Group Blog All Blog
|
ลองของใหม่ Pizza Hut ขอบเชดดาร์บาร์บีคิว!!?!!
สวัสดีค่าาา~! เรารีวิวเรื่องความงามกันไปบ่อยแล้ว วันนี้เรามาสายของกินกันบ้างเนอะ ของกินที่สั่งง่าย ได้ไว ราคาโอเค ซึ่งมีอยู่ไม่มีกี่อย่างที่เรานึกถึงเวลาขี้เกียจออกจากบ้าน หนึ่งในนั้นก็คือ "พิซซ่า" เพราะงั้นวันนี้เราก็เลยจะมารีวิวพิซซ่าและไก่ เพราะ Pizza Hut เค้ามีเมนูใหม่ล่าสุด คือ พิซซ่าขอบเชดดาร์บาร์บีคิว / ไก่แบล็คเปปเปอร์ / และไก่โคเรียนการ์ลิค วันนี้ที่จะสั่งมาฮัลโหลเทสต์ก็คือ... พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนและไอส์แลนด์ดีไลท์ขอบเชดดาร์บาร์บีคิว + ไก่รวม 2 รสในกล่องเดียว เมื่อในท้องเรียกร้องหาอาหารเราก็เริ่มด้วยการเข้าเว็บไซต์ของ Pizza Hut https://www.pizzahut.co.th/ แล้วก็ล็อกอินสมาชิกเตรียมพร้อมสั่งตามขั้นตอนด้านล่าง 1. เลือกหมวดไปที่พิซซ่า 2. เลือกหน้าพิซซ่าและขอบพิซซ่าของถาดแรก  จากนั้นก็จะมี pop-up ถามว่าจะเอาถาดสองมะยะ ชั้นกลัวเธอไม่อิ่ม แค่ 99 บาทเองนะ เอามะ? ชั้นลดให้  มีหรอทีมอวบอย่างเราจะปฏิเสธ 555+ 3. เลือกตกลงที่จะซื้อถาดที่สองในราคา 99 บาท ย้ำว่า 99!!!! 4. เลือกหน้าและขอบของพิซซ่าถาดที่สองพร้อมตกลงสั่งซื้อ  ยัง...ยังไม่น่าจะอิ่ม ไปต่อกันที่เมนูไก่ค่ะ ซึ่งอยู่ในอยู่ในหมวดอาหารทานเล่น 4. จิ้มไปเลยค่ะเซตน่องไก่รวม 2 รส เพราะอิชั้นกินจุ 5. เลือกรสไก่ที่อยากกิน แล้วพบว่าเค้ามีมาใหม่ต้องสองรสคือ แบล็คเปปเปอร์และโคเรียนการ์ลิค อยากกินนิวออลีนส์กับบาร์บีคิวสไปซี่ อิชั้นเลยจิ้มไปสองอันล่าง(เฉยเลย)  และแล้วเมื่อเลือกเสร็จ เค้าก็จะถามเราอีกว่า Are you sure? 6. จิ้มจึ๊กไปทีว่าอินี่จะกินแน่ๆ 7. เข้าหน้าเสียตังเค้าก็จะมีรายการอาหารพร้อมปุ่มเสียทรัพย์ให้เสร็จสรรพ แล้วเราก็รอกินกันไปยาวๆในเวลา 45 นาทีค่ะ  เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงก็มีรถมอไซต์สีแดงมาจอดหน้ารั้ว พร้อมกับยื่นถุงใบยักษ์บรรจุอาหารของหมูน้อยที่หิวปางตายมาให้เหมือนสวรรค์โปรด  เปิดถุงแกะกล่องก็เจอเมนูอาหารร้อนๆที่เราสั่งไปแบบในรูป น่ากินมากกก หน้าแน่นมากกก ชีสเยิ้มมากก ไก่หอมมากกก !!!!!!!!!!  มาเทียบกันชัดๆกับพิซซ่าสองหน้า แบบว่าอื้อหืมมม อยากกินต้องได้กิน พอได้กลิ่นแล้วก็ฟินน้ำลายไหลลล   อยากรู้ว่าชีสจะเยิ้มแบบในทีวีหรือแค่หน้าตาดีเพื่อหลอกเรา เลยจับแยกส่วนค่ะ พบว่า ของจริงนะ ไม่หลอก ยืดมาก เยิ้มมาก อร่อยมากด้วย   ตามมาติดๆด้วยไก่สองรส เพราะชีวิตไม่เคยพอ นำ้หนักตัวก็เช่นกัน ก็มันน่ากินขนาดนี้ ใครจะห้ามไหว คือแบบซูมเข้าไปยิ่งน้ำลายไหลอ่ะ กลิ่นนี่ก็หอมเหลือเกิน แอบเอานิ้วแตะซอสแล้วชิมนี่ถึงกับเลียนิ้วเลย (บน: ไก่บาร์บีคิวสไปซี่ | ล่าง: ไก่นิวออร์ลีนส์)  คะแนน: 5/5 แบบไม่รู้จะหาอะไรมาติ รีวิววันนี้ขอสรุปสั้นๆได้ว่า: พิซซ่าฮัทสูตรใหม่ อร่อยขึ้นกว่าเดิม