Group Blog
All Blog
เมือง Skagway อลาสก้า
ช่วงนี้มีไฟอยากเขียน อยากเล่า และแชร์ประสบการณ์
ย้อนไปปีที่แล้ว เขียนบล็อกแค่ครั้งเดียว
มันเป็นการบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ขาดแรงบันดาลใจ
และความคิดสร้างสรรค์ ถึงแม้ว่าจะพบเจออะไรมากมาย
แต่มันเขียนไม่ออก คิดไม่ออก มันตัน

การเขียนไม่ใช่แค่คิดแต่จะเขียนอะไรก็ได้
แต่มันเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของเรา
คือฉันเป็นแบบนี้ คิดแบบนี้ สไตล์นี้ก็แสดงออกไป
ไม่มีอะไรถูกผิดเพราะมันเป็นความคิด ไม่ใช่กฎตายตัว
ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ตามอารมณ์ด้วย
ตอนนั้นชอบแบบนั้น ตอนนี้ชอบแบบนี้ ไม่มีแน่นอน

เอาล่ะระบายมาพอแล้ว ขอเข้าเรื่องแล้วกัน
วันนี้จะพาไปชมเมืองเมืองหนึ่งในอลาสก้า
ซึ่งเรารู้สึกว่าเขามีความเป็นเอกลักษณ์ ความโดดเด่น
ที่แปลกไม่เหมือนใคร เมืองเล็กๆน่ารักอีกเมือง
เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองปริศนา คล้ายเมืองคาวบอย
ไม่มีตึกสูงระฟ้า ไม่มีอะไรที่ดูสมัยใหม่จนแปลกแตกต่าง
อาคารแต่ละหลังมีความเป็นตัวของตัวเอง
ทั้งรูปแบบสีสัน แต่เมื่อมันมารวมตัวกันมันเก๋มากกก...

ถนนที่กว้างกว่าปกติทั่วไป บวกกับความเงียบเหงา
ไร้ซึ่งผู้คนมากมาย และแถมยังตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาสูง
อาคารบ้านเรือนสีสันและรูปร่างหน้าแปลกๆ
เมื่อย่างเท้าเข้าไป มันเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกจริงๆ
แบบย้อนยุค ย้อนกาลเวลายังไงยังงั้น
มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
เมืองนี้ก็คือ Skagway, Alaska

ถ้าเราไม่ได้มาเห็นเราก็คงคิดแต่ว่าที่อเมริกา
ประเทศที่เจริญทุกอย่าง เมืองมันต้องเป็นตึกสูงระฟ้า
ต้องทันสมัยไปเสียทุกสิ่งอย่าง
แต่นี่มันคนละขั้วคนละด้าน และเราก็รู้สึกชอบแบบนี้มากกว่า
มันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสมดุล และเกิดมุมมองใหม่ๆ
ขอให้ทุกคนลองสัมผัสดูจ้า แม้จะเป็นแค่ภาพ
แต่มันก็แทนคำพูดเป็นพันๆที่จะเอามาอธิบาย
แทนตัวผู้เขียนได้นะ...คิดว่าได้
ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆค่ะ






















































Create Date : 30 สิงหาคม 2555
Last Update : 30 สิงหาคม 2555 20:57:44 น.
Counter : 1734 Pageviews.

2 comment
เมือง Victoria, British Columbia
อยากจะเล่าถึงความประทับใจเกี่ยวกับเมืองนี้
ซึ่งเป็นเมืองท่าท่องเที่ยวอยู่ในประเทศแคนาดา
เรือที่ไปอลาสก้า ขากลับจะมาแวะที่นี่ก่อน
และจะมาถึงก็เวลาเย็นแล้วประมาณหนึ่งทุ่ม
เรือจะออกอีกทีก็เที่ยงคืน

ในความคิดของเราที่นี่สวยมาก เต็มไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้
ตกแต่งประดับประดาสวยงาม และอากาศค่อนข้างเย็น
ทำให้รู้สึกสะอาด สดชื่น

เรือจอดห่างจาก downtown พอสมควร
จริงๆแล้วก็มีรถบัส รถแท็กซี่บริการตลอด
แต่เราเลือกที่จะเดิน ก็ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที
ตลอดทางเดินร่มรื่น และก็มีลูกเรือหลายคนเลือกที่จะเดินเช่นกัน

โรงแรมเอมเพรสถือเป็นจุดเด่นของเมืองนี้
อยู่ใกล้ downtown มีความสวยงาม และดูเก่าแก่
ดูจากต้นไม้ที่มันเลื้อยคลุมด้านหน้าโรงแรม ธรรมชาติมากจริงๆ
แล้วรอบโรงแรมยังมีสวนดอกไม้ที่สวยงาม
ทำให้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันมากมาย

ทำเลของเมืองถือว่าดีมากๆ ติดกับทะเล
ได้บรรยากาศของความทันสมัย และธรรมชาติที่ลงตัวที่สุด
คือนอกจากจะเจริญแล้ว แต่ต้นไม้ ดอกไม้เขาไม่ทอดทิ้ง
ดูแล ตกแต่งอย่างดีทำให้ดูสวยงามเจริญตา
มีเสน่ห็ติดตรึงใจจริงๆ




























Create Date : 29 สิงหาคม 2555
Last Update : 29 สิงหาคม 2555 21:59:37 น.
Counter : 1289 Pageviews.

