หนังสือจากเทศกาลหนังสือเด็กฯ 2008

เพิ่งเคยเดินงานเทศกาลหนังสือเด็กฯ เป็นครั้งแรกค่ะ

ส่วนงานสัปดาห์หนังสือฯ กับ มหกรรมหนังสือฯ เนี่ย เดินมันทุกปีตั้งแต่จัดที่ข้างคุรุสภาโน่นแน่ะ

ได้ยินเสียงเล่าลือมานานว่างานนี้ คนน้อย แต่บางคนก็ชอบเพราะเลือกหนังสือสบายดี

ตอนแรกที่เข้าไปดูรายชื่อบูธที่มาร่วมงาน ก็คิดว่า กลุ่มคนที่ไปงานนี้แล้วคุ้มน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบอ่านนิยายวัยรุ่น อย่างพวก แจ่มใส ไฟน์บุ้ค ฟิสิกส์เซ็นเตอร์ สถาพร เพราะบูธพวกนี้ไปกันครบ และโปรโมชั่นลดกระหน่ำกันน่าดู (สำหรับหนังสือเก่าๆ)

และเด็กๆกลุ่มนี้ เข้าใจว่าถึงจะเป็นงานหนังสือใหญ่ ก็เดินแต่บูธเหล่านี้อยู่แล้ว



สาเหตุที่ทำให้ปุ๊กได้ไปเดินงานนี้ก็เพราะว่า ตอนนี้ปุ๊กย้ายมาทำงานแถวๆพระราม3 ซึ่งขากลับจะต้องมาต่อรถไฟใต้ดินที่นี่อยู่แล้ว ก็เลยได้แวะมาเดินตอนเย็นวันศุกร์ (วันศุกร์ต้องทำงานด้วยล่ะ)

ตอนแรกก็แอบสนใจ แจ่มใสบุฟเฟต์อยู่หรอก แต่อ่านข่าวของวันที่ 17 แล้วรู้สึกว่าไม่ไหว เลยเปลี่ยนเป้าหมายซะ

ใช้เวลาเดินอยู่ในงานประมาณ 3 ชั่วโมง บูธไม่น้อย แต่บูธดังๆก็หายไปเยอะ บูธดังๆก็ขนหนังสือมาพอเป็นพิธี และไม่มีการตกแต่งเป็นพิเศษแต่อย่างใด

แต่งานนี้ มีหนังสือลดราคาเยอะดีค่ะ

งานนี้คุ้มค่ามาก เพราะได้แต่หนังสือราคาถูกๆทั้งนั้น ในสภาพใหม่กิ๊ก ลดน้อยสุดในงานนี้ที่ได้มาคือ 30% ค่ะ

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง



2 เล่มแรกเป็น J-Light ออกใหม่ในงานนี้ (หายากนะ หนังสือออกใหม่ในงานนี้อ่ะ) โชเน็น อนเมียวจิ เล่ม 6 (กำลังตื่นเต้นเลย) กับเรื่องใหม่ ใต้ฟ้าจันทร์ครึ่งดวง คนขายบอกเป็นแนว Warm-Heart ของชอบเลย ใช้สิทธิ์ member เลยได้ลดราคา 30% ค่ะ จาก 210 บาท เหลือ 145 เท่านั้น



เล่มต่อมานี่ ภูมิใจนำเสนอมากค่ะ

เดินผ่านบูธมติชน เจอซุ้มลดราคาเล่มละ 20 บาท ได้เล่มนี้มาค่ะ The Black Book บันทึกลับหนุ่มน้อยฮอร์โมนพล่าน เล่ม 1 สภาพเหมือนใหม่ พอดีเมื่อต้นเดือนได้ดูละครพิเศษของญี่ปุ่น เรื่องของเด็ก มอ 1 ที่อยากทำตัวเท่ห์เหมือนผู้ใหญ่ เลยสนใจเรื่องของเด็กหนุ่มกำลังโตค่ะ

เล่มนี้ราคาเต็ม 175 ซื้อมาในราคา 20 บาท คุ้มจริงๆ เดินไปจ่ายเงินคนขายบอกไม่เอาเล่ม 2 ด้วยเหรอ ( จริงๆก็อยากเอาค่ะ แต่สภาพมันไม่กิ๊กเท่าเล่ม 1 เลยไม่เอา เผื่อไม่สนุก <= 20 บาทก็ยังงกอีก)

ส่วนเล่มทางซ้ายชื่อ memory box ราคาเต็ม 195 ลดเหลือ 100 บาทถ้วน เป็นบทความเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้อ่านแล้วรู้ๆสึกดีๆค่ะ




เล่มต่อมา คือ Winnie the Pooh Classic เจ้าหมีตัวเหลืองขวัญใจเด็กๆนี่เอง ปุ๊กชอบ Pooh Classic มากกว่าของดิสนีย์ค่ะ Mickey Mouse ก็ชอบแบบ Classic มากกว่าเช่นกัน เล่มนี้ราคาเต็ม 100 ซื้อมา 50 บาท สภาพก็โอเคค่ะ ไม่ใหม่มาก

ส่วนเล่มสุดท้ายซื้อมาจาก Physic Center รื้อมาจากกล่องลดราคา (หนังสือใหม่ไม่โฉบไปเลย 555) ตั้งใจไปหา พลิกตำนานอลเวงแต่ไม่เจอ เลยได้เล่มนี้มา คล้ายๆกันแหล่ะ องค์หญิงสุดวุ่น ชุลมุนข้ามเวลา เป็นเรื่องเจ้าหญิงหนีการคลุมถุงชนเหมือนกัน ราคาเต็ม 165 บาท ซื้อมาในราคา 60 บาทเท่านั้น

หมดแล้วค่ะ ได้มาแค่ 6 เล่ม หมดไป 375 บาท จากราคาเต็ม 845 บาท คุ้มจริงๆนะเนี่ย




 

Create Date : 19 กรกฎาคม 2551   
Last Update : 19 กรกฎาคม 2551 15:00:54 น.   
Counter : 500 Pageviews.  

หนังสือที่ได้มาจากสัปดาห์หนังสือฯ 2008

งานสัปดาห์หนังสือฯ 2008 สำหรับปุ๊ก จบลงแล้ว ....

สำหรับบางคน งานหนังสือยังไม่เริ่ม แต่สำหรับปุ๊ก ปีนี้จบแล้วค่ะ จบภายในวันเดียว ด้วยงบพอประมาณ (แต่น้อยกว่าคราวที่แล้วนะ)

เห็นได้ชัดจากคราวนี้ หนังสือที่ซื้อมามีแค่ 1 ลังเล็กเท่านั้น (เคยทำสถิติมากสุดถึง 2 ลังใหญ่แน่ะ ทำไปได้ไงไม่รู้)

คราวนี้มีเพื่อนเดืนค่ะ ไปกับเพื่อนซี้ที่ทำงานเก่า ตอนแรกก็เดินด้วยกันอยู่ดีๆ หรอก แต่พอเผลอแว้บเข้าไปดูหนังสือข้างทางทีไร หันมาอีกที เพื่อนหายทู้กที ... (ก็คนยังกับหนอนขนาดนั้น)

แต่ไม่เป็นไรค่ะ ด้วยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน หายเมื่อไหร่ โทรตามได้ทันที

งานหนังสือหลายครั้งที่ผ่านมา ปุ๊กไม่ค่อยตื่นเต้น เพราะเดินกี่ปีๆ ก็เหมือนเดิม บูธบางบูธก็หนังสือเดิมๆ แล้วปุ๊กก็เข้าร้านหนังสือตลอดปี เข้าเว็บเช็คข่าวคราวหนังสือตลอดปีเหมือนกัน แล้วก็เป็นคนชอบเก็บหนังสือสวยๆ สภาพดีๆ ด้วย ก็เลยไม่ค่อยสนใจหนังสือเก่าๆ นัก

ถ้างั้น แล้วปุ๊กจะไปเดินงานหนังสือทำไม ทุกปี ๆ

มันอยู่ตรงนี้ค่ะ ... สิ่งที่ดึงดูดให้ต้องไปงานหนังสือ

1. คูปอง Bliss ตอนแรกก็ 30% ตอนนี้มีส่วนลดเพิ่มอีก รู้สึกว่ายังไงๆ ก็ต้องไปใช้

2. หนังสือใหม่ของสำนักพิมพ์ต่างๆ เป็นโรคจิตอ่อนๆ คือ หนังสือเล่มไหนที่ชื่นชอบจะต้องเก็บแบบพิมพ์ครั้งที่ 1 ให้ได้ ถ้าได้จะภูมิใจมาก (ประมาณว่าชั้นเป็นแฟนพันธุ์แท้)