แต่ราคาถูกลง(มากกกก) ถาดแรกจากราคา 299 เหลือ 199 บาท ถาดถัดไปแค่ 99 บาท (โปรนี้คุ้มกว่า 1 แถม 1อีกอ่ะ) พิซซ่า: รสชาติอร่อยขึ้นเยอะ แน่นเครื่อง แน่นชีส ก้อย่างที่เห็นอ่ะนะ หน้าดูแน่น เครื่องเยอะ ท้อปปิ้งเน้นๆ และชีสหนักๆ อร่อยสุดๆ ทั้งแป้งทั้งหน้านุ่มและกรุบกรอบ รสชาติ: รสชาติอร่อย ซอสจัดเต็มเข้มข้น(เค้าว่าสูตรใหม่แหละ) เพิ่มปริมาณมากขึ้น ขอบ: ขอบใหม่ "เชดดาร์ บาร์บีคิว" เป็นขอบพิซซ่าเลือกเปลี่ยนได้ฟรี คือดี๊ดีย์ ขอบอร่อยรสผงเชดดาร์ชีสบาร์บีคิวกลิ่นหอม คนชอบชีสห้ามพลาดดด!!! ไก่: เซตไก่นี่คุ้มมากที่มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ กับ 2 รสชาติใหม่ ไก่แบล็คเปปเปอร์ และ ไก่โคเรียนการ์ลิค เลือกรสชาติที่ชอบได้เลยตามสบายในราคาเท่าเดิม คุ้มมากกก 12 ชิ้นเลือกได้ 2 รส แค่ 159 บาท(ปกติราคา 258 บาท) สุดท้ายนี้แค่ไหนดูหน้าก็รู้...  อร่อยฟินๆไม่แบ่งใครกินทั้งนั้น แฮร่~   [Review]สวยแบบคุณอุบลด้วยสมุนไพรพอกหน้าสาวสยาม
สวัสดีค่าาา  ช่วงนี้ก็อินกันไปกับกระแสคุณอุบลในละครเรื่องพิศวาส วันนี้เราก็เลยมานำเสนอการเสริมความงามแบบไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ไทยพื้นบ้านที่เป็นสูตรชาววังต้นตำรับโบราณ ในรูปแบบที่ใช้ง๊ายยง่ายผสมได้กับของคู่ครัว  นั่นก็คือ...สมุนไพรพอกหน้าตราสาวสยาม เห็นมั้ย? แค่ชื่อก็บ่งบอกความเป็นไทยแล้ว สมุนไพรสาวสยามเนี่ยเค้ามีด้วยกัน ๒ สูตร คือ Sao Siam Whitening & Melasma Mask (สาวสยาม ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ เมลาสม่า มาสก์) & Sao Siam Acne & Pore minimizer Mask (สาวสยาม แอคเน่ แอนด์ พอร์ มินิไมเซอร์ มาสก์) _______________________________ ซึ่งสูตรที่เราจะมารีวิววันนี้คือสูตร Whitening & Melasma Mask เป็นสูตรสำหรับผิวหมองคล้ำ มีรอยด่างดำหรือฝ้าแดด มาสก์นี้จะช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส มีสุขภาพดี ปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ขาดความกระจ่างใส ฝ้าตื้นฝ้าลึก กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ พร้อมบำรุงล้ำลึกด้วยคุณค่าของสมุนไพรแท้ 11 ชนิดจากธรรมชาติแท้ ปราศจากสารเคมีและน้ำหอม เพราะฉะนั้นใครแพ้น้ำหอม แพ้ง่าย บอบบาง ผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีเคมีเชิญไปตำกันได้เลยค่ะ !!! ด้านหน้ากล่องก็เป็นรูปนางงามไทยแบบคลาสสิคบนกล่องชมพูหวานๆ เรโทรเบาๆ อ่ะ อ่ะ แต่เดี๋ยวก่อนเห็นไซส์น่ารักแบบนี้กล่องนึงนี่ไม่น้อยนะคะ เธอมาเป็นแพคจ้า ๖ ซอง แล้วแต่ละซองใช้ได้ถึง ๓ ครั้ง !  ด้านข้างกล่องก็จะมีรายละเอียดสมุนไพรที่ผสมลงในในผลิตภัณฑ์ พร้อมบอกสรรพคุณเลอค่าสวนทางกับราคา แถมยังมีวิธีใช้และของที่จะใช้ผสมอีกด้วย ซึ่งหลักๆแล้วก็จะเป็นสูตรที่นิยมกันทั่วไปและรู้จักกันดี อย่างเช่นสูตรโยเกิร์ต น้ำผึ้ง มะนาว อะไรทำนองนั้น  พลิกด้านหลังกล่องมีกลอนให้อ่านด้วยแหละเธอ...