คุณแม่น้องแฝด ฮานากะฮารุ ^^

เข้าสู่สภาวะปรับตัวจริงๆเสียที.....

ช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัว หลังจากที่พี่ศักดิ์ไปทำงานที่ปราจีน โดยกลับบ้านเย็นวันศุกร์  อยู่บ้านเสาร์ - อาทิตย์  และจะกลับไปทำงานวันจันทร์ตอนเช้า

 

เมื่อต้องยอมรับแล้วว่า ช่วงวันทำงานที่พี่ศักดิ์ไม่ได้อยู่ที่นี่.....วิถีชีวิตของอิชั้นจึงต้องมีการปรับใหม่กันบ้าง อะไรบ้าง  ก็มันจะไปเหมือนวันที่สามีอยู่ด้วยกันทุกวันได้ไงอ่า....จริงมั้ย

 

เย็นวันจันทร์ อังคาร พุธ  อิชั้นจะไปวิ่งจ๊อกกิ้งที่สวนสาธารณะตอนเย็น  แม้ว่าการเดินทางไปออกกำลังกายคนเดียว มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุดในสามโลก   แต่ก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้สุขภาพเราแข็งแรงขึ้น  ดีกว่าจมจ่อ นั่งเล่นเน็ททั้งวันที่บ้าน  อันนั้นจะออกแนวทั้งน่าเบื่อ ทั้งชวนอ้วน  และพาลจะซึมเศร้า เพราะคิดถึงพี่ศักดิ์ด้วยSmiley

 

จริงๆการวิ่งไม่ใช่เรื่องยากเรื่องลำบากสำหรับอิชั้น แม้ว่าช่วงแรกๆขาจะตึงบ้าง อะไรบ้าง ยังก้าวไม่ออกเท่าไหร่ เราก็วอร์มๆด้วยการเดินก่อน พอเดินสักระยะ เครื่องร้อนได้ที่..........ก็เริ่มวิ่งล่ะ  ทีนี้ก็ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะครบเวลาตามที่เราพอใจ.....จะบอกว่า ความรู้สึกหลังจากวิ่งเสร็จเนี่ย เป็นอะไรที่วิเศษมากๆ   ตัวจะเบา  เรื่องที่เครียดๆจะมลายหายไป  เป็นความรู้สึกที่ convince อิชั้นให้มาออกกำลังกายได้ทุกครั้ง แม้ว่าจะต้องมาคนเดียวก็ตามSmiley

 

แต่สิ่งที่ยากที่สุด  หลังจากที่วิ่งเสร็จเนี่ย คือ เราจะกินอะไรเป็นมื้อเย็นดีฟร่ะ   พอไม่มีเพื่อนไปกินข้าว อิชั้นก็พาลไม่อยากไปเดินหาของกินซะงั้น ฟังดูแล้วเหมือนจะผอม แต่ก็ไม่ใช่  ท้องมันก็ยังหิว ก็ยังร้องเหมือนเดิมตามประสาคนเคยกิน.......

 

อิชั้นก็เลยเลี่ยงที่จะไปกินตามร้านที่มีคนเยอะๆ  แต่ไปซื้อน้ำผักผลไม้ปั่นตามรถที่ขายข้างทาง  กินให้มันอยู่ท้อง  แถมตบท้ายด้วยน้ำธัญพืช ที่เค้าขายในตอนเย็น มีน้ำถั่วเหลือง น้ำข้าวโพด  น้ำฟักทอง น้ำงาดำ  กินแบบใส่เครื่องนะ  จะบอกว่าอร่อยมากกก แถมราคาถูกด้วย  แค่ 10 บาทเท่านั้น...........อร่อยแถมมีประโชยน์ อิชั้นก็เลยผูกปิ่นโตกับน้ำธัญพืชเจ้านี้แล้ว กินมันทุกเย็น.........


