ยินดียิ่งแล้วตี้แขกแก้วมาเยือน

ผังเมืองใหม่ ...ขยายถนน...ได้อะไร

ที่ผ่านมาข่าวผังเมืองเชียงใหม่เป็นหัวข้อยอดฮิตติดอันดับการสนทนา

ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3

เท่าที่รู้จากวงสนทนามีความเห็นแตกต่างกัน 2 กลุ่ม
หนึ่งคือ กลุ่มอนุรักษ์
อีกหนึ่งคือ กลุ่มธุรกิจ

ประเด็นหลักของความไม่พึงใจ คือ
ผังถนนที่กำหนดจะขยายเขตทางถึง 34 สาย เพื่อรองรับการจราจร

สำหรับฉันเองถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คนที่นี่โดยกำเนิด
แต่รักเมืองแห่งนี้ ...เชียงใหม่

การแก้ปัญหาจราจร ไม่จำเป็นที่จะต้องขยายถนนถึงขนาดนี้
ปัญหาส่วนใหญ่ในตัวเมืองที่มีการจราจรที่ติดขัด โดยมากจะเกิดแถว ๆ บริเวณสี่แยกไฟแดง หน้าโรงเรียน รวมทั้งถนนที่มีรถจอดข้างทางมาก ๆ อย่างไร้ระเบียบ

นอกจากนี้เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีการใช้ยานพาหนะส่วนตัวสูงมาก เพราะไม่มีระบบขนส่งนั่นเอง อย่างน้อยๆ ทุกบ้านต้องมีรถเครื่อง (มอเตอร์ไซด์หนึ่งคัน)

คุณ ๆ ที่มาเที่ยวเชียงใหม่คงเห็นอยู่แล้วว่าพาหนะสาธารณะหลักคือ รถสี่ล้อแดง รถปรับอากาศที่เห็นวิ่งไปวิ่งมา นานๆ จะผ่านมาซักคัน กำหนดระยะเวลาไม่ได้ ออกจะเสี่ยงเกินไปในการเดินทาง หากคุณต้องไปทำงานให้ทันเวลาปั๊มนิ้ว รูดบัตร หรือเซ็นต์ชื่อเข้างาน

รถติดแล้วมาแก้ปัญหาด้วยวิธีการขยายถนน น่าจะทำให้อัตราการใช้รถส่วนตัวมากยิ่งขึ้น การเดินทางก็มากตามไปด้วย จราจารติดขัด กลายเป็นวงจรอุบาท์ไปเรื่อย ๆ

ตัวอย่างถนนที่มีชื่อว่าจะต้องถูกขยายให้กว้างขึ้น ไล่ตั้งแต่

ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนฮิป ๆ ของพวกเรา ทุกวันนี้แค่คิดว่าจะขี่จักรยาน เข้าออกซอยนั้นซอยนี้ เที่ยวชมร้านค้า หาของอร่อยทาน เดินทางด้วยสองล้อ ยังยากยิ่ง นึกสภาพตอนที่ขยายถนนแล้ว ...เฮ่อ...

ย่านวัดเกตุ ริมน้ำปิง ถนนสายประวัติศาสตร์ เส้นทางการค้าขายในอดีต
หากมีวันว่าง ฉันชอบไปแถว ๆ นั้น จอดรถ ไหว้พระ ออกมาเดินเล่น
อาคารบางหลังยังคงเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้ ลวดลายปูนปั้นหน้าอาคาร ยังเชื้อเชิญให้เราเข้าไปจ้องมองใกล้ ๆ และเก็บไว้ในความทรงจำผ่านเลนส์กล้อง ร้านชาสีชมออน สีชมพูสวยสด หากดูไม่แตกต่างหรือแปลกแยกไปจากหมู่อาคารข้างเคียง ณ วันนี้ ถึงจะไม่ใช่เส้นทางค้าขายหลักเหมือนดั่งอดีตที่ผ่าน แต่เสน่ห์ของย่ายวัดเกตุยังคงมีอยู่

ถนนมีชีวิต ถนนกับอาคารบ้านเรือนน่าจะเป็นสิ่งเดียวกันเป็นของคู่กัน
ฉันว่าไม่น่าจะแยกกันออก
อาคารก็มีลักษณะเฉพาะ ตัวถนนเองก็มีลักษณะเฉพาะเช่นกัน
ปฏิสัมพันธ์ของผู้คนที่อาศัยอยู่สองฟากถนนอีกล่ะ
ความสัมพันธ์ระหว่างคนอาศัย ชุมชน บ้านเรือน ถนน
หากขยายถนนเสน่ห์ของเอกลักษณ์เหล่านี้คงหล่นหาย

ถนนเส้นอื่น ๆ ล้วนแต่มีประวัติทั้งนั้น
คงความเป็นเมืองเชียงใหม่แบบนี้น่าจะดีกว่า
เข้าใจดีว่าการขยายถนน ย่อมมีกลุ่มคนที่หวังผลทางธุรกิจ
ฉันว่าเชียงใหม่ในทุกวันนี้ก็เติบโตพอสมควรแล้ว
เป็นเมืองใหญ่เทียบเท่ากรุงเทพฯ
อยากให้อะไรเดิม ๆ ยังคงอยู่ไว้บ้าง
เปลี่ยนแปลงไปซะหมด
ไม่เหลือความเป็นเมือง
แล้วใครที่ไหนอยากจะมาเยี่ยมเยือน
ในเมื่อเหมือน ๆ กันทุก ๆ ที่

ฉันรักเชียงใหม่ที่เป็นเชียงใหม่เช่นวันนี้
ถึงแม้ว่าความเจริญทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
ทำให้เมืองขยายกว่าแต่ก่อน
ฉันยังรับได้กับการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา

ดูกันไปสำหรับผังเมืองเชียงใหม่ฉบับนี้

ฉันคิดของฉันแบบนี้
คุณล่ะคิดว่าอย่างไร.....




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2551 21:24:14 น. 2 comments
Counter : 602 Pageviews.  

 
ได้แต่หวังว่าพลังของคนเชียงใหม่จะยับยั้งโครงการนี้ได้สำเร็จ
รักเชียงใหม่เหมือนกันค่ะ


โดย: Animas วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:58:17 น.  

 
สวัสดีครับพี่

โครงการนี้ไม่มีวันทำสำเร็จ
เพราะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความไม่บริสุทธิ์ใจ
และหวังเพียงผลทางการเมืองครับ

เทศบาลชุดนี้บริหารงานแบบไร้ผลงาน
ถ้าจะเอาผลงานที่เห็นชัดก็คงเป็นการทำทางเดินรอบคูเมืองและเปลี่ยนเสาไฟถนน
(กี่ชุดๆก็ทำ เพราะมันคงกินเงินง่ายที่สุด)

น่าเศร้านะครับที่เรามีผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์
และไม่ได้รักบ้านเกิดเมืองนอนอย่างแท้จริง

เข้ามารับตำแหน่งปุ๊บก็พาคณะฯไปเที่ยวสิงคโปร์
อย่าบอกนะว่าไปดูงาน

(รวมถึง สส - สว. 66 คณะครับ
ที่กำลังไปดูงานต่างประเทศในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
แต่ละชุดพาพวกพ้อง ลูกเมียไปผลาญเงินประเทศ
ทั้งที่การคลังประเทศจะพังแหล่มิพังแหล่
เราดูงานกันมากี่ปีแล้วครับ แล้วบ้านเมืองพัฒนาอะไรบ้างหรือเปล่า ?)

การขยายผังเมืองเป็นนโยบายที่หวังกินเงิน

ทุกประเทศที่เจริญแล้ว
เขาไม่แก้ปัญหาการจราจรด้วยการทำถนนใหม่
เพราะมีความยุ่งยากในทางปฏิบัติ
มีผลกระทบกับชีวิตของผู้คน
รวมไปถึงการจัดโซนนิ่ง การวางเขตพื้นที่การใช้สอยที่ดิน
จะทำได้ยากมากครับ เพราะติดทั้งเขตอนุรักษ์ เขตที่อยู่อาศัย
และเขตธุรกิจ

ทุกเมืองใหญ่ๆในโลกนี้ที่เจริญและมีผู้นำที่มีความคิด

เขาจะสร้าง "เมืองใหม่" ครับ

วางผัง จัดโซนนิ่ง แล้วก็สร้างเมืองใหม่

ความเจริญจะถ่ายเทออกไปที่รอบนอกเอง
ตามธรรมชาติของมนุษย์

ผมเชื่อเสมอว่า

เชียงใหม่โดยตัวตนเดิม
ไม่ต้องไปแตะต้องอะไรมันเลย เพราะยิ่งแตะยิ่งพัง
ยิ่งแตะยิ่งเน่า
เพราะเราไม่มีความรู้ในการอนุรักษ์ และพัฒนาเมือง

(ดูวัดก็ได้ครับ หอไตรสวยๆ วัดทาสีชมพูซะงั้น
กรมศิลปากรทำอะไรอยู่ )

เชียงใหม่ไม่ต้องการ "สร้าง" อะไรแล้วครับ
แค่ "รักษา" สิ่งที่มีอยู่เดิมให้ดีก็พอแล้ว

และถ้าคิดแต่จะกอบโกยผลประโยชน์เพื่อตระกูล
โดยไม่คิดถึงบ้านเมือง
"ขึด" มีจริงนะครับ
"กรรม" มีจริงนะครับ

ไม่ต้องรอชาติไหนด้วย
ชาตินี้แหละครับ...ได้เห็นกันแน่นอน








โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:46:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฮักน้ำปิง
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ฮักน้ำปิง's blog to your web]

MY VIP Friend