|
|
|
คำคมวาทะในสามก๊ก(2)
"ข้าพเจ้ายอมทรยศโลก ดีกว่าให้โลกทรยศข้าพเจ้า" เป็นคำคมวาทะที่แสดงความเด็ดเดี่ยว มั่นคงและแน่วแน่ของโจโฉ
"ความหยิ่งด้วยความโง่ ไม่มีค่าเหมือนผู้ที่หยิ่งด้วยความฉลาด" เป็นคำคมวาะที่แสดงวิสัยทัศน์ของโจโฉ ที่แสดงความเหนือชั้นกว่าอ้วนเสี้ยว
"ซึ่งจะฆ่าไก่และจะเอามีดฆ่าโคมาฆ่านั้นไม่ควร" เป็นคำคมวาทะของฮัวหยงที่แสดงความประมาทข้าศึก
"ตัดต้นรานกิ่งแต่ไม่โก่นราก" เป็นคำคมวาทะของอ้องอุ้น ที่แพ้ภัยในความประมาทของตนเอง
"ซึ่งจะมาถืออิศริยศในท่ามกลางศึกดังนี้ไม่ควร" เป็นคำคมวาทะของโจโฉ ที่กล่าวห้ามปรามอ้วนเสี้ยวในความเป็นเจ้ายศเจ้าอย่าง
"ให้ทุกห้องเต็มไปด้วยมิตร ให้น้ำสุรามฤตจงเปี่ยมทุกถ้วยอยู่ตลอดเวลา" เป็นคำคมวาทะของขงหยงที่แสดงความปกครองราษฏรด้วยความโอบอ้อมอารี
"จนยากแต่มิใช่เห็นเงินทองก็ตาลุก ชาวเสียงสานต้องการดื่มเกียรติ" เป็นคำคมวาทะของจูล่งที่ปฏิเสธการปูนบำแหน็จรางวัลจากการออกศึกสงคราม
"ข้าพเจ้าทำศึกมาแต่หนุ่มจนอายุถึงเพียงนี้ ก็ยังไม่เพลี้ยงพล้ำเสียทีให้ข้าศึกดูหมิ่นได้" เป็นคำคมวาทะของจูล่ง ที่แสดงความไม่หวาดกลัวและย่อท้อในการทำศึกสงคราม
"ดุจแมลงหวี่อันจะต่อสู้ด้วยช้างสาร เหมือนแบกเอาฟางเข้าไปทุ่มที่กองเพลิง" เป็นคำคมวาทะของเตียวเจียว ที่ห้ามปรามไม่ให้ซุนกวนร่วมมือกับโลซก
"มาตรว่าชีวิตเราจะตายในท่ามกลางข้าศึก ก็ให้เอาอานม้าปิดศพไว้ เร่งทำการต่อไป" เป็นคำคมวาทะของจิวยี่ที่สั่งการให้ทหารทำหน้าที่ของตนต่อไป โดยไม่ต้องกังวลของอาการป่วยของตนเอง
"สำหรับชายที่หยิ่งด้วยเกียรติของชายนั้น ในโลกนี้อันใดเล่าจะยิ่งใหญ่เสมอเหมือนกับที่ได้ยินข้อความล่วงเกินมาถึงหญิงอันเป็นสุดที่รักสุดเคารพของตน" เป็นคำคมวาทะของจิวยี่ ที่แสดงความโกรธแค้นโจโฉที่คิดจะพรากหญิงคนรักของตนไปเป็นนางบำเรอ
"ตัวเราเกิดมาเป็นชาย ได้ลั่นวาจาออกมาแล้วก็ไม่คืนคำเลย" เป็นคำคมวาทะของจิวยี่ ที่ยืนกรานแสดงความหนักแน่นในการนำทัพเข้าตีเมืองลำกุ๋น
"ขึ้นชื่อว่าแก้วถึงจะแตกทำลายก็ไม่หายชื่อ เราจะขอทำศึกสงครามด้วยท่านกว่าจะสิ้นชีวิต" เป็นคำคมวาทะของกวนอู ที่แสดงความไม่ย่อท้อในการทำศึกสงคราม
"บุตรของเรานี้เป็นชาติเชื้อเหล่าเสือ ไม่สมควรจะให้แก่สุนัข" เป็นคำคมวาทะของกวนอู ที่ปฏิเสธการยกลูกบุตรสาวให้แก่ลูกชายของซุนกวน
"ครั้นเราจะรุกก็ไม่แลเห็นชัยชนะ จะถอยเล่าก็รังแต่จะถูกเย้ยหยัน แต่เรายังไม่เสียเปรียบเลยในยุทธภูมินี้ ถอยเท่านั้นเป็นทางที่ดีที่สุด" เป็นคำคมวาทะของอ้วนเสี้ยวในการตระเตรียมกำลังไพร่พลในการถอยทัพ
"ท่านอย่าทำการด้วยยโส จะคิดผ่อนปรนให้จงดี อันวู่วามตามความโกรธนั้น ภายหลังจะเสียการไป" เป็นคำคมวาทะของขงเบ้ง ที่แสร้งเตือนจิวยี่ด้วยความปรารถนาดี
"เมื่อมิได้พิเคราะห์ให้ตระหนักก่อน ด่วนมาโกรธฉะนี้ก็จนใจ" เป็นคำคมวาทะของขงเบ้ง ที่ยั่วให้ซุนกวนเกิดความโมโหเพื่อเป็นการหยั่งดูความสุขุมรอบคอบ
