เจอกันอีกแล้วไง...Thailand & Japan !!
สถานที่บ้านเกิดเมืองนอน ที่ในห้องนอนเดิมตั้งแต่ยังเด็กๆ...กับวิทยุเล็กๆตัวเก่าคร่ำคร่า...ตอน 14.30 นาฬิกา...ณ. เวลาประ้เทศไทย...สวัสดีครับผม..!!หลังจากเรียนจบ ก็กลับมาเมืองไทยได้ประมาณเดือนนึงได้แล้วครับผมกลับมาใหม่ๆ internet ยังใช้ไม่ได้ ส่วนเบอร์เพื่อนๆพี่ๆที่จดไว้ก็อยู่ในสมุดจดแล้วดันเผลอส่งมากับของทางเรือ จนบัดนี้เรือกำลังอ้อมมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่เลยมั้งครับ อิอิ ก็เลยไม่รู้จะติดต่อใครยังไงดีฮะ...m(_ _)mผมหายหน้าหายตาไปอู้ซะนาน แหะๆ กาลเวลาเปลี่ยนไปอะไรๆก็เปลี่ยนตาม แต่ความสัมพันธ์ของพี่ๆน้องๆในนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงใช่มั้ยฮะ(^ ^)..!!กลับมาแล้วทั้งทีก่อนอื่นขอกลับมาต้องขออัพเดทความเชยก่อนครับ คือตอนกลับมาใหม่ๆก็อยากจะรู้ว่าบ้านเมืองเราเค้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างฮะ....ก็พอรู้จากข่าวคราวในอินเตอร์เนตบ้างครับ แต่ก็อยากเห็นของจริงฮะ...เริ่มจากไปเดินชิลๆแถวสยามซะหน่อย เห็นเค้าว่ามีห้างใหญ่นักใหญ่หนา "สยามพารากอน"เออ...แฮะใหญ่ดีใช้ได้ คนก็เยอะแยะมากมายเพราะเป็นช่วงปิดเทอม อืมห์ดูครึกครื้นสนุกสนานดี..ยังไม่ทันไรก็มาปล่อยไก่กับประูตูห้างยักษ์นี่ซะก่อนฮะ ไอเดียก็เจ๋งใ้ช้ได้ แปลก.. แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจคอนเซปอยู่ดี...นอกจากความเก๋แ้ล้ว มีประโยชน์อะไรอีก ใครทราบช่วยบอกผมหน่อยนะครับ..เป้าหมายผมก็ไม่มีอะไรมาก เพราะแค่จะมาดูของใหม่ๆฮะ หาอะไรทาน และก็หาหนังสือดีๆอ่านสักหน่อยแต่กว่าจะหาร้านอาหารสักร้าน....หาซื้อหนังสือได้สักเล่ม เล่นเอาหมดแรง หมดไฟเลยทีเดียว...ด้วยเหตุนี้ผมจึงชอบไปห้างขนาดเล็กๆหรือขนาดปานกลาง แต่ครบครันไปด้วยสินค้า ที่เลือกหาซื้อได้ง่ายๆมากกว่าครับผม...หลังจากนั้นก็เดินเล่นเดินเที่่ยวไปรอบๆล่ะครับ หาอะไรอร่อยๆที่ไม่ได้กินมานานทาน ดูคน..ดูรถก็เพลินดี ถึงจะร้อนไปนิด...จอแจวุ่นวายไปหน่อย.. แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของกรุงเทพครับ...!!---------------------------------------------------- อยู่บ้านได้ไม่นานก็มีอันต้องเดินทางอีกแล้ว เพราะอยู่ในช่วงเตะฝุ่นอยู่ฮะ เลยมีเวลามากหน่อย ก็เลยทดลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆอีกอันครับ ก็คือเป็นมัคคุเทศน์อิสระครับ จะไปไหนไม่ได้ก็ที่ แจแปน แดนอาทิตย์อุทัยไงครับ....เนื่องจากเป็นครั้งแรก ยังใหม่เหลือเกิน ในความเต็มที่ที่ใส่ลงไปกับงาน รู้ว่ายังทำได้ไม่ดีเลยฮะ..งานที่คิดว่าไม่น่าจะยาก ธรรมดาๆ แต่มันกับมีสิ่งต่างๆมีปัญหาเกิดขึ้นให้เราต้องคิดต้องแก้มากมายครับแต่..ในปัญหาเหล่านั้น ก็ยังมีมิตรภาพ มีความสุขความสนุกมากกว่าครับ อย่างนั้นเราไปสนุกกันดีกว่าครับผม..