แหล่งรวบรววมวิธีเล่นหุ้น
 
"ซังฮี้" บะหมี่ผสมงาดำ สุขภาพลูกค้าคือกำไรสูงสุด

"หลักๆ มีแป้งหมี่ ไข่ไก่ งาดำ เกลือ และน้ำด่าง ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่น้ำด่างเพราะทำมาจากเปลือกทุเรียนที่ผ่านการเผาจนเป็นขี้เถ้า จากนั้นนำขี้เถ้าไปต้มและพักให้เย็น ค่อยๆ ช้อนน้ำใสด้านบนขึ้นมาเพราะนั่นคือน้ำด่าง มีคุณสมบัติทำให้เส้นบะหมี่เหนียวและนุ่ม"



เมื่อเร็วๆ นี้ ทางสมาคมพ่อครัวไทยและสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมกันจัดงาน Inter Noodle Fest @ Central Plaza Bangna โดยงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้ประกอบการร้านอาหารจานเส้นทุกประเภท รวมถึงผู้สนใจประกอบธุรกิจอาหารจานเส้นและผู้ที่ชอบกินอาหารจานเส้น

สาระสำคัญของงานคือ นิทรรศการความเป็นมาของอาหาร "เส้น" ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล พร้อมสื่อให้เห็นว่าปัจจุบันอาหารจานเส้นเข้ามามีบทบาทเป็นอาหารจานหลักของคนไทยที่กระจายไปทั่วทุกสังคมในเมนูต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีการนำร้านอาหารประเภทเส้นที่มีชื่อเสียงรสชาติอร่อยและหากินได้ยากกว่า 50 ร้าน หรือประมาณ 1,000 เมนู มาให้เลือกรับประทาน อาทิ ร้านผัดหมี่ ร. 5, ร้านขนมจีนน้ำยาสูตรพระนางสุขุมารศรี พระอัครราชเทวี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, ร้านหมี่น้ำในรัชกาลที่ 4 สูตรเจ้าพระยาภาสุกรวงศ์ (พร บุนนาค), ขนมจีนหล่มสักเจ้าแรก, ร้านซังฮี้ บะหมี่งาดำ, ก๋วยเตี๋ยวเรือจากร้านเรือหลุม เป็นต้น

ทั้งนี้ หนึ่งในจำนวนร้านดังที่กล่าวมา "ซังฮี้ บะหมี่งาดำ" ถูกเลือกให้เป็นร้านอาหารประเภทบะหมี่ดีเด่นประจำปี 2551 ด้วยเหตุผลว่า นอกจากเป็นบะหมี่เพื่อสุขภาพแล้วยังใช้วัตถุดิบมีคุณภาพ รสชาติถูกปากคนไทย ที่สำคัญ เจ้าของร้านอัธยาศัยดี เลยทำให้ชนะใจผู้จัดงาน

ความโดดเด่นและจุดขายเมนูดังกล่าวจะเป็นอย่างไร เส้นทางเศรษฐี พาร่วมหาคำตอบ!!!



จากหมอมาเป็นพ่อค้า

ขายบะหมี่แทนลูกสาว

คุณสุระสิทธิ์ ตั้งอุดมศักดิ์ หรือ คุณเฉิน เจ้าของร้านซังฮี้ บะหมี่งาดำ ปัจจุบันอายุ 79 ปี เล่าประวัติส่วนตัวก่อนมาเปิดร้านบะหมี่งาดำว่า สมัยยังหนุ่มเชี่ยวชาญภาษาจีน เลยไปเป็นครูสอนตามบ้านที่อำเภอเบตงในจังหวัดยะลา สักพักคุณลุงที่เป็นหมอจีนรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ให้ไปช่วยงานที่หาดใหญ่ ครั้งนั้นปฏิเสธไม่ได้จึงตัดสินใจไป

"ผมชอบหลายสิ่งในจังหวัดยะลา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สิ่งแวดล้อม และผู้คนเลยเลือกไปสอนหนังสือที่นั่น สอนได้ไม่นานคุณลุงชวนไปช่วยงานที่หาดใหญ่ แม้ไม่ชอบเท่าไหร่แต่ไม่อยากขัดใจผู้ใหญ่ก็เลยตามไป"

