Group Blog
 
All blogs
 
อีกมุมหนึ่งในชิคาโก



ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยวที่ชิคาโกเมื่อเกือบจะสามปีที่แล้วได้มั้ง ตัวเมืองสวยดีนะครับ เป็นเมืองใหญ่ที่วางผังเมืองเนี้ยบมาก มีสวนสาธารณะริมทะเลสาบใหญ่ มีคลองวนรอบตัวดาวน์ทาวน์ มีย่านชอปปิ้งเป็นสัดส่วน สนามกีฬาและพิพิธภัณฑ์กระจายอยู่ตามริมทะเลสาบ และก็มีถนนหลักวิ่งกระจายออกจากดาวน์ทาวน์ไปสู่เมืองรอบนอกในทุกทิศทาง ย่านการค้าย่อยๆ ที่อยู่กระจายรอบนอกออกไปก็ทำได้ดูดีมากนะครับ คึกคักและมีชีวิตชีวา

ชิคาโกมีชื่อเล่นว่า Windy City ถ้าแปลตรงตัวก็จะได้ความหมายว่าเป็น "เมืองแห่งลม" ซึ่งตรงกับความเป็นจริงมาก
แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่าที่มาจริงๆ แล้วนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับลมแรงเลยแม้แต่นิดเดียว

เอาไว้เดี๋ยวค่อยมาเฉลยก็ละกันครับ

---------------------------------------
เขียนเพิ่มเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน


ชื่อเล่น Windy City ของเมืองชิคาโกนั้นมีที่มาจากนักหนังสือพิมพ์ชาวนิวยอร์คเป็นผู้ตั้งให้เมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีที่แล้ว ปูมหลังนั้นมีอยู่ว่า

ถ้าใครติดตามประวัติศาสตร์ก็อาจจะจำได้ว่าเมืองชิคาโกนั้นเคยเกิดไฟใหม้ใหญ่(มาก) เมื่อหนึ่งร้อยสามสิบปีที่แล้ว ว่ากันว่าไฟใหม้ถึงขนาดที่ว่าตึกส่วนใหญ่ในเมืองพินาศหายไปในคราวเดียว

แต่ความที่คนในเมืองมีความตั้งใจที่จะสร้างเมืองกลับขึ้นมาอีกครั้ง ก็เลยมีการว่าจ้างสถาปนิกและนักวางผังเมืองเก่งๆ ในสมัยนั้นมาร่วมกันออกแบบสร้างเมืองใหม่ กะว่าจะให้เป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัยและมีผังเมืองดีที่สุดในอเมริกา ความที่ว่าเมืองส่วนใหญ่มันถูกไฟไหม้ไปเกือบหมด ทำให้การวางผังเมืองใหม่เป็นไปได้ง่ายกว่าปกติ (ลองนึงถึงเวลาเล่นเกม Sim City ที่อยากจะตัดถนนหรือจัด Zoning) ดังนั้นเมืองใหม่ก็เลยถูกออกแบบไว้เป็นอย่างดี ชิคาโกนั้นมีดาวน์ทาวน์อยู่ติดทะเลสาบใหญ่ มีสวนสาธารณะติดกับทะเลสาบ มีย่านที่อยู่อาศัยกระจายออกไปโดยรอบ และก็มีถนนสายหลักพุ่งตรงออกจากดาวน์ทาน์ออกไปทุกทิศทางเพื่อเชื่อมต่อไปยังเมืองบริวารรอบนอก

หลังจากสร้างเมืองใหม่สำเร็จ บรรดานักการเมืองท้องถิ่นก็อยากจะโปรโมทเมืองชิคาโกนี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้มีผู้อยู่อาศัยย้ายเข้ามาอีก รวมถึงบริษัทห้างร้านต่างๆ ด้วย ก็เลยมีการเดินสายโปรโมทกันทั่วประเทศ เชิญชวนให้ผู้คนเข้ามาอยู่ในชิคาโก ข้อความที่โปรโมทก็มีจริงบ้างโม้บางเป็นปกติของ ประกอบกับเมื่อช่วงนั้นประเทศสหรัฐฯ เค้าจะมีงานเฉลิมฉลอง Columbus Exposition ซึ่งจัดเป็นงานใหญ่ (ทำนองเดียวกับ World Expo สมัยนี้) และก็ได้มีการแข่งขันกันแย่งเป็นเจ้าภาพระหว่างเมืองใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิวยอร์ค หรือ ซานฟรานซิสโก เมืองชิคาโกก็ขอเข้าร่วมแข่งขันเป็นเจ้าภาพกับเมืองอื่นๆ ด้วย นัยว่าถ้าได้จัดงานนี้ก็จะทำให้เมืองเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีก

รอบสุดท้ายของการคัดเลือก เหลืออยู่สองเมืองคือนิวยอร์คและชิคาโก นิวยอร์คนั้นถือว่าตัวเองเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศมาเป็นเวลานานก็เลยออกจะมั่นใจในตัวเองและดูถูกชิคาโกอยู่พอสมควรว่าไม่มีศักยภาพพอที่จะจัดงานใหญ่ระดับนี้ได้ คอลัมนิสท์ในหนังสือพิมพ์ของนิวยอร์คนั้นก็เขียนบทความประนามนักการเมืองท้องถิ่นจากชิคาโกด้วยความหมั่นไส้อยู่เป็นระยะๆ รวมถึงตั้งฉายาให้ชิคาโกว่าเป็นเมืองขี้โอ่ (Windy City) ซึ่งภายหลังก็ได้กลายเป็นชื่อเรียกติดปากไปในที่สุด

ความที่ชิคาโกนั้นตั้งอยู่ริมทะเลสาบมิชิแกน มีลมแรงอยู่เป็นประจำตลอดปี คนทั่วไปก็เลยเข้าใจว่า Windy City นั้นคงจะหมายความถึงเมืองที่มีลมแรง กระทั่งชาวอเมริกันเองก็ยังเข้าใจเป็นอย่างนั้น

-----------------------------------------

ผมเคยเขียนไว้ที่โต๊ะไกลบ้านเมื่อซักสองสามปีที่แล้ว อาจจะเคยผ่านตากันมาบ้างนะครับ



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2548 6:13:46 น. 2 comments
Counter : 412 Pageviews.

 
แล้วจะเข้ามาดูคำเฉลยเจ้าค่ะ


โดย: Sugar and spice วันที่: 21 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:32:46 น.  

 
บางแห่งบอกว่า แปลว่า หอมป่า ค่ะ


โดย: woodchippath วันที่: 24 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:19:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hvacboy
Location :
Minneapolis, Minnesota United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




www.flickr.com
This is a Flickr badge showing photos in a set called Twin Cities. Make your own badge here.
Friends' blogs
[Add hvacboy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.