ส่วนมาก tripนี้จะเป็นสวนสนุกครับ ที่แรกที่อยากแนะนำหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวกันนะครับคือ Fuji-Q Highland อยู่ใกล้ๆกับฟูจิซังครับ ฮะ...สวนสนุกแห่งนี้ เหมาะสำหรับคนชอบความเสียวครับ เสียวแบบสุดๆ เสียวจริงๆนะครับ (พูดแล้วยังเสียวอยู่เลยฮ่า ฮ่า) ไม่ว่าจะเป็นรถไฟเหาะตีลังกาที่สูงและยาวที่สุดในญี่ปุ่น Fujiyama และในอดีตเคยเป็นนัมเบอร์วันของโลกมาแล้วด้วย หรือว่าจะเป็นเครื่องเล่น Red tower ืี่ที่เป็นลักษณะเสาสูงๆ และปล่อยเราลงมา ที่บางคนอาจเรียกว่า Hyper drop นั่นแหล่ครับ...นอกจากนี้ยังมีไวกิ้ง และเครื่องเล่นอื่นๆอีกมากมายครับ ที่จะทำให้เรามันส์หลุดโลกเลยทีเดียวครับ...อ่ะ! มีคนถามว่าแล้วอัยคุงได้เล่นกะเขาบ้าึงป่าว?? อัยคุงเล่น(บ้าง)ครับแล้วอัยคุงไม่กลัวเหรอ?? อย่างผมเหรอครับ อัยคุงซะอย่าง โธ่.....กลัวซิครับผม 555!!----------------------------------------------------พักเรื่องหวาดเสียวๆมาีที่ที่สวยๆงามๆ และเสียวน้อยกว่ากันดีกว่าครับ เราไปตะลุยโลกแห่งการ์ตูน และโลกของภาพยนต์กันครับ " Osaka Universal Studio " ไม่ต้องไปไกลถึงอเมริกาฮะ เพราะที่เมืองโอซากาของญี่ปุ่น ก็มี Universal Studio ตั้งอยู่ครับแม้จะเปิดได้ไม่นานไม่เกิน6ปี แต่ก็ได้รับความนิยมมากกมายเหลือเกิน...โดยเฉพาะส่วนของ Spider man ที่เป็นลักษณะ คล้ายๆ4มิติ ฮะ ทำได้ดีจริงๆ เรียกว่าใครมาที่นี่แล้วไม่เล่นไม่ได้...แล้วก็ยังมี E.T / Jaws/ Julassic Park/ Terminator etc. ที่จะพาคุณหลุดไปในโลกของภาพยนต์ครับผม!!นอกจากนี้อัยคุงก็ทำหน้าที่ไกด์เหล่าสมาชิกไปยังสถานที่ต่างๆของเกาะญี่ปุ่นอีกหลายแห่งครับ...ไปภูเขาฟูจิ , เมืิองHagone , นั่งรถไฟหัวกระสุน(Shinkansen)ไปมหานคร Osaka.....ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านแล้ว ทำภารกิจที่ต้องรับผิดชอบเสร็จแล้ว (แม้จะไม่100%ก็ตาม)ขอบคุณ พี่ๆเพื่อนๆที่บริษัทที่หยิบยื่นโอกาสดีๆให้ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ไปด้วยกันที่คอยช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้ผมขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆที่ยังโทรคุยมาทักทายกันอย่างคุ้นเคยไม่เปลี่ยนแปลงขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่ญี่ปุ่นครับ และต้องขอโทษด้วยขอรับที่ไปหาไม่ได้เพราะยุ่งจริงๆ会って行かなかった、ごめんなさい。ところで、未来のこと。。頑張ってね!!ขอบคุณมิตรภาพใหม่ๆที่เกิดขึ้น ขอบคุณเพลงเพราะๆ あれから :Private Gardenและสุดท้ายขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ bloggang ที่มาคุยกันในครั้งนี้นะคร้าบ...ฝนตก อากาศเปลี่ยนแปลง เหมือนเดิมรักษาสุขภาพมากๆฮะ
ทริปสั้นๆ..วันหนาวๆกับ To-Trip Vol.1 .....*** Tokyo Station ***
< เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...ที่ญี่ปุ่น เมฆสวย ฟ้าใส อากา๋ศเย็นกำลังดีราวๆ 8องศาเห็นจะได้...อัยคุงกำลังนั่งหนาว..นอนหาวจับเจ่าไล่อ่านข่าวนายกทักษิณกับคุณสนธิโต้กันไปโต้กันมาน่าปวดหัว อยู่ที่ห้องอยู่...ก็ได้ยินเสียงกริ๊งกร๊างจากผองเพื่อนโทรมาชวนไปข้างนอกพร้อมกับแจ้งเหตุผลที่ชวน ย้ำชัดๆมาด้วยว่า "ขาดตากล้องโว้ย"..... เป็นไงครับเพื่อนๆที่แสนดีของผม...เอาฟระ!!!วันนี้อากาศดี นานทีมีหน จะได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย...และอย่างน้อยไปเที่ยวคราวนี้ก็ถือโอกาสทำสกู๊ปส่งต้นฉบับกับเพื่อนๆพี่ๆชาว Bloggang ซะเลย อิอิ... คราวนี้ไปไม่ใกล้ไม่ไกลครับ นั่งรถไฟจากบ้าน(Chiba) ชั่วโมงกว่าๆ... มุ่งหน้าสู่มหานครโตเกียว เพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง " สถานีรถไฟโตเกียว " ( Tokyo Train Station) ครับ....Let`s go !!!ถึงแล้วครับTokyo Station ที่เค้าว่าสวยนักสวยหนา...ได้เห็นกับตา!! เออสวยดีแฮะ คลาสสิคดีครับ...สถานีรถไฟแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของเมืองโตเกียวฮะ Tokyo Station มีขนาดใหญ่มากๆๆ กว้าึงมากๆๆ ผมก็หลงคิดว่าเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นมาตั้งนาน....ที่แท้เป็นที่2ฮะ...ว่าแล้วมาดูประวัติกันสักนิดเผื่อใครสนใจนะครับผม ขอยกมาจากต้นฉบับเค้าเลยนะครับ ขี้เกียจพิมพ์คร้าบ อิอิ..History. Tokyo Station was opened in 1914 with the completion of a section of line linking the Tokaido Main Line's original terminus at Shinbashi to the Tōhoku Main Line's terminus at Ueno. The station building was designed by architect Tatsuno Kingo as a restrained celebration of Japan's costly victory in the Russo-Japanese War. (Tatsuno also designed the nearby Bank of Japan building, which is very different in appearance.)ทีนี้เราลองมาดู " Life on street" รอบๆสถานีแห่งนี้กันบ้างนะครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง... บนซ้าย : คู่บ่าวสาวก็นิยมมาถ่ายภาพแต่งงานกันที่นี่ครับ...บนขวา : ศิลปินข้างถนน ข้างถนนจริงๆครับ กำลังรังสรรค์ผลงานของตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจที่เดียว...อัยคุงเลยย่องไปแอบดูซักกะหน่อย โห! สวยครับ....น่าทึ่งนะครับในสิ่งแวดล้อมที่มีผู้คนรถราที่ขวักไขว่แต่สมาธิกับจดจ่อแน่วแน่อยู่กับผลงานได้ นี่แหล่ะครับ "ศิลปิน"ขวามือ : ข้างๆสถานีมีนกพิราบฝูงเล็กๆอาศัยอยู่ครับ เห็นนอนอาบแดดกันสบายใจเชียว วันหนาวๆอย่างนี้นกก็ขี้เกียจเป็นฮะ...เดินเล่นกันได้สักพักก็เริ่มกางแผนที่เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายต่อไปครับ ไปที่นี่ดีกว่า..."