เมื่อถึงหาดใหญ่ คุณเฉิน บอกว่า เนื่องจากในแต่ละวันได้ใกล้ชิดและคลุกคลีกับคุณลุงซึ่งท่านไม่หวงวิชาถ่ายทอดความรู้และวิธีคลายเส้นให้ จนเกิดความชอบ สุดท้ายเลื่อนขั้นได้เป็นผู้ช่วย ต่อมาไม่นานพบรักกับ คุณมณีวรรณ์ เลยตัดสินใจแต่งงาน และเลือกออกมาใช้ชีวิตครอบครัวเอง

"หลังจากแต่งงานแล้ว ผมอยากประกอบอาชีพช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เลยดำเนินรอยตามคุณลุงคือ เปิดคลินิกรักษาคนป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ในจังหวัดสงขลา ซึ่งเน้นรักษาผู้ป่วยด้วยสมุนไพร จนราวปี 2543 เคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุรถชนในวันปีใหม่ ซึ่งวันนั้นฝนตกน้ำท่วมใหญ่และบังเอิญรถเสีย แต่มีนัดรักษาคนไข้รายหนึ่งซึ่งยังไงก็ต้องไป ระหว่างยืนรอรถประจำทางมีหญิงสาวขับรถขึ้นมาริมฟุตปาธแล้วเหยียบเข้าที่เท้าทั้งสองถึงกับแหลกละเอียด เลยพักรักษาตัวนานหลายเดือน"

เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวครั้งนั้นทำให้คุณเฉินเข้าเฝือกพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหลายเดือน โดยมีภรรยาดูแลเคียงข้างจนกระทั่งอาการทุเลาลง เขาจึงออกมาพักฟื้นที่บ้าน

นั่นเป็นจุดพลิกผันอาชีพของคุณเฉิน เจ้าตัวบอกว่า หลังประสบอุบัติเหตุร่างกายไม่อำนวยให้กลับไปเป็นหมอ เลยปรึกษาภรรยาเรื่องหาอาชีพใหม่ ระหว่างนั้นลูกสาวคนโตชวนไปขายบะหมี่เกี๊ยว ผมเห็นว่ามีร้านอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนเพิ่ม อีกอย่างญาติที่เป็นเจ้าของสูตรก็ส่งบะหมี่ทุกวัน เลยตัดสินใจลองมาเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวแทน

"ลูกสาวผมเดิมทีขายน้ำสมุนไพรตอนเช้า แล้วขายบะหมี่เกี๊ยวตอนเย็น แต่เนื่องจากตัวคนเดียวทำไม่ไหว เลยให้ผมไปขายบะหมี่แทน อีกอย่างเห็นว่าอาหารนี้กำไรดี เลยมาเป็นเจ้าของร้านแทนลูกสาว"

ร้านขายบะหมี่ของคุณเฉินช่วงแรก เขาว่าเหมือนร้านขายบะหมี่ทั่วไปที่พอขายได้ ต่อมาโชคดีญาติที่เป็นเจ้าของสูตรทำเส้นบะหมี่ในจังหวัดยะลาถ่ายทอดสูตรพร้อมวิธีทำเส้นบะหมี่ให้ เนื่องจากต้องไปดูแลหลาน ต่อมาเลยทำขายเอง



สร้างจุดขายบะหมี่ด้วยงาดำ

ถอดใจย้ายร้านเข้า กทม.

คุณเฉินขายบะหมี่เกี๊ยวราวปีกว่า เขาเกิดความคิดว่าหากขายเส้นบะหมี่ธรรมดาต่อไปโดยไม่มีอะไรแตกต่างจากเจ้าอื่น ก็เหมือนกิจการย่ำอยู่กับที่ จำเป็นต้องหาความแตกต่าง โดยจะใช้ความรู้ด้านการแพทย์เข้ามาผสมผสาน

"ผมอยากสร้างจุดขายให้เส้นบะหมี่ เพื่อว่าร้านจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น อีกอย่างสังเกตว่าคนปัจจุบันเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ เพราะน้ำสมุนไพรที่ลูกสาวขายหมดทุกวัน หากลองนำสมุนไพรมีประโยชน์อย่างงาดำมาผสมเข้ากับเส้นคงดีไม่น้อย เลยเป็นที่มาของเส้นบะหมี่ผสมงาดำ"