"ทั้งกายจะหางามสักหนึ่งก็มิได้ แต่ทว่ามีปัญญาพาทีหลักแหลม รู้วิชาการในแผ่นและอากาศ" เป็นคำคมวาทะของขงเบ้งในการเลือกนางอุยซีเป็นคู่ครอง ที่เต็มไปด้วยความเฉลี่ยวฉลาดมากกว่าความสวยงามของรูปร่างหน้าตา
"ยากจะหาคนใดรู้โชคตน แต่ข้ามีกังวลเพราะเชื่อว่า ที่สุดวันวันหนึ่งคงจะมา ให้ข้าลาวิเวกสุขเข้าคลุกงาน" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ที่ร่ายกลอนโศลกพรรณาถึงความพ่ายแพ้ของตน
"เกิดมาเป็นหญิง จะให้มีชายต้องถึงสองคนก็ไม่ควรนัก" เป็นคำคมวาทะของซุนฮูหยิน ที่แสดงความมั่นคงต่อสามีและไม่อาจมีชายใดอื่นได้อีก
"ธรรมดาภรรยาอุปมาเหมือนอย่างเสื้อผ้า ขาดแลหายแล้วก็จะหาได้ พี่น้องเหมือนแขนซ้ายขวา ขาดแล้วยากที่จะต่อได้" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพี่น้องร่วมสาบาน ที่มีความสำคัญมากกว่าลูกเมีย
"คิดการสิ่งใดก็รู้จักที่หนักที่เบา ทีได้ทีเสีย ยักย้ายถ่ายเทมิให้ผู้ใดล่วงรู้" เป็นคำคมวาทะของโจโฉที่กล่าวถึงลักษณะและคุณสมบัติของชายชาติทหาร
"ธรรมดาเกิดมาเป็นชาติทหารแล้ว ถ้าจะเสียทีก็อย่าเป็นทุกข์ ถึงจะได้ทีก็อย่ายินดี" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ ที่กล่าวปลอบใจทหารและให้เก็บอากัปกิริยาและควบคุมอารมณ์ในการแสดงความรู้สึก
"การจะทำลายล้างคนที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นจากตนดังนี้ ใช่วิสัยชายชาตรีที่พึงทำ" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ ที่กล่าวแสดงความเห็นใจและให้โอกาสลิโป้
"ความโกรธความยินดี มิได้ปรากฏออกมาภายนอก" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ ที่แสดงความสำรวมกายสำรวมใจและกิริยามารยาท
"จะหาสาวงามโลกก็เหลือหา สมเป็นนางพญาอันสูงสุด ไม่คู่ควรกับมนุษย์ผู้ใด ควรสมมุติแต่กษัตริย์ขัตติยา" เป็นคำคมวาทะของตั๋งโต๊ะ ที่กล่าวถึงความงามอันหาที่ติมิได้ของหญิงสาว
"อย่าว่าแต่จะเสียตัวเพียงนี้เลย ถึงจะตายก็ไม่เสียดายชีวิต" เป็นคำคมวาทะของนางเตียวเสี้ยน ที่ยอมพลีกลายเพื่อกอบกู้แผ่นดิน
"ทุกวันนี้ข้าพเจ้าก็คิดว่า ถ้าท่านมีทุกข์สิ่งใด ข้าพเจ้าจะสนองคุณท่าน ถึงมาตรว่าชีวิตจะตายและกระดูกจะแหลกเป็นผงก็ดี" เป็นคำคมวาทะของนางเตียวเสี้ยน ที่ยินดีสนองคุณอ้องอุ้นผู้เป็นบิดาบุญธรรม
| Create Date : 02 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 2 กันยายน 2551 13:46:45 น. |
| Counter : 3554 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
คำคมวาทะในสามก๊ก
นี่เป็นคำคมส่วนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเรื่องสามก๊กนะครับ
"โบราณท่านว่าไว้แต่ก่อนว่า สิบคนจะหาผู้กล้าได้คนหนึ่ง ร้อยคนจะหาผู้มีสติปัญญาได้คนหนึ่ง" เป็นคำคมวาทะของสุมาเต็กโชที่กล่าวแก่เล่าปี่
"แผ่นดินจะกลับก็เหมือนไฟดับสิ้นแสง ถ้ากบทูจะหักจะเอาไม้น้อยค้ำมิอาจทานกำลังไว้ได้ ชาวบ้านนอกผู้มีปัญญาย่อมแสวงหานายที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี" เป็นคำคมวาทะของตันฮก ที่ร่ายบทกลอนสอนใจแก่เล่าปี่ให้เกิดความสนใจ