ปราสาทอิมพิเรียล" หรือ" Kokyo" ในภาษาญี่ปุ่นคร้าบ...สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประเทศญี่ปุ่นเปลี่ยนที่ตั้งของเมืองหลวงจากเกียวโต มาที่โตเกียวครับ...สร้างเพื่อเป็นที่อาศัยของจักรพรรดิญี่ปุ่น..ปราสาทแห่งนี้เคยถูกทำลายโดยระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองครับ แต่ได้ถูกบูรณะขึ้นอีกครั้งในปี 1968และได้ตั้งตระง่านยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันฮะ...รูปบน: ภาพประตูทางเข้า ด่านแรกที่จะต้องผ่านเข้าสู่บริเวณปราสาทครับ...ขวามือ: ภาพปราสาทไกลลิบๆ...ที่ต้องมองจากภายนอก เพราะไม่สามารถเข้าไปสู่บริเวณข้างในได้ครับ...รูปล่าง : นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นลานกว้าง...สาธารณะ ให้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้ครับ...และก็มาดู Life on street ที่นี่กันบ้างฮะ.. บนซ้าย: คุณหงส์ที่ว่ายวนเวียนอยู่ที่คูน้ำรอบปราสาท...บนขวา: น้องหมา เอ้ย! ลุงหมา ตัวนี้เค้าอายุมากแล้วครับ ขนนิ่มมาก...เห็นเจ้าของไม่ว่าอะไรเลยแอบแอบลูบๆคลำๆ ไป หลายที...อิอิเริ่มเย็นย่ำแล้ว...หน้าหนาวอย่างนี้มืดเร็วเป็นพิเศษ ต้องกลับแล้วครับ....เดินออกจากประตูเดิมที่เข้ามา...กลับสู่ความวุ่นวายภายนอกรั้วปราสาท..ท้องร้องจ๊อกๆ....ก่อนกลับเลยแวะลงสถานี Ueno หาอะไรเบาๆลองท้องซะหน่อย...แต่นี่ไม่เบาแล้วครับ แวะร้านเนื้อย่าง (Yaki-Niku) แบบบุฟเฟ่ห์ เล่นเอาอิ่มหนำสำราญไปอีก3วันครับ... จบแล้วครับผมกับทริปสั้นๆในวันหนาวๆกับ To-Trip Vol.1 น้อมรับคำติชมเหมือนเดิมครับผม....และก็อย่าลืมติดตามชม Vol.2เร็วๆนี้นะคร้าบ...Have a nice weekend !! อัยคุงขอขอบคุณ..。 //en.wikipedia.org สำหรับข้อมูลดีๆ。และก็ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆครับ.. Song: 幸せだったんだね Artist: レバเที่่ยวTokyo Stationเสร็จแล้ว...หากใครชอบนก..รักธรรมชาติตามพี่ Stray Bird ไปบุกป่าที่ "Kinabalu Park"กันครับ..รับรองไม่ผิดหวังจ้า...!!และก็มาชวนไปอิ่มเอิบใจกับพี่ผม...พี่ณ.มิตร นักบินคนเก่ง กับพี่สาวสุดน่ารัก...พี่ผีคิวฯที่สภากาชาดไทยกันครับ..ใน... "รักในหลวง ร่วมบริจาคโลหิต"เนื่องในพระราชพิธี ฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีblog ดีๆที่ไม่น่าพลาดคร้าบ...//nextmusic.net/s/entmp3/20040724212307siawase.mp3
ชวน" นั่งไทม์แมชชีนเจาะเวลา...ปะทะนินจา...สู่ยุคเอโดะ " ครับ
< กลับมาแล้วครับตามคำสัญญากับ The Nikko Vol.2 ที่ดองไว้นาน....ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ส่งต้นฉบับสักที่ ตอนนี้ให้ชื่อว่า...." นั่งไทม์แมชชีนเจาะเวลา...ปะทะนินจา...สู่ยุคเอโดะ " ครับ.. ณ. หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งยุคเอโดะ : หมู่บ้านแห่งนี้ชาวบ้านใช้ชีวิต ทำมาหากินค้าขายกันอย่างคึกคัก....อย่างสาวงามนางนี้ (รูปบน) เป็นลูกสาวร้านขายผ้าประจำหมู่บ้าน...(ชื่ออะไรจำไม่ได้ เพราะดองไว้นานฮะ)เนื่องจากงดงามไม่น้อย ผมเลยขอแวะ..เดินเลียบๆเคียงไปชมร้านแห่งนี้สักหน่อย เปล่าครับผมไม่ได้เข้าไปเพื่อซื้อผ้าราคาแพง แต่เข้าไปขอชักภาพสักใบเป็นที่ระลึกต่างหาก...ตอนแรกก็กลัวจะโดนด่าเหมือนกันฮะ แต่ผิดคาด...สาวงามนางนี้ไม่ว่าอะไรครับ แึุถมก่อนถ่ายมีึุถามก่อนด้วยว่า " เอาแบบมองหรือ ไม่มองกล้องดีเจ้าคะ " โห...มืออาชีพ!!!!และแล้วสิ่งที่ผมเฝ้ารอเจอก็เกิดขึ้น นินจาครับ..!! นินจาตัวเป็นๆ...นินจาเป็นนักรบแห่งเงาครับ..ไม่มีประวัติ ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ผมไม่ได้เอามวยไทยไปประลองด้วย เลยไม่รู้ว่านินจาเจ๋งแค่ไหน...เจ๋งไม่เจ๋งไม่รู้ แต่รู้ว่าเก๊กอ่ะครับ...เหลือบไปอีกด้าน (ภาพล่าง ขวา ) เห็นญี่ปุ่นมุง...กำลังมุงดูอะไรหว่าบนหลังคานู้น.....ยืนเพ่งอยู่นานที่แท้พี่นินจา (อีกแล้ว)ขึ้นไปยืนเปลี่ยวทำมิวสิคอยู่(ขึ้นไปทำไรฟระ)...เชื่อยังครับว่านินจา เก๊กจริงๆ มึนๆกับพี่นินจา มาเปลี่ยนบรรยากาศไปดูการแสดงสวยๆดีกว่าครับ...หน้าโรงละครมีพนักงานreception สมัยเอโดะยืนต้อนรับอยู่ด้วยฮะ...กะให้หายมึนกลับมึนหนัก...ก็เพราะบทพูดในการแสดง ใููช้เป็นภาษาโบราณซะส่วนใหญ่โชคดีที่มีคนช่วยแปลญี่ปุ่นเป็นญี่ปุ่นให้ ประกอบกับใูช้จินตนาการส่วนตัวที่เคยใช้บ่อย...ตอนดูทีวีสมัยมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ เลยพอกล้อมแกล้มไปได้ครับ.... ที่นี่ยังมีผู้คนและวิถีชีวิตรอบๆให้ได้เพลิดเพลินอีกมากมายครับ นอกจากสนุกแล้วยังได้ความรู้ใหม่ๆอีกด้วย...บนซ้าย: ตัวตลกสมัยเอโดะที่สร้างเสียงหัวเราะจากของเล่นที่ทำจากซี่ไม้ไผ่...บนขวา: ขบวนผู้ตรวจการ ที่ผ่านบ้านไหนเมื่อไหร่บ้านนั้นต้องออกมาแสดงความเคารพกัน ดูไปดูมาผมว่าคล้ายพวกขบวนมาเฟีย 555... ต้องถึงเวลากลับสู่ยุคปัจจุบันแล้วครับ...เป็นยังไงบ้าึงครับกับเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ(สาระ)ในสมัยเอโดะที่ผมเจอมา...มีความสุูขสุขภาพแข็งแรงต้อนรับปีใหม่กันทุกคนนะครับผม...//nextmusic.net/s/rateconv/listen20040422083248enshuuritsu2.mp3
**สะพายเป้...ย่ำเท้า...ไปเที่ยวศาลเจ้าที่..NIKKO..ด้วยกันครับ!!!**
< ซา-หวาด-ดี.....ขอรับ!!! (^ ^) แหะๆ..และก็...แหะๆ เริ่มไงดีล่ะครับ อืมห์ พี่ๆ เพื่อนๆทุกคนสบายดีมั้ยครับผม.... อัยคุง หาย(หัว)ไปนานเลยครับ แถมไม่มีมาร่ำมาลาด้วยดิ (แย่จริงๆ) และก็ต้องขอบคุณอย่างเป็นทางการกับเพื่อนผองน้องพี่...ที่เข้ามาเยี่ยม...กับทุกๆข้อความทั้งที่บล้อค,หลังไมล์.และก็ที่อีเมลล์นะคร้าบผม..ขอบคุณครับ m(_ _)mหายไปฝึกวิทยายุทย์ที่เขาเหลียงซาููนมาแรมเดือน ลงเขาปุ๊บก็รีบกลับมาสำนักbloggangปั๊บเลยครับความจริงยังยุ่งๆอีกนิด... แต่รีบแว๊บมาอัพบล๊อคให้หายคิดถึงกันก่อนดีกว่า....