำอะไรที่หน้าบันได เดี๋ยวก็ตกบันไดไปหรอก คุณแม่ได้เล่าความฝันให้ทั้งคุณพ่อและคุณย่าฟัง คุณย่าบอกว่าบ้านหลังนี้เคยมีผู้หญิงผูกคอตายเพราะสามีทิ้ง แต่ที่ไม่บอก เพราะกลัวว่าคุณแม่ที่ตั้งท้องอยู่จะตกใจกลัว

พอตอนเช้าคุณแม่ตื่นมาใส่บาตรอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ผู้หญิงคนนั้นและคุณมวดด้วย แล้วไปเยี่ยมคุณยายพร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณยายฟัง คุณยายให้แม่ไปจุดธูปไหว้คุณทวด บอกว่าสงสัยจะเป็นห่วงหลานกับเหลน ก็เหลนคนนี้ท่านเป็ฯคนพามาให้เอง และหลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆอีกเลยค่ะ


โดย กาลัญญุตา

Create Date : 09 กรกฎาคม 2550 Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 0:21:14 น. Counter : 803 Pageviews.		0 comments
Share Tweet