New York… Statue of Liberty


วันนี้อ้อยอิ่งกันมากกกกกเลยค่ะ ก็เล่นนอนกลิ้งเกลือกอยู่ในที่พักกันตลอดครึ่งวันเช้า รอเวลาลงเรือไปชมเทพีเสรีภาพกัน

...แล้วทำไมไม่ออกกันไปตั้งแต่เช้า

ก็เพราะเราจองเวลาเรือได้เที่ยวบ่ายโมงตรงค่ะ ไม่อยากไปต่อคิวซื้อตั๋วยาวๆก็เลยตัดสินใจจองล่วงหน้า่ผ่านทางเว็บไซด์เอา

ใครที่สนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ Statue Cruise เรือมีออกจาก 2 ฟาก จากฟากนิวยอร์คก็ออกที่ท่าเรือบริเวณ Battery Park และจากฟาก New Jersey ออกที่ท่าเรือบริเวณ Liberty State Park

ออกจากฝั่งไหนราคาก็เท่ากันค่ะ แถมไม่ว่าจะซื้อตั๋วที่รวมค่าขึ้นชมวิวบนยอดมงกุฏเทพี (ใครมีแรงอยากขึ้นก็ต้องปีนขึ้นบันไดไปทั้งหมด 354 ขั้น) หรือจะซื้อตั๋วแบบที่สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ฐานรูปปั้น หรือจะซื้อแค่แบบลงไปเดินเล่นบนเกาะเท่านั้น จะซื้อตั๋วแบบไหนราคาก็ยังเท่ากันหมดอีกต่างหาก ...ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

มีเรือรอบตั้งแต่ 8:00 ~ 14:00 แวะให้ 2 เกาะ คือ Liberty Island กับ Ellis Island แต่ถ้าเป็นเรือรอบบ่ายสองโมงนี่จะไม่มีแวะที่ Ellis Island ให้ ...แต่ราคาเท่ากับซื้อตั๋วปกติ ...อะไรกันเนี่ย อะไรกัน!!

นอกจากนี้ก็ยังมีใ้ห้เที่ยวแบบล่องเรือตามด้วยดินเนอร์บนเกาะ Liberty Island แต่จะมีเรือออกจากฝั่งนิวยอร์คเท่านั้น แถมไม่ได้มีทุกวัน และยังเปิดบริการนี้เฉพาะหน้าร้อนอีกด้วย

พอจองตั๋วได้แล้ว ก็อย่าลืมปริ๊นต์ตั๋วไปด้วยนะคะ

...คณะเราไปถึง Battery Park กันตั้งแต่ก่อนเที่ยง ไปหาอะไรกินกันแถวนั้น พอท้องอิ่มก็เริ่มเคลื่อนทัพ


ซ้ายล่าง... ตำรวจ NYPD ออกลาดตระเวณ เท่ดีเนอะ

ขนาดเราจองตั๋วกันมาแล้วก็ใช่ว่าจะเดินฉับๆเข้าไปกันได้เลยนะคะ ยังต้องรอต่อแถวอีกประมาณ 10 นาทีได้ เพราะด้านในเค้าตรวจความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวดมากๆ สนามบินตรวจยังไงที่นี่ก็ตรวจเหมือนกันเลยค่ะ ...ส่วนแถวที่มาซื้อตั๋วที่ท่าเรือนี่ยาวกว่าแถวเราเยอะ


ก่อนที่จะหาข้อมูลมาเที่ยวนิวยอร์คนี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพตั้งอยู่บนเกาะ - -"

หลายๆคนอาจจะเคยรู้ประวัติของเทพีเสรีภาพกันมาบ้างแล้ว เอาคร่าวๆก็แล้วกันนะคะ เทพีสูง 46 เมตรนี่เป็นของขวัญที่ฝรั่งเศสมอบให้กับอเมริกาในโอกาสครบรอบ 100 ปีที่อเมริกาประกาศเอกราชจากราชอาณาจักร Great Britain

แต่เค้าไม่ได้ส่งมาทั้งใหญ่ๆอย่างนี้หรอกนะคะ ต้องแยกชิ้นส่วนมาแล้วเอามาประกอบที่อเมริกานี่ กว่าจะประกอบเสร็จก็กินเวลาราวๆ 4 เดือนด้วยกัน

และเทพีเสรีภาพแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย


ในมือของเทพีเสรีภาพถือแผ่นจารึกคำประกาศอิสรภาพ สลักวันที่ 4 ก.ค. 1776 (JULY IV MDCCLXXVI)


วิวนิวยอร์คอีกมุม ที่นี่มีบริการล่องเรือหลายประเภทเลยค่ะ

2 ชั่วโมงกับการเที่ยวชมอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เรานั่งเรือกลับกันมาที่ฝั่งแมนฮัตตัน จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไปยัง South Street Seaport ท่าเรือที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายความเป็นนิวยอร์คในอดีตให้เราได้เสพย์กัน


วิวสะพาน Brooklyn สะพานแขวนที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา มีอายุกว่า 125 ปีจาก South Street Seaport ส่วนสะพานแขวนที่อยู่ด้านหลัง คือ สะพาน Manhattan ค่ะ

เราจัดการมื้อค่ำกันที่นี่และกลับที่พักกันเร็วหน่อย เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานรับปริญญาในวันรุ่งขึ้น


งานรับปริญญาของน้องชายจัดขึ้นที่ Radio City Hall มีการแสดงดนตรีเล็กๆน้อยๆตลอดงาน พร้อมมีคนบรรยายเป็นภาษามือด้วย เจ๋ง!!