3. ลายเซ็นนักเขียนที่ชื่นชม ต้องไปเจอหน้าให้ได้ทุกครั้ง (ที่มีหนังสือออกใหม่)

งานนี้มีเรื่อง Surprise 2 ชั้นซ้อน (ปลื้มมาก) จะเล่าให้ฟังเดี๋ยวนี้แหล่ะ

Surprise !1 : นิ้วกลมจำหน้าปุ๊กได้ .... O _ o ตอนยื่นหนังสือไปให้เซ็น นิ้วกลมมองหน้าปุ๊กแล้วทักว่า "เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า" ... แปลกใจ ทำไมจำได้ ทั้งๆ ที่มีแฟนๆ มาให้เซ็นหนังสือเยอะแยะ แค่คราวก่อนปุ๊กขนหนังสือทั้งหมดที่ยังไม่มีลายเซ็น ตั้งแต่ "โตเกียวไม่มีขา" ....ไปให้เซ็นในครั้งเดียวแค่นั้นเอง

เป็นนิมิตรหมายอันดี ว่าครั้งต่อๆ ไป นิ้วกลมจะจำชื่อปุ๊กได้ เพราะอะไร อ่านต่อไปละกัน

Surprise !2 : หนุ่มเมืองจันท์จำชื่อปุ๊กได้ O _ O" โอ้ ... ตกใจมากจริงๆ อึ้งไป 2 วินาที เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา เวลายื่นหนังสือให้เซ็น พี่หนุ่มฯ จะทักว่า "เจอกันอีกแล้ว ชื่ออะไรนะครับ" คราวนี้ก็ตั้งใจว่าจะแซวซะหน่อยว่าจำชื่อไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ยคะ ปรากฏว่าพี่หนุ่มฯ ทำ surprise ทักก่อนเลย "เจอกันอีกแล้วนะครับ ปุ๊ก" เล่นเอาตกตะลึงงัน

ไม่เพียงแค่นั้น พี่หนุ่มฯ ยังบอกว่าเข้ามาอ่าน Blog ปุ๊กด้วย เอ ... Blog ไหน ลืมถาม (ดันมีหลาย Blog อีก) เอาเป็นว่า ถ้าพี่หนุ่มเข้ามาอ่านที่นี่ ช่วยเมนท์เป็นที่ระลึกหน่อยนะค้า ไม่เสียแรงที่เอาหน้ากลมๆ ไปเจอพี่เค้าทุกครึ่งปี จากครั้งแรก ฟาสต์ฟู้ดเล่ม 3 มาถึง "ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน" ไปถึงเล่ม 4..5...6...7...8...9....10....11 ในที่สุด หนุ่มเมืองจันท์ก็จำชื่อปุ๊กได้แล้ว ไชโย !!!

ดูจากตัวอย่างนี้แล้ว ก็มีแนวโน้มว่า ถ้านิ้วกลมยังออกผลงานสม่ำเสมอแบบนี้ไปอีกสัก 4 ปี นิ้วกลมก็จะจำชื่อปุ๊กได้ในที่สุด (จะรอวันนั้นนะคะ)

เอาล่ะ มาปิดท้ายด้วยรายการหนังสือดีกว่า

งานครั้งนี้ ปุ๊กซื้อหนังสือไม่กี่บูธเองนะ แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม ค่ะ




1. A Book : คนแน่นมาก เพราะคิดเงินช้า และหนังสือออกใหม่เยอะ วัยรุ่นชอบ ได้มาตั้ง 5 เล่ม ดังนี้

1) ต้นไม้ใต้โลก : ทรงกลด บางยี่ขัน :บทความเกี่ยวกับแนวคิดเจ๋งๆเพื่อลดโลกร้อน ได้ยินคำเล่าลือมานานว่าดี จึงต้องพิสูจน์ด้วยตาตนเอง