อ ช่างมีความเป็นไทยอย่างเต็มเปี่ยมอะไรเช่นนี้  มาดูกันที่ส่วนผสมอันได้แก่... แร่ทัลคัม: ที่เค้าใช้ทำแป้งฝุ่นนั่นแล เกาลิน/คาโอลิน/ดินขาว: เป็นส่วนผสมอย่างนึงในดินสอพองและมาสก์บางชนิด คาลาไมน์: ไว้ทาแก้คัน(มั้ง?) นมผง: อ่านไม่ผิดใช่มั้ย? ชงกินได้มั้ย? แมกนีเซียม คาร์บอเนต: สารประเภทเกลือ ซิงค์ ออกไซด์: ใส่เพื่ออะไรไม่รู้ที่รู้ๆจะได้สีชมพูฟรุ้งฟริ้งถ้าผสมกับทัลคัม แคลเซียม คาร์บอเนต: หินปูนนั่นเอง ผงโยเกิร์ต: น่าจะอร่อยเนอะ กรดบอริค: อันนี้ใส่ทำไมไม่รู้แหะ สมุนไพรที่ใช้: ทานาคา, มะขามเปียก, ขมิ้น, ไพล, มะหาด, ว่านนางคำ, การบูร, น้ำผึ้ง, มะนาว, มะเฟือง, หัวไชเท้า _____________________________________ ด้านหน้าซองจะเป็นเหมือนหน้ากล่องเป๊ะๆแบบ copy&paste ด้านหลังก็เป็นส่วนประกอบเหมือนที่บอกไปก่อนหน้านี้ค่ะ  เปิดตามรอยพับออกมาจะพบว่าหนึ่งซองจริงๆแล้วแบ่งเป็น ๓ ซอง และแต่ละซองมีรายละเอียดพร้อมรูปประกอบถึงส่วนผสม วิธีใช้ สูตรมาสก์ต่างๆ เวลาจะใช้เราก็ตัดแบ่งมา ๑/๓ ซองค่ะ  สูตรที่เราจะมาทดลองวันนี้คือ สาวสยาม + น้ำผึ้ง + น้ำ นะคะ เพราะรู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองหน้าแห้งหน้าลอกเหลือเกิน  วิธีใช้ ๑. ตัดแบ่งสาวสยามมา ๑/๓ ซอง แล้วเทลงบนภาชนะผสม ๒. เทน้ำผึ้งลงไปพอสมควรแล้วค่อยๆคนจนเข้ากันดี แนะนำว่าให้เททีละน้อยไม่งั้นเหลวแล้วมาสก์ลำบากนะจ้ะ ๓. ผสมน้ำเปล่าลงไปนิดนึง หรือจะใส่แค่น้ำผึ้งเพียวๆก็เอาตามสะดวกค่ะ ๔. เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีก็เอามาสก์ทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าแล้วทิ้งไว้ ๑๕-๒๐ นาที  เมื่อทาทั่วหน้าแล้วจะได้สภาพแบบในรูปด้านล่างนี้ค่ะ  ผลลัพธ์: It's Amazing! (เสียงแบบญาญ่าในโฆษณา) มันช่างเลิศเลอเหลือเกิน ราคาไม่แพงแถมได้เยอะยังไม่พอ คุณภาพดีมากกก มาสก์หน้าเสร็จแล้วหน้านุ่มมาก เด้งมาก ชุ่มชื้นมาก ไม่ระคายเคือง ไม่บาดหน้า เนื้อละเอียด ก่อนล้างสามารถสครับวนเบาๆก่อนล้างออกได้แบบไม่ทำร้ายหน้าให้เจ็บแสบ กลิ่นก็ไม่โหดร้ายเพราะไม่ได้กลิ่นเลยสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นสมุนไพร เป็นการฟื้นบำรุงเร่งด่วนที่ได้ผลจริงๆ #พอกหน้าวนไปค่ะ สรุปคะแนน 5/5 บรรจุภัณฑ์: สวยงามและปลอดภัย มีการซีลที่แน่นหนาช่วยในการรักษาคุณภาพ เนื้อผลิตภัณฑ์: ละเอียดดีมาก ไม่บาดหน้า สามารถใช้เป็นสครับได้ไม่ทำร้ายผิว กลิ่น: อ่อนมากกกก ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศหรือสมุนไพรนี่หายห่วง ไม่ได้กลิ่นเลยจริงๆ ความคุ้มค่า: สุดๆ ได้เยอะและใช้ได้นาน ๑/๓ ซองน่าจะใช้ได้สองถึงสามคนอยู่ ราคา: เอื้อมถึงสบายๆ ใครที่สนใจก็สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Saosiam-556235457889243/ หรือหาซื้อได้ที่ 7-11 นะจ้ะ  Sponsor by:  [Review]L'Occitane Immortelle Divine Cream
