เรากำลังหลอกตัวเอง ... อยู่หรือเปล่า?
คุณเคยรู้สึกแบบนี้ไหม รู้สึกว่าเวลาที่คุณอยู่กับคนรักของคุณมันช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จะสุขก็สุขไม่เต็มที่ คุณไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควรกับฉากรักที่เขาบรรจงสร้างขึ้น ถ้าเคย..คุณควรจะเริ่มหันกลับมาสำรวจความสัมพันธุ์กับหนุ่มคนรักกันใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ..แล้วเลิกความคิดผิดๆ เหล่านี้ซะ!! อย่าคิดว่าการที่คุณและเขาชอบอะไรเหมือนกันจะหมายความว่า คุณและเขาคือคู่ที่พระเจ้าสร้างมา เพราะบางครั้งความแตกต่างอาจจะช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างความรักให้แนบแน่นยิ่งขึ้นก็เป็นได้ รู้สึกประหม่าร้อนรนทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องปรกติ ถ้าเราจะรู้สึกประหม่าเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนที่เรารัก นั่นก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ถ้าจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถ้ามากกว่านั้นความรู้สึกประหม่า่ ร้อนรน น่าจะมาจากความไม่มั่นใจในตัวคุณเวลาอยู่ต่อหน้าเขามากกว่าว่า ควรจะวางตัวอย่างไรให้เขารักคุณที่สุด แล้วคุณจะมีความสุขได้อย่างไร ถ้าต้องคอยปกปิดความเป็นตัวคุณอยู่อย่างนี้ อย่าคิดว่าการประนีประนอมจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ถ้าคุณกับเขาเข้ากันไม่ได้ แม้ว่าจะเดทด้วยกันเป็นครั้งที่ 3 ในเวลา 1 เดือน จะมีประโยชน์อะไรที่คุณจะมานั่งหลอกตัวเองว่าเวลาจะช่วยให้คุณและเขาปรับตัวเข้าหากันได้ เลิกบังคับตัวเองซะที และยอมรับความจริงเถอะค่ะว่า ผู้ชายคนนี้ให้ในสิ่งที่คุณต้องการไม่ได้ อย่าโทษตัวเอง หากว่าผู้ชายที่คุณคบอยู่ยังทำตัวไม่ดีมากพออย่างที่คุณหวังไว้ เพราะมันไม่มีประโยชน์ที่จะอดทนกับสิ่งที่คุณไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ หรือมันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะการที่คุณจะหาผู้ชายคนใหม่ที่ดีพออย่างที่คุณต้องการนั้นมันย่อมง่ายกว่าที่จะเปลี่ยนผู้ชายคนเก่าให้เป็นอย่างที่คุณคิด ทั้งๆ ที่มันเป็นไปไม่ได้ หรือมัวแต่นั่งโทษตัวเองไปวันๆ ว่า ฉันนั่นแหละที่เรื่องมากไปเอง อย่าเปรียบเทียบผู้ชายคนใหม่กับแฟนเก่า และอย่าตัดสินใจคบกันเพียงเพราะว่า เขาดีกว่าแฟนเก่าของคุณแค่เล็กน้อย มันไม่เป็นผลดีนักหรอกค่ะ เพราะคุณจะไม่ได้มองเขาในสิ่งที่เขาเป็นจริงๆ แต่คุณจะมองเขาในมุมมองที่คุณมองแฟนเก่า มองแต่สิ่งที่เขาเหนือกว่าแฟนเก่าของคุณ ซึ่งสิ่งที่คุณยังไม่เห็นในตัวเขาอาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายเกินรับไหวมากกว่าแฟนเก่าของคุณก็เป็นได้ ถ้าคุณจะรักใครสักคน คุณควรรักเขาโดยมองจากสิ่งที่เขาเป็น และคุณก็จงแสดงตัวตนที่แท้จริงของคุณให้เขารับรู้ เพื่อความรักที่แท้จริงไม่ใช่ความรักจากภาพลวงตาที่คุณสร้างขึ้น
ทำไมหนอ ... "รัก" ใคร ถึงไม่ได้ "รัก" ตอบ?