2) Tsuzuku : Happy Ending : รวมบทความของนักเขียน A day แน่นอนว่ามีนิ้วกลมด้วย แต่ข้องใจว่า อุตส่าห์ตั้งชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ดันไม่เขียนคำอ่านภาษาไทยไว้ให้ เวลายืนอยู่ที่บูธก็จะได้ยินประมาณนี้ "เอาปกไอติมให้หน่อย" "เอาปกดอกไม้ไฟ" "สนใจ Happy Ending" มั้ยคะ ไม่มีใครเรียกชื่อหัวหนังสือสักคน

3) ปลาดิบจิ้มน้ำปลา : เรียวตะ ซูซูกิ บทความมุมมองต่อเมืองไทยของหนุ่มญี่ปุ่น เล่มนี้เป็นเล่มที่ 3 แล้ว แต่ปุ๊กเพิ่งซื้อ เนื่องจาก 2 เล่มแรก รูปเล่มไม่โดน ถ้าพิมพ์ใหม่เปลี่ยนกระดาษดีๆ แบบเล่มนี้ แล้วจะซื้อย้อนนะคะ

4) นั่งรถไฟไปตู้เย็น : นิ้วกลม นี่ก็ Surprise เห็นว่า "เพลงรักประกอบชีวิต" เพิ่งออกไป ไม่นึกว่าจะมีออกในงานอีก ได้ยินว่าใช้เวลาเขียนแค่เดือนเดียว นิ้วกลม ... ชักจะเก่งเกินแล้วนะคะ คราวนี้ก็ได้ลายเซ็นเรียบร้อยค่ะ

5) โตเกียว กุ๊กกิ๊ก ไกด์ : ตุ๊กตา บทความนำเที่ยวโตเกียว พาไปดูอะไรกุ๊กกิ๊กๆ แต่พอสแกนหนังสือดูแล้ว กลับรู้สึกว่าเหมือนหนังสือพาเที่ยว พาช็อป ธรรมดา ไม่เห็นกุ๊กกิ๊กเป็นพิเศษตรงไหน เด๋วไปอ่านละเอียดๆ อีกที




2 : Bliss : แวะไปตอน 2 ทุ่มกว่า เพราะจดรายการมาเรียบร้อย ไม่ต้องเลือกมาก ได้มาน้อยกว่าครั้งอื่นๆเลย ดังนี้ค่ะ

1) วรรณกรรมเยาวชน - เล่นซ่อนหาตอนกลางคืน ฤดูร้อนแสนเซ็ง
2) วรรณกรรมสดใส - พระเจ้าในห้องสมุด
3) J Light - โชเน็นอนเมียวจิ 5 กับ The Change 1 - 2 สลับตัวมาป่วนวัง

ได้ของแถมเป็นโปสเตอร์ ชานะ บิ๊กเบิ้ม จริงๆ ต้องได้รูปโมโม แต่ขอเปลี่ยน เพราะชอบชานะ




3. ส.ส.ท. : งานนี้ ออกหนังสือใหม๋หลายเล่มเชียว ปุ๊กกำลังจะกลับมาฟิตภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง เลยได้หนังสือมา ดังนี้

1) Let's sing in Japanese : แถม CD ด้วย เรียนภาษาญี่ปุ่นจากเพลง ที่ซื้อเล่มนี้ก็เพราะว่ามันมีเพลงเด็กๆ ที่เอาไว้จำไวยากรณ์ด้วย เช่น รูป te form หรือการนับ จำจากเพลงจะได้แม่นๆ

2) ภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ สไตล์การ์ตูน ชุด การใช้ชีวิตในญี่ปุ่น : เป็นการ์ตูน 4 ช่องประกอบคำอธิบายและเกร็ดวัฒนธรรม เล่มนี้เป็นชุดที่ 2 ชุดแรกคือชุดวัฒนธรรมญี่ปุ่น แน่นอนว่าซื้อเล่มนี้เพราะรูปเล่มงามกว่าเล่มแรกเยอะ

3) เคล็ดลับและมารยาทในการทำงาน : เปล่า ๆ ไม่ได้เป็นคนขาดมารยาทแต่อย่างใด แต่ชอบอ่าน Comic Essay และมันก็มีประโยชน์ด้วย ทำรูปเล่มออกมางามน่าเก็บมากๆ และราคาแพงเอาเรื่องเลยเชียว