ถามคุณเฉินว่าเหตุใดต้องเป็นงาดำ เจ้าของสูตรเส้นสุขภาพว่า งาดำมีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงร่างกาย อีกทั้งตนเองเคยมีปัญหาเรื่องกระดูกข้อเท้า เลยอยากทำอาหารที่มีส่วนผสมของแคลเซียมให้คนที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันได้รับประทาน

คุณเฉินไม่รีรอสานต่อความคิดการทำเส้นบะหมี่ผสมงาดำ เขาเล่าว่า ทดลองผสมงาดำเข้ากับเส้นบะหมี่ โดยใช้เวลาลองผิดลองถูกเป็นเดือนกว่าจะลงตัว เพราะถ้าผสมงาดำมากไปเส้นบะหมี่จะจับตัวเป็นก้อน แต่ถ้าผสมน้อยเกินไปเส้นบะหมี่จะกระดำกระด่างไม่น่ารับประทาน

หลังลองผิดลองถูกจนได้เส้นบะหมี่ผสมงาดำมีคุณภาพ รสชาติและสีสันที่ลงตัว เจ้าของร้านว่า ทำขายทันที ปรากฏรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว ประกอบกับร้านเริ่มมีชื่อเสียงมีลูกค้าขาประจำทั้งคนไทยและคนมาเลเซียมารุมอุดหนุน

2 ปีผ่านพ้น คุณเฉิน เล่าว่า เหตุระเบิดในอำเภอหาดใหญ่อยู่ห่างจากร้านราว 1.5 กิโลเมตร ทำให้หลายคนไม่กล้าออกจากบ้านติดต่อกันนานหลายเดือน จนทำให้ยอดขายตกลงมาก หากดันทุรังเปิดต่อไปร้านคงเจ๊ง เลยหาทางย้ายออกโดยเลือกพาครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานที่กรุงเทพฯ

"ก่อนหน้ามีเพื่อนแนะนำให้ลองไปเปิดร้านที่จังหวัดราชบุรี และเพชรบุรี แต่ในใจคิดอยากไปกรุงเทพฯ เพราะเทียบกันแล้วคนมีมากกว่า อีกทั้งญาติพี่น้องก็อาศัยที่นี่ เลยตัดสินใจพาทั้งครอบครัวย้ายมาเช่าบ้านอยู่ซอยลาดพร้าว 71"

หลังเดินทางมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่นาน คุณเฉิน บอกว่า หาทำเลจนแน่ใจว่าจะอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 และลงทุนเปิดร้านขายบะหมี่เกี๊ยว แต่ครั้งนี้ใช้เงินสูงเบ็ดเสร็จเกือบ 300,000 บาท เป็นค่ามัดจำร้าน 3 เดือน 60,000 บาท ค่าตกแต่งร้าน ค่าวัสดุอุปกรณ์ทำก๋วยเตี๋ยวซึ่งทุกชิ้นใช้สเตนเลสเนื้อดี แต่ขายอยู่ 1 ปี ก็เลิกเพราะขายไม่ดี ซ้ำบ้านเช่ามีปัญหาน้ำรั่วแก้ไม่ตก ตัดใจทิ้งค่ามัดจำและย้ายมาอยู่ที่รามอินทรา กม. 8 ซึ่งเป็นที่ขายในปัจจุบัน



เผยเคล็ดลับทำเส้นบะหมี่

ชูเมนูเพื่อสุขภาพ

"ผมไปตระเวนดูพื้นที่เปิดร้านใหม่ สักพักพบบ้านเช่าติดริมถนนใหญ่ในซอยคู้บอน 15 ย่านรามอินทรา กม. 8 มีผู้คนพลุกพล่าน หมู่บ้านจัดสรร เดินทางเข้า-ออกสะดวก มีทั้งรถประจำทาง รถตู้ วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตลาด และห้างสรรพสินค้า เลยเจรจากับเจ้าของบ้านเรื่องข้อตกลงและสัญญาเช่า ซึ่งสรุปให้เช่าเดือนละ 12,000 บาท จ่ายล่วงหน้า 3 เดือน"

ร้านปัจจุบันที่สองสามีภรรยาร่วมกันสร้างในครั้งนี้ ฝ่ายชายบอกอย่างภูมิใจว่า ถือเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะใช้วัสดุทำก๋วยเตี๋ยวเดิมได้แล้ว ตัวบ้านยังไม่มีปัญหา ซึ่งหลังเปิดร้านไม่กี่เดือน ปรากฏขายดีมาก คำนวณรายได้แล้วดีกว่าตอนอยู่ที่หาดใหญ่เสียอีก

ทุกวันนี้ คุณเฉินกับภรรยาจะตื่นขึ้นมาเตรียมวัตถุดิบราว 06.00 น. ใช้เวลาเคี่ยวน้ำซุป 2 ชั่วโมงก่อนขาย ซึ่งบรรดาของสดที่ใช้ในแต่ละวันเขาว่าเลือกซื้อทั้งจากในตลาด กม. 8 และห้างแม็คโคร เฉลี่ยวันละ 3,000-4,000 บาท แต่เส้นบะหมี่ทำครั้งละ 30-40 กิโลกรัม เพื่อสำหรับให้พอใช้ 2-3 วัน เพราะเส้นยิ่งเก็บนานยิ่งเพิ่มความเหนียวและนุ่มแต่ไม่ควรเกินครึ่งเดือน

ถามเคล็ดลับความอร่อยและสูตรการทำเส้นบะหมี่ผสมงาดำ คุณเฉินเผยเพียงส่วนประกอบคร่าวๆ ให้ฟังดังนี้ว่า

"หลักๆ มีแป้งหมี่ ไข่ไก่ งาดำ เกลือ และน้ำด่าง ซึ่งเคล็ดลับอยู่ที่น้ำด่างเพราะทำมาจากเปลือกทุเรียนที่ผ่านการเผาจนเป็นขี้เถ้า จากนั้นนำขี้เถ้าไปต้มและพักให้เย็น ค่อยๆ ช้อนน้ำใสด้านบนขึ้นมาเพราะนั่นคือน้ำด่าง มีคุณสมบัติทำให้เส้นบะหมี่เหนียวและนุ่ม หาซื้อในกรุงเทพฯ ไม่มีต้องสั่งจากอำเภอเบตงแล้วส่งขึ้นมา ถ้าให้ดีเส้นบะหมี่ควรใช้มือนวด เฉลี่ยที่ร้านจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง ต่อการทำเส้นบะหมี่ 10-20 กิโลกรัม"

ความแตกต่างที่เป็นประโยชน์นี้เองเลยทำให้ร้านซังฮี้ บะหมี่งาดำ เคยมียอดขายสูงสุดวันละ 30-40 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยวันละเกือบ 300 ชาม แต่ทว่าหลังเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณเฉินได้เพิ่มราคาจากชามละ 25 บาท ซึ่งขายมานานหลายปี เป็น 30 บาท ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจเริ่มแย่ทำให้ยอดลดลง ใช้เส้นเหลือวันละ 10 กิโลกรัม

นอกจากบะหมี่ผสมงาดำที่ถือเป็นเมนูหลักที่ลูกค้าติดใจแวะเวียนมาชิมไม่ขาดสายแล้วยังมีบะหมี่ผสมกุ้งแห้งซึ่งรสชาติและประโยชน์ไม่แพ้งาดำ น้ำซุปต้าลิหวัง หมูอบเบตง เอ็นหมูตุ๋นยาจีน บักกุ๊ดเต๋ ขาหมู 3 รส กระเพาะปลา และซี่โครงหมูตุ๋น

ใครสนใจลองลิ้มชิมรสเส้นบะหมี่ผสมงาดำ และเมนูอาหารผสมสมุนไพรจีนหลากชนิดแวะไปชิมได้ที่ร้าน "ซังฮี้" บะหมี่งาดำ ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. อยู่หน้าปากซอยคู้บอน 15 ถนนรามอินทรา กม. 8 อย่าเผลอไปแถวสะพานซังฮี้เด็ดขาด เพราะคุณเฉินบอกว่ามิใช่สถานที่ตั้ง แต่เป็นชื่อร้านมีความหมายว่า "สุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ" หากเกรงว่าจะไปไม่ถูกโทรศัพท์สอบถามคุณเฉินก่อนได้ที่ โทร. (02) 509-3464, (089) 737-7238, (085) 998-0906




Create Date : 17 กันยายน 2551
Last Update : 17 กันยายน 2551 8:59:06 น. 0 comments
Counter : 2311 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

hoon_vi
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




เป็นนักลงทุนมือใหม่ กำลังหาวิธีการเหมาะสำหรับตัวเอง ชอบการถ่ายรูป ท่องเที่ยว เขียนบทความ
[Add hoon_vi's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com