ยอมรับเหอะว่า เมื่อเราเผลอใจให้ใครสักคนไปแล้ว ไม่ได้หมายความว่าเราจะสมหวังเสมอไปร้อกจริงมะ เพราะบางทีคนที่เราแอบส่งสายตาหวานให้ เค้าอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ หรือไม่งั้นหากคุณโชคดีที่ฝ่ายโน้นเค้าไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แต่ทว่ายังไงเค้าก็ไม่รักคุณอยู่ดี เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะคุณไม่ได้เป็นแบบที่เค้าอยากมีสัมพันธ์แบบลึกซึ้งด้วยล่ะซี่ และเหตุผลที่ว่านี่ก็มีมากมาย แต่ที่เห็นโดยมากก็มีตั้งแต่.... 1. ไม่รักตอบเพราะเค้า (ฝ่ายที่ถูกบอกว่ารัก) รู้สึกว่า คุณ (ฝ่ายที่ปากบอกรัก) ไม่จริงจังกับคำว่ารักที่พูดออกมา เพราะบางคนชอบพูดทีเล่นทีจริงอยู่เรื่อยๆ จนสรุปรวมแล้วเกือบตลอดเวลา ดังนั้นพอคุณยอมสารภาพความในใจ เค้าจึงคิดว่า คุณอำเล่น ไม่ได้คิดอยากชวนให้มาเป็นคู่รักจริงๆ จังๆ ตรงนี้จึงถือเป็นข้อเสียของคนที่เอาแต่พูดเล่น ชอบพูดสนุกให้อีกฝ่ายนึงขำกลิ้ง แต่อย่าลืมว่า ไอ้การที่พูดทีเล่นทีจริง หรือพูดหาสาระอะไรไม่ได้เนี่ย ทำให้บางครั้งเวลาจะพูดอะไรออกมาเป็นการเป็นงาน จึงทำให้ผู้ได้ยินยังนึกว่าเป็นการพูดเล่นตลอด 2. ไม่รักตอบเพราะเค้ารู้สึกว่า คุณเพิ่งอกหักมาแล้วต้องการใครสักคนคอยปลอบใจรึป่าว? เรื่องนี้ก็เป็นไปได้นะ เพราะยิ่งใครที่เพิ่งผิดหวังกับความรักมาหมาดๆ ก็มักจะมองหาสิ่งยึดเหนี่ยวใหม่ๆ จึงสับสนว่าเป็นความรักจริงๆ หรือเพราะว่าอยากมีใครไว้เป็นตัวสำรองกันแน่? 3. ม่รักตอบเพราะรู้สึกว่า คุณเป็นคนไว้ใจไม่เคยได้ ถ้าคนที่เป็นพวกที่ พูดอย่างทำอย่างแบบนี้มาบอกรักเราจะเชื่อถือได้มั้ยล่ะ นอกจากนี้ยังรวมถึงพวกที่ทำตัวไม่ชัดเจนอีกด้วย ประมาณว่าความลับเยอะ ไม่ยอม Say Yess – Say No ใดๆทั้งสิ้น ไม่เคยให้ความชัดเจนกระจ่างได้ แล้วคุณจะไว้ใจคนประเภทนี้ได้หรือ ดีไม่ดีมาหาว่าเริดเองเออเอง แหม....ถ้าคุณเป็นพวกพูดจริงทำจริง เปิดเผยชัดเจนมาโดยตลอด..