3 comment
อยากให้พบรักอย่างมีความคิด


ขอบคุณสำหรับเม้นต์ของคุณโจ๊กหมู เราคงไม่ได้เจอกัน
เพราะระหว่างวันที่ 14-21 ส.ค อยู่ที่บ้านคะ กลับมาพักร้อนแล้ว
ดีใจด้วยคะ ที่ได้ไปเที่ยวไกลถึงอลาสก้า
และยังได้พบปะพูดคุยกับคนไทยที่ทำงานบนเรือ
ก็คงได้เห็น และสัมผัสกับบางด้านในฐานะนักท่องเที่ยว

คนบนเรือคือคนไกลบ้าน มาอยู่ทีก็นานหลายๆเดือน
ความเหงา ความโดดเดี่ยวมันมีอิทธิพลอย่างสูง
ที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้นมามากมาย
ทั้งแบบครั้งเดียว และหลายครั้ง
ทั้งแบบถูกศีลธรรม และแบบผิด เมื่อต่างแต่งงานแล้ว
มันเป็นการทดสอบด้านอารมณ์ จิตใจ
บางคนก็ทำเพื่อความสนุก คลายเครียด และความเหงา
สมกับสโลแกนของบริษัทที่ว่า
Fun For All, All for Fun
ส่วนคนที่จริงจัง นำไปสู่การแต่งงานก็มีมากมาย

ที่ต้องเขียนเรื่องนี้อีกครั้งเพราะคงมีหลายๆคนอยากไปทำงานเรือ
อยากได้เงินเยอะๆอยากมีประสบการณ์ใหม่ๆ
ซึ่งหลายคนคงไม่รู้ว่าจะเจออะไรอยู่ข้างหน้า
เราอยากเสนอเรื่องนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณาด้วย
รู้ก่อนก็มีโอกาสป้องกัน และรู้เท่าทันคน

แน่นอนบนเรือไม่อนุญาตให้มีการคุกคามทางเพศ
ใครทำผิดถูกส่งกลับบ้านทันทีโดยไม่รอช้า
ไม่มีใครข่มขืนใคร ไม่มีใครบังคับใคร
ตัดสินใจกันเองได้แล้ว โตๆกันแล้ว
ใครจะนอนกับใคร ใครจะคบกับใครมีอิสระ
และเพราะการมีโอกาสได้ลองมันก็มีที่พลาด
ไม่มีใครการันตีได้ว่าคนที่ทำงานบนเรือดีทุกคน

ดังนั้นช่วงเวลาสั้นๆบอกอะไรไม่ได้เลยเกี่ยวกับคนๆหนึ่ง
คนที่อยากไปทำงานบนเรือและหาแฟนฝรั่ง
ก็ให้พึงระวังข้อนี้ให้มากๆย้ำว่าให้มากๆๆๆ

คนไทยถือว่ารักกันมากเมื่ออยู่บนเรือ
และสามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ และแน่นอนย่อมห่วงใยกันและกัน
บางครั้งเรื่องของความรักก็นำมาซึ่งความขัดแย้งได้
ทำไมต้องบอกว่าระวังเขาหลอก ทำไมต้องมาคอยกีดกัน
หาว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว ไม่จริง... เขาบอกหนูว่ายังโสด
เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นตลอดเวลา
โดยเฉพาะกับลูกเรือผู้หญิงที่พึ่งขึ้นมาทำงานบนเรือครั้งแรก

ส่วนตัวเราไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้
จุดประสงค์ที่มาทำงานมันต่างกัน
และมันก็เป็นตัววางกรอบให้เราอยู่ในทิศทางที่ถูกที่ควร
อาจไม่สบายตัว แต่ที่ชัวร์ๆคือสบายใจ
และมีความสุขมากๆเมื่อทำงานครบสัญญา
ได้กลับมาพักผ่อนทำตัวเป็นคุณหนูอยู่ที่บ้าน
...อิ อิ อิ...
ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆค่ะ



Create Date : 27 สิงหาคม 2555
Last Update : 27 สิงหาคม 2555 21:10:50 น.
Counter : 1602 Pageviews.

2 comment
เรื่องรักบนเรือ


เส้นบางๆระหว่างคำว่า LOVE และ LUST

ความรัก จะมาช้ามาเร็ว มักจะอยู่นาน
ส่วนตัณหา มาเร็ว เคลมเร็ว ไปเร็ว
ในแง่ของอารมณ์ ความรู้สึกล้วนๆ

ทั้งสองเรื่องมีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง
เราไม่ขอเสนอความคิดเห็นอะไรมากมายกับเรื่องเหล่านี้
แค่เสนอสิ่งที่เกิดจริง เป็นจริง
กับคนหลากหลายเชื้อชาติบนเรือ
เรื่องรักๆก็ยังคงเป็นหลักใหญ่ที่ทุกคนต้องรับรู้
อาจจะเกิดกับตัวเอง หรือคนรอบข้างเสมอๆ

ตัวอย่างที่ 1

ทั้งฝ่ายชายและหญิง ต่างแต่งงานมีครอบครัวแล้วทั้งคู่
มาเจอกันบนเรือ ชอบกัน และมีความสัมพันธ์

ตัวอย่างที่ 2

ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่งงานแล้ว มาเจออีกฝ่ายที่ยังโสด
มาเจอกัน ชอบกัน และมีความสัมพันธ์

ตัวอย่างที่ 3

ต่างฝ่ายต่างโสดด้วยกันทั้งคู่
มาเจอกัน ชอบกัน และมีความสัมพันธ์



Create Date : 23 สิงหาคม 2555
Last Update : 23 สิงหาคม 2555 19:52:39 น.
Counter : 1869 Pageviews.

1 comment
พริก เสพติดของแท้


เรื่องกินคือเรื่องสำคัญ จะมีแรงทำงาน
จะมีความสุข การกินมีผลอย่างมาก
คนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมกินอาหารบนเรือ
เนื่องจากมันไม่ถูกปาก รสชาดไม่ถูกใจ
ดังนั้นก่อนมาลงเรือทุกคนจะเตรียมสเบียงมากันเพียบ อาทิ
มาม่า น้ำพริกหลากชนิด พริกป่น ข้าวคั่ว ใบมะกรูด ของแห้งต่างๆ

ทำงานเหนื่อยแล้ว ได้กินของอร่อยถูกปากเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้น 7
พริกอยู่ในสายเลือดคนไทยจริงๆ
แค่มีพริกมันก็ทำให้อาหารมีรสชาดดีขึ้นอย่างประหลาด ก็ไม่เคยเห็นคนขนของกินขึ้นเรือมาเป็นกระเป๋าๆเหมือนคนไทย ขนกันมาพอมีพอกินจนถึงวันกลับบ้านกันไปเลย
ฝีมือการทำอาหารก็ถือว่าขั้นเทพกันทุกคน
จับโน่นนี่นั้น มาปนกันก็ออกมาอร่อยเกินคำบรรยาย
พอกินเข้าไปหายลงแดง

………………………………



มีสิ่งที่ทำให้เศร้าใจหลังจากฟังข่าว
มีความรู้สึกสงสารเด็กๆโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา
ที่ตีกันทะเลาะกัน และจบกันด้วยการฆ่า
นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งครอบครัว และประเทศชาติ

เด็กเป็นเหมือนผ้าขาวที่ถูกทำให้แปดเปื้อน และเปลี่ยนเป็นสีดำ
จิตใจดำถึงขั้นอำมหิต และรักความชั่วมากกว่าความดีงาม
เด็กที่ไม่ได้ถูกชี้นำให้คิดเป็น ให้มีความเข้มแข็งด้านจิตใจ
ถูกจูงด้วยความคิดผิด ความเกลียดชัง จนทำสิ่งเลวร้าย

มีใครจะช่วยพวกเขาได้ไหม ในเมื่อผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ตกอยู่ในวังวน
ดิ้นรนทำกิน ไม่มีใครสนใจใคร ต่างเอาตัวให้อยู่รอด
ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง และความเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบมาที่ 1
ดูเหมือนทางตันของเด็กๆที่ไม่สามารถพึ่งพาผู้ใหญ่
ให้เป็นที่ปรึกษา เป็นที่พึ่งพา และเป็นตัวอย่างที่ดี

เราเห็นใจเด็กๆ เพราะเราเคยเป็นเด็ก เราเคยคาดหวังจากผู้ใหญ่มาก
อยากให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายหยุด และหันมาหาเด็กๆ
ช่วยกันเสริมสร้าง และแนะนำเด็กไปในทางที่ถูกที่ควร
มีความรัก ความเมตตานำทาง
หนทางที่มืดมิด ยังมีแสงสว่างรออยู่ข้างหน้า



Create Date : 18 สิงหาคม 2555
Last Update : 23 สิงหาคม 2555 19:49:30 น.
Counter : 2658 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  

ใสที่สุด
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



ฉันเป็นคริสเตียน ไม่ใช่โดยกำเนิด
แต่ตัดสินใจเชื่อพระเจ้า ตอนอายุ 17 ปี
ผ่านมาหลายฤดูกาล หลายปี
อยากขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับ
ทุกเหตุการณ์ในชีวิต ทั้งสุข ทุกข์
บนเส้นทางสายนี้ที่ตัดสินใจเลือกแล้ว

Thailand, Bangkok


Sweden, Stockholm
  •  Bloggang.com