งานรับปริญญาของที่นี่ำแตกต่างจากของบ้านเรามากมาย เริ่มแค่ชุดครุยนี่ก็...ต้องซื้อไม่มีเช่า แล้วก็ไม่ใช่ถูกๆด้วย ส่วนชุดข้างในนี่จะใส่อะไรก็ได้ กางเกงยีนส์ขาดๆ ชุดสุดเซ็กซี่เว้าบ้างขาดบ้าง ยังไงก็ได้ตามสบายเลยค่ะ

แล้วที่จขบ.ชอบมากๆก็คือ พ่อแม่ผู้ปกครองญาติพี่น้องสามารถเข้าไปดูความสำเร็จของลูกหลานตัวเองได้อย่างใกล้ชิด พอลูกใครหลานใครได้รับการประกาศชื่อ ก็จะตามมาด้วยเสียง "วู้ว...." "เย้..." อะไรก็ว่ากันไป จากบรรดาญาติๆที่นั่งร่วมอยูในพิธี ส่วนบ้านเราเหรอคะ มีหลานชายไปด้วยทั้งคนจะกลัวอะไร พอประกาศชื่อน้าชายเค้าเท่านั้นแหล่ะ เสียงกรี๊ดของหลานตัวแสบก็ตามมาในทันที ...น้อยหน้าใครที่ไหน

เสียอย่างเดียว ให้มาเข้าแถวรอตั้งแต่ประมาณ 10 โมงครึ่งได้ แต่กว่าจะออกมาเล่นไปเกือบบ่ายสอง หิวมากกกกกก


เราไปแวะกินข้าวแล้วก็เดินเล่นกันแถวๆ Union Square ค่ะ

แล้วก็ต้องกลับที่พักเพื่อเก็บข้าวของกัน ...เราจะออกจากนิวยอร์คกันวันพรุ่งนี้แล้ว เสียดายที่ไม่ค่อยได้ย่ำราตรีนิวยอร์คกันเท่าไหร่เลย เพราะกว่าจะมืดก็ปาเข้าไปตั้ง 3 ทุ่ม เป็นเวลาที่คนแก่กับเด็กพร้อมนอนพอดี > <

...แต่ไหนๆมางานรับปริญญาทั้งที วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะมุ่งหน้าออกจากนิวยอร์คกัน ก็ต้องขอแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมสถาบันของน้องชายจขบ.กันซักหน่อย


สถาบัน Pratt ตั้งอยู่ในย่านบรู๊คลินค่ะ ภายในมีงานศิลปะตั้งโชว์ไว้มากมาย


บรรยากาศในย่านควีนส์

...เราสามารถพบเห็นชาวยิวได้มากมายในนิวยอร์ค ชาวยิวเคร่งๆก็จะแต่งตัวขาว-ดำคุมโทนกันแบบนี้ล่ะค่ะ ผู้ชายนี่ยิ่งดูง่ายใหญ่ มักจะใส่หมวกทรงสูง แล้วก็ไว้จอนยาวมากกกกก

อำลานิวยอร์คกันแต่เพียงเท่านี้ ...สถานที่ต่อไปของเรา “Niagara Falls” ค่ะ



Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 12:36:45 น. 4 comments
Counter : 2352 Pageviews.

 
ว้าว อยากเห็นเทพีเสรีภาพซักครั้งจังเลย...........


โดย: apple.007 วันที่: 8 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:42:51 น.  

 
Missing New York


โดย: PizzaBKK วันที่: 9 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:03:52 น.  

 


โดย: Elizabeth Town วันที่: 12 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:03:57 น.  

 
เห็นเห็นเทพีเสรีภาพจริงๆ สักครั้งเหมือนกันค่ะ


โดย: กาแฟร้อนตอนหน้าหนาว วันที่: 13 สิงหาคม 2553 เวลา:13:58:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HappyToBeMe*
Location :
Shizuoka Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เรียนเอกญี่ปุ่น ทำงานบริษัทญี่ปุ่น แต่งงานกับคนญี่ปุ่น มาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น บางช่วงก็เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้ บางช่วงก็รักใจจะขาด ไม่นึกว่าญี่ปุ่นจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมากมายขนาดนี้เลยนะเนี่ย

เพื่อการอ่านหน้าบล็อคให้ได้ตามความตั้งใจของจขบ. ลองดาว์นโหลดฟอนต์ดู ที่นี่ เลยค่ะ
ขอขอบคุณคุณ iannnnn มากๆที่สร้างสรรค์ฟอนต์สวยๆให้ได้ใช้กันนะคะ

**สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ และ ข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดนะคะ**

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add HappyToBeMe*'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.