หยั่งนี้ค่อยน่าเชื่อถือหน่อย 4. ไม่รักตอบเพราะรู้สึกว่า คุณเป็นฝ่ายที่มัวแต่ “รับ” ไม่เคย “ให้” สิ่งใด แม้แต่ความจริงใจกับใครเลย หมายถึงคนเห็นแก่ตัวน่ะแหล่ะ การให้และรับในที่ว่านี้ ไม่เฉพาะเรื่องการใช้จ่ายเวลาไปเที่ยวด้วยกัน ยังรวมถึงเรื่องความจริงใจที่จะบอกความจริงกับฝ่ายตรงข้ามด้วย แค่เริ่มแรกก็หาความจริงใจให้กันไม่ได้แล้ว ต่อไปคุณจะยังไว้ใจคนพวกนี้ได้อีกหรือ ขืนเจอคนแบบนี้มารัก สู้อย่าเจอกันเลยดีกว่ามั้ง จะได้ไม่ต้องมาปฏิเสธให้ผิดใจกันไงเล่า 5. ไม่รักตอบเพราะรู้สึกว่า ฝ่ายบอกรัก “Sex จัด จนขึ้นสมอง” มากกว่าจะรักใครจริง คนแบบนี้คนดีๆ ที่ไหนจะอยากเข้าใกล้ หรือเป็นแฟนด้วย เพราะคนพวกนี้ถนอมคนรักไม่เป็นหรอก เผลอๆ จะเป็นพาหะนำโรคติดต่อมาติดอีกฝ่ายนึงด้วยซิ 6. ไม่รักตอบเพราะรู้สึกว่า ฝ่ายบอกรัก เป็นคนใจง่ายหรือมีกิ๊กเยอะ ขนาดเล็งๆกันอยู่ อีกฝ่ายนึงยังรู้เลยว่า เค้ามีกิ๊กกี่คน และนิยมมี “รักเผื่อเลือก” แถมเมื่อต้องเลือกก็ตัดไม่ได้สักคนด้วยซิ แล้วงี้จะรักคนหลายใจลงไหมเนี่ย เพราะไปๆ มาๆ คำว่ารักที่เค้าพูดกระหน่ำทุกวันเช้า-เย็น อาจเป็นคำลวงให้เราเข้าไปเป็นแค่ 1 ในฮาเร็มกิ๊ก ที่เค้ามีอยู่ก็ได้ ต่อให้เค้าดีด้านอื่นก็เหอะ แต่ถ้ามาเสียเรื่องเจ้าชู้แล้ว ก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ เพราะเค้าก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยแหล่ะ ขืนรักกันไป แล้วจะมีความสุขหรือนอกจากจะเป็นพวกเจ้าชู้เหมือนกันก็พอว่า ดังนั้น ถ้าไม่ชัวร์ว่าควรรับรักเค้าดีมั้ยล่ะก็ จงอย่าลังเลที่จะรอผู้โชคดีในอนาคต และบอกปัดคนที่ไม่มั่นใจไปซะ...รอก่อนก็ได้ ไม่ต้องใจร้อนนักหรอก
คำถามที่ไม่ควรถาม "แฟน"
ความรัก คือ เรื่องความเข้าใจ ความไว้วางใจของคน 2 คน และหากคุณไม่ไว้ใจใน ความรัก ไม่ไว้ใจ คู่รัก ของคุณ อาจทำให้ ความรัก นั้นจากไปได้ … ซึ่งวันนี้เรามีอีกหนึ่ง บทความ สำหรับคู่รัก สำหรับสาว ๆ มาบอกว่า คำไหนที่ไม่ควรถามแฟน เพราะนอกจากมักจะไม่ได้คำตอบแล้ว อาจจะทำให้คนโดนถามรู้สึกไม่ดีก็ได้ คุณคิดว่าผู้หญิงคนนั้นสวยไหม? ถ้าแฟนหนุ่มของคุณตอบว่า “สวย” คุณมัวแต่วิตกจริตกับความสวยของตัวคุณ ว่าผู้หญิงคนนั้นกับคุณ ใครจะสวยกว่ากัน แต่ถ้าแฟนคุณบอกว่า “ไม่สวย” ล่ะ คุณก็จะต้องบอกว่าเขาโกหกแน่ๆ จริงมะ เพราะฉะนั้น อย่าถามเขาดีกว่าฉันอ้วนไปรึเปล่า? กระจกน่าจะเป็นคนตอบคำถามนี้ ได้ดีกว่าแฟนคุณนะ ถ้าคุณเกิดความสงสัยว่าคุณกำลังจะอ้วนไปแล้ว นี่ก็คือคำตอบของคุณเองที่มีอยู่ในใจแล้วล่ะ ว่าคุณไม่พอใจในรูปร่างของคุณ เพียงแต่ว่าคุณต้องการความมั่นใจมากขึ้นเท่านั้นเองแฟนเก่าคุณเป็นคู่รักที่ดีกว่าฉันรึเปล่า? ถ้าดีกว่าแล้วจะเป็นอย่างไร แล้วถ้าคุณดีกว่าคุณจะดีใจไปทำไม เพราะเขายังไงก็อยู่กับคุณอยู่แล้วในวันนี้ อดีตของเขาอาจจะเป็นความทรงจำส่วนตัวของเขา อย่าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเขามากนักคุณว่าเราจะคบกันไปได้ถึงไหน? ถ้าคุณมัวแต่มาถาม คำถามเหล่านี้ คุณอาจกำลังบ่อนทำลายความรู้สึกที่ดีของกันและกันก็ได้นะคะ เหมือนเพลงที่ว่า “ไม่มีใครรู้ว่ารักจะเป็นเช่นไร ไม่ใครรู้ว่รักจะเปลี่ยนไปเมื่อไร แต่ที่รู้ก็คือ… วันนี้รักเธอ และจะทำเวลาที่มีให้งดงาม ….
คุณเชื่อใจ "คนรัก" ของคุณมากแค่ไหน?
วันหนึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่ง ทั้งคู่รักกันมากผู้ชายให้สัญญากับผู้หญิงว่า .. ผมจะรักคุณตลอดไปผู้หญิงจึงบอกกลับว่า ฉันเชื่อคุณ และจะรักคุณอย่างที่รักฉันให้ดีที่สุดทั้ง 2 คบกันไปชั่วในระยะเวลาหนึ่งในระหว่างที่ 2 คนได้เดินจับมือกัน อยู่ในสวนสาธารณะนั้น …ได้มี นางฟ้าคนหนึ่ง ปรากฎกายลงมา พร้อมกับบอกว่า"ท่านทั้ง 2 มีความรัก บริสุทธิ์ต่อกัน …เราอยากจะให้ท่าน ได้เห็นอนาคตของท่านทั้ง 2"ชาย หญิงคู่นั้น จับมือกันไว้แน่นและรู้สึกดีใจที่ความรักของเขาและเธอ ถึงขนาดนางฟ้ามาให้พรนางฟ้าจึงพูดขึ้นว่า "ท่านจะดูอนาคตของท่านทั้ง 2 นับตั้งแต่นี้หรือไม่" ชายและหญิงคู่รักมองตากัน แล้วตอบพร้อมกันว่า …"เราทั้ง 2 ไม่กลัวอนาคตเรามั่นใจในกันและกัน"นางฟ้าได้ยินดังนั้น จึง เสก ของออกมาเป็นซีดี 2 แผ่นให้ทั้งคู่ไปดูอนาคตที่บ้านของหญิงสาว หญิงสาวค่อย ๆ ควักแผ่นซีดีที่ได้จากนางฟ้าแล้วใส่ลงในเครื่องเล่นซีดี ในภาพเห็น ในภาพแรกเธอและแฟนของเธอแต่งงานกันเธอยิ้มแก้มปริ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกในภาพหลังๆ หญิงสาวได้เห็นว่า มีรูปของแฟนเธอคบชู้เธอนั่งร้องไห้ เสียใจ . . .