แหล่งรวบรววมวิธีเล่นหุ้น
 
เกี๊ยวซ่า "ซ่า" ตรงไหน?

ตู้จดหมายพลศรี

ยศพิชา คชาชีวะ สถาบันแม่บ้านทันสมัย



"จานคะ จานขา เกี๊ยวซ่า "ซ่า" ตรงไหนคะ หนูว่าไม่เห็นซ่าเลย หรือจานว่าไงคะ ตอบให้หนูหายสงสัยที แล้วอย่าลืมลงสูตรเกี๊ยวซ่าให้ด้วยนะคะ ชอบกิน แต่ทำไม่เป็น เผื่อจะเอาไปทำขายด้วย ขอบพระคุณจานมากนะคะ จานขา ฮิ ฮิ

หนูขี้สงสัย"

นานๆ ที จะมีเด็กวัย "จ๊าบ" ถามมารื่นเริงซะที คุณหนูขี้สงสัยไปหยอดไว้ในเว็บบอร์ด //www.mwthaicook.com ครับ ได้เลย "เกี๊ยวซ่า" เดี๋ยวชาม เอ๊ย! จาน ตอบให้ (หนูขี้สงสัยเรียกเต็มๆ ว่า อาจารย์ป๊อป ดีกว่ามั้ง หรือ พี่ป๊อป ก็ได้ 55555)

สูตรน่ะตอบไม่ยาก แต่ที่ถามว่า "เกี๊ยวซ่า ซ่า ตรงไหน" นี่ เล่นเอาตาลาย นั่งหาในอินเตอร์เน็ตไปครึ่งค่อนวันกว่าจะได้คำตอบมาให้หนูขี้สงสัย

ถ้าไม่ได้ไปค้น ก็คงตอบแบบข้างๆ คูๆ ว่า ทำไมถึงชื่อ เกี๊ยวซ่า ก็เพราะรูปร่างมันเหมือนเกี๊ยว แล้วเวลาทอดกับน้ำมัน พอสะดุ้งไฟมันเลยดังซ่าๆ เลยเป็น "เกี๊ยวซ่า" เป็นไงเก๋พอม้า...

แต่จริงๆ เกี๊ยวซ่า "ซ่า" จริงๆ นะครับ สมัยเกี๊ยวซ่าเข้ามาเมืองไทยใหม่ๆ น่าจะถึง 20 ปี มีเจ้าหนึ่งฮิตมากอยู่ในห้างแถวราชดำริ ตอนนี้รื้อไปแล้ว เวลาเดินผ่านเกี๊ยวซ่าเจ้านี้ ต้องหลบให้ดี เพราะคุณเธอทอดจนไฟลุกท่วมถึงเพดาน จนเขาต้องทำกระจกกันไม่ให้โดนคน ที่มันไฟลุกได้ เนื่องจากกรรมวิธีทอดเกี๊ยวซ่าแบบต้นตำรับนั้น เขาจะทอดเกี๊ยวซ่าให้พอสุกก่อน แล้วเทน้ำลงไปหน่อยนึงเพื่อให้เกี๊ยวซ่าดูดน้ำเข้าไปแป้งจะได้นิ่ม ทีนี้น้ำกับน้ำมัน มันไม่ถูกกัน น้ำมันจะหนีน้ำไปโดนไฟเกิดเปลวไฟลุกท่วม ไปดูคนทอดเกี๊ยวซ่ายุคนั้นเถอะครับ ขนคิ้วหายหมด

ร้านที่ทอดเกี๊ยวซ่าไฟลุกแบบนี้ ไม่เห็นเจอแล้ว ส่วนใหญ่จะทอดจี่ๆ หรือบางร้านเอาลงทอดน้ำมันท่วมเลย เสียสถาบันเกี๊ยวซ่าหมด ที่เขาไม่ต้องใส่น้ำกันแล้ว เนื่องจากตัวเกี๊ยวซ่าพอห่อเสร็จ เอาไปนึ่งให้สุกนิ่ม แล้วค่อยมาทอด ไม่มีความจำเป็นต้องมาทำให้นิ่มตอนทอดอีกต่อไป

