ย้อนรอยยุคน้ำแข็งที่ Pasterze Glacier

Pasterze Glacier เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ตะวันออก และเป็นจุดหมายหลักของนักเดินทางบนเส้นทาง Großglockner High Alpine ไอบินหลาจะพาย้อนเวลากลับไปยุคน้ำแข็งผ่าน Pasterze Glacier Trail ซึ่งเส้นทางเดินเท้าระยะสั้นๆ ในอุทยานแห่งชาติ Hohe Tauern ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและธารน้ำสายเล็กสายน้อยที่ละลายจากน้ำแข็งบนยอดเขาสูงด้านบน ณ เส้นทางสายนี้ไม่ยากนักที่เราจะจินตนาการถึงภาพธารน้ำแข็งที่ทอดยาวตลอดแนวเขา ก่อนที่จะหลอมละลายและหดหายไปจากสภาวะโลกร้อน



เส้นทางเดินเท้านี้ถือว่าเป็นระดับอนุบาลสำหรับนักเดินเขา เหมาะสำหรับเด็กอายุประมาณ 10 ขวบและบุคคลทั่วไป หรือแม้กระทั่งหญิงไทยอายุ 55 ปีอย่างคุณแม่ของไอบินหลา ที่ต้องการสัมผัสธารน้ำแข็งสักครั้งในชีวิต ลูกสาวเลยจัดให้แบบลืมไม่ลงเลยทีเดียว ไอบินหลาเลือกเดินทางกับไกด์จากอุทยานฯ ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวันอังคารในช่วงหน้าร้อนคือประมาณต้นเดือนกรกฎาคม - กันยายน ค่าบริการคนละ 8 ยูโรและฟรีหากมีบัตร National Park Kärnten บัตรนี้ใบเดียวคุ้มยิ่งกว่าคุ้มสำหรับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวดูธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ไกด์ขอตรวจเช็คลูกทัวร์ซึ่งทั้งหมดเป็นคนออสเตรีย ยกเว้นกลุ่มของไอบินหลาที่เป็นชนกลุ่มน้อย ไทย-เบลเยียม มอดเขาไปตลอดทริป หากไปกันเยอะกว่านี้สามารถขอให้ไกด์อธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้ค่ะ หลังฟังจากฟังสรุปจากไกด์สั้นๆ เราก็เริ่มออกเดินทางกัน



จาก Glockner House ที่ความสูง 2,131 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เราเดินเท้าลงเขาไปยังอ่างเก็บน้ำ Magritzen ระหว่างทางไกด์แนะให้เรารู้จักพันธ์ุไม้ที่พบได้ทั่วไปบนเทือกเขาและบอกเราเกี่ยวกับความสำคัญของอ่างเก็บน้ำนี้ว่า สร้างขึ้นเพื่อรองรับน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งแล้วสูบ-ส่งไปตามท่อน้ำลงสู่แม่น้ำสายสำคัญในแถบนั้น โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์และเทคโนโลยีจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการน้ำชั้นนำของโลก ใช้งบประมาณปีละกว่าล้านยูโรเพื่อรักษาธรรมชาติแถบนี้



เมื่อเดินข้ามสันเขื่อนมาแล้วเราก็เดินเท้าลัดเลาเส้นทาง ข้ามภูเขาสู่ทะเลสาบ Sandersee ระหว่างทางไกด์แนะให้เราดูต้นไม้ที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่งหากไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชพันธ์ุก็คงมองข้ามไป





เราแวะปิคนิคกันที่ Sandersee ระหว่างนั้นไกด์เล่าให้ฟังว่า โคลนในทะเลสาบแห่งนี้แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ใช้เป็นวัตถุดิบชั้นเลิศในเครื่องสำอางค์ยี่ห้อดังระดับโลก แต่ไกด์บอกเคล็ดลับไอบินหลาว่า กินวันละนิดดีกว่าเอาไปทาบนผิวหน้า แหม… เสียดายที่ไม่ได้เตรียมอะไรไปใส่ ไม่งั้นคงได้กินโคลนตมก็คราวนี้แหละ