แค่นี้ก็พอทำให้วันๆนึงของเราผ่านไปได้โดยไม่น่าเบื่อแล้วSmiley

 

พอมาถึงวันพฤหัส  วันนี้เราจะกลับบ้านแม่ เนื่องจากน้องสาวหยุดงาน และจะกลับบ้านเพียงอาทิตย์ละครั้ง  ซึ่งก็พอดีเลย....อิชั้นจะได้มีเพื่อนนอนด้วย

 

และข้อดีคือ  นานๆกลับบ้านทีเนี่ย พ่อแม่ร๊ากกก รัก   จะสรรหาของกินมาให้มากมาย  ทั้งอาหารคาวหวาน มาเป็นชุดๆ  จัดว่าเป็นวัน Happy Meal  ของอิชั้นวันนึงเลย  (แล้วตรูจะวิ่งมาเพื่อ........)


....................................................

เย็นวันศุกร์ล๊ะก๊าบบ วันนี้พี่ศักดิ์กลับบ้านแร้ววว

เราจะได้มีเวลาอยู่กับคนที่เรารักได้พักใหญ่ๆเลย  เพราะพี่แกจะอยู่กับเราจนถึงเช้าวันจันทร์  แล้วถึงจะกลับไปทำงานอีกรอบ.....

ฟังๆดูแล้วก็น่าจะโอเค ไม่มีอะไรน่ากังวล แต่มีปัญหาคือ เดือนหน้าพี่ศักดิ์กะเพื่อนจะต้องอยู่เวรวันหยุดกันอาทิตย์เว้นอาทิตย์   ก็คือจะได้กลับบ้านสองอาทิตย์หน....ตอนแรกพี่ศักดิ์มาบอกว่าจะกลับบ้านได้น้อยลงนะ  จะทำยังไงดี  อิชั้นก็ว่าไม่เห็นจะยาก  ก็ตามไปอยู่กะพี่ศักดิ์ในวันหยุดนั้นๆไง  ทั้งนี้ต้องขอบคุณคุณนายแม่ที่จะส่งคนขับรถพาอิชั้นไปปราจีนเย็นวันศุกร์  และมารับกลับเย็นวันอาทิตย์   ทำให้อิชั้นมีเวลาอยู่กับที่รักมากขึ้น....

 

เฮ้อ...เหนื่อย  เป็นภรรยาผู้พิพากษาไม่ใช่สบายเลยนะ  ใครว่าสบายเนี่ย
แต่เราคงลำบากเพราะไม่ได้ย้ายไปอยู่กับพี่ศักดิ์ต่างหาก  ถ้าย้ายไปอยู่ด้วยกันก็คงไม่ต้องเดินทางบ่อยแบบนี้

 

แต่ก็แค่ปีเดียว...ทนๆหน่อย ไม่แน่ ปีหน้าอาจได้ย้ายกลับชลบุรีก็ได้

 

ขอให้ได้ตามนั้นเถิ๊ดดด  สาธุ 




 

Create Date : 26 เมษายน 2555    
Last Update : 26 เมษายน 2555 10:56:43 น.
Counter : 766 Pageviews.  

ปรับตัว....ปรับใจ หลังจากคุณสามีย้ายไปรับราชการที่ปราจีน...

พี่ศักดิ์ย้ายไปศาลเด็กที่ปราจีนตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา (วันที่ 1 เป็นวันอาทิตย์ จึงยังไม่ได้เริ่มงาน)

เพิ่งจะไปได้แค่วันเดียว ก็กลับมาแล้ว อิอิ เพราะได้หยุดยาวช่วงวันจักรี

แต่เป็นการหยุดที่อิชั้นต้องเก็บแต้มไว้เยอะๆหน่อย เพราะเดี๋ยวสงกรานต์พี่ศักดิ์จะไม่ได้กลับบ้าน ต้องเข้าเวรที่โน่น..

เฮ้อ...และเฮ้อ  ยังไงๆอิชั้นก็หนีคำว่าเข้าเวรไม่พ้นจริงๆ นึกว่ามันจะมีแต่ในโรงพยาบาลนะเนี่ย ใครจะไปคิดว่าผู้พิพากษาก็มีเข้าเวรกะเค้าด้วย...

