การมีรถยนต์ขับสักหนึ่งคันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะยุคสมัยนี้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์กันได้ทั้งสิ้น แต่สิ่งหนึ่งที่คนจะซื้อรถยนต์ต้องพึงระวังคือค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นหากเรามีรถยนต์ครอบครองเป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายอย่างแรกคือค่าน้ำมันรถรวมไปถึงค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษารถของเรา แต่ค่าใช้จ่ายอีกประเภทหนึ่งที่ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ่ายประจำทุก ๆ ปีนั่นคือค่าประกันรถยนต์ที่เราจะต้องต่อประกันรถยนต์ทุกปี ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือรูปแบบอื่นๆ ซึ่งในการต่อประกันรถยนต์นั้นเราต้องต่อประกันรถยนต์ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจในทุกปีซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงในแต่ละปี และอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุกปีเช่นกันคือ ภาษีรถยนต์ ซึ่งตามกฎหมายแล้วนั้นบังคับให้คนที่มีรถต้องเสียภาษีรถยนต์ในทุก ๆ ปี โดยรถยนต์แต่ละคันก็จะเสียภาษีที่แตกต่างกัน โดยวันนี้เราจะมาดูวิธีการต่อภาษีรถยนต์กันว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง 

ขั้นตอนในการต่อภาษีรถยนต์ 

รู้หรือไม่ว่าในการต่อภาษีรถยนต์หรือการต่อทะเบียนรถนั้นหากทำการต่อล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับโดยทางขนส่งจะเก็บค่าปรับ 1% ต่อเดือนของค่าภาษีรถ ดังนั้นเราไม่ควรละเลยการต่อภาษีรถ โดยมาดูขั้นตอนกันเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง 

• จัดเตรียมเอกสารสำหรับการต่อภาษีให้พร้อม ซึ่งได้แก่ ทะเบียนรถหรือสำเนาทะเบียนรถ , หลักฐานการผ่านการตรวจสภาพรถ ซึ่งรถที่มีอายุเกิน 7 ปี สามารถตรวจสภาพรถ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ ตรอ. ได้ ส่วนรถที่ขาดการต่อทะเบียนเกิน 1 ปี หรือ มีการดัดแปลงสภาพรถต้องตรวจสภาพรถ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดเท่านั้น และ เอกสารอย่างสุดท้ายคือพ.ร.บ. 

• โดยเมื่อเตรียมเอกสารครบแล้วนั้นก็สามารถไปต่อภาษีรถได้เลยซึ่งสามารถต่อได้หลายช่องทาง เช่น ต่อแบบออนไลน์ ที่ www.dlte-serv.in.th (เฉพาะรถที่ไม่ต้องตรวจสภาพ) , ต่อที่สำนักงานกรมการขนส่งทางบกทุกแห่งทั่วประเทศ , เลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) , ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ,  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ 

เห็นได้ว่าขั้นตอนในการต่อภาษีนั้นง่ายมาก ไม่ยุ่งยากเลย ซึ่งเราสามารถทำกันเองได้ง่าย ๆ หากใครใกล้ครบกำหนดในการต่อภาษีแล้วต้องรีบทำการต่อภาษีเลยทันทีห้ามละเลยเด็ดขาด 

รถชมวิวคืออีกหนึ่งการบริการที่นิยมกันมากตามสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์อันกว้างใหญ่หรือสวนสัตว์ที่มีพื้นที่มาก ซึ่งมีระยะทางไกลในการเดินชม รถชมวิวจึงกลายเป็นบริการที่ต้องมีของสถานที่ท่องเที่ยวไปเสียแล้ว แต่สำหรับบางสถานที่ที่อาจไม่มีความจำเป็นต้องเปิดให้ลูกค้าใช้บริการรถชมวิวขนาดใหญ่ตลอดเวลานั้น อาจสนใจทางเลือกอื่นๆ ที่ให้การใช้รถชมวิวมีความคุ้มค่ามากขึ้น อย่างการเช่ารถชมวิว เพราะการซื้อรถชมวิวจากร้าน ขาย รถ ชม วิว ในปริมานเยอะๆนั้นย่อมราคาถูกกว่าอยู่แล้ว

การเช่ารถชมวิว คืออีกหนึ่งวิธีที่มีเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถใช้รถชมวิวในระยะสั้นได้ หากคำนวณแล้วอาจคุ้มค่ามากกว่าการลงทุนซื้อรถชมวิวเป็นของตัวเอง อย่างเช่นสถานที่ท่องเที่ยวที่เปิดเพียงบางฤดูกาล หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพียงบางวันเท่านี้ที่ต้องใช้รถชมวิว การบริการให้เช่ารถชมวิวจึงคุ้มค่ามากกว่าเพราะมีราคาที่ต่ำกว่า เหมาะสมต่อการใช้งานระยะสั้น การเช่ารถชมวิวอาจแบ่งตามระยะเวลาที่เช่า เช่น การเช่ารถชมวิวแบบแรกคือการเช่ารถชมวิวเพียงรายวัน การเช่ารถชมวิวรายวันนั้น เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้เปิดบริการรถชมวิวเป็นของตนเอง แต่ต้องการรถชมวิวเพื่อบริการลูกค้ากลุ่มใหญ่ อาจให้ลูกค้าที่ต้องการรถชมวิวจองเข้ามาล่วงหน้าแล้วค่อยใช้บริการเช่ารถชมวิว

การเช่ารถชมวิวอีกแบบคือแบบรายเดือน การเช่ารถชมวิวรายเดือนนี้เหมาะสำหรับสถานที่ที่เปิดทำการเพียงช่วงเดียวต่อปี ให้ได้เช่ารถชมวิวเพียงรายเดือนที่เปิด หรือมีความต้องการเช่ารถชมวิวเพื่อเพิ่มจำนวนรถในบางเดือนที่มีลูกค้าใช้บริการมาก เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับลูกค้าเพียงบางช่วง หรือหากผู้ประกอบการบางคนมีความต้องการใช้รถชมวิวตลอดแต่อยากได้การดูแลรักษาจากบริษัทรถชมวิวที่เชี่ยวชาญ ก็อาจเช่ารถชมวิวรายปีเพื่อให้ได้รับบริการการดูแลรักษารถชมวิว รวมถึงสามารถเปลี่ยนรุ่นรถไปเช่าคันใหม่ได้เมื่อครบ 1 ปีด้วย

การให้บริการเช่ารถชมวิวจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับผู้ที่มีความต้องการเช่ารถชมวิวในระยะสั้น ใช้รถชมวิวเพียงบางช่วงหรือความต้องการดูแลรักษารถชมวิวจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ทั้งความคุ้มค่าราคาตามระยะเวลาการใช้งานที่ต้องการและการดูแลที่มีคุณภาพ

         ช่วงล่างรถยนต์นั้นสำคัญอย่างไร ทำไมเราจึงต้องมีการตรวจเช็คช่วงล่างอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วงล่างนั้นเป็นส่วนสำคัญในการรองรับน้ำหนัก รับแรงกระแทก หรือแรงสั่นสะเทือนต่างๆของตัวรถยนต์ โดยจะเรียกได้ว่าเป็นตัวรับน้ำหนักทั้งหมดของรถยนต์เลยก็ว่าได้ ซึ่งวิธีการตรวจเช็คช่วงล่างนั้นเราเองก็สามารถหมั่นตรวจเช็คเองได้ ดังนี้

หมั่นฟังเสียงผิดปกติ

          การตรวจเช็คช่วงล่าง วิธีที่ง่ายและสามารถทำเองได้โดยทันทีคือ การที่เราลองฟังเสียงที่ผิดปกติ หรือเสียงที่เราได้ยินขณะขับรถยนต์ ซึ่งโดยปกติแล้วขณะที่เราขับรถยนต์ เราค่อนข้างที่จะไม่ได้ยินเสียงที่ผิดปกติใดๆจากตัวรถ หรือเราอาจจะได้ยินเสียงภายนอกรถยนต์ค่อนข้างที่จะไม่มากนัก แต่หากเมื่อเราเริ่มได้ยินหรือรับรู้ความผิดปกติของเสียงจากรถยนต์ เราสามารถคาดเดาได้ว่ามันเกิดจากความผิดปกติของช่วงล่างรถยนต์ โดยอาจจะเกิดได้หลากหลายสาเหตุ เช่น เป็นเสียงน๊อตที่ยึดส่วนต่างๆของช่วงล่างไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากจุดยึดมีความหลวม ไม่คับแน่นอย่างเคยก็อาจจะก่อให้เกิดเสียงขึ้นมาได้
 