หลังสิ้นปีนี้ คงจะมีเวลามาป่วนเหมือนเดิม...ครับผม...!!เอ...แต่จะอัพบล๊อคอะไรดีล่ะครับ คอมพ์ก็แทบไม่ได้จับ ส่วนกล้องคู่ชีพนี่ไม่ได้แตะเลย (ฝุ่นจับ 3 นิ้วได้)ค้นไปค้นมา... อ้าวเรามีรูปที่ไปเที่ยวมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่หว่า จัดแจงเอามาปัดฝุ่นซะเลย ฮี่ๆๆ...แอบไปนิกโก้มาอีกแล้วครับผม แต่คราวนี้ไปกับโรงเรียน ไปเช้าเย็นกลับเลยเวลาน้อยไปนิสส์ เก็บภาพมาำได้ไม่มาก...บรรยากาศอาจจะซ้ำๆหน่อยนะครับผม....ครับ!!!ไปเที่ยวพร้อมๆกันเลยฮะ..!!(^O^)Vสำหรับเป้าหมายแรกของวันนั้นก็ที่นี่เลยครับ... " ศาลเจ้าโทโชกุ "(Tosho-gu) เค้าว่ากันว่า...หากใครมาเมืองนิกโก้แล้ว ห้ามพลาดที่จะมาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้นะครับ สวยงามจนได้เป็นมรดกโลก สร้าึงความภูมิใจแก่ชาวญี่ปุ่นมานานแล้วครับ...ศาลเจ้าโทโชกุ เป็นศาลเจ้าที่สิงสถิตดวงวิญญาณ ของโููชกุนโทะคุงะวะ อิเอยาสุ ผู้เป็นต้นกำเนิดตระกูลโทะคุงะวะ ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่เหมือนศาลเจ้าอื่นๆในญี่ปุ่น มีความงดงามประดับประดาจากสถาปัตยกรรมมากมายครับ...หากพูดถึงสถาปัตยกรรมในศาลเจ้าแห่งนี้มีอยู่มากมาย แต่ที่มีููููชื่อเสียงระบือลือลั่นก็คงเป็นชิ้นนี้ครับสามจ๋อ..."Sansaru"(ลิงสามตัว) ที่แฝงปรัชญาที่หมายถึงการไม่ฟัง ไม่พูด และไม่มองสิ่งที่ไม่ดี...อืมห์~!ผมเองก็ยืนเพ่งอยู่นาน......แต่ไฉนนิพพานไม่ยักกะเกิดซักทีตามมาติดๆกับเจ้าเหมียวง่วงนอนตัวนี้ "Nemuri Nekko"ตัวจริงนะครับ เล็กนิดเดียวเอง...มีตำนานเล่าว่าหลังจากที่แกะสลักเจ้าเหมียวนี่..แล้วนำไปประดับเรียบร้อยแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ไม่มีหนูมารบกวนอีกเลยครับ อืมห์~!นอกจากนี้ที่ศาลเจ้าโทโชกุยังมีสถาปัตยกรรม...รูปแกะสลักสวยๆ แฝงปรัชญาดีๆ และตำนานที่น่าสนใจอีกมากมายครับ...เรียกว่าวันไหนอากาศดีๆ เดินชมเพลินๆ ได้เป็นวันๆที่เดียวครับ... บนซ้าย : ศาลเจ้าโทโชกุ ไม่เคยเงียบเหงาจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี...บนขวา : เจย์ดีย์ไม้โบราณ สูงตระหง่าน...ล่างซ้าย : แหม่มสาวชาวต่างชาติก็ยังสนใจมาเที่ยว...ล่างขวา : รูปปูนปั้นแกะสลัก วิจิตรงดงามถูกประดับประดาทั่วบริเวณวัดวันนั้นผมเองก็เดินทำมิวสิคฯบิวท์อารมณ์อยู่ดีๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ(พระเอกมิวสิค)......!!เพื่อนมันกรุณาโทรมาตามให้ไปขึ้นรถได้แล้ว....แหม..ยังเดินไม่ทั่วเลยวุ้ย!!(> <)"...วัยรุ่นเซ็ง!!!ต้องรีบไปขึ้นรถแล้วครับผม... อย่าลืมติดตาม อัยคุงคนเดิม (=_=)" ไปเจาะเวลาหาอดีตสู่ยุคเอโดะ??? กับ...The Nikko - Vol.2 เร็วๆนี้คร้าบ............!!!