สวัสดีจ้า~  กลับมาอีกครั้งกับรีวิว Skincare ตัวใหม่ที่แอบไปทดลองใช้มาพักนึง บอกเลยว่าเด็ดดวงเช่นเคย... นั่นก็คือ "L'Occitane Immortelle Divine Cream" ซึ่งครีมนี้เค้าใส่สารสกัดมาจากดอกไม้ที่มีคุณสมบัติพิเศษนั่นก็คือ ดอกอิมมอร์แตล จากเกาะคอร์ซิกา ซึ่งเป็นดอกไม้ที่อายุยืนมากกกก ต่อให้เด็ดดอกก็ไม่เหี่ยวไม่เฉา (คงอารมณ์ดอกบานไม่รู้โรยละมั้ง) ทีนี้ L'Occitane เค้าก็เอามาวิจัยสกัดเอา essential oil เอามาใช้ประโยชน์เพื่อความอ่อนเยาว์หน้าเด้งดึ๋งดั๋งของเราๆทั้งหลาย แต่แค่อย่างเดียวไม่พอเค้าก็เลยใส่ไปอีก 7 อย่าง เพื่อให้เราสวยยิ่งกว่าเดิมค่ะ ส่วนราคานะหรอ? หึหึ เบาๆจิ๊บ 5,190 บาทเอ๊งงงง มีบ่นในใจกันแล้วใช่มั้ยล่ะว่าครีมอะไรแพงอิ๊บอ๋ายย  แต่บอกเลยคุ้มค่า ใช้ได้นานแถมผลลัพธ์ดีเยี่ยม เหมาะกับผิวแพ้ง๊ายยง่ายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความอลังการ บางคนบอกเห้ยแพงไปมั้ย? เพื่อความสวยค่ะ ไม่มีคำว่าเกินไป แต่ก็ไม่ควรฝืนเกินไป ใครมีกำลังทรัพย์แนะนำให้สอยค่ะ!!!  คุณสมบัติของเค้ามีทั้ง ลดเลือนริ้วรอยทำให้ผิวอ่อนเยาว์ ลดเลือนจุดด่างดำทำให้หน้ากระจ่างใส และยังกลิ่นหอมมากกกกก!!! ที่สำคัญใช้ได้ทุกสภาพผิว!!! เราผิวผสมค่อนมันก็ไม่มีปัญหา สิวไม่เพิ่ม แถมผดลดลงด้วย ใช้เองมาเกือบสองอาทิตย์หม่อมแม่บอกว่าตัวนี้เกิดค่ะขุ่นลูกกก ทำให้หน้าปลวกๆของลูกใสขึ้นนะคะ เปรียบเทียบให้ดูก่อนเลย ว่าใช้มาประมาณสองอาทิตย์ สิ่งที่เห็นชัดๆคือรอยอารยธรรมสิวจางลง และหน้าไม่แห้งขาดน้ำเหมือนก่อนหน้านี้ ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นเยอะ ใช้แล้วสวยแน่นอนนนคอนเฟิร์ม ด้านซ้ายเป็นก่อนใช้ ขวาเป็นหลังใช้   แล้วหน้าตาครีมที่ว่าเป็นยังไงล่ะ? ก็นี่งายย... เป็นกล่องสีทองหะหรูหะหราอลังการ ซึ่งพอแกะกล่องมาก็จะเจอ... กระปุกน่ารักกะปุ๊กลุ๊กสีเหลืองฝาสีทองพร้อมช้อนจิ๋วๆไว้ตักครีม  เปิดฝามาเราจะเจอฟอยล์สีทองซีลไว้รักษาคุณภาพของครีม ส่วนเนื้อครีมก็จะเป็นเนื้อครีมสีขาวข้นกลิ่นหอมฟุ้งเหมือนยืนในทุ่งดอกไม้เลยทีเดียว  ทดสอบทาบนมือแล้วจะเห็นว่าเนื้อครีมมีความชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะหนะและยังซึมไวมากๆด้วย ด้วยเนื้อที่เป็นน้ำมัน Divine Cream จะละลายเข้าสู่ชั้นผิว ทำให้คุณรู้สึกสบาย ส่วนผลลัพธ์น่ะหรอ คุณจะได้ผิวที่ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ดูมีชีวิตชีวา และเปล่งประกายสวยงามไงละคะ  แต่ว่าครีมนี้เค้ามีวิธีใช้แบบพิเศษนะ เพื่อความกระชับเต่งตึงประหนึ่งเบบี๋และเพิ่มประสิทธิภาพของครีม ซึ่งเราก็จะมาสอนกันในคลิปด้านล่างนี้นะคะ  สรุปผลคะแนน 4/5 เนื้อครีม: ข้นหนาแต่ทาแล้วไม่หนัก เน้นเรื่องความชุ่มชื้นดีมากแต่ไม่มัน ถ้าทากับรองพื้นถึ่งแมทแบบบางๆจะได้ลุคดิวอี้เหมือนทาคุชชั่น บรรจุภัณฑ์: ดีงาม ไม่ก๊องแก๊งและป้องกันแน่นหนาดูแพงสมราคา กลิ่น: หอมฟุ้งกลิ่นเหมือนเดินในทุ่งดอกไม้ตามชนบทเพราะมีกลิ่นคล้ายๆกลิ่นควันจางๆ ทำให้นึกถึงเวลาเดินในสวนละมีบ้านใกล้ๆก่อไฟทำอาหารหรือก่อเตาผิงหน้าหนาว ทาแล้วให้แฟนหอมแก้มต้องบอกว่าหอมแน่ๆ คุณภาพ: ดีเลิศสมราคา เด่นในเรื่องความชุ่มชื้นและริ้วรอย รู้สึกว่าฟื้นฟูผิวได้ดี ราคา: แอบแพงไปหน่อย แต่มีตังก็ซื้อเถอะ มันคือการลงทุน ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรืออยากสั่งซื้อ ก็เข้าเว็บไซต์ของL'Occitane ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยจ้าา  //goo.gl/xoaZKv Sponsor by:  [Review] Moringa Feel So Good Gift Cube by The Body Shop
ก่อนอื่นขอกราบทักทายงามๆแด่ทุกท่านที่แวะมา และขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ  พบกันเช่นเคยกับรีวิวเสี่ยงตายของคนแพ้ง่าย ที่แพ้เท่าไหร่ก็ไม่เข็ด ลองกันไป อะไรปังอะไรพัง! ของที่เราจะมารีวิววันนี้ก็คือ... "Moringa Feel So Good Gift Cube by The Body Shop " งงละสิ อะไรก้าๆกู้ดๆ หว่า? มันคืออออ ชุดกิฟเซต Shower Gel Lotion and Bath หรือ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ที่มาในขนาด Travel Size เอาไว้พกไปเที่ยว หรือให้เป็นของขวัญก็น่ารักกิ๊บเก๋ยูเรก้านะเธอ...อ ส่วนราคาก็อยู่ที่ 450 บาท แพงไปมั้ย? เดี๋ยวมาดูกันว่าแพงไปหรือคุ้มค่าสมราคา...   นอกจากความน่ารักน่าใช้ของแพคเกจแล้ว Gift Cube ชิ้นนี้ยังทำออกมาได้พร้อมใช้งานเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะมี Bath Gel และ Body Lotion แล้ว ยังมีตาข่ายไว้สำหรับตีฟองที่มาในธีมสีเซ็ตเดียวกันกับแต่ละกลิ่นอีกด้วยนะ (มีทั้งหมด 3 กลิ่น) ความเข้าเซ็ตคือความฟิน ยิ่งเซตนี้สีน่ารักหวานๆอีก ถูกใจเจ๊ค่ะ หลังจาก Unpacked สำรวจของในกล่องกันไปแล้ว เราก็ได้เวลาเปิดขวดฉลอง เอ๊ย เปิดขวดทดลองค่ะ ! แน่นอนว่าก่อนจะทาครีมได้ก็ต้องอาบน้ำก่อน ถูกมั้ย? ดังนั้นชิ้นแรกที่เราจะเปิดขวดทดลองคือ Bath Gel ค่ะ เป็นเจลอาบน้ำสูตร soap-free ช่วยถนอมผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งออร์แกนิคและน้ำมันมะรุมด้วยนะ เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งเหี่ยวนะจ้ะสาวๆ เปิดฝามานี่อยากบอกว่าแค่เปิดฝาขวดก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายมากค่ะ ตอนแรกเราก็สงสัยว่า Moringa หรือ มะรุม บ้านเราเนี่ย มันหอมหรอ? กลิ่นมันจะเป็นยังไง? มันมีกลิ่นหรอ? มันไม่เหม็นเขียวหรอ? แต่... หอมค่ะ! หอมมาก หอมทน หอมนาน หอมสดชื่น กลิ่น Moringa คล้ายๆกลิ่นน้ำผึ้งผสมกลิ่นแป้งๆแบบ musk อะไรแบบนั้น งงมั้ย? เป็นกลิ่นดอกไม้ที่หอมสดชื่นแบบแป้งๆอารมณ์เหมือนกลิ่นดอกมะลิ แต่กลิ่นจะนุ่มกว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าและไม่ฉุน เนื้อเจลพอเทออกมาจะเป็นเนื้อเจลใสเหลวสีเหลืองอ่อนเหมือนน้ำผึ้งเก็บใหม่ๆตามรูปด้านล่างเลย  นอกจากความหอมอลังการแล้วฟองก็อลังการด้วยเช่นกัน เพราะแค่ปริมาณอันน้อยนิดก็สามารถสร้างฟองจนอาบได้ทั้งตัว แต่ว่าต้องสร้างด้วยที่ตีฟองเท่านั้นนะ ! เพราะเราทดลองถูด้วยมือแล้วทำให้เกิดฟองได้น้อยมาก...ก แต่ความหอมอลังการยังเหมือนเดิม ส่วนปริมาณฟองจะเยอะแค่ไหนก็ดูเอาในรูปเลยค่ะ เราเทใส่มือแค่นิดเดียว(แต่มันไหลง่ะ) จากนั้นก็เอาเจลไปถูกับตาข่ายแล้วตีฟองขึ้นมา ได้เยอะจนท่วมขวดเลยล่ะ ถึงขวดนึงจะปริมาณไม่เยอะแต่ใช้ได้นานคุ้มราคาแน่นอน เพราะการอาบน้ำแต่ละครั้งใช้แค่นิดเดียวก็เพียงพอแล้ว ปล.ยกเว้นเอาไปเทใส่อ่างอาบน้ำแล้วนอนแช่นะ อันนั้นเปลือง...ง แน่นอน  อาบน้ำเสร็จเราก็ต้องบำรุงผิวเพื่อความงามอันเป็นนิรันดร์ด้วยโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะฉะนั้นได้เวลาเปิดขวด Body Lotion กลิ่นเดียวกันที่มาในเซ็ตค่ะ เปิดฝามาความหอมอลังการเหมือนกันกับ Bath Gel ไม่มีผิดเลยล่ะ แค่อาบน้ำมากลิ่นที่ติดตัวก็หอมแล้วนะ แต่ว่าไม่พออ่ะ ขอหอมกว่านี้ เราก็จัดการเทเลยค่ะแต่...มันไหลลล!!!! จะบอกว่าเนื้อโลชั่นเหลวมากกกนะคะ ขอให้ระวังเลอะชุดสวยค่ะ พอเห็นมันไหลเราก็เลยรีบลูบๆเลยค่ะ เนื้อสัมผัสโลชั่นบางเบา ไม่เหนอะหนะ ให้ความชุ่มชื้นผิวค่อนข้างดี และกลินติดทนมาก วันไหนใช้เซตนี้ไม่ต้องฉีดน้ำหอมค่ะ เพราะกลิ่นฟุ้งมาก...กกก   สรุปผลการให้คะแนน 4/5 Bath Gel เนื้อสัมผัส : เจลใสเหลว กลิ่น : หอมเหมือนน้ำผึ้งผสมกลิ่นแป้ง สี : เหลืองอ่อนเหมือนน้ำผึ้งเก็บใหม่ๆ ปริมาณฟอง : ค่อนข้างเยอะเมื่อใช้กับที่ตีฟองแต่น้อยถ้าไม่ได้ใช้ ความรู้สึกหลังใช้ : สะอาดดีไม่ลื่นๆแต่ผิวไม่เอี๊ยด และหอมมาก ใช้เดี่ยวๆกลิ่นทติดทนประมาณ 4 ชั่วโมง ความคุ้มค่า : ค่อนข้างคุ้มเพราะราคาเทียบปริมาณการใช้ถือว่าใช้ได้นานพอสมควรแต่ต้องใช้ร่วมกันตาข่ายเท่านั้น ดีที่ทั้งหมดในกล่องเป็นขนาดพกพาเลยลงตัวพอดี Body Lotion เนื้อสัมผัส : ค่อนข้างเหลวอาจจะทำให้เลอะเสื้อผ้าได้ แต่เกลี่ยง่าย กลิ่น : หอมเหมือนน้ำผึ้งผสมกลิ่นแป้ง สี : สีเหลืองนวลอ่อนๆค่อนไปทางขาว การซึมเข้าผิว : ทำได้ดี ซึมไวไม่เหนอะหนะ ความรู้สึกหลังใช้ : ผิวชุ่มชื้นขึ้นแต่ไม่ได้มาก เหมาะสำหรับผิวธรรมดาไม่แห้งมาก ถ้าใช้ร่วมกับ Bath Gel จะทำให้กลิ่นติดทนได้ทั้งวันไม่ต้องใช้น้ำหอม ความคุ้มค่า : ปานกลาง อาจจะไม่ค่อยคุ้มเพราะปริมาณการใช้ในแต่ละครั้งเยอะกว่า Bath Gel ทำให้หมดไวกว่า เหมาะสำหรับเวลาเดินทางหรือออกทริประยะสั้น 1-2 สัปดาห์ สาวๆคนไหนสนใจก็สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เพจ https://www.facebook.com/TheBodyShopTH/ หรือสั่งซื้อได้ที่ //www.thebodyshop.co.th/ และร้าน The Body Shop ทุกสาขานะคะ   [Review] แต่งตาสโมคกี้เบาๆด้วย Barry M Eyeshadow Glow palette 2