หมดแล้ว 3 กลุ่มใหญ่ ที่เหลือเป็นแบบประปรายค่ะ





4. นิยาย : งานนี้ได้นิยายมาแค่ 2 เล่ม (เก่งจังเรา)

1) รักนี้ (แค้น) ต้องชำระ : แก้วกังไส : เคยอ่านแว้บๆ ในไอน้ำ สนุกดี คนเขียนสำนวนดี และเรื่องก็เบาๆ ฮาๆ ดี รู้สึกว่าเป็นนักเขียนที่เอาใจใส่ด้วย เพราะเห็นใช้คำว่า "ล่ำลา" ได้ถูกต้อง Fine Book พิมพ์ออกมาประณีตมากๆ น่าเก็บเป็นที่สุด

2) พิชิตใจองค์หญิงจำแลง : 1 ใน 4 นิยายชุดมากกว่ารัก ที่แจ่มใสเปิดตัวในงานนี้ ซื้อมาลองแค่เล่มเดียวบางๆ เพราะเนื้อเรื่องโดนสุด และปกสวยสุด เป็นนิยายรักในยุคจีนโบราณ





5. บทความ : แยกอันนี้ออกมาต่างหาก เพราะไม่รู้จะจัดกลุ่มยังไง

1) ฝันเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก : หนุ่มเมืองจันท์ : รวมคอลัมน์ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ในหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ลำดับที่ 11 เข้าไปแล้ว เห็นบอกว่าหลังๆ คนชอบนึกว่าเป็นหนังสือบันเทิงมากกว่าหนังสือธุรกิจ ก็จริงอ่ะนะ แต่แบบนี้แหล่ะดีแล้ว

2) เข็มทิศชีวิต : เจอที่ร้าน Book Smile ขายแค่ 59 บาทเท่านั้น เลยซื้อมาอ่านดู พิมพ์ครั้งที่ 51 เข้าไปแล้ว





ตบท้ายด้วยวิชาการสักหน่อย กำลังจะไปสอบ CU-TEP เดือนหน้า เลยซื้อหนังสือมาเตรียมสอบสักหน่อย จะได้มีสาระกับเค้าบ้าง





ส่วนเล่มนี้ Wan Wan ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมเนี่ย ไปหาซื้อในงานแต่หมด วันนี้เลยสอยได้จาก Kinokuniya ในราคาลด 10% ค่ะ ส่วนสมุดบันทึกข้างๆ ได้จากบูธ PC-Book กระดาษดีราคาถูกมาก 30 บาทเท่านั้น

ที่เหลือก็ได้การ์ตูนมา 1 ชุด (5 เล่ม) กับ โปสเตอร์รูปจักรยานเอามาแปะในห้อง บวกค่ารถ ค่ากิน ค่าส่งไปรษณีย์แล้ว ตกราวๆ 3 พันบาทค่ะ


6 เดือนข้างหน้าเจอกันใหม่นะจ๊ะ งานหนังสือฯ




 

Create Date : 31 มีนาคม 2551   
Last Update : 31 มีนาคม 2551 23:52:20 น.   
Counter : 899 Pageviews.  

เตรียมตัวไปช็อป งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2008

อีกไม่ถึง 1 อาทิตย์ งานสัปดาห์หนังสือก็จะเวียนมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว ... ปีนี้ยังไม่ได้กำหนดงบฯ เลย แต่ก็คาดว่าคงไม่ต่ำกว่า 3000 อย่างแน่นอน .... ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา เว็บสำนักพิมพ์ต่างๆ ก็อัพเดทรายชื่อหนังสือใหม่และโปรโมชั่นกันคึกคัก ปุ๊กเลย list รายชื่อคร่าวๆ ที่น่าสนใจมา ดังนี้

Bliss -- คราวนี้ลดเยอะมาก ไม่รู้ทำได้ยังไง ???
- ฤดูร้อนแสนเซ็ง
- เล่นซ่อนหาตอนกลางคืน
- พระเจ้าในห้องสมุด
- The Change สลับตัวมาป่วนวัง 1-2 (หรือ เมื่อคุณหญิงเป็นขุนนาง นั่นเอง)
- โชเน็น อนเมียวจิ 5 ตอน ปลดปล่อยวิญญาณหลงทาง

มติชน
- ฝันเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ( เล่มใหม่ ของคุณหนุ่มเมืองจันท์)

อัมรินทร์
- เรื่องชุดใหม่ของ Meg Cabot ใช่ จับไมค์ ไขคดี ป่าว (แต่อาจไม่ได้ซื้อ เพราะ The Mediator ยังค้างอยู่เล่ม 3 เลย)

แจ่มใส -- คนแน่นมหาศาล ลดน้อยด้วย
- นิยายจีน ชุด มากกว่ารัก อ่านเรื่องย่อแล้วชอบอยู่ 2 เล่ม (คงได้ซื้อ แต่ไม่ซื้อในงานหรอก 555)

ไต้ฝุ่น
-- เกี่ยวโต เมโมรี่ (ผลงานคุณฝนใน bloggang นี่เอง)

ฟิสิกส์ เซ็นเตอร์
-- แผนลับ มัดใจ ยัยตัวแสบ (เข้าใจว่าเป็นโรแมนซ์นะ)

สถาพรบุ้คส์
-- Dragon Delivery 1 - 3

นานมี
-- วาน วาน ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมเนี่ย

Fine Book
-- รักนี้ (แค้น) ต้องชำระ

แค่นี้ก็หลายตังค์แล้ว ... ที่เหลือไปเจอกันในงานเลยแล้วกัน

หนังสือเก่าก็ยังอ่านไม่หมด ก็ยังจะซื้อหนังสือใหม่ๆเพิ่มมาอีก แต่ทำไงได้ล่ะคะ คนมันชอบนี่นา ...




 

Create Date : 23 มีนาคม 2551   
Last Update : 23 มีนาคม 2551 15:39:18 น.   
Counter : 544 Pageviews.  

My Sweet Dragon .. พ่อมังกรแสนหวาน



เมื่อต้นอาทิตย์ การ์ตูนเรื่อง My Sweet Dragon เล่ม 6 ภาคภาษาไทยออกวางแผง .. แล้วเราก็หยิบหมับ ซื้อโดยไม่ต้องคิด

การ์ตูนเรื่องนี้เป็น 1 ในไม่กี่เรื่องตอนนี้ที่ออกปุ๊บ ซื้อปั๊บ และอ่านทันทีโดยไม่โดนดอง ... (ขนาดรักนี้หวานบาดใจยังโดนดองแล้วเลย เพราะช่วงหลังๆนี่ยืดเหลือเกิน น่ารำคาญ)

พระเอกเรื่องนี้เป็นเทพมังกรประจำศาลเจ้า ส่วนนางเอกเป็นลุกสาวของท่านเจ้าอาวาส ทั้งคุ๋เคยเล่นกันตอนเด็กๆ แล้วพระเอกก็ถูกส่งไปเรียนวิชาจนเพิ่งได้กลับมาตอนนางเอกอายุ 16

ท่านเทพมังกรหรือ"ริวคุง" มีหน้าที่คือทำความปรารถนาเรื่องดินฟ้าอากาศของคนในเขตนั้นให้เป็นจริง เช่นมีคนอยากให้พรุ่งนี้อากาศแจ่มใสก็จะจะทำให้ แต่จะต้องผ่านคำขอร้องของนางเอกซึ่งเป็นคู่หมั้น .. ซึ่งทั้งคู่จะได้แต่งงานกันจริงๆก็ต่อเมื่อนางเอกตาย จากนั้นจึงจะได้ไปแต่งงานกันบนสวรรค์

ระหว่างที่ริวคุงใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ ก็ได้แปลงร่างเป็นเด็กหนุ่มสุดหล่อ ..(มาก) แถมยังไปโรงเรียนกับนางเอกซะอีก (ไม่งั้นคงไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้เขียนล่ะมั้ง)

ถ้าถามว่าเสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน สำหรับเรา อันดับแรกคือ ภาพ ค่ะ ลายเส้นเรื่องนี้สวยงามมาก ลายเส้นอ่อนหวาน นุ่มนวล สัดส่วนก็ดี สัดส่วนใบหน้าสวยเอามากๆ (เราไม่ชอบพวกเส้นแข็งๆ หรือพวกคางแหลมๆ ไม่เหมือนมนุษย์)

