บั้งไฟพญานาค
บั้ง ไฟพญานาค

ขนหัวลุก

"ใบหนาด"



"วิสา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากริมแม่น้ำโขง

คิดว่าท่านผู้อ่านส่วนใหญ่คง จะเคยได้ยินเรื่อง "บั้งไฟพญานาค" มาแล้วนะคะ ดูเหมือนว่าจะมีที่จังหวัดหนองคายแห่งเดียวเท่านั้น ถ้ามีที่จังหวัดอื่นๆ ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ

ลูกไฟที่โผล่จากแม่น้ำโขงตอนค่ำๆ เหมือนมีใครจุดพลุพุ่งวาบขึ้นไปบนท้องฟ้า ทีละลูกสองลูก รวมแล้วก็หลายสิบลูกนั่นแหละค่ะ ที่เรียกกันว่าบั้งไฟพญานาค

ที่น่า แปลกประหลาดสุดๆ ก็คือ บั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นในวันออกพรรษาเท่านั้น...เชื่อกันว่าพญานาคสำแดง อิทธิฤทธิ์เพื่อเป็นการร่วมทำบุญร่วมกับชาวพุทธนั่นเอง

เคยมีผู้ กังขาทั้งไทยและเทศว่าคงจะไม่ใช่เรื่องลี้ลับหรือมหัศจรรย์นอกเหนือธรรมชาติ แต่คงจะมีใครอุตริไปจุดพลุอยู่ใต้น้ำแน่ๆ จนมีการส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจทั้งฝั่งไทยและลาวหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบว่ามีใครแอบซุกซ่อนกระทำการที่ว่าแม้แต่คนเดียว

ในที่สุด ก็โมเมว่าคงเป็นก๊าซบางชนิดที่ก่อตัวเป็นแสงเรืองๆ ตามป่าดงที่มีใบไม้ทับถมกันเป็นหญ้าเน่า รวมทั้งตามห้วยบึงต่างๆ ที่เราเชื่อว่าเป็นผีกระสือนั่นไงคะ!

แต่ก็หาคำอธิบายไม่ได้อยู่ดี ว่า เหตุใดบั้งไฟพญานาคจึงปรากฏในวันออกพรรษาตรงเผงทุกปี?

ดิฉันคิด ว่าตัวเองได้คำตอบเรื่องนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาหยกๆ นี่ล่ะค่ะ

ครอบ ครัวเราตัดสินใจหนีความวุ่นวายน่าปวดหัวในกรุงเทพฯ โดยซื้อทัวร์ไปเที่ยวรายการ "อีสานเลาะโขง" กับชัยทัวร์ ตั้งแต่วันที่ 10 ถึง 15 เมษายน มีกำหนดการไปสู่เพชรบูรณ์, ด่านซ้ายและเชียงคาน จังหวัดเลย เลียบเลาะลำน้ำโขงเรื่อยไปถึงอำเภอปากชม อำเภอสังคม เข้าสู่อำเภอศรีเชียงใหม่ หนองคาย แล้ววกไปนครพนม, มุกดาหาร และอุบลราชธานี ก่อนเดินทางกลับผ่านสุรินทร์และนครราชสีมา

วันที่ 11 เมษายน นั่นเองที่เราเข้าสู่อำเภอศรีเชียงใหม่ แวะชมวัดพัฒนาตัวอย่างอยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง มีทัศนีย ภาพสวยงามมาก

นั่น คือวัดหินหมากเป้งอันมีชื่อเสียงเพราะเป็นวัดของท่านอาจารย์เทสก์ เทสรังสี หรือ "หลวงปู่เทศก์" ที่เราๆท่านๆ ย่อมจะรู้จักและเคยได้ยินชื่อเสียงท่านเป็นอย่างดี

เมื่อลงจากบันได หินลงไปสู่ลานวัดก็คลายร้อน เพราะร่มรื่นด้วยกิ่งใบของต้นไม้น้อยใหญ่ มีพระกำลังกวาดใบไม้แห้งบ้าง รดน้ำต้นไม้บ้าง เข้าไปนมัสการท่านก็ได้รับความรู้น่าประหลาดใจ...วัดใหญ่โตแต่มีภิกษุอยู่ เพียง 7 รูปเท่านั้นเอง

ลูกสาวดิฉันจูงมือพ่อแม่วิ่งเข้าไปในศาลาริม แม่น้ำ ลูกทัวร์คนอื่นๆ ก็กระจายกันไปถ่ายรูปบ้าง ไหว้พระบ้าง และมี 4-5 คนมาเกาะระเบียงมองดูลำน้ำโขงที่มีน้ำเปี่ยมฝั่งผิดกับที่อื่นๆ นับว่าน่าแปลกประหลาดเอาการ

เสียงใครพูดแจ้วๆ ว่ามีผึ้งหลวงมาทำรังใหญ่โตที่ต้นไม้ข้างหน้า ทำให้ทุกคนเงยหน้าขึ้นดูก็เห็นภาพนั้นจริงๆ พอดีอาจารย์ไสวผู้เป็นนักธรณีวิทยา อายุราว 70 เศษ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอารมณ์ดี ชี้ให้ดูฝั่งตรงข้าม เล่าว่าทางลาวเห็นวัดฝั่งเราใหญ่โตน่าเลื่อมใสก็เลยสร้างวัดขึ้นมาประชัน ถึงหน้าเทศกาลงานบุญก็ลงเรือข้ามฟากไปมาหาสู่กันเพื่อทำบุญแบบบ้านพี่เมือง น้อง

ขณะนั้นฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตก ลมพัดมาเย็นสบายจนทำให้ดิฉันนึกถึงงานสงกรานต์ที่จะเริ่มต้นพรุ่งนี้แล้ว... พอดีอาจารย์ไสวพูดถึงบั้งไฟพญานาคในแง่วิทยาศาสตร์โดยอธิบายว่า ริมน้ำด้านนี้มีซอกซอยมากมาย เมื่อถึงหน้าน้ำหลากฝูงปลาน้อยใหญ่จึงเข้ามาหาอาหารกินเพลิดเพลินจนลืม ตัว...

เมื่อน้ำลดจึงออกไม่ทัน ตกคลั่กจนแห้งตาย สะสมกันมากเข้ากลายเป็นก๊าซบิวเทนที่ติดไฟง่าย เมื่อถึงหน้าน้ำก็ทะลักทลายออกไป...และนี่คำตอบว่าทำไมจึงเกิดบั้งไฟพญานาค ขึ้นมา!

ทันใดนั้นเอง ลูกสาวดิฉันก็ตะโกนเรียกพ่อแม่จนหันไปมองก็เห็นแกชี้ไม้ชี้มือไปที่กลางแม่ น้ำโขง ร้องเสียงลั่นๆ ว่า...งูยักษ์! ดูงูยักษ์ซีแม่ มีตั้งสองตัวแน่ะ! ดิฉันหันไปมองตามมือแกก็รู้สึกม่านตาพร่าพรายเต็มที ใจสั่นหวิวๆ เหมือนจะเป็นลม

ท่ามกลางฟ้ามืดครึ้มก็ยังมองเห็นภาพงูยักษ์สองตัว พ่นน้ำคึกคะนองอย่างเลือนราง ได้แต่ครางว่า...พญานาคมีจริงหรือนี่? ขนหัวลุกจริงๆ ค่ะงานนี้!

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREF6TURZMU13PT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHdOaTB3TXc9PQ==



Create Date : 06 มิถุนายน 2553
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 12:57:59 น.
Counter : 536 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend