ชวนมาดินเนอร์ชิลๆ ที่ KARMAKAMET DINER ค่ะ
บล๊อคนี้เริ่มมาจากการที่อิชั้นได้ของขวัญปีใหม่จากน้องที่รู้จักเป็น set เครื่องหอมจากร้าน KARMAKAMET
แค่เห็นกล่องก็ประทับใจแแล้ว พอแกะออกมายิ่งปลื้มใหญ่ กลิ่นหอมมากกก
เริ่มค้นหาข้อมูลในเน็ท เผื่อติดใจจะได้ซื้อใช้ต่อ ปรากฏว่าเค้ามีขายอาหารด้วยวุ้ย แถมในรีวิวออกมาก็ไม่ขี้เหร่เลย ร้านสวย อาหารก็อร่อย อย่ากระนั้น...ชวนเพื่อนอ้อผู้รักอาหารฝรั่งยิ่งชีพไปกินดีผ่า หุหุ
ร้านนี้ชื่อ KARMAKAMET DINER ค่ะ อยู่ติดกับตึกจอดรถด้านนอกของห้าง The Emporium ฝั่ง Emporium Suites ซึ่งจะอยู่ติดกับสวนเบญจศิริ
หน้าร้านจะหายากนิดหน่อยนะคะ เราสองคนเดินไปก็ถามเค้าไปเป็นระยะๆ ว่าข้างในมีซอยที่มีร้านอาหารไหม พอถามเค้าก็บอกว่ามี ก็เลยอุ่นใจเดินต่อไปเรื่อยๆ สักพักก็เจอป้ายแบบนี้
อาฮะ...ไม่ผิดแน่
เข้าไปข้างในซอยเลยค่ะ ซอยไม่ใหญ่นะคะ จอดรถได้แถวเดียวเท่านั้น ถ้าเค้าจะออกกันนี่คิดไม่ออกเลยว่าจะตีวงยังไง
(คหสต. มาที่นี่ด้วย BTS สะดวกที่สุดคะ )
มาถึงร้านแล้วค่า
เคยอ่านว่าในร้านได้แรงบังดาลใจจากโกดังเก่าสมัยเจ้าของยังเป็นเด็ก แต่เท่าที่เห็นนี่ต้องเป็นโกดังที่หรูหรามากนะ แต่งได้สวยสุดๆ
นั่งๆทานอยู่ ก็เห็นมีคนถือกล้องมาถ่ายรูปกันเยอะเลย
บรรยากาศ......เอาไปเลยสิบดาววว
แบบว่ามันน่าชวนคู่รักมาดินเนอร์กันจริงๆเน้อ มองไปทางไหนเค้าก็มากันเป็นคู่ๆ
ส่วนเราหันหน้ามองไป....เจอแต่เพื่อนสาว 5555
เอาวะ ร้านบรรยากาศดีๆแบบนี้ กินกับเพื่อนก็ได้ เฮฮามีความสุขไปอีกแบบ
ดอกไม้ที่ประดับโต๊ะนี่ก็ของจริงนะคะ โห นี่มันดอกไม้เมืองหนาวชัดๆเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อ แล้วเค้าแบบมีดินมีกระถางเป็นกิจจะลักษณะเลย....ลงทุนเมิ่กมาก ยังคุยกับเพื่อนอ้อเลยว่า สงสัยตอนร้านปิดต้องเอาเข้าในตู้เย็นรึปล่าวเนี่ย เจอร้อนๆแบบบ้านเราไม่น่าอยู่ได้นาน
เมนูค่ะ
เท่าที่ดูเราว่ารายการอาหารยังน้อยไปนิดนะ
สั่งอาหารไปแล้ว สักพักขนมปังก็มาเสริฟก่อนค่า
จะบอกว่า...แค่ขนมปังก็ประทับใจแล้ว
น่ากินมากกกก
แง่มๆๆ
ขอสารภาพ แบบคนบ้านนอกว่า ตอนแรกอิชั้นไม่รู้ว่าไอ้นี่คืออะไร
แต่พอเพื่อนถามว่าเค้าไม่มีเนยมาให้ ก็เลยแพ่งเจ้าสิ่งนี้ แล้วลองเอานิ้วจิ้มๆๆ อั้ยยะ เละเลยฮ่า
สุดท้ายเรียกน้องมาถาม เค้าบอกมันคือ "เนย" ค่ะ จ๊ากกกกกก
เครื่องดื่มของเพื่อนอ้อ เป็น Hammingway ค่ะ ราคา 280 บาท ถ้วยนี้มี alcohol ด้วยเน้อ
รสชาติเป็นจังได ไม่ได้ตอดเลย เพราะพรุ่งนี้อิชั้นจะไปบริจาคเลือด เลยไม่กล้าชิม
จานแรก เป็น Gravlax -กราฟแล็กซ์ ราคา 340 บาท
คำบรรยายในเมนู คือสลัดแซลมอนหมักในน้ำส้มใส่กูสเบอรี่ เชอรี่ ผักชีลาว ออริกาโน ไทม์ ผักกาดแก้ว ไข่ปลาแซลมอน ไข่ลัมฟิชคาร์เวียร์ ไข่มิโมซา น้ำสลัดแชมเปญวิเนียร์เกร็ท มัสตาร์ดเมโย
ลองชิมแล้วอร่อยดีค่ะ น้ำสลัดเปรี้ยวๆหอมๆ กินกับผลไม้พวกเบอรี่ทั้งหลายแล้วสดชื่น แถมไม่เลี่ยนเลยแม้แต่นิดเดียว ทานแล้วสดชื่นเลย รสชาติมันนัว เข้ากันมากๆ ปลื้มมมม
.......................................
จานต่อมาเป็น Crab Pasta ราคา 420 บาทค่ะ
คำบรรยาย เส้นพาสต้าแบนผัดแห้งกับเนื้อกรรเชียงปู พริกแห้ง กระเทียมสับ พาสลี่สับ น้ำมันมะกอก พาร์เมซานชีส
แต่เส้นวันนี้มีแต่สปาเก้ตตี้จ้า รสชาติดีนะ อร่อย ด้วยความที่มันเผ็ดนิดๆเลยโอเค ไม่เลี่ยน แต่เราตินิดนึงว่ามันแห้งไปนิด (เผอิญชอบสปาเก้ตตี้แบบมีน้ำขลุกขลิกหน่อย) แต่เพื่อนอ้อซึ่งชอบแบบแห้งชมเปาะว่าถูกปากหล่อนมากที่ซู้ดดด
อย่างว่าเนอะ ต่างคนต่างลิ้นก็ต่างจิตต่างใจ
จานสุดท้าย Snow fish Beurre Blanc -ปลาหิมะ เบอร์บลอง ราคา 650 บาท จานนี้แพงหน่อยนะคะ
ในคำบรรยายคือ ปลาหิมะซอสคามาคาเมตเบอร์บลอง ลีคทอดกรอบ เห็ดหอมผัด ไข่ปลาแซลมอน
อยากจิบอกว่า จานนี้ love มากกก
อร่อยสุดๆเลยค่ะ ปลาเนื้อหวาน นิ่ม มันละมุนละไม นุ่มนวลในปาก เข้ากับซ้อสได้อย่างดีเลย โดนคะ โดน
วันนี้ Enjoy eating กันมากมายค่า
ชอบบรรยากาศเวลาที่ได้มานั่งทานดินเนอร์อาหารฝรั่งกับเพื่อนอ้อ ตรงที่เราเป็นคน type เดียวกันจริงๆ
คือต้องบอกว่าบ้านอิชั้นกับอาหารประเภทนี้เป็นอะไรที่ห่างกันคนละโยชน์ แถมที่เมืองชลก็ไม่มีแบบนี้ให้กิน เวลามากทม.ทีเนี่ย ถ้าอิชั้นนัดกับเพื่อน จะเป็นอันรู้กันว่ามื้อค่ำเราต้องประมาณนี้เท่านั้น
วันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่เรารู้สึกดีมากๆ ยิ่งเห็นเพื่อนอ้อ enjoy กับอาหารมื้อนี้อิชั้นยิ่งรู้สึก happy มากๆค่ะ ดีใจที่เพื่อนถูกใจ
อุต๊ะ......เกือบลืม
อิ่มจากของคาว ขอของหวานปิดท้ายหน่อยนะ
เราสนใจ Chocolate Terrine - ช็อคโกแลต เทอรีน ราคา 250 บาท คำบรรยายในเมนู Air-dried Persimon ,Muscovado Creme Anglaiase,Black Pepper Truffle oil
แต่ปรากฏว่าในูของหวานนี้มีแต่ภาษาอังกฤษจ้า แถมโง่อีกอ่านแล้วไม่เข้าใจ ถึงขั้นต้องเรียกเค้ามาถามว่า น้อง มันคืออัลไลค้า พี่งง ??
น้องเค้าก็อธิบายให้ฟังว่ามันเป็นช็อคโกแลตแผ่นครับ แบบบางๆ อิชั้นก็นึกไปถึงเวเฟอร์ซะนี่ อ๊ะ ลองก็ได้ อยากรู้ว่าเป็นยังไง
แต่พอออกมาได้เป็นแบบนี้
V V V
เราว่าเหมือนบราวนี่ช็อกโกแลตมากกว่านะคะ แต่เป็นช็อกโกแลตที่เข้มข้นได้ใจ และหอมกรุ่นมาก ทานกับถั่ว (น่าจะพิตาชิโอ) ที่กวนน้ำตาลคล้ายๆกระยาสารท และลูก....เอิ่มมม เดาว่าเป็นแอปริคอทนะ ให้รสสัมผัสหลายหลายในคำเดียว
เป็นการปิดท้ายมื้อที่แสนอร่อยในวันนี้เลยค่ะ
เพื่อนอ้อประทับใจถึงขั้นต้องถ่ายรูปคู่กับเชฟคนเก่งของร้าน เชฟของร้านเป็นผู้หญิงเก่งค่า ชื่อเชฟพี่ส้ม ฝีมือเริ่ศมากๆ
จำขนมปังตอนต้นได้ไหมคะ สรุปแล้วเรากินขนมปังไม่หมดอ่า เลยกะว่าจะเอากลับบ้าน
แฮ่ะๆ ก็แหม มันน่ากินอ่า แล้วเค้าก็มีกระดาษห่อมาเรียบร้อย เราก็บังเอิญมีถุงพลาสติกพกมาพอดี ประจวบเหมาะอะไรเยี่ยงนี้.....
อิชั้นกระซิบบอกเพื่อนอ้อว่าจุ๊ๆ อย่าเสียงดังไป เค้าจะเอาขนมปังกลับนะ เพื่อนดันปราถนาดีบอกพนักงานให้เรียบร้อยเลย อิชั้นก็...เฮ้ยยยย ไม่ต้องบอกเค้า อายเค้า แต่น้องพนักงานก็เข้ามารับไปให้นะคะ บอกว่าไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวห่อให้ (แหม่ เขิลเลยตรู คุณเพื่อนนะคุณเพื่อน !)
พอเค้าเอามาให้ อิชั้นได้กรี๊ดรอบสองค่ะ ก็ดูเค้าห่อมาให้สิคะ
V V V
ห่อมาให้อย่างดีอ่ะ จนอิชั้นตกใจ ว่าให้แบบนี้เลยเหรอ น่ารักจุงเบยย
ทานเสร็จแล้วก็มาชำระเงินค่ะ วันนี้เราจ่ายไปประมาณ 2,500 บาท รวมค่าทิปก็สองพันหก เฉลี่ยก็คนละประมาณ 1,300 บาทค่ะ
จะว่าแรงก็แรง แต่ด้วยบรรยากาศที่มันโอเคมากๆ กับรสชาติอาหารที่อร่อย อิชั้นว่าคุ้มนะ
ว่าแล้วก็ออกมาถ่ายรูปด้านนอกเสียหน่อย
เค้ามีร้านขายเครื่องหอมด้วยนะคะ
วันนี้อิชั้นถือว่าได้มาฟินกับอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆกับเพื่อนรัก ซึ่งคุณเพื่อนก็พอใจมากๆเช่นกัน (ถึงขั้นขอถ่ายรูปคู่กับเชฟอ่ะ คิดดู) นับเป็นร้านที่น่ามาลองสักครั้งนะคะ
Create Date : 26 มกราคม 2557 |
Last Update : 18 ตุลาคม 2560 21:34:35 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2889 Pageviews. |
|
|