แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์
แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
นี่คือคำขวัญของจังหวัดน่าน จังหวัดเล็กๆที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่เป็นจังหวัดที่น่าอยู่เป็นอันดับสามของประเทศ
น่าน มนต์เสน่ห์แห่งล้านนาที่ไม่เคยจางหาย ยังคงรักษาความเป็นมรดกแห่งล้านนาไว้ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา
ในฐานะที่เกิดที่น่าน เป็นคนน่าน โตที่น่านจนถึงอายุสิบห้า จนบัดนี้ได้มีโอกาสได้กลับบ้านอีกครั้งก็ไม่รอช้า ก่อนกลับไปผจญภัยในสังคมเมืือง จึงชวนเพื่อนไปเที่ยววัดในตัวเมืองน่านประเดิมวัดแรก คือวัดพระธาตุแช่แห้งคะ
วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลม่วงตึ๊ด
จากตัวเมืองข้ามสะพานแม่น้ำน่าน ไปตามเส้นทางสายน่าน-แม่จริม
หรือทางหลวงหมายเลข 1168 ประมาณ 3 กิโลเมตร
วัดพระธาตุแช่แห้ง
องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงระฆัง
รูปแบบของพระธาตุแช่แห้ง สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลจากเจดีย์พระธาตุหริภุญ
ไชย โดยรอบองค์บุด้วยทองจังโก (ทองดอกบวบ ทองเหลืองผสมทองแดง)
ทางขึ้นสู่องค์พระธาตุเป็นตัวพญานาค
หน้าบันเหนือประตูทางเข้าพระวิหารเป็นปูนปั้นลายนาคเกี้ยว
ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมเมืองน่าน
เสร็จแล้วก็ตั้งใจว่าจะไปหอศิลป์ริมน่าน อยู่ตรงถนนที่จะไปอำเภอท่าวังผาน่ะคะ
ปรากฎว่าปิดทุกวันพุธ ดันมาสะวันพุธพอดี ซวยมาก อดชมของสวยๆงามเลยคะ เลยถ่ายวิวด้านนอกมาแทน
ระหว่างทางกลับต้นไม้เขียวชอุ่ม รมรื่น สวยงามมากๆเลยคะ
วัดต่อไป คือวัดพระธาตุช้างคำคะ อยู่ในตัวเมืองแล้ว
ตรงข้ามเทศบาลเมืองน่านเลยคะ
ลักษณะ
สถาปัตยกรรมของวัดพระธาตุช้างค้ำนี้ สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย
อาทิ เจดีย์ทรงลังกา (ทรงระฆัง)
รอบฐานองค์พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนและปั้นเป็นรูปช้างครึ่งตัว ด้านละ 5
เชือก และที่มุมทั้งสี่อีก 4 เชือก ดูคล้ายจะเอาหลังหนุน หรือ “ค้ำ”
องค์เจดีย์ไว้ ลักษณะคล้ายวัดช้างล้อม จังหวัดสุโขทัย
และภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดยืนปางประทานอภัย
อายุราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 19 ตรงกับสมัยสุโขทัยตอนปลาย
มีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปปางประทานอภัยที่วัดราชธานี จังหวัดสุโขทัย
พระประธานเป็นปูนปั้นขนาดใหญ่ศิลปะเชียงแสน
ฝีมือสกุลช่างน่านที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งของเมืองน่าน
ถนนเมืองน่านยามเย็น
วัดหัวข่วง ถ่ายจากมุมตรงพระธาตุช้างค้ำคะ
แล้วก็เดินต่อไปวัดภูมินทร์ เจอข่วงเมืองน่านก่อนคะ ข่วงเมืองเป็นบริเวณที่ไว้จัดกิจกรรมต่างๆ มีมาตั้งแต่โบราณแล้วหายไปช่วงนึงคะ ตอนนี้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง
วัดภูมินทร์
จุดเด่นของวัดนี้คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ดู
คล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ
พระวิหารและพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร
และอาคารแนวเหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ
รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ
ได้จำลองพระวิหารหลังนี้ไว้ด้วย
สามร้อยปีต่อมา วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช
เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมนานถึง 7 ปี
จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงก็เขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม”
ในวัดภูมินทร์เป็นชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคน
เมืองในสมัยนั้น
จิตรกรรมฝาผนัง
ภาพนี้เหมือนจะเห็นกันบ่อย
แถวนั้นจะมีร้านขายของว่างอยู่ใกล้ๆ เดินไปทางพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน เลยวัดหัวข่วงไปนิดตรงปั๊มเชลล์จะมีร้านนึงชื่อ
ร้านใจ๋เืมือง เป็นร้านที่สวยงามน่ารักบรรยากาศดีร้านนึงคะ
นมปั่นพระเจ้าจอร์ชถ้วยยักษ์ สามสิบห้าบาท กินคนเดียวไม่หมดแน่ๆๆ
โคโค่่นัทมิลค์ ยี่สิบบาท
ขนมปังไข่พิซซ่า ยี่สิบบาท กินไปแล้วสองคำถึงนึกได้ว่าลืมถ่าย
บรรยากาศที่ร้านคะ
นั่งตรงชั้นสองคะ มุมวีไอพี ฮ่าๆๆๆ
บันไดขึ้นไปคะ
ชันมากระวังนะคะ
บรรยากาศชั้นสอง
น้ำตกรมรื่นมาก
ฟากตรงข้ามมุนถนนกับภาพศิลปะริมทาง
จบแล้วคะ ทริปเมืองน่านครึ่งวัน
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม เว็บการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคะ ที่จริงเมืองน่านยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดหรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แล้วไปเที่ยวกันเยอะๆนะคะ แล้วจะติดใจ อิอิ