|
นับถอยหลัง....12 เดือนจากนี้ไป...คือเวลากลับบ้าน
เกือบจะครบ 4 ปีที่ได้มาประทับรอยเท้าไว้บนแดนอาทิตย์อุทัย ผืนดินแห่งความฝันของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีครอบครัว มาประกอบอาชีพ มาศึกษาเล่าเรียน
ผมเองก็คงหนีไม่พ้นในกลุ่มคนเหล่านี้ การได้เดินทางไปต่างประเทศไม่ว่าจะท่องเที่ยว หรือเรียนต่อ ก็เป็นความฝันลึก ๆ อยู่ในใจ แต่ด้วยความที่ไม่ใช่คนเรียนเก่ง สมองดี เรื่องเรียนต่อจึงเป็นไปได้ยากมากที่สุด
หากวันนั้น ระหว่างการพักผ่อนหลังทำงาน หากวันนั้นใจไม่กล้า หน้าไม่ด้าน ก็ไม่รู้ว่า วันนี้ ณ ปัจจุบันนี้ผมจะทำอะไรอยู่ อาจจะเป็นลูกจ้างอยู่ที่ไหนสักแห่ง อาจจะเป็นเซลล์แมนขับรถล่องขึ้นลง เหนือ อีสาน ตะวันออก กลาง ใต้ อยู่ตลอดเวลาก็เป็นได้
เพราะวันนั้นความกล้ามันมี เพราะวันนั้นกินเบียร์ (แต่ยังไม่เมา) เพราะวันนั้นร้อน เพราะวันนั้นเหนื่อย ความคิดต่าง ๆ นานา ปรากฎขึ้นในสมอง ความไม่เข้าใจ ความฉงน ความแคลงใจ จึงต้องถามนายจ้าง(หัวหน้าคณะวิจัย) ว่าที่พวกผมทำอยู่ทุกวันนี้ พวกผมได้อะไรบ้างนอกจากค่าจ้างต่อเดือน ในขณะที่พวกคุณผลิตบัณฑิตนับสิบ มหาบัณฑิตอีกเพียบ ดุษฎีบัณฑิตอีกไม่น้อย ผม(และเพื่อน)จะได้อะไรบ้างนอกจากความรู้เรื่องงานวิจัย พวกผมอยากจะต่อยอด อยากจะก้าวหน้า พวกผมอยากเรียนต่อในประเทศของพวกคุณ.....
หัวหน้าคณะวิจัย (ชาวญี่ปุ่น) ก็ตกปากรับคำไว้ ว่าจะพยายามหาลู่ทางให้ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่า การได้ระบายความรู้สึกภายหลังการทำงานที่แสนจะทรหดเท่านั้น
แต่ด้วยความที่ผลการเรียนไม่ได้ดีเลิศ จึงทำให้การสมัครเรียนนั้นลำบาก แต่ความพยายามทั้ง 4 ปีก็ไม่ได้สูญเปล่า ระหว่างรอผลการพิจารณาผมใช้ประสบการณ์การทำงาน เป็นเครดิตสมัครเข้าเรียนต่อปริญญาโทในไทย แล้วใช้ผลการเรียนของ ป.โท มาเสริมเพื่อลบจุดด้อยที่คะแนนตอน ป.ตรีทำได้ไม่สวยเอาเสียเลย
ปีนั้นชีวิตต้องประสบทั้งโชคไม่ดี และโชคดี เรียนป.โท จบพอดี ส่งรูปเล่มวิทยานิพนธ์เรียบร้อย ผลทุนที่ญี่ปุ่นก็ประกาศออกมาว่าผ่าน เหลือระยะเวลาก่อนเดินทาง 4 เดือนพอดิบพอดี จึงใช้เวลานั้นในการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมบางส่วน
คือวันที่ 30 กันยายน 2546 และเป็นเวลาของวันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันที่ผมเดินทางออกนอกประเทศแบบยาวนานครั้งแรก .... คืนที่คุณแม่แวะมาส่ง พี่ชายก็แวะมา ทุกคนต่างมุ่งหวังว่าผมคงจะเอาชีวิตรอดตัวคนเดียวได้ และก็ไม่เป็นปัญหา เพราะผมสามารถเอาตัวรอดได้ แม้ระยะแรกเรื่องภาษาจะเป็นอุปสรรค แต่ด้วยสภาพแวดล้อมรอบตัว ทั้งอาจารย์ เพื่อนนักศึกษาทั้งชาวไทย ชาวญี่ปุ่น และจากอีกหลาย ๆ ประเทศต่างเป็นมิตร รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจการนักศึกษาต่างชาติ ก็ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
ความรู้สึกจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ณ ที่แห่งนี้จึงเปรียบเสมือนบ้านอีกแห่งหนึ่งของผม.....
จากวันนั้นผ่านมาวันนี้อีกไม่ถึงเดือนก็จะครบ 4 ปีถ้วนแล้ว ผมคงต้องมานับถอยหลังเพื่อหยุดยั้งความหลงระเริงกับชีวิตต่างแดนของตัวเองไว้ เร่งมือทำงานทดลองให้ได้ผลออกมาดีที่สุด แม้ที่ผ่านมาจะทำดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ต่อจากนี้ความผิดพลาดจะต้องเกิดขึ้นน้อยที่สุด แม้ตอนท้ายอาจได้ผลที่ออกมาไม่ดีอย่างที่คาดหวัง แต่ก็คงไม่ทำให้เสียชื่อคนไทยอย่างแน่นอน
.....เห้ออ....ตั้งใจว่าจะเล่าให้เป็นเรื่องก้อม ๆ (ก้อมเป็นภาษาอีสาน แปลว่า เรื่องสั้น ๆ เช่น นิทานก้อม ก็คือนิทานอีสป หรือนิทานเรื่องสั้น เป็นต้น) ....แต่ก็ไม่ได้ก้อมอย่างที่ตั้งใจไว้เลย เอาไว้เดี๋ยวมาเพิ่มเติมดีกว่า ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่บ้าง
Create Date : 13 กันยายน 2550 |
Last Update : 13 กันยายน 2550 9:25:19 น. |
|
13 comments
|
Counter : 764 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Cheerfully วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:9:52:57 น. |
|
|
|
โดย: p_tham วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:11:03:19 น. |
|
|
|
โดย: นู๋เดียร์ (nadear_ku ) วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:14:26:35 น. |
|
|
|
โดย: Deedy79 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:15:10:38 น. |
|
|
|
โดย: Tsuwamono วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:19:04:47 น. |
|
|
|
โดย: Tsuwamono วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:17:40:29 น. |
|
|
|
โดย: I^^ วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:21:31:25 น. |
|
|
|
โดย: neaq วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:13:03:45 น. |
|
|
|
โดย: Tsuwamono วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:17:43:38 น. |
|
|
|
โดย: zuling68 วันที่: 28 ตุลาคม 2550 เวลา:16:11:04 น. |
|
|
|
| |
|
|
อีก12เดือนเอง เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว
สู้ๆค่ะ ทุกอย่างที่เราทำ ถึงมันจะไม่ดีที่สุดสำหรับใครๆ แต่ดีแล้วสำหรับก็พอแล้วนะค่ะ
ยังไงก้เอาใจช่วยนะค่ะ
ไว้รอต้อนรับกลับบ้าน อีก12 เดือนค่ะ