Group Blog
 
All blogs
 
DAY1:::Fly to SINGAPORE

ฮัลโหลวววว กว่าจะได้มาเขียนบันทึกการเดินทาง ดองเค็มซะนานเลยหลังจากกลับมาก็เพิ่งว่างค่า เลยรีบมาเขียนก่อนที่จะต้องอ่านหนังสือสอบมิดเทอมอีกแล้ววว ทริปนี้ 4 วัน 3 คืน (Thu24Oct-Sun27Oct) บินด้วยนกเล็กสีส้มสายการบินโลว์คอสอย่าง Jetstar airway สนนราคารวมค่าโหลดกระเป๋า 20 กิโลขากลับ ตกอยู่ที่ เกือบ 4,000 ต่อคน ทริปนี้สองสาว(เป็นสาวแล้วหรอ?) แว่นกับแนนโน้ยย(เพื่อนชื่อแนนค่ะ แต่ตัวเล็กเลยเรียกกันติดปากว่า แนนน้อย แต่ขอวิบัติเสียงนิดหนึ่ง 555 นางเป็นสาวแอคบาร์ที่มอชอ ป.ล.แอคบาร์คือ คณะบัญชีค่ะ เด็กมอชอเค้าเรียกอย่างนั้น อิอ ส่วนแว่นเป็นสาวสุขภาพพพ 55 เป็นเด็กสาสุข มธ.ค่า)   

แนนน้อยขึ้นรถทัวร์มาจากเชียงใหม่มานอนค้างบ้านญาติก่อนวันเดินทาง ส่วนแว่นก็ไปเที่ยวอีสานกับพ่อและแม่ก่อนจะนั่งรถกลับมาม.แถวๆทุ่งรังสิตจากอุบลฯวันที่ 25 ส่วนพ่อและแม่ก็หนีไปเที่ยวปากเซต่อแอบอยากไปด้วยเบาๆ แต่มีทริปของตัวเองแล้วก็ไว้คราวหน้าละกันนะคะป๊า  วันพฤหัส เครื่องออก 11.40 เที่ยวบิน 3K520 ที่สุวรรณภูมิ นัดเจอกัน 9.30น.เลยสะดวกดี แว่นก็รีบเก็บของภายในคืนเดียว55 เมทที่ห้องก็ไม่มีใครอยู่สักคนกลับบ้านกันหมด นั่งรถตู้มธ.-ฟิวเจอร์ ตอน8.00 โมงเช้า นั่งรถตู้ฟิวเจอร์-สุวรรณภูมิต่อเลย ถึงเกือบ 10 โมงง ฮ้าาาเพื่อนรอเลย T.T ส่วนแนนน้อยคุณป้ามาส่ง พอเจอแล้วป้าก็กลับเหลือเราอยู่กันสองคนเลยรีบเชคอินเพราะหิวแล้วว ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลย  


(สัมภาระก่อนไปค่าา เอาขึ้นเครื่องหมดเลย )

เชคอินปกติค่ะกราวด์สต้าฟใจดีมาก ยิ้มแย้มให้อย่างดี สองสาวก็ลากกระเป๋าผ่านตม.แบบชิวๆ พอเข้าเกทก็มองหาของกินกัน สรุปลงท้ายที่Burger's King เพราะใกล้เกทสุดหละ จัดไปนักเก็ท เบอร์เกอร์และน้ำโค้ก จัดการเรียบร้อยก็นั่งรอที่เกทสักพักแอร์ก็เรียกตรวจ Boarding pass เรียบร้อย ไม่ตื่นเต้นอะไรเลยยย เพราะมีแต่คนไทย 55 หันไปเจอเพื่อนร่วมทริปเยอะ คาดดว่าน่าจะรุ่นๆเดียวกันคือเด็กมหาลัย ไปกันเป็นคู่ มีฝรั่งนิดหน่อย ก็เดินไปขึ้น Shuttle bus ไปขึ้นเครื่องค่ะ เบียดเสียดกันมาก รถเต็มเลยใครไปไฟท์ 3K520 BKK-SIN วันที่ 24 หาเราสองคนไม่อยากค่ะ เด็กแว่นหน้าเอ๋อๆ(เราเอง)กับคนตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าจีนๆ เกาะหนึบกันอยู่สองคน ตอนขึ้นเครื่องแนนน้อยกรี๊ดกร๊าดมากก ส่วนสูง 150 cmกว่าๆของเพื่อนแว่นไม่สามารถยกกระเป๋าไว้ได้สะดวกนัก เอาจริงๆคือยกไม่ถึง พี่แอร์ผู้ชาติรีบปรี่เข้ามาช่วยเลยย>< เพื่อนกรี๊ดไปตลอดไฟท์ ส่วนแว่น 160กว่าๆ ชิวๆเป็นสาวถึกยกเองค่ะ พี่แอร์เหวอไปหน่อยแหมม หนูแค่อยากเคยชินกับการช่วยตัวเอง ค่ะ ยกกระเป๋าแค่นี้สบายมากก55 เสร็จแล้วก็นั่งสงบเสงี่ยมที่ตัวเอง มีคุณลุงฝรั่งนั่งข้างๆ ที่นั่งเป็นแถวละหกค่ะ ฝั่งละสามค่ะ ตอนที่กรอกใบตม.ขาเข้ายืมปากกาคุณลุงด้วยย ไม่ได้พกขึ้นเครื่องมากันเลย 

(เธอเห็นท้องฟ้านั่นมั้ยยยย ใกล้แล้ววว)


เฮนโหลวววว เห็นส่วนแลนด์แล้ว กรี๊ดกร๊าดใกล้ถึง 55  


2.20 hr. นกเล็กสีส้มก็พาเรามาถึง เมืองลอดช่องแล้วจ้าาา ฮริ้วววว เจ้าสายการบินJetstar ลงTerminal2 แต่ MRT เข้าเมืองอยู่Terminal3 จัดไปค่ะ ลงเครื่อง มองป้ายTerminal3 ลากกันโลดดด นานมากกก กว่าจะถึง ตม.ก็หน้าดุ๊ดุ แล้วแนนน้อยก็หันมาหา ด้วยความกังวลนิดหน่อย เพราะภาษาอังกฤษนางอ่อนกว่าแว่น แต่นางพูดจีนได้นะ แว่นพูดไม่ได้สักคำ ทริปนี้มีมึนแน่ๆๆ 

"แกยิ้มๆเข้าไว้ เค้าถามไรมาก็ตอบไป ฟังไม่ทันก็บอก สโลว์ลี่พลีสส ไม่ก็หันมาหาฉัน " แนนน้อยพยักหน้าแล้วแยกแถวเข้าหาพี่ตม.  ส่วนแว่นก็เข้าแถว พอถึงคิวก็ยื่นpassport กับใบเข้าประเทศ 
ตม.มองหน้าก็ถามเรื่อยๆ มาเที่ยวกี่วัน กลับวันไหน ก็ตอบแบบชิลๆ นึกว่าจะผ่านละ สุดท้าย ก่อนส่งพาสปอร์ตคืน ลุงก็ดุว่า เครื่องลงเทอมินัลสองให้ออกทอมินัลสองนะคราวหน้า เราลยขอบคุณแล้วเก็บพาสปอร์ตอย่างไว หยิบลูกอมมาแล้วรีบเดิน 55 แหมม หนูไม่รู้ค่าอย่าดุหนูเยอะ หนูมาหาMRT เข้าเมืองค่า  

ความจริงคือเราลงTerminalไหนก็ออกตม.ที่Terminalนั้นนะคะ จะมีSkytrain มาที่Terminal3 เพื่อนั่งMRTเข้าเมืองค่ะ

ส่วนแนนน้อยหันมาถามเรื่องเซ็นลายเซ็น แค่นิดหน่อยแล้วก็ผ่านไปได้แบบตุ่มๆต่อมๆ ป่ะต่อไป หา EZ-link เข้าเมืองกันนน 

ลากกระเป๋าตามป้ายเรื่อยๆจนถึงสนานที ต่อแถวซื้อตั๋วกับเครื่องแมชชีน แล้วก็มึนน 
"แก ทำไมมันเป็นตั๋วรอบเดียวอ้ะ "
"แก เราจะซื้อ EZ-linkกัน มันกดตรงไหนเนี่ย มองหาเร็ว " 
คุยกันวุ่นวายหน้าเครื่องกันอยู่สองคน เพราะตอนแรกที่กดก็กดสนาทีปลายทางเป็น Lavender ที่จะไป แต่หาที่กดซื้อ EZ-link ไม่ได้ สุดท้ายก็เลยถอยออกมาเพราะเกรงใจคนต่อแถว ลากกระเป๋าไปที่ Counterขายตั๋ว แว่นก็เข้าแถวส่วนแนนน้อยยืนเฝ้ากระเป๋าข้างๆ 

" two ez-link card and top-up 10 dollars for each please " แว่นก็ยิ้มหวานให้พี่เจ้าหน้าที่คนงาม แล้วบอกเรียบร้อย เจ้คนงามไม่ยิ้มให้ พยักหน้าแล้วกรอกหน้าคอมแกรกๆ 

"แกจ่ายแยกมั้ยหรือว่าไง " แนนน้อยส่งเสียงบอกมาข้างหลัง แว่นเลยบอกเจ้แกต่อ 

"Could i separate paying? " เจ้ทำหน้าบึงๆแล้วบอก 
"Not enough change"  โอเคๆ เงินทอนไม่พอก็โอเค 

"แกเดี๋ยวออกให้ค่อยค่อยคิดเงินกันทีหลัง เจ้แกบอกเงินทอนไม่พอ " หันไปบอกแนน้อย ส่งเงินให้เจ้ รับเงินทอนกั้บez-link แล้วเดินออกมา 

"หน้าบึงเนอะแก ไม่ยิ้มเลย " แนนน้อยเม้าา ไอ้เราก็รีบเสริม "จริงแก เจ้แกคงเมื่อย ช่างเถอะ" 
พอแตะบัตรผ่านมาแล้ว แล้วก็ไปยืนต่อแถวสวยๆ  mrt ที่นี้ไม่ต่างกับเมืองไทยค่ะ ไปแล้วไม่งง แค่ดูให้แน่ใจว่าขึ้นฝั่งไหนก็โอเคแล้วค่าา ไม่ต้องกลัวหลง ขึ้นผิดก็นั่งกลับมาใหม่ 555 

แล้วเราสองคนก็ได้นั่งmrt สายเขียวอย่างสบายใจ เพราะนั่งยาวๆ ตอนแรกคิดอย่างงี้ แต่คิดผิด เพราะมันเป็นแค่รถไฟออกจากแอร์พอร์ตแค่นั้นเอ๊งงเป็นCircle line แต่ในแผนที่มันเป็นเส้นเขียวเราเลยมโนกันเองว่านั่งยาวค่ะ  เราต้องเปลี่ยนสายอีกทีเพื่อต่อเป็นรางที่ไปในเมือง  ตอนแรกเจอคุณป้าคนไทยหันมาถามทางไป mrt Chinatown ใหญ่เลยเพราะเค้ามาเป็นครอบครัวพาคุณตามาเที่ยวเราก็คุยไป ฮี่ๆ หนูมนุษย์สัมพันธ์ดีค่ะ 555 พอถึง mrt Tanah Merah คนจากแอร์พอร์ตก็กรูกันลุกออกไปเหลือเรานั่งเฉยกันสองคน ยังไม่รู้ตัวจ้าา จนอาแป๊คนหนึ่งขึ้นขบวนมามองกระเป๋าเดินทางแล้วถาม แกก็ไม่รู้จะพูดภาษาอะไรกับเรามั้ง เพราะแนน้น้อยหน้าจีน แว่นก็หน้าไม่ค่อยเหมือนคนไทยกระเดียดไปทางคนฟิลิปินส์มากกว่า เลยเลือกพูดจีนอยู่ แนนน้อยก็ยังมึนๆ แกเลยถามภาษาอังกฤษว่าเข้าเมืองใช่มั้ย ลงสถานนีนี้ ไอ้เราก็งง เอ้าก็มันสายเขียวจะให้ลงทำไมเลยบอกว่า 
"i'll going to Lavender station Green line. It's a green line,right?"  
อาแป๊ะเกาหัวแกร๊กๆ พยายามนึกคำพูด บอกเป็นคำๆ " circle line back to airport not go to city " 
ไอ้เราก็อ้อออ แล้วรีบเก็บกระเป๋า ไม่ลืมขอบคุณอาแป๊ะ "เซี๊ยะๆ ค่า " แล้วออกมาอย่างไวก่อนประตูจะปีด 

พอขบวนมาทีนี้ก็เข้าไปนั่ง แล้วมองแผนมี่สายรถที่มีในขบวน ที่นี้จะมีไฟสีแดงๆกะพริบบอกสถานีบอก ก็สบายไป คราวนี้นั่งได้สบายใจหละค่า 30 นาทีถึง mrt lavender   พอแตะบัตรผ่านออกมาคราวนี้มองหน้ากันอีก ลืมดูmap ว่าออกทางไหน ซ้ายหรือขวาดี? ยืนอยู่หน้าร้าน Guardian  กัน ซ้ายเนอะ พอขึ้นมาก็ลุ้นน เห็นป้าย V lavender ก็ยิ้มออกและ มาถูกแล้วอ้ะ 555  

เราก็เดินผ่านร้านไก่ทอด Wendy's ศุนย์อาหาร ร้านขนม มาถนนหน้าข้าง V lavender ดูแผนที่โรงแรม แล้วเดินถามถนนค่ะ ไม่ยากเดินตรงไปจนถึงแยกตรง French streetก็อุ่นใจละ 
(เห็น Supermarket แล้วแว่นลั้นล้าค่ะ เป็นคนที่ชอบเข้ามากก ชอบดูของแปลกๆที่บ้านเราไม่มี 
แล้วตลอดทริปต้องมาแวะเจ้า Fair price ทุกวันก่อนเข้าโรงแรมเลย 55 ของถูกกว่า 7-11 ค่ะ ใครมาแนะนำให้มาซื้อของที่นี้ค่ะ ) 
มีแกลลอรี่ จิววรี่ด้วยยย ตึกสวยดีคะ ด้านร้านเป็นบาร์นั่งชิลตอนเย็น น่าเข้ามากก ยังไม่มีโอกาสได้นั่งสำหรับทริปนี้ กิกิ 


เดินมาเรื่อยๆค่ะ ผ่านแยกอีก สองแยก ผ่านสนามกีฬา จนเจอ 7-11 แล้วเลี้ยวขวา ผ่านร้าน Anything'Z Cafe แล้วก็ถึงง เย้! ตอนเดินมาเห็นคาเฟ่กาแฟหลายร้านเราสองคนดีใจใหญ่ เพราะทริปนี้มาเพื่อ ของหวาน 555 ดีใจมาก ต้องเก็บให้หมด 

Lobby น่ารักๆค่าาา Welcome to Blanc Inn 

(ประตูห้องนอนค่าา ต้องมีpassword ถึงเข้าไปได้ ) 

พอมาถึงก็เจอฝรั่งผู้หญิงน่ารัก เป็นพนักงาน เชคอิน จ่ายเงินเรียบร้อย ขอเรียกเจ้แหม่มนะค้า ก็ให้พาสเวิร์ดเข้าตึก พาสเวิร์ดเข้าห้องเรียบร้อย แล้วพาทัวร์ห้อง ทัวร์ห้องน้ำ เอาของมาเก็บแล้วปล่อยให้เราสองคนลั้นลากับเตียงกันใหญ่ นุ่มและก็สะอาดมากค่ะ น่ารักมาก ชอบที่นี้มากจริงๆ ไม่วุ่นวาย สงบ ไร้กลิ่นบุหรี่ อบอุ่นมาก ถ้ามาสิงคโปร์อีกก็จะมาพักที่นี้ค่ะ มีหลายเหตุผลมากก คือชอบจริงๆ ทำเลเยี่ยมคือไม่อยู่ในย่านท่องเที่ยวที่คนบึืมม เสียงไม่ดัง เป็นย่านที่คนสิงคโปร์เค้าอยู่ไปไหนมาไหนสะดวกด้วย แต่ราคาทีนี้สูงกว่าโฮลเทลทั่วไปนะคะ แต่สะอาดแล้วก็สงบกว่าเยอะ 