อย่างที่สองก็คือเนื้อเรื่องที่มี Theme หลักของเรื่องอยู่ ไม่ได้เป็นแค่ชีวิตรักในรั้วโรงเรียน หึงกันไป หึงกันมา อย่างที่การ์ตูนผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นกัน

อย่างที่สามก็คือ การดำเนินเรื่องที่ละมุนละไม มีการแสดงความรู้สึกนึกคิดของตัวละครให้เราได้รู้ด้วย ไม่ใช่มีแต่ Action อย่างเดียว การ์ตูนที่อยู่ในแนวๆนี้ก็อย่างเช่นเรื่อง Clover, แคตตาล็อกรัก, Flower, One way Ticket เป็นต้น .. อ่านแล้วมันรู้สึกเป็น Reality ดี

ทั้งๆที่การ์ตูนดีขนาดนี้ แต่กลับไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก เท่าที่ลองหาใน Internet ดู ไม่เจอเว็บที่เป็น Fan Web ของเรื่องนี้เลย (มีแต่เว็บขายหนังสือ) การ์ตูนเรียบๆแบบนี้ก็คงดังในหมู่แฟนประจำล่ะนะ จะให้ฮือฮาเหมือนพวกการ์ตูน Fantasy อย่าง Arina Tanemura ก็คงจะยากอยู่ .. อีกอย่างหนึ่งก็คือการ์ตูนใน Margaret เท่าที่เห็นก็ไม่ค่อยมี Fan Web อยู่แล้ว สู้ทางฝั่ง Ribon ไม่ได้

ตอนนี้ก็แค่รอให้เล่ม 7 ออก (แต่ฝั่งญี่ปุ่นเอง ยังไม่เปิดเผยหน้าปกเลยอ่ะ)

ใครที่อยากหาการ์ตูนดีๆ เนื้อเรื่องปลอดภัย แล้วก็ภาพสวยๆอ่าน ก็แนะนำเรื่องนี้แหล่ะ ... ออกมาแล้ว 6 เล่ม อ่านให้จุใจไปเลย

ส่วนเรา ตอนนี้เริ่มสนใจเรื่อง Live เห็นเล่ม 11 เพิ่งออก ได้ข่าวว่ามีคนชอบเยอะ เพราะเนื้อเรื่องมันออกแนวโรคจิต เนื้อเรื่องคร่าวๆคือเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียน (คงไม่ได้แกล้งแบบธรรมดา เหมือนจะมีแต่คนเก็บกดอ่ะนะ)

เดี๋ยวจะไปซื้อเล่ม 1 มาลองอ่าน ถ้าสนุกยังไง คงได้เหมายกชุดล่ะนะคะ




 

Create Date : 16 เมษายน 2549   
Last Update : 16 เมษายน 2549 22:12:40 น.   
Counter : 1074 Pageviews.  

GOTH คดีตัดข้อมือ



ออกจะช้ากว่าชาวบ้านเค้าสักหน่อย (มาก) ที่เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน GOTH ผลงานยอดนิยมของ Otsuichi

เพิ่งสอยมาจากงานหนังสือที่เพิ่งจบไป และหยิบมาอ่านก่อนเป็นเล่มแรก อ่านจบภายในเวลาอันรวดเร็ว บอกได้คำเดียวว่าสุดยอด ...

ชอบมากๆ โดยเฉพาะตัวละครเอก เด็กหนุ่ม ... กับสาวน้อยโมริโนะ ชอบบุคลิกของเค้าทั้ง 2 โดยเฉพาะโมริโนะ สีหน้าไร้อารมณ์ใดๆของเธอได้ใจเราจริงๆ

เปิดเรื่องมาเรื่องแรก ปริศนาดำ ... Oh My God !!! ทำไมมันโรคจิตขนาดนี้เนี่ย ... คิดว่าต่อไปคงมันหยดติ๋งๆแน่ๆ แต่อ่านไปอีกหน่อย อ้าว .. จบเรื่องแค่นี้เหรอ ทำเอามึนไปเลย ต้องตั้งสติอยู่นาน ...

พอเปิดไปเรื่องที่สอง ตัดข้อมือ ... พยายามหาอยู่นานเผื่อว่ามันจะไปโยงกับเรื่องแรก (ยังทำใจไม่ได้) แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องกันจริงๆ สำหรับเรื่องนี้เราชอบตอนจบนะ .. ชอบความคิดของตัวเอก แหม... ช่างคิดไปได้

เรื่องที่สาม หมา ... เรื่องนี้เราก็โดนต้มเสียสนิท .. โอตสึนะโอตสึ แต่งมาได้ ... แต่ว่าเราก็เป็นประเภทที่อ่านนิยายสืบสวนหรือฆาตกรรมอะไรก็แล้วแต่ ไม่เคยคิดตามหรือคิดล่วงหน้า หรือเดาตัวฆาตกรเลยแม้แต่น้อย เราปล่อยอารมณ์ไปกับเหตุการณ์ในเรื่อง แล้วพอจะเฉลยก็จะ อ้าว .. เพราะงี้ถึงได้โดนหลอกหักมุมประจำ แต่มันก็สนุกกว่าที่อ่านจบแล้วต้องรำพึงว่า "คิดแล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้"

เรื่องที่สี่ แฝด .. ชอบมาก เรื่องนี้เปิดเผยอดีตของโมริโนะ ตัวละครที่เราชอบมากที่สุดในเรื่อง คนเขียนบอกว่าเรื่องนี้แต่งขึ้นทีหลังสุด เพราะว่าแต่งจนจบแล้วเพิ่งรู้สึกว่า โมริโนะไม่ค่อยมีความสำคัญในเรื่องเลย ก็เลยแต่งเรื่องราวอดีตของเธอเสริมขึ้นมา แต่มันเป็นเรื่องที่โดนใจเรามาก

เรื่องที่ห้า ดิน .. เรื่องนี้เฉยๆน่ะ ถึงแม้จะเปิดเผยสันดานด้านมืดของมนุษย์อย่างถึงแก่น แต่มันไม่ค่อยโดนใจเรา อาจเป็นเพราะมันโรคจิตไม่พอมั้ง แต่ก็ชอบตอนจบนะ ตัวเอกเราเลือดเย็นดีจริงๆ หุหุ

เรื่องที่หก เสียง ... เรื่องนี้ล่ะ สุดยอด อ่านแล้ววางไม่ลง (ยาวอีกต่างหาก) ทำให้ต้องเข้านอนตอนตี 4 ลุ้นแทบแย่ว่าตัวเอกที่เราแอบกรี๊ดจะ ... สุดท้ายคงไม่ต้องบอกว่าโดนหลอกเสียสนิท โดยเฉพาะตอนนี้เป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของตัวเอก ที่ไม่เคยเอ่ยถึงเลยตั้งแต่เรื่องแรก ทำให้เราหน้าหงายไปเลย ... (ทำไมเราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนนะ)

อ่านจบไปแบบไม่อยากให้จบ อยากให้มีเรื่องของโมริโนะมากกว่านี้ แล้วก็อยากให้เฉลยความสัมพันธ์ของตัวเอกทั้งสองว่าจะเป็นยังไงต่อไป เพราะชอบบรรยากาศตอนสองคนนี้เดินด้วยกันมากๆ (แต่คนเขียนบอกว่า ถ้าจะเขียนต่อก็คงเขียนเรื่องราวน้องสาวของพระเอกที่มีอันต้องไปพบซากศพอยู่ร่ำไป) แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันล่ะนะ นิยายหรือละครของญี่ปุ่นชอบจบแบบให้คนอ่านไปคิดต่อกันเองเป็นประจำอยู่แล้วนี่นา

สรุปแล้วคือประทับใจมากกับหนังสือเล่มนี้ อ่านจบรีบไปโปรโมตให้พี่ชายอ่านต่อทันที ..

อ้อ .. เรื่อง GOTH นี่ถูกเขียนเป็นการ์ตูน Manga ด้วย เห็นหน้าพระเอกกับนางเอกแล้ว ใช่เลย สีหน้าอย่างงี้เลย อยากอ่านจัง ไม่รู้ในไทยมีใครพิมพ์ขายหรือเปล่า




 

Create Date : 14 เมษายน 2549   
Last Update : 14 เมษายน 2549 12:21:10 น.   
Counter : 1537 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

hiroko
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




[Add hiroko's blog to your web]