ทันใดนั้น มีเสียงประตูเคาะขึ้นที่ห้องของเธอเธอรีบปิดเครื่องวีซีดี และซับน้ำตา รีบไปเปิดประตูปรากฎว่าเป็นแฟนของเธอเอง แฟนเธอยิ้มแต่เธอโมโหจึงตบหน้าเขาอย่างแรงและปิดประตูโดยที่ฝ่ายชาย งง ๆเธอนอนร้องไห้ถึงอนาคตที่จะต้องเกิดเช่นในวีซีดีนั้นหลังจากนั้น เธอพยายามหนีหน้าชายคนรักของเธอโดยที่ผู้ชายก็ตามง้อยกใหญ่โดยผู้ชายไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรเธอพยายามหาทางเลิกกับผู้ชาย จนสำเร็จ จนวันหนึ่ง … ได้มีเสียงเคาะประตู เธอเปิดประตู …แต่ทันใดนั้น . . .คนที่เคาะประตูก็หันหลังจนลับตาไปเสียแล้วเธอจำได้ดีถึงแผ่นหลังของอดีตชายที่ตัวเองรักเธอมองลงพื้นพบซีดีอีกแผ่นหนึ่งของที่นางฟ้าได้ให้ผู้ชายเธอนำซีดีแผ่นนี้ไปเปิดอีกครั้ง พบภาพ ที่เหมือนกัน คือ. . . ภาพที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างมีความสุขแต่ภาพหลังจากแต่งงาน คือ . . .ภาพที่เธอมีชู้กับผู้ชายคนใหม่ โดยมีแฟนของเธอร้องไห้อยู่ข้างๆเธอน้ำตาไหลและปิดวีดิโออย่างช้าๆเธอค่อย ๆ เปิดจดหมาย ที่แนบมากับซีดีนี้อ่าน ข้อความเขียนว่า“ผมไม่กลัวอนาคตเรามั่นใจในกันและกันขอบคุณแม้ผมจะเชื่อในคุณฝ่ายเดียวก็ตาม ลาก่อน”คำว่า เชื่อใจ เท่านั้น ที่ทำให้ คนทั้ง 2 คน คบกันอย่างมีความสุขแล้วคุณละเชื่อใจคนรักของคุณมากแค่ไหน?
แฟน 7 แบบ ที่ควรเขี่ยทิ้ง
เกร็ดความรู้ เทคนิค เคล็บลับ โดนใจวันนี้ เรามี บทความ ดีๆ เกี่ยวกับ ความรัก สำหรับคนที่มี รัก มี แฟน หรือ คนรัก ควรรู้มาฝากคุณ สาวสวย หนุ่มหล่อ กันด้วย เป็นตัวอย่าง แฟน 7 แบบ ที่ควรเขี่ยทิ้งนั้นเอง เพื่อ สุขภาพ กาย และ สุขภาพ ใจ ที่ดีของคุณไม่ควรพลาด เพราะเป็น เรื่องน่าอ่าน มากๆ เอ... ว่าแต่ คู่รัก ของคุณ เป็นอย่างนี้หรือเปล่า ถ้าเป็น หาแฟน ใหม่ดีกว่านะค่ะ อิอิ 1. แฟนประเภทชอบรื้อฟื้น เช่น คบกันอยู่ดีๆ แต่วันร้ายคืนสยองเขากลับพูดถึงแต่แฟนเก่า ว่าเป็นคนอย่างงั้น อย่างโน้น นัยว่าหล่อน เป็นแม่พิมพ์ประจำใจเขานั่นแหละ แถมเล่าแล้วไม่เล่าเปล่าเสียด้วยนะ มีการจับทั้งแฟน ปัจจุบันกับอดีตหวานใจมาเปรียบเทียบซะกระเจิด กระเจิง แล้วไอ้ที่เขาพูดๆ พล่ามๆ เรื่องรักเก่าสมัย ม.3 อะไรเนี่ย มันเป็นสิ่งสร้างสรรค์ หรือทำให้รักปัจจุบัน เหนียวแน่นหรือก็เปล่าเลย ยิ่งเห่า เอ้ย ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้แฟนคนล่าสุดหมดกำลังใจไปเรื่อยๆ แถมดีไม่ดี เขาอาจเก็บภาพสมัยที่เคยระเริงรักกับแฟนเก่า ซึ่งซุกไว้ในเอ็กซ์ไฟล์ ส่วนตัวมาเปิดดูบ่อยๆ โดยที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ แล้วอย่างนี้จะให้รักกันไหวไหมล่ะ 2. แฟนชอบโกหกจนเป็นสันดาน ข้อนี้คงไม่ต้องอาศัยคำอธิบายอะไรให้มาก เพราะใครบ้าง ที่ไม่รู้อยู่แก่ใจว่า การโกหก คือยาพิษที่บ่อนทำลายความรักได้ง่ายและฉับไวที่สุดบ้างนะ เหตุนี้ ถ้ามีแฟนจัดเข้าข่ายเป็นพวกโก-Six หรือมุสาวาจา เป็นกิจวัตร หรือพวกชอบโชว์มาด “มือถือสาก ปากถือศีล” ล่ะก็ ถ้าไม่เลิกกันวันนี้ พรุ่งนี้ ก็คงมะรืนนี้แหละ สักวันนึงย่อมทนกันไม่ได้อยู่ดี 3. แฟนเจ้าชู้ไม่เลือกหน้า แบบว่า เผลอเป็นไม่ได้ ต้องสะเหร่อแบ่งกายไปเบียด คนอื่นอยู่เรื่อย แต่ใช้ข้ออ้างเดิมๆว่า เพราะเด็กมันยั่ว เลยหลวมตัวนอตหลุด งั้นเชิญไปไขก๊อกกันทุกคืนเลยแล้วกัน เราอย่าลดตัว เป็นมารคอหอยเขาหน่อยเลย 4. แฟนที่ไม่สนว่า..จำเป็นต้องเอาใจคนรักอะไร..กันนักหนา เอ้...ถ้าไม่รู้จักเอาใจสวีตฮาร์ท แล้วจะให้อีกฝ่ายคอย แต่เอาใจใส่เขาหรือยังไง หากรักกันจริงก็ควรเทกแคร์กันสิเพ่ เทกแคร์น่ะแปลว่า ดูแลเอาใจใส่ไม่ใช่ไม่เห็นจำเป็นต้องไปเหลียวแล เค้าว่า ความรักคือการแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่กันไม่ใช่หรือ? แล้วเคยให้กันบ้างไหม? 5. แฟนไม่เคยมีเวลาให้ รวมไปถึงชอบผิดนัด นิยมบอกปัด อ้างงานเยอะ แม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่รู้หายหัวไปไหน ขืนเป็นงี้ แล้วจะเป็นแฟนกันไปทำไม? จะเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟนก็แปะเอี้ย (เหมือนกัน) ไม่เห็นมีอะไรต่าง นอกจากอยากเป็นแฟนเฉพาะทางโทรศัพท์ก็ว่าไปอย่าง 6. แฟนไม่เคยทำตามสัญญา อย่าให้ความหวังด้วยลมปากเป็นอย่างเดียว แต่ทำให้หวังเป็นจริงไม่ได้ก็แย่ 7. แฟนที่ชอบตอกย้ำซ้ำเติมปมด้อยให้น้อยเนื้อต่ำใจได้ตลอดเวลา เอ๊ะ! ถ้าไม่เห็นเรามีดีแล้วตกลงมารักกันให้เจ็บๆ คันๆ ทำไมเหรอ ถ้ารักแล้ว พูดจาภาษาดอกไม้ หาเรื่องดีๆ เป็นสิริมงคลมาคุยกันไม่ได้ งั้นหันมาเป็นศัตรูกันยังเก๋ซะกว่า นี่ล่ะหนา ถึงอยากถามใครต่อใครว่า ก่อนจะรัก หล่อนพร้อมจะเจ็บกระดองใจหรือยังจ๊ะ