เมื่อประมาณ 1 ล้านปีก่อนบริเวณนี้ทั้งหมดรวมถึงยอดเขาสูงชันเคยเป็นธารน้ำแข็ง ซึ่งทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ภูเขาที่นี่จึงมีอายุไม่มากนัก เราสามารถดูความแตกต่างของชั้นหินด้านบนที่บ่งบอกชั้นน้ำแข็งแต่ละระดับ ปัจจุบันด้านล่างของทะเลสาปหรือแม้แต่เรายืนอยู่ก็ยังชั้นน้ำแข็งแทรกตัวอยู่ระหว่างชั้นหิน ไกด์พาเรามายังจุดที่เราสามารถเห็นภาพธารน้ำแข็งที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน ตอนแรกไอบินหลาเห็นแอ่งน้ำสีฟ้าก็อยากลงไปว่านอยู่ แต่ฟังไปๆ อ้าวเป็นก้อนน้ำแข็งซะงั้น อยากให้ลองจินตนาการถึงก้อนน้ำแข็งที่เรือไททานิคชนแบบกลับหัวกลับหางดูค่ะ ไอ้ก้อนนี้ใหญ่กว่าหลายเท่านัก



จากทะเลสาบ Sandersee เดินข้ามเขามาอีกไม่ไกลเราก็เริ่มมองเห็นธารน้ำแข็ง Pasterze ที่ถอยร่น เหลือน้อยลงทุกวันอยู่แค่เอื้อม ไกด์บอกเราว่าในช่วงหน้าร้อนน้ำแข็งละลายเดือนละกว่า 3 เมตร ขอขีดเส้นใต้ว่า "กว่า 3 เมตรต่อเดือน" อีกสิบปีภาพที่เราเห็นด้านล่างก็จะเป็นภาพประวัติศาสตร์ หากเราไม่สามารถบรรเทาสภาวะโลกร้อนได้



"ใกล้ตา แต่ไกลตีน" กว่าจะถึงธารน้ำแข็งที่เห็นอยู่แค่เอื้อมนั้น แม่ไอบินหลาเดินไป หอบไป เริ่มถ่ายสัมภาระและหินที่ระลึก (แอบเก็บมาตอนไหนไม่รู้) ให้ไอบินหลารับช่วงต่อ เมื่อถึงธารน้ำแข็งก็เริ่มเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั่งรถกระเช้าไฟฟ้าลงมาจาก Kaiser-Franz-Josefs-Höhe



ไกด์พาเราเดินแยกจากนักท่องเที่ยวทั่วไป เดินผ่านป้ายข้ามเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย รู้สึกว่าตัวเองเป็น VIP ก็ตอนนี้ จุดนี้เราได้ชื่นชมธารน้ำแข็งที่ยังบริสุทธิ์ งานนี้ไอบินหลาไม่พลาดลองชิมน้ำแข็งใสพันปี ^^



ช่วงสุดท้ายของทริปทดสอบสุดยอดของความอึดได้เป็นอย่างดี เราต้องเดินขึ้นเขาที่สูงชันสู่จุดหมายสุดท้ายคือ Kaiser-Franz-Josefs-Höhe ไกด์ให้เราเลือกว่าจะเดินไต่ขึ้นไป หรือเดินครึ่งทางแล้วครึ่งที่เหลือขึ้นรถกระเช้าไฟฟ้า แน่นอนว่าเมื่อเห็นไอ้ครึ่งสุดท้ายลูกทริปทุกคนขอขึ้นไปเบียดเสียดบนกระเช้า



ปกติ Pasterze Glacier Trail ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. แต่ทริปนี้เราใช้เวลากันถึง 6 ชม.เพราะต้องรอคุณแม่ของไอบินหลาที่ไม่คุ้นกับอากาศเบาบางบนยอดเขา แต่ท่านก็ได้รับกำลังใจที่ดีจากไกด์และเพื่อนร่วมเดินทางทุกคน

อุทยานฯ Hohe Tauern เป็นอุทยานฯ ที่ใหญ่ที่สุดบนเทือกเขาแอลป์ มีเส้นทางเดินเท้าสวยๆ มากมาย ตามดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บของอุทยานฯ

Create Date : 29 กันยายน 2554 Last Update : 9 มกราคม 2555 14:34:25 น. Counter : 1879 Pageviews.		3 comment
Share Tweet