ตรวจเช็คความเสื่อมของสภาพ

          การตรวจเช็คสภาพช่วงล่างนั้นสำคัญ เพราะการเสื่อมสภาพอาจจะเกิดได้ทั้ง การเสื่อมจากภายในและจากภายนอก ซึ่งการเสื่อมจากภายใน สภาพภายภายนอกนั้นอาจจะดูปกติ ดูไม่น่าเป็นปัญหาอะไร แต่การเสื่อมสภาพจากภายในนั้น คือการเสื่อมสภาพของช่วงล่างในส่วนของลูกหมาก ซึ่งก็ได้แก่บริเวณแกนลูกหมากที่อยู่ภายใน โดยเรานั้นไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดความผิดปกติดังกล่างนั้น เกิดได้จากการที่เราอาจจะใช้งานรถยนต์ผิดประเภท เช่น การขับรถลงหลุม บ่อ หรือแอ่งกระทะ ที่ทำให้เกิดการสะเทือนอย่างรุนแรงซึ่งบางครั้งลูกหมากอาจรั้งไว้ไม่อยู่ ซึ่งจะทำให้แรงสะเทือนนั้นมายังตัวถังเครื่อง ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงแรงที่กระแทกนั้นได้ ส่วนการเสื่อมจากภายนอก เราก็สามารถตรวจเช็คได้เช่นกันโดยการโยกล้อ ซึ่งก็คือเราต้องเริ่มจากการปรับความสูงของล้อรถยนต์ให้อยู่ในแนวขนานกับอกจับไปที่ล้อรถ และลองผลักโยก หรือดึง จากนั้นลองสังเกตดูว่าล้อมีการขยับหรือไม่ หากล้อมีการขยับ แสดงว่าลูกหมากเริ่มมีการเสื่อมสภาพแล้ว หรือเผื่อความแน่ใจเราสามารถสังเกตได้จากสภาพของยางกันฝุ่น หากมีความเสื่อมสภาพแล้วก็ควรที่จะไม่ใช้งานต่อไป เพื่อให้การใช้งานของช่วงล่างสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

          ขอบคุณข้อมูลดีๆ มีประโยชน์จากเว็บไซต์ https://jekshockup.com/ ร้าน Jekshockup ที่จำหน่ายโช๊คอัพรถยนต์ ช่วงล่างรถยนต์ครบวงจร สินค้าที่ดี มีคุณภาพ และราคาถูกอีกด้วย

หลายๆ ท่านที่ต้องใช้รถยนต์แทบทุกวัน อาจลืมเรื่องสุดสำคัญไป หรืออาจมองข้ามสิ่งที่ควรจะใส่ใจ อาทิ โช๊คอัพรถยนต์ หรือช่วงล่างรถยนต์นั่นเอง ฉะนั้น บทความนี้เราจะมากระตุ้นความใส่ใจของคุณที่มีต่อโช๊คอัพรถยนต์ ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นก็มาจากร้าน ช่วง ล่าง รถยนต์ บริการครบวงจร ว่าแล้วก็อย่ามัวเสียเวลา เราไปหาคำตอบพร้อมกระตุ้นความใส่ใจของคุณที่มีต่อโช๊คอัพรถยนต์ หรือช่วงล่างรถยนต์กันเลย 

โช๊คอัพ หรือช่วงล่างรถยนต์ สำคัญฉไน ? 

โช๊คอัพ มีหน้าที่ช่วยควบคุมการดีดตัวของสปริง แหนบ หรือช่วงล่างรถยนต์ให้สอดคล้องไปกับสภาวะของผิวถนนขณะที่รถวิ่ง จะช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอของยาง ไปจนถึงอะไหล่ช่วงล่าง โดยเฉพาะลูกหมาก ระบบกันสะเทือน ตลอดจนช่วยให้รถยนต์เกาะถนนได้ดีขณะเข้าโค้งได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ คุณก็ควรศึกษาข้อห้ามหลังการเปลี่ยนโช๊คอัพให้ดี เพื่อให้โช๊คอัพนี้อยู่กับรถคุณไปนานๆ 

ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : ควรหลีกเลี่ยงสภาพถนนที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะจะทำให้โช๊คอัพต้องทำงานหนัก 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : ควรหลีกเลี่ยงการขับรถตกหลุมแรงๆ หรือขับด้วยความเร็วขึ้น-ลง ลูกระนาด ทำอายุการใช้งานสั้นลง 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : หลังการติดตั้งโช๊คอัพใหม่ ควรขับรถบนทางเรียบประมาณ 300-500 กม. เพื่อเป็นการวอร์มโช๊คอัพ 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : หลังการติดตั้งโช๊คอัพใหม่ต้องผ่านการตั้งศูนย์ล้อด้วยเสมอ 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : การเปลี่ยนโช๊คอัพ ควรจะคำนึงถึงให้ความปลอดภัยและการเกาะถนนเป็นหลัก เพราะแม้จะได้ความรู้สึกนุ่มนวลในการขับขี่ แต่การยึดเกาะถนนอาจลดน้อยลงส่งผลต่อความปลอดภัย 

• ข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ : การติดตั้งโช๊คอัพมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ควรได้รับการติดตั้งจากช่างผู้ชำนาญ 

และนี่คือ ความสำคัญของโช๊คอัพ หรือช่วงล่างรถยนต์ และข้อห้ามเมื่อเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ สายรักรถกันในบทความนี้ ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนระบบรถยนต์ใดๆ ก็ตาม ก็คือ ควรเปลี่ยนกับช่างผู้ชำนาญการ และศูนย์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้นนะ

ข้อดีของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อ 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการปล่อยควันพิษมากขึ้น เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม บวกกับราคาน้ำมันขายปลีกที่ยังไม่มีท่าทีจะลดราคาลง โดยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อถูกออกแบบมาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่แตกต่างไปจากรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีข้อดีดังต่อไปนี้ 

• ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ 

ต้องการลดการใช้พลังงานของน้ำมันลง ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างน้ำมันได้ดี เหมาะสำหรับคนรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลพิษเสียง ไม่รบกวนผู้อื่น ไม่มีการปล่อยควันจากท่อไอเสีย ซึ่งไม่สามารถสร้างฝุ่นควันที่ก่อให้เกิด PM 2.5  

• ไม่ต้องเสียเวลาไปปั๊มน้ำมัน เพราะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่บ้าน 

สำหรับการต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละครั้งนั้น ต้องรอคิวนาน ซึ่งอาจเป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน แต่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น ได้มีการพัฒนาให้สามารถชาร์จพลังงานได้ในขณะที่มันจอดอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงาน โดยวิธีการชาร์จพลังงานไฟฟ้า เพียงแค่เอาปลั๊กมาเสียบกับตัวรถและถอดออกเมื่อต้องการใช้งาน ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับเมื่อตื่นเช้ามาก็สามารถอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป 

• ตัวเครื่องยนต์มีความเงียบ 

ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายใน เพราะพลังงานไฟฟ้าถูกถ่ายเทไปที่มอเตอร์ของตัวเครื่องอย่างเดียว ทำให้มอเตอร์มีประสิทธิภาพมากกว่า จึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเงียบกว่า  

• ประหยัดเงินในเรื่องของค่าน้ำมัน 

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อประหยัดเงินกว่าการใช้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันมากถึง 5 เท่า ซึ่งการใช้รถมอเตอร์ไซค์จะใช้พลังงานจากไฟฟ้าที่ชาร์จเข้าไปเท่านั้น  

• ง่ายต่อการขับขี่ 

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง จะมีการกลไกการทำงานที่ซับซ้อนกว่า รถที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันในการขับเคลื่อน จะต้องใช้การจุดระเบิดเพื่อเผาไหม้จึงจะสามารถขับเคลื่อนได้ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามล้อเพียงทำการเก็บไฟฟ้ากับตัวแบตเตอรี่และให้มอเตอร์ทำงาน โดยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก 

• ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน 

มีแรงขับที่ไม่เร็ว ไม่มากจนเกินไป ทำให้ผู้ขับไม่ต้องเสี่ยงอันตราย จึงลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตาม มอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้า สามล้อ ราคาโรงงานถือว่าเป็นอีกทางเลือกใหม่ ที่มีข้อดีมากมายเต็มไปด้วยคุณสมบัติด้านการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังได้พัฒนาให้สามารถตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดพลังงาน ส่งผลดีต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย