Pre-sessional Course สำคัญไฉน?

หลายต่อหลายคนที่ไม่ได้คลุกคลีกับการศึกษาต่อ หรืออาจจะอยากไปศึกษาต่อ แต่ยังไม่ได้ค้นหาข้อมูล พออ่านหัวข้อนี้อาจจะสงสัยว่า ไอ"pre-sessional course" คืออะไร ..

pre-sessional course คือ โปรแกรมการเรียนภาษาที่มหาวิทยาลัยจะกำหนดให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้สมัครเรียนที่ได้ conditional offer (ในกรณีที่คะแนนภาษาต่ำกว่าทางมหาวิทยาลัยต้องการ) โดยระยะเวลาเรียนจะขึ้นอยู่กับคะแนนของผู้สมัคร ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาของมหาวิทยาลัยอาจไม่เท่ากันได้ เช่น มหาวิทยาลัย A กำหนดให้เรียนแบบ 4 สัปดาห์ 8 สัปดาห์ ในขณะที่มหาวิทยาลัย B อาจกำหนดเป็น 5 สัปดาห์ 10 สัปดาห์ หรือกระทั่ง 12 สัปดาห์

ทั้งนี้มีข้อความระวัง สำหรับบางมหาวิทยาลัย การเข้าเรียน pre-sessional coursr ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ condition สิ้นสุดลง แต่จำเป็นต้องสอบหลังจากเรียนจบด้วย หรืออาจจะไปสอบ IELTS ใหม่ (ในกรณีที่เรียน pre-sessional course ไม่ผ่าน) ดังนั้นผู้สมัครจึงควรหาข้อมูลในส่วนตรงนี้ด้วย

นอกจากนี้ .. ยังมีข้อแตกต่างสำหรับผู้สมัครที่ได้รับ conditional offer กับ unconditional offer คือ ส่วนมากคนที่ได้ conditional offer จะไม่ได้ visa ยาว กล่าวคือ จะได้ visa แค่ระยะเวลาถึงเรียนคอร์สภาษาจบ แล้วต้องเสียค่าทำ visa ใหม่ที่ต่างประเทศ ในขณะที่คนที่ได้ unconditional offer ถ้าสมัครเรียนภาษาด้วย จะได้ visa ยาวจนเรียนปริญญาจบเลย

ทีนี้บางท่านอาจสงสัยว่า "อ้าวว!? สำหรับคนที่ได้ unconditional offer ที่สามารถไปเรียนได้ตอนเปิดเทอมได้เลยนั้น จะเรียนให้เปลืองเงินทำไม" ส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า ถึงแม้ว่าจะสามารถไปเรียนตอนเปิดเทอมได้เลยนั้น การเรียน pre-sessional course ก็ยังจำเป็นอยู่ดี ทั้งนี้เพราะ ..

  1. การที่เราไม่ได้เรียนหลักสูตรอินเตอร์มา ควรจะเรียนเพื่อปรับตัว ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ส่วนมากจะปรับตัวกันได้ในเวลา 1 - 3 เดือน การไปเรียนคอร์สภาษาก่อน จะทำให้เรามีโอกาสปรับตัวได้มากขึ้น โดยไม่ต้องไปเสี่ยงให้เรียนไม่รู้เรื่องตอนเปิดเทอม ซึ่งกว่าจะปรับตัวได้อาจจะเป็นเวลาสอบภาคเรียนที่ 1 แล้ว ซึ่งจะส่งผลต่อคะแนนตอนเรียนจบอย่างไม่ต้องสงสัย
  2. การเรียน pre-sessional course จะช่วยฝึกฝนทักษะการฟัง การอ่าน การเขียน และการพูด ในการเรียนจริง เราจำเป็นต้องพูดเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (discussion) ซึ่งอาจารย์จะให้คะแนนในส่วนนี้ด้วย (class participation) นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีการนำเสนอ presentation ซึ่งแค่ภาษาไทยก็ยากอยู่แล้ว
  3. เป็นโอกาสในการหาเพื่อน เพราะจะสามารถเจอเพื่อนต่างสาขา ต่างวิชา นอกจากนี้ในขณะที่เรียน pre-sessional course อาจยังมีการพาเที่ยวเมืองอีกด้วย

ส่วนตัวผมเอง จากเดิมตอนที่ยังไม่ได้สอบ IELTS (ใช้คะแนน TOEFL ยื่นแทน) จำเป็นต้องเรียน pre-sessional course 10 สัปดาห์ แต่พอผมผ่านแล้ว ผมยังเลือกที่จะเรียนแบบ 4 สัปดาห์แทนด้วยเหตุผลข้างต้น ทั้งนี้ก่อนไป ผมยังได้ไปสมัครคอร์สวิชาทำนองนี้ในประเทศไทย คือ Academic English Program @AUA ราชดำริ ซึ่งจะทำให้ผมได้พัฒนาทักษะเหล่านี้ก่อนไปเรียนจริง (ซึ่งคงจะส่งผลพอๆกับการเรียน 10 สัปดาห์ แต่จ่ายในราคาที่ต่ำกว่า) ส่วนรายละเอียดของโปรแกรมสามารถหาได้จาก //www.auathailand.org/aepindex.php ครับ

ทั้งนี้การเรียน Academic  English Program (AEP) จำเป็นต้องเรียนที่สาขา ราชดำริ เท่านั้น และต้องสอบก่อนเรียนด้วยครับ โดยข้อสอบจะทดสอบการฟัง อ่าน เขียน และพูด โดยคล้ายๆ ข้อสอบ TOEFL iBT ครับ

โดยระดับคะแนนจะแบ่งออกเป็น 1 - 6 และหลังจากสอบ 1 ชม เขาจะติดคะแนนและสามารถสมัครเรียนได้ทันที อย่างไรก็ดีสำหรับใครที่ภาษาไม่ค่อยแข็งแรง และไม่ผ่านเกณฑ์ที่คะแนนระดับ 1 ก็จะไม่สามารถเรียนในหลักสูตรนี้ได้ครับ (พนักงานบอกว่า ที่คะแนนระดับ 1 จะเทียบเท่ากับ aua regular course level 9 - 10 ครับ)

คะแนนจะออกมาดังนี้ครับ

 




Create Date : 18 เมษายน 2555
Last Update : 18 เมษายน 2555 15:23:00 น.
Counter : 4201 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iAblazel
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]