ความหมายเกี๊ยวซ่าข้างต้นอย่าไปจำนะครับ แต่เอาไว้เล่าเล่นสนุกๆ ได้

ถ้าบอกคุณหนูขี้สงสัยว่า เกี๊ยวซ่า เดิมชื่อ "เจียวซิ" จะเชื่อไหม แต่อย่า เติม "ไม้ตรี" ไปข้างบนคำว่า "เจียว" เป็นอันขาด เดี๋ยวจะโดน "เส้นทางเศรษฐี" เซ็นเซอร์ซะ ลองออกเสียงกันดูเองเถอะครับ อย่าอ่านไป หน้าแดงไปแล้วกัน

"เจียวซิ" เป็นภาษาจีน (Jiaozi) คือ เกี๊ยวซ่าของจีนนั่นเอง เป็นของพวกเดียวกับติ่มซำ มีทั้งแบบนึ่ง แบบทอด แบบนึ่งเรียกว่า "ชูเจียว" ห้ามเติมไม้ตรีเหมือนกัน คราวนี้ชูกันน่าดูเลย ว่ากันว่า เจียวซิ มีมานานนับเป็นพันปี พอตกมาถึงญี่ปุ่น พวกซามูไรออกเสียงไม่เหมือนคนจีน แม้ว่าจะเขียนเหมือนกัน ดันไปออกเสียงว่า "เกี๊ยวซ่า"

คำว่า "เจียวซิ" แปลตรงตัวว่า "ติดกระทะ" คือ เอาเกี๊ยวซ่าไปทอดกับกระทะจนเกรียม หน้าของเกี๊ยวซ่ากับหน้าของกระทะ มันแนบชิดติดกัน

อีกทางหนึ่งว่า "เจียว" แปลว่า "เขาสัตว์" รูปร่างเกี๊ยวซ่าเหมือนเขาสัตว์ เลยได้ชื่อว่า "เจียวซิ"

เจียวซิ ข้ามไปถึงเกาหลี เพราะสืบเชื้อสายมาจากเทือกเถาเหล่ากอเดียวกัน แต่ไปที่เกาหลี ชื่อไม่เกี่ยวกับ "เจียวซิ" แล้ว คนเกาหลีเรียกว่า "แมนดู (Mandu) มาจากคำจีนว่าอะไร ทราบไหมครับ "หมั่นโถว" ไง หรือแป้งนึ่ง ซาลาเปาไม่มีไส้ แล้วแต่จะเรียก ทว่าหน้าตาของแมนดูเกาหลีไม่เหมือนหมั่นโถวที่เราคุ้นๆ ดันไปเหมือนเกี๊ยวซ่ามากกว่า

ตำรับเจียวซิ เกี๊ยวซ่า แมนดู มีวิธีทำแป้งคล้ายๆ กัน ต่างกันที่ไส้ อย่างของจีนมีทั้งใส่ไส้หมู แพะ เนื้อ ไก่ ปลา กุ้ง ผัดรวมกับผักต่างๆ ที่นิยมกันคือ กะหล่ำปลี ต้นหอม มีไส้ที่ต่างไปมากคือของเกาหลี ยังไงๆ ต้องใส่ผักดองกิมจิ ขาดไม่ได้เด็ดขาด

ความแตกต่างของเจียวซิ กับ เกี๊ยวซ่า ที่สำคัญ ญี่ปุ่นจะใส่กระเทียมเยอะกว่า และแป้งบางกว่าของจีน

น้ำจิ้มของทั้งสองประเทศ ใช้ซีอิ๊วใส่น้ำส้มสายชูเหมือนกัน อาจจะเติมพริกป่น น้ำมันงา แล้วแต่ชอบ