สมัยอยู่ชลบุรี  เราไม่ค่อยวอรี่กะการเข้าเวรแบบนี้หรอก  เพราะพี่ศักดิ์เข้าแค่ตอนเช้าถึงบ่ายแก่ๆ ตอนเที่ยงเรายังแวะเวียนไปหา ไปทานข้าวเที่ยงกันก่อนเล๊ยย แล้วตอนเย็นพี่ศักดิ์ก็มาลั้ลลากับเราที่เซ็นทรัลได้

แต่นี่อยู่ตั้งไกล ไปถึงปราจีน จะไปตามกินข้าวเที่ยงข้าวเย็นแบบนั้นก็คงไม่ไหว ต่างคนต่างกินกันไปก่อนแล้วกันเน้อ

V

V

เวิ่นเว้อมาพอสมควร จะบอกว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่พี่ศักดิ์จะย้ายไปปราจีน เราตระเวนกินข้าวเย็นที่เซ็นทรัลกันแบบหนำใจเลยทีเดียวเชียว  ตักตวงความสุขอย่างเต็มที่

 

เริ่มมื้อแรกที่ "ฮะจิบัง"  กลับมาขายแล้วนะ  เย้ !!

 

 

ว่าแต่..พี่ศักดิ์จะเก๊กไปไหนค่ะ...Smiley

เรเมงชามนี้..ที่อิชั้นใฝ่หาSmiley

ไม่ได้หง่ำมันมาครึ่งปี  พอฮะจิบังกลับมาเปิดอีกรอบ  อิชั้นจึงไม่พลาดที่จะสั่งเมนูประจำใจนี้..คิดถึงเหลือเกิน

แม้ว่าจะมีคนบอกอิชั้นว่า "ฮะจิบังรสชาติเปลี่ยนไป"   เส้นไม่อร่อย  น้ำซุปไม่อร่อยเหมือนเดิม..แต่อิชั้นก็ไม่อยากปักใจเชื่อ  ยังไงๆต้องพิสูจน์...

และจากการพิสูจน์แล้ว....อิชั้นก็พบว่า มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยยยย  มันอร่อยเหมือนเดิมทุกประการ....เส้นก็เหนียว น้ำบะหมี่ที่ราดมาขลุกขลิกก็เย็น  สดชื๊น  สดชื่น

 

ของพี่ศักดิ์สั่งเป็นราเมงหมูสับต้มยำ  รสชาติแซ่บเหมือนเดิม อร่อยๆๆ

สรุปว่า...ไม่ผิดหวังสำหรับการกลับมาของฮะจิบังหนนี้  และหวังใจเหลือเกินว่าเราจะไม่ต้องจากกันนานอีกนะ Smiley

 

 

วันต่อมา  ป๊ากะแม่ชวนไปกินซูกิชิ  แหม...กำลังอยากกินแบบปิ้งๆย่างๆอยู่พอดี  ลาภปากมาถึงที่แบบนี้ใครจะขัดค้า...Smiley

อิชั้นชอบกินซี่โครงหมูย่างมากมาย  มันนุ่มมม และหวานมากๆ

ทานกับผักกาดหอมสดๆ ใบโตๆ และแครอทสดๆ กร๊อบ กรอบ อร๊อย อร่อย....^^

 

อิ่มจากซูกิชิ  เราทังหมดก็ move ไปเสวนเซ่นส์

วันนี้มากัน 4 คน กินเฮอริเคนก็แล้วกัน.....

V
V
 

น่ากินเนอะ...

ป๊าทำท่าแอ๊บแบ๊ว...

 

 

 

คุณขา...อิชั้นเห็นสามีภรรยาคู่นี้เค้าสวีทกันทีไร  หมั่นไส๊ หมั่นไส้

อิชั้นแต่งงานมาไม่ถึงครึงปี...ยังสวีทไม่เท่าคู่เค้าเล้ยยยย Smiley

............................................................................

เป็นวันหยุดดีๆที่เราประทับใจมากมาย

แล้วเดี๋ยวพี่ศักดิ์กลับมาวันไหน เราไปกินข้าวด้วยกันอีกนะSmiley




 

Create Date : 07 เมษายน 2555    
Last Update : 8 เมษายน 2555 12:06:32 น.
Counter : 1180 Pageviews.  

วันหยุดชิวๆแบบนี้ ไปหาส้มตำอร่อยๆกินกันเถอะ ^^










ในวันเสาร์อาทิตย์ที่แสนจะสบาย
พี่ศักดิ์กับอิชั้นนิยมไปหาของอร่อยๆกินนอกบ้านกัน
ด้วยเหตุที่ว่า บ้านเรายังไม่มีเตาแก๊ส
(และอิชั้นก็ยังไม่เห็นความจำเป็นต้องมีด้วย)

โธ่....ก็อยู่กันแค่สองคน ส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตนอกบ้าน ไปกินข้าวที่ทำงานทั้งนั้น
แล้วเดี๋ยวเดือนหน้า พี่ศักดิ์ก็จะจรลีไปอยู่ที่ปราจีนแล้วด้วย (เศร้า)


แต่ในวันที่เราได้หยุดด้วยกันแบบนี้แหล่ะ ถือว่าเป็น moment ที่มีค่าที่สุดแล้ว
ว่าแล้วเราก็ไปหาอะไรอร่อยๆ เสริมสร้างความสุขในวันนี้กันเถอะ...


วันนี้พี่ศักดิ์พามาอุดหนุน ที่ร้านส้มตำของเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดชลบุรี ชื่อร้าน "ครัวต้นปีบ"
เห็นเป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่ฝีมือดีเชียวนะ
อิชั้นเคยมาชิมหนนึง รสชาติอร่อยดีค่ะ โดยเฉพาะไก่อบ...


เข้ามาในร้าน เจ้าหน้าที่ที่คุ้นเคยกะพี่ศักดิ์ดีอยู่แล้ว
ดีใจใหญ่เลยที่พี่ศักดิ์มาอุดหนุน
และก็มีเจ้าไซบีเรี้ยนฮัสกี้ตัวนี้เสนอหน้ามาดมๆ มองๆ พี่ศักดิ์ด้วย....น่ารักไหมค่ะ





แหมเค้าหน้าตาดีนะเนี่ย ตาสีฟ้าเชียว...ตะเองเป็นฝาหรั่งเหยออ



พี่ศักดิ์ช๊อบ ชอบ ค้า เพราะเป็นคนที่รักหมาเป็นทุนเดิม
ยิ่งเจ้านี่มาคลอเคลีย พี่ศักดิ์ยิ่งชอบใจ...เล่นกับมันใหญ่เลย...






ว่าแต่....รักหมา หรือจะฆาตกรรมหมากันแน่ค้า คุณพี่
(ชักไม่ค่อยแน่ใจ)










เล่นกับน้องเค้าพักใหญ่ อาหารที่สั่งก็ได้แล้วค่ะ


จานแรกมาเลย....ส้มตำไทย อาหารยอดนิยมของเรา
(อิชั้นสามารถกินมันทุกวันได้ไม่เบื่อจริงๆนะคะ ช๊อบ ชอบ)
ส้มตำที่ดีสำหรับอิชั้น เส้นมะละกอต้องเย็น สด กรอบ
น้ำส้มตำจะต้องจัดจ้าน เปรี้ยว หวาน เผ็ดกำลังดี
จานนี้โอเคเลยค่ะ...ผ่านฉลุย อร่อยดี






จานที่สอง หมูมะนาว ยำมาแซ่บๆ
แต่หมูแข็งไปนิดนึง อยากให้มันเปื่อยกว่านี้หน่อย
(ฟันไม่ค่อยแข็งแรง แก่แล้วก็เงี้ย)





จานสุดท้าย...อันนี้ที่อิชั้นรอคอย "ไก่อบ"
เป็นเนื้อไก่ธรรมด๊า ธรรมดา แต่เอาไปหมักให้ถึงเครื่อง
แล้วไปเอาอบในไมโครเวฟ
จานนี้จะใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องรอให้ไก่สุก
แต่คุณเอ๋ย.....มันคุ้มค่าแก่การรคอยจริงๆค่ะ
ไก่อบมาร้อนๆ หวานนิด เนื้อก็กำลังดี ชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งไม่กระด้าง
เราชอบขอบๆ ที่มันจะสุกๆหน่อย กินได้ไม่มีเบื่อเลย





นอกจากความอร่อยที่ทำให้ชอบไก่อบจานนี้เป็นพิเศษแล้ว
อิชั้นยังชอบ เพราะมันทำให้นึกถึงสมัยเด็กๆ แม่อิชั้นก็ชอบทำไก่อบแบบนี้ให้ลูกๆ ใช้เตาไมโครเวฟอย่างนี้เลย....


จำภาพลูกๆทั้งสามของแม่ วิ่งมากินอย่างเอร็ดอร่อย ตอนที่แม่ตะโกนบอกว่า "ไก่อบเสร็จแล้ว"
เป็นมื้อพิเศษที่อิชั้นจำได้ขึ้นใจ และแม้ว่าพอโตมา จะได้กินไก่อบที่ไหน จะอร่อยแสนอร่อยยังไง
ก็ไม่มีใครลบภาพไก่อบของแม่จากใจอิชั้นได้เลย....
ไม่มีเลยจริงๆนะคะ


มานึกๆไปก็ขำ ลูกสาวตัวน้อยของแม่ ตอนนี้เป็นผุ้ใหญ่เต็มตัวแล้วนะ
แต่งงานออกเรือน มาเป็นแม่บ้านให้ผู้ชายคนนึง (ที่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย) แม้ว่าชีวิตอิชั้นจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน แต่เมื่อไหร่ที่หวลนึกถึงความทรงจำวัยเด็กๆ ภาพต่างๆก็จะ flashback กลับมา อย่างกับเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง...

และพอนึกถึงทีไร ก็มีความสุขทุ๊กที...







 

Create Date : 15 มีนาคม 2555    
Last Update : 15 มีนาคม 2555 18:22:00 น.
Counter : 1543 Pageviews.  

หากเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน...

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555



                เราห่างหายจากการเขียนบล็อกเสียนาน  หลังจากที่ไปเที่ยวฮ่องกงกลับมาก็ยังไม่ได้ลงอะไรใหม่ๆเลย     แถมชีวิตก็วุ่นวายเวิ่นเว้อด้วย....



                พี่ศักดิ์ถึงวาระที่ต้องย้ายแล้ว  ต้องไปรับตำแหน่งรองหัวหน้าศาลจังหวัดปราจีนบุรี   แผนกคดีเด็กและเยาวชน   มันก็อีกเสต็ปนึงของการทำงานเนอะ  คนเราก็ต้องก้าวหน้า ไม่มีใครอยากย่ำอยู่กับที่  แต่แอบเสียใจนิดๆ  ตรงที่พี่ศักดิ์ไม่สามารถขอมาอยู่ชลบุรีได้  ผลสรุปจึงออกมาว่า  พี่ศักดิ์ต้องไปอยู่ที่ปราจีน  และจะกลับมาหาเราซึ่งยังทำงานที่ชลบุรี  ในวันหยุดSmiley



จริงๆ เราก็รู้ตัว + ทำใจมาตั้งนานแล้ว  ตั้งแต่เป็นแฟนกับพี่ศักดิ์   ว่าชีวิตผู้พิพากษาเป็นยังไง  จะต้องโยกย้ายกันบ่อยขนาดไหน  แต่เอาเข้าจริงๆก็อดใจหายไม่ได้  และนี่เราก็เพิ่งจะแต่งงานกันได้ 3 เดือนเองนะ  ..........กลับต้องมาอยู่คนละจังหวัด  อยู่คนละบ้านกันเสียแล้ว  คือจริงๆ ปราจีนนะ มันไม่ได้ถือว่าไกลมากมาย ถึงขนาดที่อิชั้นต้องลาออก  ทิ้งจ๊อบหัวหน้าแผนกเภสัชกรรมไปเป็นแม่บ้านให้แก......... แต่มันก็ไม่ใกล้ถึงขนาดที่พี่ศักดิ์จะกลับมาบ้านมาหาอิชั้นทุกๆวันได้ 

สำหรับคนที่ไม่เคยอยู่ห่างจากกันเลยอย่างเราและพี่ศักดิ์   ปัญหาที่ผุดขึ้นมาอันแรกในหัวของครอบครัวอิชั้น   คือ  วันธรรมดาที่พี่แกไม่อยู่.....แล้วอิชั้นจะอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไง ??



            ซึ่งท่าทางอิชั้นจะไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วล่ะ  ป๊ากะแม่ก็ชวนให้กลับไปอยู่ที่บ้านตลอดเลย   (  อ้าว......แล้วชาวบ้านเค้าจะไม่คิดว่าหนูมีปัญหากะสามีเหรอค๊า  )  พอเสาร์อาทิตย์ก็ค่อยกลับบ้าน   อันนี้ก็เป็นช้อยส์ในใจเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะทิ้งบ้านได้ทุกวันเหรอ.........แล้วยังจะงานบ้านมากมายที่ยังต้องทำ   ยังเคลียร์ตรงนี้ไม่ลงตัวเล้ย   เฮ้อ.....เซ็งชีวิตSmiley



 




 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2555    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2556 16:00:43 น.
Counter : 847 Pageviews.  

ในวันที่กลับบ้านเร็ว...

เมื่อตะกี้ ขับรถกลับบ้านก็พบว่าหน้าประตูรั้ว มีหมาน้อยนอนขวางอยู่ตัวนึง...Smiley



"หมาใครวะ"  อิชั้นคิดในใจ   มานอนขวางหน้าบ้านกรู อย่างนี้จะเอารถเข้าบ้านก็ไม่ได้....
ตัดใจจอดมันหน้าบ้านนี่แหล่ะ แล้วเดินถือกุญแจมาเปิดประตูรั้ว  ตาก็คอยมองเจ้าหมาเป็นระยะ...ห้ามลุกมากัดกุนะเฟ้ย




ฉับพลัน ตาสบตา สายตาก็จ้องมองกัน....อิชั้นจึงได้เป็นเห็นว่าเจ้าหมาตัวนี้ มีผิวที่เรียบเนียน  ไม่มีขนสักกะหย่อม...หรือเรียกอีกอย่างก็คือ "ขี้เรื้อน" นั่นเอง Smiley



"น่าสงสารว่ะ"  อิชั้นนึกในใจ  เป็นหมาข้างถนน ไม่มีเจ้าของเลี้ยง  มันก็ลำบากพออยู่แล้ว  นี่มาเป็นหมาขี้เรื้อนด้วย  สังคนรังเกียจเป็นสิบเท่าเลย...อาการแง่งอนเมื่อสักครู่หายไปแล้ว...เหลือแต่ความเวทนาเจ้าหมาหนังกลับที่อยู่ตรงหน้าจับใจ...