สวัสดีค่าาาาาา~ กลับมาพับกบพบกับรีวิวเสี่ยหน้าอีกครั้ง... วันนี้จะมารีวิวของเล่นใหม่เช่นเคย(อินี่ของเล่นใหม่อีกละ  ) ของเล่นของเราวันนี้คือออออออ.... Barry M Eyeshadow Glow palette 2 ว่ากันว่าเป็นฝาแฝดพาเลตดังยี่ห้อนึงในราคาที่เบากว่าหลายเลเวล ส่วนหน้าตาของพาเลตก็แบบรุปด้านล่างเลยจ้ะ สวยเรียบแต่หรู น่าเสียดายที่แพคเกจเป็นกระดาษ ตรงมุมตลับเราเลยโดนพี่ไปรษณีย์ทำร้ายจนเป็นรอยย่นเลย   พลิกมาด้านหลังก็จะเจอรายละเอียดส่วนผสม ฉลาก นู่นนี่นั่น บลาๆๆ  เปิดมาข้างในก็จะเจอความงามของสีสัน ต้องยอมรับว่าสีดูสวยจริงๆ มีทั้งเนื้อแมตและชิมเมอร์ แถมในพาเลตยังมีไพรม์เมอร์มาให้อีก เรียกได้ว่างานสีสันเปลือกตามาครบค่ะ  ชื่นชมกับสีสันกันไปแล้วก็มาทดสอบการใช้งานจริงกันดีกว่าเนอะ สิ่งแรกที่ทดสอบคือไพรม์เมอร์ที่มีมาให้ในตลับ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ต้องทาก่อนแต่งตาค่ะ แต่ขอบอกเลยว่า... ไม่ผ่าน!!!! จริงปกติเราไม่ใช้ไพรท์เมอร์ก่อนทาอายแชโดว์ซักเท่าไหร่ แต่คือเราไม่ปลื้มค่ะเพราะเนื้อหยาบและเป็นก้อนมากๆอย่างที่เห็นในรูปด้านล่าง ยิ่งถ้าเป็นคนเปลือกตามันอาจจะไม่เหมาะอย่างแรง เป็นไพรม์เมอร์ที่อารมณ์เหมือนเอาขี้ผึ้งมาป้ายอ่ะ แล้วกว่าจะซึมกว่าจะเนียนก็ถูวนกันไปค่ะ เลยคิดว่าถ้าใช้จริงอาจจะต้องเอามาวอร์มจนละลายกลายเป็นน้ำมันแล้วค่อยป้ายตารึเปล่า แต่ถึงเป็นยังงั้นใช้ยากขนาดนี้ก็คงไม่เวิร์ก เสียเวลาและเสี่ยงคราบค่ะ   เซ็งกับไพรม์เมอร์กันไปแล้วคราวนี้ก็มาลอง swatch กันดีกว่า ซึ่งในตลับเนี่ยมีมาทั้งหมด 6 สี เราจะ swatch กันทุกสภาพเท่าที่เรานึกออกเลยคือ - swatch แบบทาบนผิวเปลือยๆที่ไม่ได้ทาอะไรเลย - swatch แบบทาบนผิวที่ทาไพรม์เมอร์แล้ว - swatch บนกระดาษ A4  จะเห็นว่าการทาลงบนผิวตรงๆนั้นให้สีค่อนข้างตรงและชัดตามแบบในพาเลต ซึ่งสีทั้งหมดเป็นโทนนู้ดแบบ Natural สำหรับ soft smokey โดยเฉพาะเลย แต่ถ้าทาไพรม์เมอร์ก่อนความชัดก็จะมากขึ้นแต่แอบเป็นก้อน ส่วนทาลงบนกระดาษทำไมสีมันเพี้ยน? แต่ทาบนผิวสวยนะเออ ไหนๆก็เป็นเมคอัพทั้งทีก็เลยมารีวิวสอนแต่งตาง่อยๆ เอ๊ย ง่ายๆ ตามประสา เอาแบบสโมคกี้เบาๆเอาอยู่ทุกงานแต่งได้ทุกวันก็แล้วกันเนอะ สวยแบบนู้ดๆ คัดเบ้าเบาๆ มีประกายเล็กๆ ให้เข้ากับโทนสีในพาเลต เราแบ่งแต่ละสีเป็นหมายเลขตามด้านล่างนะคะเพื่อความเข้าใจง่ายในการบอกว่าใช้สีไหน เพราะเค้าไม่มีชื่อสีบอกมาให้  ขั้นแรกค่ะ ไหนๆก็มีไพรม์เมอร์ก็ใช้ซะหน่อยถึงจะไม่ปลื้มก็เถอะ ถูวนไปค่ะจนกว่าจะเนียนไปกับเปลือกตาเรา เพื่อความคมชัดและทนทาน จากนั้นเราก็ป้ายสีเบอร์ 1 มาทาให้ทั่วเปลือกตาเพื่อเพิ่มความสว่าง และปรับสีเปลือกตาให้ทาสีอื่นแล้วไม่เพี้ยนตามกรอบในรูปเลยนะคะ ป้ายเบอร์ 1 เสร็จเราก็ปาดเบอร์ 3 เป็นรูปตัว J ตะแคง ตามแนวรอยพับของชั้นตาและเบ้าตา ตัวแปรงหัวแบนขนาดเล็กค่ะ  หลังจากปาดเบอร์ 3 เป็นรูปตัว J ตะแคงเสร็จแล้วก็เบลนค่ะ เบลนสีให้ฟุ้งกระจายแบบในรูปด้านล่างด้วยแปรงหัวกลม เราก็จะได้เงาเบ้าตามาแล้วค่ะ มาแบบเบาๆเหมือนตื่นมาเบ้าตาก็ชัดเอง ไม่ได้นอนดึกนะยะ   ยังค่ะยัง เบ้าตามาแล้วก็ยังไม่พอหรอกค่ะ ต้องเบ้าชัดกว่านี้ มีมิติกว่านี้ ปาดสีเบอร์ 5 ตัวแปรงทาตาหัวมนที่ใหญ่หน่อยระบายบริเวณหางตา ระบายเป็นรูปจันทร์เสี้ยวค่ะ ใครว่าจะเป็นรูปอะไรก็เอาที่สบายใจ แต่เป็นตามแบบในรูปด้านล่างแล้วกันนะ  จากนั้นก็เอาแปรงหัวตัดเล็กๆปาดเบอร์ 5 เช่นเดิม ระบายที่ขอบตาล่างจากหางตาเข้ามากลางตาเป็นระยะ 2/3 (งงมั้ยเนี่ย) ถ้าไม่เข้าใจดูกรอบในรูปปลากรอบด้านล่างค่ะ ยังค่ะยังไม่พอ สีมีตั้งเยอะ ใช้แค่นี้มันไม่คุ้มหรอก ปาดสีเบอร์ 6 จากพาเลตด้วยแปรงอะไรก็ตามแต่ที่ถนัด ระบายเป็นรูปไนกี้ตามแนวขนตาจนถึงหางตา แล้วเบลนสีให้ฟุ้งเนียนกลมกลืนไล่ระดับกับสีอื่นที่ปาดไปก่อนหน้านี้ค่ะ  ยังค่ะ ยังไม่เสร็จ!!! ปาดสีเบอร์ 6 อีกครั้งด้วยแปรงที่แบนและเล็กที่สุดเพื่อง่ายต่อการเขียน ใช่ค่ะ เขียนเป็นอายไลน์เนอร์ตามกรอบสีส้มในรูปข้างล่าง จบงานสีเบอร์ 6 ก็ต่อด้วยสีที่จะทำให้ตาเราโดดเด่นๆวิ้งๆ ปาดสีเบอร์ 4 ด้วยแปรงใหญ่หัวมนฟู แล้วป้ายไปที่กลางตาเลยค่ะ เป็นการไฮไลต์ดวงตา ป้ายไปตามกรอบสีชมพูในรูปด้านล่างค่ะ จากนั้นก็ใช้แปรงเล็กๆแต้มสีเบอร์ 4 อีกครั้ง ระบายบริเวณหัวตาและขอบตาล่างจากหัวตาไปกลางตาค่ะ เพื่อให้ดวงตาดูสว่างสดใสบริ๊งๆ สบตาแล้วปิ๊งๆ จบขั้นตอนทาตาก็ปัดมาสคาร่าและกรีดอายไลน์เนอร์แบบน้ำ แบบเมจิก แบบอะไรก็แล้วแต่ตามอัธยาศัยค่ะ ออกมาก็จะได้แบบรูป Finish นั่นแล...  มาดูตอนแต่งเสร็จทั้งหน้าแล้วแบบแสงในห้องและแสงธรรมชาติกันค่ะ ซ้าย: ในห้อง | ขวา: แสงธรรมชาติ จะเห็นว่ามันซอฟต์มากจริงๆ พาเลตนี้สีติดทนแต่ไม่สีไม่เข้มเท่าไหร่ เหมาะกับคนแต่งใสๆ หรือลุควันเบาๆมากกว่านะคะ ถ้าไปแฮงค์เอาท์ยามราตรีไม่แนะนำ  สรุปคะแนน 3/5 แพคเกจ: แข็งแรงในระดับนึงแต่ไม่มากพอทนการกระเทือนหัก 1 คะแนน ราคา: กลางๆไม่แพง นักเรียนนักศึกษาสามารถเอื้อมถึงได้ คุณภาพ: หักคะแนนไพรม์เมอร์ ไม่ปลื้มค่ะ ส่วนสีสันสวยงามตามท้องเรื่อง อยากให้เม็ดสีแน่นกว่านี้แต่ก็เข้าใจว่าสีโทนนี้บางทีปาดไปมันก็ไม่เข้มเท่าไหร่หรอก (แปรงที่แถมให้มาค่อนข้างโอเค) ความคุ้มค่า: ค่อนข้างคุ้มค่าที่จะซื้อเพราะคุณภาพค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคา และเป็นโทนสีที่ใช้ได้ทุกวัน เรียกว่าใช้กันจนหมดตลับได้ ปล.ใครสนใจหาซื้อได้ที่นี่ สุดท้ายนี้ . . . บ๊ายบาย เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ  Sponsor by:  |
Tofu Bubble
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