เปิดประตูเข้ามาก็เจอบนไดซ้ายขวาขึ้นไป Alcove ชั้นบน ส่วนด้านซ้ายขวาก็จะเป็นม่านกั้น
พอเปิดเข้าไปก็เป็นห้องของเราค่ะ น่ารักมาก 


ม่านแบบนี้ค่ะ เราเรียกห้องให้ม่านว่า Alcove ห้องของแว่นกับแนนอยู่ด้านล่างขวาค่ะ 

ห้องค่ะ ของรกแล้ว 55 เพิ่งมาถ่ายตอนกลางคืนค่ะ เตียงเดี่ยวแต่ลากออกมาก็จะมีอีกเตียง
แว่นนอนเตียงล่าง แนนนอนเตียงบน นิ่มมากกกก ขอบอกก สะอาดด้วย ในห้องมีตู้เล็ก ก็โต๊ะที่ของว่างเยอะๆแหละค่ะ จะมีเซฟอยู่ข้างใน เอาของมีค่าใสไว้ได้ ตรงส่วนบนของม่านมีช่องเก็บกระเป๋าเดินทางของเรา หรือจะเก็บไว้ใต้บันไดก็ได้นะคะ มีโซ่ล็อคให้พร้อมเลย  ลืมถ่ายห้องนั่งเล่นกับห้องน้ำมาให้ดูเลย T.T แต่ห้องหน้าสะอาดค่ะเป็นสัดส่วนดี มีแชมพูกับครีมอาบบน้ำให้ แว่นเลยไปซื้อครีมนวดมาใข้เพราะขาดไม่ได้จริงๆ แล้วก็ซื้อครีมอาบน้ำด้วยเพราะตอบแรกคิดว่าเป็นครีมโรงแรมธรรมดา กลัวแพ้ แต่พออาบน้ำตอนเย็นแล้วแหมม เค้ามี โชกุบุสึให้ใช้ค่าา หอบบเชียว  

มาเล่าต่อออ เราสองคนก็เอาของเก็บ สะพายกระเป๋าเล็กแล้วก็ออกเที่ยว คือจะไปซื้อตั๋วเข้า Universal และ Garden by the bay ที่ร้าน sea wheel ห้าง people Chinatown แล้วก็ตะลุยChinatownกันก่อนเลยยย ตอนเราลงเครื่องต้องปรับเวลาลดลง 1 hr. เพราะเวลาที่สิงคโปร์ช้ากว่าค่ะ 

กว่าจะผ่านตม. นั่งmrt เดินมาถึงโรงแรมก็ 4.30 กลิ่งเล่นบนที่นอน จัดของได้ฤกษ์ออกจากโรงแรมก็ปาไป 5 โมงกว่าแล้วค่า 

ขึ้นบทใหม่นะค้า เม้าเยอะอยากเล่า อยากเขียนไว้กลับมาอ่านแล้วก็นั่งอมยิ้ม : )  แว่นจะพยายามเขียนเรื่อยๆ ให้เสร็จ 



Create Date : 21 ธันวาคม 2556
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 13:02:22 น. 3 comments
Counter : 816 Pageviews.

 




สุขสันต์วันเกิดครับ
๙ ทุก ๙ ให้ชีวิต ๙ กระโดด
๙ วิ่งโลด แล่นหวัง สมดั่งหมาย
๙ ผ่านพ้น เขตขั้น อันตราย
๙ ผ่านร้าย กลายดี ที ๙ เดิน
ต้นจินต์ อินระดา


โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 28 ธันวาคม 2556 เวลา:9:03:07 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
พักที่เดียวกันเลยนะคะเนี่ย


โดย: จิตหลอน วันที่: 28 ธันวาคม 2556 เวลา:21:19:40 น.  

 
@k.ต้นกล้า อาราดิน ขอบคุณค่ะ : )
@k. จิตหลอน ที่ัพักน่ารักมากค่ะ ชอบบ


โดย: Glasses_Fille วันที่: 14 มกราคม 2557 เวลา:12:37:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Glasses_Fille
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




<*center><*img border="0" src="http://designyoutrust.com/wp-content/uploads/2012/09/Pixar-750x375.jpg"<*/center>
Friends' blogs
[Add Glasses_Fille's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.