แป้ง ใช้แป้งสาลีทำขนมปัง เพราะเวลานวดแล้วมันจะเหนียวหน่อย

ส่วนผสมแป้งเกี๊ยวซ่า มีดังนี้ครับ

แป้งขนมปัง 200 กรัม

น้ำเดือด 3/4 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

ใส่แป้งลงในชาม ค่อยๆ เทน้ำเดือดๆ ตามลงไป ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน จึงใส่น้ำมันพืช แล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน นวดไม่นานเท่าไหร่ก็จะเนียนแล้ว

พอเนียนได้ที่ เอาออกมาคลึงบนโต๊ะเรียบๆ ใช้ไม้คลึงขนมปัง ขวดเบียร์ ตามสบาย คนญี่ปุ่นจะใช้ไม้กลมเล็กๆ ยาวๆ คลึงให้เป็นแผ่นบาง พยายามให้ออกมาเป็นแผ่นกลม โรยนวลแป้งเล็กน้อย กลับด้านบ้างก็ได้ คลึงบางได้ที่ แต่อย่าบางมาก เวลาห่อจะขาด นำพิมพ์วงกลม แบบพิมพ์โดนัต กดให้เป็นแผ่นกลม ใครรีดแป้งโย้ไปเย้มา เวลาตัดจะเปลืองแป้ง เศษแป้งที่เหลือนำมารวม คลึงใหม่ได้ แต่จะได้เนื้อแป้งไม่ค่อยดีนัก

ได้แป้งแผ่นกลมๆ แล้ววางซ้อนกันไว้ กลัวติดโรยนวดแป้งบ้าง

มาทำไส้กัน

ส่วนผสมไส้

ไข่ไก่ 2 ฟอง

น้ำมันงา 2 ช้อนชา

ซีอิ๊วญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

เนย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 2 ช้อนชา

หอมหัวใหญ่

หั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1/4 ถ้วย

ขิงขูด 1/2 ช้อนชา

หมูบด 150 กรัม

ใบกุยช่ายหรือต้นหอม

หั่นละเอียด 50 กรัม

กะหล่ำปลีหั่นฝอย

ลวกแล้วบีบน้ำออก 1/3 ถ้วย

วิธีทำ

ต่อยไข่ไก่ใส่อ่าง ใส่น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น เกลือ น้ำตาล พริกไทยป่น คนให้เข้ากัน

กระทะตั้งไฟ ใส่เนยและน้ำมัน จะได้หอมๆ ใช้น้ำมันอย่างเดียวก็ได้ ผัดหอมใหญ่ ขิงขูด จนหอมดี หอมใหญ่สุกใส จึงใส่เนื้อหมูลงผัด ใช้ตะหลิวยีๆ ให้ละเอียดดี เทส่วนผสมไข่ไก่ ลงผัด ใส่กุยช่าย ไม่ชอบกลิ่นแรงใช้ต้นหอมแทน กะหล่ำปลีลงไปด้วย ผัดให้แห้งดี ตักใส่ชามพักไว้

ไส้นี่จะดัดแปลงใส่เห็ดหอมลวกแล้วหั่นเป็นเส้นเล็กๆ แคร์รอตต้มหั่นเส้นเล็กลงไปด้วย ไม่ผิดกติกา

มาห่อไส้กัน วางแป้งวงกลมบนฝ่ามือ พับจีบห่อเป็นครึ่งวงกลม แล้วใส่ไส้ลงไป บีบริมติดให้สนิท แตะน้ำนิดหน่อยที่ริม หรือไม่แตะก็ได้ มีวิธีห่ออีกแบบ วางแผ่นแป้ง ใส่ไส้ แล้วพับครึ่ง จีบริม หนีบเป็นช่วงๆ อย่างนี้จะสวยน้อยกว่าอย่างแรก

พอทำได้เยอะแล้ว เอาลงไปทอดน้ำมันไม่ต้องมาก แค่จี่ๆ ตามความนิยม ให้ด้านหนึ่งแบนแล้วเหลืองหน่อย ไม่ต้องกลับ หยอดน้ำลงไปเล็กน้อย จะทำไฟลุกก็ตอนนี้แหละ ไฟลุกพรึ่บพรั่บดีแล้ว หาฝาลังถึงมาปิดให้ไอน้ำมันอบอวล รมเกี๊ยวซ่า จนแป้งนิ่ม น้ำแห้งดี ประมาณ 3-4 นาที แง้มดูหน่อยๆ ทอดอย่างนี้จะได้ข้างล่างเกรียม ข้างบนแป้งนิ่ม ไส้สุก มีน้ำเนื้อน้ำผักชุ่มอยู่ข้างใน กินอร่อยมาก

ไม่ถนัดทอดแบบนี้ ให้นำเกี๊ยวซ่าที่ทำได้ไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ทีนี้มันสุกแล้ว เอาไปจี่กับน้ำมันในกระทะเฉยๆ พอเกรียม แต่แบบนี้ ความชุ่มของน้ำหวานของไส้ข้างในจะหายไป แต่ชัวร์ปึ้กว่าเกี๊ยวซ่าสุกแน่

เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้ม และกะหล่ำปลีหั่นฝอย

น้ำจิ้ม

น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วญี่ปุ่น 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันงา 2 ช้อนชา

งาคั่วบุบ 1 ช้อนชา

ผสมทุกอย่างคนให้เข้ากัน แค่นั้นเอง รสจะเค็มๆ เปรี้ยวๆ บางตำรับใส่กระเทียมสับด้วย

สูตรนี้เหมือนเกี๊ยวซ่าที่กินทุกเมื่อเชื่อวัน แถมสูตรแมนดู เกี๊ยวซ่าเกาหลีให้ เอาเฉพาะไส้พอ เพราะแป้งทำเหมือนกัน

ไส้เกี๊ยวซ่าเกาหลี

เต้าหู้ขาวบด 1/4 ถ้วย

กิมจิหั่นละเอียด บีบน้ำออก 1/4 ถ้วย

เนื้อหมูบด 1/2 ถ้วย

กระเทียมสับ 1 ช้อนชา

แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันงา 2 ช้อนชา

ไข่ขาว 1 ฟอง

เกลือ 1 ช้อนชา

พริกไทย 1/2 ช้อนชา

ผสมทุกอย่างเข้ากัน เป็นอันเสร็จ นำไปใส่ไส้ได้ รสชาติเผ็ดหน่อยๆ ขึ้นกับกิมจิ แปลกดีเหมือนกัน

เกี๊ยวซ่าที่ทำเสร็จแล้ว และนึ่งสุก นำไปแช่แข็งเก็บไว้ทอดกินหรือทอดขายทีหลังได้

ตกลงคุณหนูขี้สงสัย คงหายสงสัยแล้วนะครับ ว่า "เกี๊ยวซ่า" น่ะ มัน "ซ่า" ที่ตรงไหน


Create Date : 23 ธันวาคม 2550
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 8:13:33 น. 4 comments
Counter : 3893 Pageviews.  
 
 
 
 
น่าอร่อย จะลองทำดูค่ะ
 
 

โดย: kokophiz วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:16:38:53 น.  

 
 
 
เพิ่งทำกินไป กลางวันนี้เองค่ะ ...สูตรตามมีตามเกิด เอาเป็นว่าคล้าย ๆ สูตร ที่ให้มา สูตรที่ให้มานี่ดูขลังดี ขอจ๊กสูตรไปทำดูนะคะ

ขอบคุณค่ะ
 
 

โดย: Aunti-นก วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:9:28:07 น.  

 
 
 
เพิ่งรู้นี่เองว่าเกี๊ยวซ่า แรกเริ่มมาจากประเทศจีน
 
 

โดย: ป้า (ลักกี้ ) วันที่: 26 ธันวาคม 2550 เวลา:21:35:09 น.  

 
 
 
 
 

โดย: dogamania วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:2:27:59 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

hoon_vi
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




เป็นนักลงทุนมือใหม่ กำลังหาวิธีการเหมาะสำหรับตัวเอง ชอบการถ่ายรูป ท่องเที่ยว เขียนบทความ
[Add hoon_vi's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com