Health Engineer Sport Club
Group Blog
 
All Blogs
 
ข่าวสารลิเวอร์พูล


ลิเวอร์พูล : ค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ของ เดอะ เร้ดส์

สุดยอดเหนือคำบรรยายจริงๆ สำหรับการทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007 ของ ลิเวอร์พูล และถือเป็นผลงานระดับมาสเตอร์ของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือเลือดกระทิง ที่สามารถพา "หงส์แดง" เข้าไปลุ้นแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ในรอบ 3 ปี ซึ่งต้องบอกว่าฝีไม้ลายมือของนายใหญ่ชาวสเปน ยอดเยี่ยมจนสาวก เดอะ ค็อป ต้องก้มหัวคารวะด้วยความนับถือ

จะว่าไปแล้วเกมนี้ โอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะผ่านเข้าไปลุ้นถ้วยแชมป์สมัยที่ 6 ค่อนข้างยาก หลังแพ้มาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มาก่อน 1-0 แต่การบุกมาเยือน แอนฟิลด์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราฟา ได้บอกก่อนเกมแล้วว่า งานนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" จะต้องเจอผู้เล่นเดอะ เร้ดส์ 12 คน (กองเชียร์) ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่คาด เพราะเสียงเชียร์ของ เดอะ ค็อป ที่ร้องกึกก้องทั่วสนาม สร้างความกดดันให้ผู้มาเยือน จนไม่สามารถปะติดปะต่อเกมได้เลย

ประตูแรกจาก ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ตั้งแต่นาทีที่ 22 สร้างความได้เปรียบให้กับเจ้าบ้านอย่างแท้จริงๆ เพราะนอกจากจะทำให้เกมกลับมาเสมอกันแล้ว ยังทำให้กองเชียร์เพิ่มเสียงกระตุ้นนักเตะได้มากเป็น 2 เท่า ซึ่งวันนั้นแฟนบอลหน้าจอแก้ว คงได้ยินเต็มสองหู เพราะเสียงเชียร์ของพวกเขากลบเสียงพากษ์บอลได้อย่างสุดยอด

แต่ฮีโร่ตัวจริงในสนามต้องยกให้กับ โฆเซ่ เรน่า นายทวารเลือดกระทิง แม้ในเกมจะไม่ค่อยได้เซฟมากนัก แต่ตอนยิงจุดโทษเป็นเขาที่หยุดลูกยิงของ อาร์เยน ร็อบเบน กับ เฌเรมี่ ได้อย่างอยู่หมัด

และการมุ่งหน้าสู่กรุงเอเธนส์ ทำให้ จอร์จ ยิลเล็ตต์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เจ้าของร่วมสโมสรเดอะ เร้ดส์ อดปลื้มกับผลงานของทีม ถึงขนาดออกมายกย่อง อดีตเทรนเนอร์ บาเลนเซีย ว่าทำงานได้อย่างไร้ที่ติ

"เรารู้จักเขาดี แต่ผมไม่คิดว่าเราตระหนักว่าเขาดีอย่างไร และไม่ได้เป็นเพียงแค่โค้ชเท่านั้น เขาไม่ได้เป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่เขายังเฉียบคม และเป็นนักธุรกิจที่ฉลาดมากอีกด้วย เขารู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการ และรู้ดีว่าจะได้มันมาอย่างไร ยิ่งเราเห็นเขามากขึ้นเท่าไร เราก็ยิ่งประทับใจเขามากขึ้นเท่านั้น"

ขณะเดียวกัน บิลเลี่ยนแนร์วัย 69 ปี ยังชื่นชมสปิริตของสาวก "เดอะ ค็อป" ที่ส่งเสียงเชียร์กระตุ้นทีมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนือย ที่สำคัญพวกเขายังให้การต้อนรับและให้ความเคารพในตัวเขาอย่างมาก

"พวกเขาอัศจรรย์มาก ทุกๆ ที่ที่ผมไป ผู้คนจะยินดี และต้อนรับผมดีมาก ผมอยากจับมือ และกอดพวกเขาหลังจบเกม เพราะว่าพวกเขาสนับสนุนทีมของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยมมาโดยตลอด"

ด้าน สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันจอมแกร่ง ก็อดปลื้มไม่ได้ที่ทีมรักได้เข้าสู่รอบชิงเป็นสมัยที่สอง ที่สำคัญเขายังมีโอกาสที่จะได้ชูถ้วยหูกางเป็นครั้งที่ 2 อีกด้วย

"มันยอดเยี่ยมที่ได้เข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้งในรอบ 3 ปี เราทำได้ไม่ดีนักในลีก แต่เราเป็นทีมที่ดีในยุโรป เราคือฝันร้ายของทุกคน เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะชนะตอนไหนและนั่นก็เป็นทัศนคติที่ยอดเยี่ยม"

นอกจากนี้ จากชัยชนะอย่างเหนือชั้นของทีม ทำให้ สตีวี่จี เชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ของ "สิงห์บลูส์" จะสงบปากสงบคำเรื่องที่พวกเขาตกรอบด้วยลูกยิงของ หลุยส์ การ์เซีย รอบรองฯ เมื่อปี 2005 ได้ซะที หลังจาก นายใหญ่เมืองฝอยทอง ชอบนำเรื่องนี้มาคอยเหน็บแนม ลิเวอร์พูล มาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

"มันเหมือนกับฝันร้าย มันยังสร้างความเจ็บปวดให้พวกเขา เพราะพวกเขายังพูดถึงมันไม่หยุด เราลืมเกมรอบรองชนะเลิศเมื่อ 2 ปีก่อนไปแล้ว"

แต่ที่อดไม่ได้จะต้องกล่าวสรรเสริญ คงหนีไม่พ้น เรน่า นายด่านปราการสุดท้ายที่โชว์ซูเปอร์เซฟ 2 ประตู โดย กองกลางทีมชาติอังกฤษ กล่าวว่า "เมื่อถึงการยิงจุดโทษและคุณรู้ว่าคุณมีหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก คุณย่อมมั่นใจ แต่คุณตื่นเต้นแน่ มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับนักเตะ โดยเฉพาะเมื่อผู้จัดการทีมเลือกคุณยิงจุดโทษ คุณต้องการนักเตะที่อาสาทำหน้าที่และเราก็ทำได้สำเร็จ"

เดิร์ค เค้าท์ ดาวยิงเลือดดัตช์ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม นายทวารทีมชาติสเปน ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในการเซฟจุดโทษ ซึ่ง อดีตกองหน้าของ เฟเยนูร์ด ยอมรับว่าจากผลงานของ เปเป้ เขาคลายความกดดันในการยิงประตูปิดท้ายให้ "หงส์แดง" เข้าสู่รอบชิง

"เปเป้ เรน่า ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาช่วยให้เรายังอยู่ในเกม จนกระทั่งมาชนะจุดโทษ ผมรู้สึกดีใจที่ได้เป็นคนยิงลูกสุดท้าย แต่เปเป้ ช่วยกำจัดความกดดันออกไปให้ เพราะเขาหยุดจุดโทษได้ถึง 2 ลูก สิ่งเดียวที่ผมต้องทำคือยิงให้เข้าเท่านั้น"

สำหรับ ราฟา ยอดกุนซือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ ได้ออกมากล่าวชื่นชมในตัวลูกทีมทุกคนที่เล่นกันแบบทุ่มเทวิ่งไม่มีหยุด และยังได้กล่าวต่อว่าชัยชนะในเกมนัดนี้ ยิ่งใหญ่กว่าชัยชนะเมื่อปี 2005 อีกด้วย

"บางทีชัยชนะวันนี้อาจจะน่ายินดีกว่าตอนที่เราชนะเชลซีในปี 2005 และผมก็รู้สึกภูมิใจกับลูกทีมทุกคนจริงๆ เชลซีเป็นทีมที่มีคุณภาพด้วยนักเตะชั้นยอดที่พวกเขามีอยู่ และมีหลายๆครั้งที่เราประสบปัญหาในการรับมือการเล่นของพวกเขา พวกเขาได้ฟรีคิกหลายครั้ง แต่การป้องกันที่ยอดเยี่ยมของเรา และความทุ่มเทอย่างหนักช่วยให้เราผ่านพ้นเกมนี้มาได้"

ที่สำคัญยังไม่ลืมที่จะขอบคุณกองเชียร์ เดอะ ค็อป ทุกคนที่ส่งเสียงเชียร์ไม่มีหมด โดยกล่าวว่า "กองเชียร์ของเราก็น่าประทับใจอย่างมาก และค่ำคืนนี้ก็นับเป็นบรรยากาศที่มหัศจรรย์ เรารู้สึกมีความสุขกับชัยชนะ เปเป้ เรน่า ช่วยป้องกันจุดโทษได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เขาก็ถนัดกับเรื่องนี้อยู่แล้วเมื่อการแข่งขันต้องมาตัดสินด้วยจุดโทษ และนับเป็นชัยชนะที่สำคัญสำหรับสโมสร และอนาคตของเรา"

คู่ต่อสู้ของพวกเขาในรอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน คู่ชิงเมื่อปี 2005 และถือเป็นการล้างตาของ "รอสโซเนรี่" ที่เคยช็อกอดได้แชมป์อย่างเหนือเชื่อในปีนั้นมาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าเกมนี้จะต้องดุเดือดและเต็มได้ด้วยความกดดัน แต่ที่แน่ๆ เกมคงจะไม่ออกมาเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนแน่นอน แต่ใครจะเป็นทีมที่ได้ชูถ้วย "บิ๊กเอียร์" ต้องรอดูวันพุธที่ 23 พฤษภาคม นี้

- เซ่อแป๊ก -
ตัดมาจากสยามกีฬาคับ



Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 พฤษภาคม 2550 21:39:25 น. 0 comments
Counter : 1359 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

frank3119
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Civil Engineer, R.I.D.
Counter
Counter
Emo น้องลิง (alpha)
Emo หัวหอม (alpha)
X
X
CHALLENGE
Friends' blogs
[Add frank3119's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.