***เดินดูปูดูปลาที่ "TOKYO SEALIFE PARK "กันคร้าบ***Vol.1
< Tokyo Sealife Park : Located on the shore of Tokyo Bay in Kasai Rinkai Park, this public facility is Tokyo's largest -- yet cheapest -- aquarium, with tanks displaying marine life of Tokyo Bay and beyond, including the Pacific, Indian, and Atlantic oceans. Hammerhead sharks, bluefin tuna, the giant sunfish, penguins, a touch tide pool, and a 3-D movie are some of the highlights. The park also contains a beach, a small Japanese garden, a bird sanctuary, and what is claimed to be Japan's largest Ferris wheel (fare: ¥700/$5.85), making it a good family outing. I suggest coming by train and returning via boat to Hamatsucho. สวัสดีคร้าบบ...!! พักหลังหายหน้าหายตาไป...ลืมกันหรือยังครับผม (^_^)เมื่อวันเสาร์ที่แล้วได้ฤกษ์งามยามดี มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวพักผ่อนสมอง (อีกแล้ว) มาครับ...คราวนี้เป้าหมายเป็นอควาเรียมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ " Kasai Rinkai Koen" หรือ "Tokyo Sealife Park" ครับ.... ความจริงเมื่อ3ปีที่แล้วผมเคยมาที่นี่แล้วครั้งนึง.. ยังจำภาพประทับใจเก่าๆได้อยู่เลยฮะ...คราวนี้เลยได้รำลึกความหลังตอนที่ยังเอ๊าะๆ บวกกลับได้มีโอกาสเก็บภาพภาพงงๆ..... อึ๊ย!!นั่นมันคอนเซปต์ พี่dont เค้า...เอาใหม่!....เก็บภาพสนุกๆมาฝากเพื่อนๆพี่ๆกันฮะ...Tokyo Sealife Park อยู่ติดกับดิสนีย์แลนด์ ไม่ไกลจากโตเกียว และที่สำคัญใกล้บ้านผม....ค่าเข้าชมก็ราคาย่อมเยาว์จริงๆครับผม..ผู้ใหญ่ 700 Yen, นักเรียน 350 Yen,เด็ก12-14ขวบ 250 Yen , ต่ำกว่า11เข้าฟรีคร้าบ... วันหยุดอากาศดีๆอย่างนี้เลยจะเห็นหลายๆครอบครัว... จูงลูกจูงหลานมาเที่ยวกัน นอกจากเด็กๆจะสนุกที่ได้ดูปลาสวยๆแล้ว ยังเหมือนเป็นห้องเรียนนอกสถานที่ด้วย....ถ้าเมืองไทยของเรามีสถานที่อย่าึงนี้เยอะๆก็จะเยี่ยมมากเลย จริงมั้ยครับ'เจ้านาย'!!!! (^^")สำหรับที่นี่สัตว์หลักๆก็เป็นเหล่าปลาน้อยใหญ่ คุ้นตาบ้าง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอก็หลายตัว มีตั้งแต่ขนาดเล็กกว่านิ้วก้อย สีสันสวยงาม ไปจนถึงตัวบักเอ้ก!!อย่างฉลามฟันแหลมเปี๊ยว หรือ ปลามากุโร่ยาว 2 เมตรกว่า...(แอบสูงกว่าผมเยอะเลยวุ้ย.. ) แต่เอ...ไม่ยักกะมีปลาร้า ,ปลากระป๋องแฮะ....โห!!>>>>มุูข! (>_<)"นอกจากปลาแล้ว ก็ยังมีปู กุ้ง หอย แมงกระพรุน etc...ให้ได้ชมกันคร้าบ ยั่งเจ้าปูอลาสก้าในรูปนี่ โหย..เห็นแล้วหิว!! เดินชมปู...ชมปลาเพลินๆ เผลอแป๊บเดียววนรอบ อควาเรียมซะแล้วครับ ปลานี่ดูยังไงก็ไม่เบื่อนะครับ ว่ายไปว่ายมาน่ารักดี แต่ผมว่าเจ้านี่ก็เจ๋ึง "แมงกระพรุน" เมื่อก่อนใส่สุกี้อร่อยดี ตอนนี้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ไปแล้วครับ...พร้อมแล้วครับ...ไปเที่ยวกันต่อกับ TOKYO SEALIFE PARK - Vol.2 กันฮะ...Let's Click คร้าบ.