"ตัวข้าพเจ้าอุปมาเหมือนหนึ่งกา จะมาเปรียบเทียบพญาหงส์นั้นไม่ควร อันม้าอาชามีกำลังอันน้อยหรือจะมาเปรียบกับพญาราชสีห์ได้" เป็นคำคมวาทะของตันฮกที่กล่าวเปรียบเทียบระหว่างตนเองและขงเบ้งต่อเล่าปี่
"ถ้าจะทำการสงคราม พึงให้รู้ลักษณะในไส้ศึกก่อน จึงจะทำการได้ชัยชนะโดยง่าย" เป็นคำคมวาทะของลิเตียน ที่ห้ามปรามไม่ให้โจหยินไปตีเล่าปี่
"อันธรรมดาแม่ลูกกันนี้ก็เหมือนชีวิตเดียวกัน เมื่อมีเหตุฉะนี้ก็เป็นประเพณีบุตรจะสงเคราะห์แก่มารดา ใครห่อนจะทิ้งมารดาเสียได้" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ที่กล่าวแก่ตันฮก เมื่อได้รับอุบายจดหมายของโจโฉ
"ท่านผู้มีสติปัญญานั้น ถึงมาตรว่าจะนั่งนอนหลับตาอยู่ในเรือนมิได้เห็นกิจการทั้งปวงเลย ก็สามารถจะคิดเอาชัยชนะแก่ข้าศึกร้อยพันได้" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ที่กล่าวเกลี้ยกล่อมให้กวนอูและเตียวหุยยอมเชื่อฟังขงเบ้ง
"ถึงมาตรว่าจะมีอันตรายประการใดก็ดี ตัวเราก็จะสู้ตาย ซึ่งจะทรยศต่อผู้มีคุณนั้นเราทำมิได้" เป็นคำคมวาทะของเล่าปี่ ที่ปฏิเสธการเข้ายึดเมืองเกงจิ๋วตามคำแนะนำของขงเบ้ง
"ธรรมดาผู้มีปัญญาอันพิสดาร แม้จะคิดการสิ่งใดก็ลึกซึ้ง ผู้มีปัญญาน้อยหาหยั่งรู้ถึงตลอดไม่ อุปมาเหมือนพญาครุฑ แม้จะไปในทิศใดก็ย่อมบินโดยอากาศอันสูงสุดสายเมฆ มิได้บินต่ำเหมือนสกุณชาติซึ่งมีกำลังน้อย" เป็นคำคมวาทะของขงเบ้ง ที่กล่าวตอกหน้าแก่เตียวเจียวให้ได้รับความอับอาย เมื่อคราวไปกังตั๋งเพื่อเจรจาให้ซุนกวนยอมทำศึกกับโจโฉ
"อันธรรมดาเป็นชายชาติทหาร ถ้าไม่รู้คะเนการฤกษ์บนแลฤกษ์ต่ำ ก็มิได้เรียกว่ามีสติปัญญา" เป็นคำคมวาทะของขงเบ้ง ที่กล่าวแก่โลซกภายหลังจากลวงเอาเกาฑัณฑ์จำนวนมากจากโจโฉ
"ธรรมดาเกิดมาเป็นชาย แม้จะแสวงหาเจ้านายซึ่งจะเป็นที่พึ่งนั้น ก็ให้พิเคราะห์ดูน้ำใจเจ้านายซึ่งโอบอ้อมอารีเป็นสัตย์เป็นธรรมจึงให้เข้าอยู่ด้วย แล้วให้ตั้งใจทำราชการโดยซื่อสัตย์สุจริตประการหนึ่งให้มีใจทำไมตรีแก่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงเก่าแก่ไว้อย่าให้ขาด แม้มาตรว่าจะมีภัยสิ่งใดมาถึงตัว ก็จะเผอิญให้มีผู้มาช่วยแก้ไขพ้นจากอันตรายได้ ถ้าจะคิดการสิ่งใดเล่าก็จะสำเร็จ" เป็นคำคมวาทะของจิวยี่ที่กล่าวแก่เจียวก้าน ถึงการเลือกนายผู้รับใช้ของชายชาติทหาร
"อันประเพณีการสงคราม ควรจะให้นายทหารซึ่งมีฝีมือออกรบพุ่งให้สามารถก่อน อันแม่ทัพจะยกออกก่อนนั้นไม่ควร" เป็นคำคมวาทะของเตียวเหียนที่กล่าวตำหนิการแก่ซุนกวน ในการนำทัพออกทำศึกสงคราม
"ธรรมดานกแม้จะทำรังอาศัย ก็ให้ดูต้นไม้อันร่มชิดจึงจะได้อยู่เป็นสุข อนึ่งเกิดมาเป็นชายก็ให้พึงพิเคราะห์ดูเจ้านายอันมีน้ำใจโอบอ้อมอารี จึงเข้าอยู่ด้วย" เป็นคำคมวาทะของลิอิ๋นที่กล่าวแก่เล่าปี่ที่ยอมสวามิภักดิ์ขอเป็นข้ารับใช้
| Create Date : 01 กันยายน 2551 | | |
| Last Update : 2 กันยายน 2551 13:33:12 น. |
| Counter : 2205 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [