มาต่อที่ไฮไลต์ที่นี่นะคะ
พระเจดีย์วัดชัยมงคล ประดิษฐานอยู่ในวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของเกาะเมือง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจดีย์ก่อด้วยอิฐถือปูน ทรงลังกาองค์ใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในการชนะสงครามยุทธหัตถี
ในพงศาวดารกล่าวว่า หลังจากพระมหาอุปราชา แห่งเมืองหงสาวดี ยกทัพมารบแพ้สมเด็จพระนเรศวร เมื่อ พ.ศ. 2134 ถูกสมเด็จพระราชบิดา คือ พรเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงต่อว่าเนือง ๆ ก็เกิดมานะ จึงยกทัพใหญ่เข้ามารบอีก เมื่อ พ.ศ. 2135 ตั้งทัพอยู่ตำบลตระพังตรุ สมเด็จพระนเรศวร กับสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงช้างพระที่นั่งยกกองทัพไปตั้งที่ตำบลหนองสาหร่าย (อำเภอดอนเจดีย์ในปัจจุบัน)
สงครามคราวนี้ เป็นสงครามยุทธหัตถี คือ จอมทัพทั้งสองฝ่าย ได้ชนช้างกัน สมเด็จพระนเรศวร ทรงช้างเจ้าพระยาไชยาภาพชนช้างกับพระมหาอุปราช ซึ่งทรงช้างพลายพัทธกอ สมเด็จพระนเรศวร จ้วงฟันพระมหาอุปราชาด้วย พระแสงของ้าวที่ไหล่ขวาขาดสิ้นพระชนม์กับคอช้าง ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถ ก็ได้ชนช้างกับเจ้าเมืองจาปโร ฟันเจ้าเมืองจาปโรตาย
แม่ทัพนายกองเมืองหงสาวดี เห็นพระมหาอุปราชาเสียทีถูกฟัน ต่างก็เข้ามาช่วยแก้ไข โดยเอาปืนระดมยิงถูกสมเด็จพระนเรศวรที่พระหัตถ์บาดเจ็บ และถูกนายมหานุภาพ ควาญช้างพระที่นั่งกับหมื่นภักดีศวร กลางช้างสมเด็จพระเอกาทศรถตายทั้ง 2 คน ขณะนั้นกองทัพหลวง กองทัพเจ้าพระยามหาเสนา และพระยาสีหราชเดโชชัยตามไปทัน เข้ารบพุ่งแก้เอาสมเด็จพระนเรศวร กับสมเด็จพระเอกาทศรถออกมาพ้นข้าศึกได้
สมเด็จพระนเรศวร มีชัยชนะ แต่ไม่สามารถตีข้าศึก ให้แตกไปได้เหมือนครั้งก่อน เพราะเหตุที่ทัพไทยตามเสด็จไปไม่ทัน เมื่อเสด็จกลับถึงพระนคร ทรงพระพิโรธแมทัพนายกอง รับสั่งให้ลงโทษประหารชีวิตพวกแม่ทัพนายกอง ไปตามกฎอัยการศึก แต่วันนั้นเป็นวันพระ จึงโปรดให้ขังไว้ก่อน วันรุ่งขึ้นจึงจะให้ประหาร
สมเด็จพระวันรัตวัดป่าแก้ว ตำแหน่งพระสังฆราชฝ่ายขวา พร้อมด้วยพระสงฆ์ราชาคณะ 25 รูป เข้าเยี่ยมถามข่าวพระราชสงคราม ตามประเพณี ทราบเหตุที่แม่ทัพนายกองต้องโทษประหารชีวิต สมเด็จพระวันรัต จึงทูลถามสมเด็จพระนเรศวรว่า เสด็จไปทำสงครามมีชัยชนะข้าศึกแล้ว ทำไมพวกแม่ทัพนายกองจึงต้องโทษ สมเด็จพระนเรศวร จึงทรงเล่าเรื่องที่รบกัน ให้สมเด็จพระวันรัตฟัง แล้วตรัสว่า "ข้าราชการเหล่านั้น กลัวข้าศึกมากกว่าโยม ละให้แต่โยม 2 คน พี่น้องฝ่าเข้าไปท่ามกลางข้าศึก จนได้ทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา มีชัยชนะ แช้วจึงได้เห็นหน้า นี่หากบารมีของโยมหาไม่ แฟ่นดินก็จะเป็นของหวงสาวดีเสียแล้ว"
สมเด็จพระวันรัตถวายพระพรว่า การที่ข้าราชการเหล่านั้น จะกลัวข้าศึกยิ่งกว่าสมเด็จพระนเรศวรนั้น เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเพราะพระบารมีบันดาลจะให้พระเกียรติยศปรากฏไปทั่วโลก จึงมีเหตุให้เสด็จเข้าไปมีชัยชนะโดยลำพัง สมเด็จพระวันรัตทูลเปรียบเทียบว่า เหมือนพระพุทธเจ้า ตรัสตอนตรัสรู้ว่า ขณะที่มารผจญนั้น เทวดาที่มาเฝ้าอยู่เป็นอันมาก ก็พากันหนีหายไปหมด เหลือแต่พระพุทธเจ้าองค์เดียว ทรงสามารถปราบพญามารทั้งรี้พลให้พ่ายแพ้ได้
สมเด็จพระนเรศวร ได้ทรงฟังสมเด็จพระวันรัต ออกพระนามพระพุทธเจ้า ก็ทรงปีติโสมนัสสิ้นพระพิโรธ (โกรธ) สมเด็จพระวันรัตจึงทูลขอชีวิตข้าราชการไว้ทั้งหมด แล้วทูลแนะนำให้สมเด็จพระนเรศวร ทรงสร้างพระเจดีย์เป็นอนุสาวรีย์ ในชัยชนะยุทธหัตถีครั้งนี้ เหมือนกับพระเจ้าทุฏฐคามณีอภัย ได้ทรงเคยทำมาแล้ว
สมเด็จพระนเรศวร จึงโปรดให้สร้างพระเจดีย์ยุทธหัตถีขึ้นตรงที่ชนช้างชนะองค์หนึ่ง คือ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ปัจจุบัน แล้วทรงเสริมพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดพระยาไทย หรือวัดป่าแก้ว อันเป็นที่สถิตของพระสังฆราชฝ่ายขวาอีกองค์หนึ่ง ขนานนามว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล"
พระเจดีย์ใหญ่มากก และสมบูรณ์ + สวยงามมากๆค่ะ
เป็นบุญตาจริงๆที่ได้มาเห็น
พระพุทธรูปเรียงรายรอบเจดีย์
บรรยากาศดูสงบและขลังมากเลยค่ะ
เพื่อนอ้อขอเข้าเฟรม
อิ่มเอมกับพระเจดีย์ชัยมงคลแล้วเราก็เดินทางกันต่อนะคะ ก่อนแสงอาทิตย์ของวันนี้จะหมดไปเรามีจุดหมายปลายทางที่วัดมหาธาตุต่อ
เดินทางไปด้วยกันนะคะ