ความสัมพันธ์ของจีนและเวียดนามในช่วงศตวรรษที่๑๕-๑๘
ก่อนที่จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเวียดนามในช่วงศตวรรษที่๑๕-๑๘นั้น จะต้องกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเวียดนามคร่าวๆก่อน เวียดนามหรือที่จันเรียกว่าอันนัมนั้น มีบรรพบุรุษดั้งเดิมเยะใต้ที่มีถิ่นฐานอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำแดง อยู่ใตเการปกครองจีนมาตลอดในตั้งแต่สมัยที่จักรพรรดิซือหวังตี้ ราชวงค์จิ๋นรวมประเทศจีนได้สำเร็จ และเมื่อยามใดที่จีนอ่อนแอ ก็จะตั้งตนเป็นอิสระ และอยู่ภายใต้การปกครองของจีนอีกครั้งในสมัยราชวงค์ฮั่นในสมัยของจักรพรรดิอู่ และในสมัยราชวงค์ถังจีนก็เรียกเวียดนามว่าอันนัม การปกครองของจีนในเวียดนาม ในสมัยราชวงค์ถังเป็นไปอย่างราบรื่นในลักษณะรัฐบรรณาการ ส่วนเวียดนามเองก็ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจของจีนเพราะเกรงกลัวจาม อาณาจักรที่อยู่ทางใต้เข่ารุกราน
อย่างไรก็ตามเวียดนามในส่วนที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีนเป็นเพียงเวียดนามเหนือเท่านั้น ไม่ใช่ในส่วนของเวียดนามทั้งหมด ต่อมาในสมัยราชวงค์หมิงจักรพรรดิหย่งเล่อ ได้ขยายราชอาณาจักรของอันนัมไปไกลถึงเมืองดานัง และรุกรานเขตแดนของจามปา ต่อมาในสมัยราชวงค์ตรันห์ของเวียดนามก็สามารถสร้างความเข้มแข็งและเข้ายึดครองส่วนของเวียดนามใต้ที่เป็นของอาณาจักรจามปาได้ ทำให้ชาวจามต้องอพยพลงใต้ไปเรื่อยๆและล่มสลายลงในที่สุด และต่อมาเมื่อถึงสมัยของราชวงค์เหงียนของเวียดนามปกครอง ศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่เมืองเว้ (ขณะนั้นเกิดการแบ่งแยกอำนาจระหว่างตระกูลตรินห์ทางเหนือศูนย์กลางที่ฮานอยกับตระกูลเหงียนที่มีศูนย์กลางอยู่เมืองเว้) จีนในขณะนั้นตรงกับสมัยจักรพรรดิคังซี ราชวงค์ชิง มีคนจีนมากมายหลบหนีพวกแมนจูมาหลบในเวียดนามจักรพรรดิเหงียนทรงให้การต้อนรับชาวจีนเหล่านั้นให้มาตั้งรกราก โดยปราศจากความเกรงกลัวต่อจีน ฉะนั้นจึงเกิดการอพยพของชาวจีนขนานใหญ่มายังดินแดนทางใต้ของเวียดนามแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน๑ ต่อมาชาวเวียดนามได้ขยายลงไปใต้เรื่อยๆเกิดการผสมผสานระหว่างชนชาติเดิมในดินแดนใต้กับเวียดนาม และวัฒนธรรมจีนที่เคยได้รับอย่างเข้มข้นในภาคเหนือก็ค่อยๆมีอิทธิพลเบาบางลงในทางใต้ สรุปได้ว่าเวียดนามอยู่ภายใต้การปกครองของจีนมาอย่างยาวนานทำให้ได้รับอิทธิพลจากจีนมาอย่างเข้มข้น แต่ก็เป็นในส่วนของเวียดนามเหนือในปัจจุบันเท่านั้น อิทธิพลของวัฒนธรรมจีนเบาบางลงในเวียดนามใต้ แต่ก็ความเชื่อในหลักขงจื๊อ หลักการปกครองจากจีน ยังคงใช้กันอยู่ทั่วไปในเวียดนาม แต่ก็เป็นในส่วนชนชั้นปกครองเท่านั้น เพราะในส่วนของประชาชนทั่วไปยังมี อารยธรรมที่เป็นแบบเวียดนามเฉพาะอยู่
ส่วนด้านการค้านั้นหลังจากที่ราชวงค์เหงียนสามารถเข้าปกครองอาณาเขตเวียดนามทางใต้ได้แล้ว ได้เกิดเมืองท่าใหม่นามว่าฮอยอัน (หรือชาวยุโรปเรียกว่าไฟโฟ) ที่ซึ่งชาวญี่ปุ่นและจีนมาชุมนุมเพื่อค้าขายกันและกันกับชาวเวียดนาม เป็นหน้าต่างสู่โลกสำหรับอาณาจักรเหงียน ที่ชาวยุโรปรู้จักในชื่อโคชินไชน่า๒ ศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ ฮอยอันเป็นเมืองท่าสำคัญในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสำคัญพอๆกับเมืองท่ามะละกา และมาเก้า..จีน ญี่ปุ่น โปรตุเกส ชวา อินเดีย (ส่วนใหญ่ จะเป็น จีน กับ ญี่ปุ่น) เข้ามาค้าขายกับเวียดนามโดยทางเรือ แล้วล่องผ่านเข้ามาในแม่น้ำทูโบน ฮอยอันในสมัยนั้นจึงเป็นเมืองท่าและเป็นชุมชนของต่างชาติที่มาค้าขาย ถึงสมัยศตวรรษ ที่ ๑๙ ปากแม่น้ำทูโบนตื้นเขิน ประกอบกับเรือบรรทุกสินค้ามีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ไม่สะดวกในการเดินเรือ จึงย้ายท่าเรือไปอยู่ที่เมืองดานัง ซึ่งห่างออกไปประมาณ ๓๐กม.
Create Date : 18 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 18 ธันวาคม 2553 17:12:48 น. |
|
0 comments
|
Counter : 417 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|