เดินเข้าไปในครัว  เปิดตู้เย็นออกมาดู...โชคดีเหลือเกินที่มีข้าวสวยเหลือถุงนึง  มีปลากรอบซึ่งเป็นเสบียงที่อิชั้นมีติดบ้านไว้เวลานึกอยากกินกับข้าวต้มอีกถุงนึง...เอาวะ  เจ้าหมาน้อย เอ็งรอดไปหนึ่งมื้อแหล่ะ 



ชะโงกหน้าไปมองเจ้าหมาซึ่งยังนอนอยู่หน้าบ้าน นึกในใจ "อย่าเพิ่งลุกไปไหนนะ  ขอเวลาสามนาที"  แล้วก็เอาข้าวเข้าไมโครเวฟ  พร้อมเทปลากรอบลงในชามเก่าๆ....พอข้าวเวฟเสร็จ  ก็เอาคลุกกัน  นึกอะไรขึ้นมาได้อีกอย่าง...เปิดตู้กับข้าว หยิบซ็อสแม็กกี้มาเหยาะๆใส่...โอ้ย  หอม  Smiley ขนาดทำเองยังว่าน่ากินเลย  (อ้าว..จะแย่งหมากินซะแล้ว...ไอ้นี่)



ถือชามข้าวออกมาหน้าบ้าน...นึกอิ่มใจที่จะได้ทานต่อสุนัขจรจัด  ฉับพลัน  ก็มีรถเลี้ยวเข้ามาปากซอย  มาอยู่ตรงหน้าเจ้าหมาน้อยพอดี....เจ้าหนังกลับชำเลืองมองรถ  แล้วก็เดินจากไป...



"อ้าว เว้ย เฮ้ย.. กลับมาก่อน  วู้ววว" Smiley อิชั้นตะโกนเรียกเจ้าหมา  นึกด่ารถคันที่ขับเข้าในซอยในใจ  ว่าทำให้อิชั้นอดทำทานกับเจ้าหมาน้อย  แต่ปรากฏวาโชคช่วย  หรือไม่รู้มันได้กลิ่นซ้อสแม๊กกี้หรืออย่างไร...เจ้าหมาน้อยจึงหันกลับมา  มองหน้า...และสบสายตาอิชั้นอีกครั้ง..



"เอ้า มากินข้าวนี่สิ  เร็วๆ "  อิชั้นเรียกมันประหนึ่งดั่งมันฟังภาษาคนได้  และวางชามข้าวไว้ที่พื้น  ก้าวขาออกมาห่างๆชามข้าวประมาณสิบก้าว (เผื่อมันกลัว  ไม่กล้าเข้ามา)



ชะรอยว่า คงมีคนเคยเลี้ยงข้าวมันด้วยกิริยาเช่นนี้  เจ้าหมาน้อยมันเข้าใจแฮ่ะ  และค่อยๆเดิมดุ่มๆกลับมาหาอิชั้น  แม้ว่าสายตาจะชำเลืองมองแบบยังไม่ไว้ใจเป็นระยะ  (กุไม่กินหมาหรอก...จะกลัวทำไมเนี่ยยย)  แต่ขาก็เดินรี่ไปที่ชามข้าวอย่างรวดเร็ว...อย่างนี้น่าจะเรียบร้อยแล้วล่ะ Smiley



พอเจ้าหมาน้อยเดินไปถึงชามข้าว  ก็ก้มลงกินใหญ่เลยด้วยท่าทางน่าอร่อย โดยมีอิชั้นยืนเฮอยู่ข้าง ๆ ....เย้!!  ในที่สุดก็สำเร็จ Smiley 


อิชั้นกลับเข้ามาในบ้านด้วยความอิ่มใจ  แม้ว่าข้าวที่ทำให้มันกินอาจจะไม่ได้วิเศษอะไรมากมาย  แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ  เจ้าหมาผู้หิวโหยได้กินอาหารของอิชั้นจนหมด  และบรรเทาความหิวของมันไปได้หนึ่งมื้อ...อิชั้นก็ดีใจเหลือจะกล่าวแล้ว




การเป็นผู้ให้มีความสุขอย่างนี้นี่เอง....  Smiley





 

Create Date : 13 มกราคม 2555    
Last Update : 13 มกราคม 2555 18:19:36 น.
Counter : 663 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

hi hacky
Location :
ชลบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




Life is a journey....
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add hi hacky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.