แหล่งรวบรววมวิธีเล่นหุ้น
 
Money Game : Growth VS Value

Money Game : Growth VS Value

กลยุทธ์ลงทุนใน Growth stock (หุ้นเติบโตสูง) หรือ Value stock (หุ้นที่เน้นมูลค่า ในทางปัจจัยพื้นฐาน หรือ Cheap valuations) ซึ่งจะเป็นเหรียญสองด้าน ซึ่งเดินขนานกันในบางจังหวะของการลงทุน การลงทุนใน Growth stock จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ในบางจังหวะการลงทุนใน Value stock จะให้ผลตอบแทนสูงกว่า เนื่องจากการลงทุนในหุ้นจะขึ้นอยู่กับการคาดหวัง และการคาดการณ์ (Perception) มากกว่าความเป็นจริง (Reality)


นักลงทุนที่ชาญฉลาดจะต้องคาดการณ์ที่เหนือความคาดหมายของตลาดให้ได้ (Earning surprises) และทิศทางของการปรับเปลี่ยนผลดำเนินงาน (Directions of revisions to consensus exceptions) การหาจังหวะลงทุนให้ถูกต้อง ซึ่งสามารถหาได้จาก “วงจรการคาดหวังของผลกำไร” (Earnings Expectations Life Cycles) ดังนี้

จากวงจรดังกล่าว นักลงทุนที่เน้น Growth (หุ้นเติบโตสูง) จะเริ่มศึกษาการลงทุนในหุ้นทันทีที่นักวิเคราะห์เริ่มปรับประมาณการกำไรขึ้น ในขณะที่นักลงทุนประเภทเน้นมูลค่าเริ่มศึกษาการลงทุนทันทีที่นักวิเคราะห์ปรับผลการดำเนินงานลง ซึ่งจะเห็นว่านักลงทุนเน้น Growth และนักลงทุนเน้นมูลค่า (Value) จัดเป็นเหรียญ 2 ด้านซึ่งเดินขนานกัน

นักลงทุนที่เน้น Growth จะต้องค้นหาหุ้นที่มี Growth Momentum คือ ผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง เมื่อไรก็ตามที่ Growth Momentum ลดลง หุ้นนั้นจะไม่เป็นที่น่าสนใจเลย โดยปกติหุ้นที่เน้นการเติบโตจะมี 4 ประเภท คือ

หนึ่ง.. ประมาณการของผลกำไรเติบโตมาก (Projection Earnings Growth)

สอง.. การปรับผลกำไรให้สูงขึ้นของนักวิเคราะห์ในหุ้นนั้น (Upward Earning Revision)

สาม.. ผลกำไรออกมาดี และ Surprise ตลาด (Positive Earnings Surprise)

และ สี่.. หุ้นที่ผลกำไรต่อเนื่อง (Earnings Momentum) จากการศึกษาในการเคลื่อนไหวของหุ้นในอดีต ราคาหุ้นจะตอบสนองต่อกรณีที่สองและสามมากที่สุด นั่นคือ การปรับประมาณผลกำไรเพิ่มขึ้นของนักวิเคราะห์ และการที่หุ้นที่มีผลกำไรที่ Surprise นักลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่เน้นมูลค่า (Value) จะค้นหาหุ้นที่ถูกลืมและมีความคาดหวังต่ำ (Low expectation) เผื่อถ้ามี Earning surprise ขึ้นมา หุ้นตัวนั้นจะปรับตัวขึ้นทันที มีงานวิจัยที่ผมได้ศึกษามา ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจดังนี้คือ หุ้นที่เน้นมูลค่า (Value stocks) จะให้ผลตอบแทนที่สูง ในสามกรณีดังนี้คือ

หนึ่ง ผลกำไรของหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์ดีต่อเนื่อง (Continued earnings momentum)

สอง การคาดการณ์ของดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น และ

สาม การจ่ายเงินปันผลเพิ่ม สัดส่วนรายได้ลง (Payout Ratio) อย่างเช่นหุ้นบ้านเราในช่วงสองปี (ปี พ.ศ. 2547 และปี 2548) ที่ผ่านมา หุ้นที่ P/E ต่ำจะให้ผลตอบแทนสูง ในขณะที่หุ้นเติบโตสูง (Growth stocks) จะให้ผลตอบแทนสูงในกรณีดังต่อไปนี้

หนึ่ง.. ผลกำไรของหุ้นทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์เริ่มลดลง ทำให้หุ้นที่มีการเติบโตโดดเด่นจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ สอง.. การคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะลดลง และการจ่ายเงินปันผลเทียบสัดส่วนของรายได้เพิ่มขึ้น (Rising Ratio)

ซึ่งเราได้เห็นปรากฏการณ์ในหุ้นบ้านเราช่วงนี้ นั่นเอง (ปี พ.ศ.2549)



Create Date : 20 เมษายน 2549
Last Update : 20 เมษายน 2549 19:43:39 น. 0 comments
Counter : 477 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

hoon_vi
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




เป็นนักลงทุนมือใหม่ กำลังหาวิธีการเหมาะสำหรับตัวเอง ชอบการถ่ายรูป ท่องเที่ยว เขียนบทความ
[Add hoon_vi's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com