New York… The City that Never Sleeps


มื้อเช้าอย่างจริงจังวันแรกในมหานครนิวยอร์คของจขบ.นี่ง่ายๆเลยค่ะ ซื้อของตุนกันไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เช้ามาก็ขนมปังปิ้ง ไส้กรอก ไข่ดาว ...ใครอยากกินอะไรก็ว่าไป ไม่ได้อยู่โรงแรมแต่ก็มีเครื่องครัวให้ใช้ได้สบายๆ และแน่นอน..มากับแม่ สบายไป 108 อย่าง 555

ส่วนใครที่หวังอยากจะไปช้อปปิ้ง หรืออยากจะไปฟังดนตรี ย่ำราตรีนี่... มาบล็อคนี้ผิดหวังนะคะ เรามากับคนหมู่มากหลากหลายวัย ความชอบความสนใจไม่เหมือนกัน เลยต้องเที่ยวอะไรกลางๆกันไว้ก่อน ^ ^

เอาล่ะค่ะวันนี้จะได้ฤกษ์ย่ำนครนิวยอร์คกันอย่างจริงจังซักที แต่ก่อนอื่น มาดูหน้าตานิวยอร์คคร่าวๆกันหน่อยดีกว่า


นิวยอร์คแบ่งออกเป็น 5 เขตย่อยด้วยกัน ซึ่งศูนย์กลางของมหานครแห่งนี้ตั้งอยู่ที่แมนฮัตตันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งกิน ย่านธุรกิจ ย่านบันเทิงแสงสี ทุกอย่างรวมอยู่ที่นี่

ส่วนคณะของเราพักกันอยู่ในเขตบรู๊คลิน การเดินทางครั้งนี้เลยต้องพึ่งไม่แท็กซี่ก็รถไฟใต้ดิน (ซึ่งบางสถานีมันก็ลอยมาอยู่บนฟ้า) เป็นหลัก


รถไฟใต้ดินที่นี่เสียค่าบริการครั้งละ 2 ดอลล่าร์ แต่ว่าจะขึ้นต่อกี่ทอดก็ได้ ตราบใดที่ยังไม่เดินออกจากประตูสถานีไป ราคาก็ยังอยู่ที่ 2 ดอลล่าร์เท่าเดิม

ตั๋วรถไฟใต้ดินที่นี่มี 2 แบบ โดยเป็นบัตรเติมเงินทั้งสองแบบค่ะ
แบบแรก “Regular” หนึ่งใบใช้ได้ถึง 4 คน ราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 7 ดอลล่าร์ 10 ดอลล่าร์ 20 ดอลล่าร์ หรือจะกำหนดราคาที่ต้องการซื้อเองก็ได้ รูดแต่ละครั้งมันก็จะหักเงินในตั๋วครั้งละ 2 ดอลล่าร์ไปเรื่อยๆ (แต่ถ้าซื้อตั๋วราคาแพงกว่า 7 ดอลล่าร์ ก็จะได้โบนัสส่วนลด 15 % แถมมาด้วยค่ะ)
แบบที่ 2 “Unlimited” เป็นลักษณะเหมือนตั๋ววัน จะขึ้นกี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัด
ตั๋ว 1 วัน ราคา 7.50 ดอลล่าร์ โดยตั๋วจะใช้ได้ถึงตี 3 ของวันที่ซื้อ
ตั๋ว 7 วัน ราคา 25 ดอลล่าร์
ตั๋ว 14 วัน ราคา 47 ดอลล่าร์

และถ้าใครอยากเข้าชมสถานที่ที่เค้าว่าเป็น “Must-see” ของนิวยอร์คให้ครบทุกแห่ง แนะนำนี่เลยค่ะ ตั๋ว City Passสามารถใช้เข้าชมสถานที่เด่นๆของนิวยอร์คได้ทั้งหมด 6 แห่งด้วยกัน
- ตึก Empire State (รวม Audio tour)
- American Museum of Natural History
- The Metropolitan Museum of Art
- The Museum of Modern Art (MoMA)
- ล่องเรือชมเทพีเสรีภาพและเกาะ Ellis หรือ ล่องเรือชมรอบๆเกาะแมนฮัตตัน
- Guggenheim Museum หรือ ชมวิวนครนิวยอร์คบนตึก Rockefeller
ราคาก็อยู่ที่ 79 ดอลล่าร์ (ราคาที่เขียนในบล็อคนี้นี่ต้องเข้าไปเช็คข้อมูลล่าสุดอีกทีนะคะ เพราะน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา) แต่ถ้าจะใช้บัตรนี้ให้คุ้มก็ควรเข้าชมประมาณ 4 - 5 แห่งขึ้นไปนะคะ

ส่วนคณะของเราเลือกเที่ยวจาก 2 ใน 6 แห่งเท่านั้น ซื้อเจ้าตั๋วที่ว่านี่ยังไงๆก็ไม่คุ้มแน่นอน ก็เลยไม่มีโอกาสได้ใช้กัน

วันนี้เราจะตลุยแมนฮัตตันกันค่ะ เริ่มจากเหนือลงใต้ ที่แรกของเราในวันนี้... ไปกันที่ American Museum of Natural History

นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี American Museum of Natural History ค่ะ


เข้าไปก็จะเจอกับเจ้าโครงกระดูกไดโนเสาร์สูงเสียดฟ้ายืนเด่นทักทายกันก่อนเลย

ที่นี่เปิดตั้งแต่ 10:00 ~ 17:45 และปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้าและวันคริสต์มาส
ส่วนค่าเข้านั้น... จริงๆแล้วที่นี่ใช้เป็นลักษณะของการบริจาคมากกว่าค่ะ ใครอยากสนับสนุนมากแค่ไหนก็แล้วแต่ใจศรัทธา แต่เค้าก็มีราคากลางเอาไว้เหมือนกันว่า มันควรจะอยู่ที่ประมาณ 16 ดอลล่าร์ (ผู้ใหญ่) 9 ดอลล่าร์ (เด็กอายุ 2 – 12 ปี) และ 12 ดอลล่าร์ (ผู้สูงอายุ และเด็กที่มีบัตรนักเรียน)


คุ้นๆมั๊ยค่ะ ...ใช่แล้วค่ะ ที่นี่เป็นฉากหลักของภาพยนตร์เรื่อง “Night at the Museum” และเจ้าสัตว์สตาฟพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นของขวัญที่ส่งมาจากประเทศนั้นประเทศนี้


เดินลงไปที่ชั้นล่างก็จะเจอกับเจ้าปลาวาฬสีน้ำเงินขนาดยักษ์ ยาว 27.4 เมตร แล้วก็พวกสัตว์ขั้วโลกอื่นๆ


เดินขึ้นไปอีกชั้นก็จะเจอกับโครงกระดูกของสัตว์ดึกดำบรรพ์ทั้งหลายแหล่ค่ะ


นอกจากไดโนเสาร์ก็ยังมีช้างแมมมอธ กวางตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ฯลฯ มากมายจริงๆ

แต่ที่นี่ไม่ได้มีแต่เรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เท่านั้นนะคะ ยังมีห้องแสดงวิถีชีวิตและเครื่องแต่งกายของชนเผ่าต่างๆทั่วโลก รวมทั้งวัฒนธรรมเ่ด่นๆของแต่ละทวีปอีกด้วย


ของไทยเราก็มี

ครึ่งวันกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ แต่ถ้าจะดูละเอียดจริงๆคงต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆล่ะค่ะ ...ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะกลางเมืองใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก “Central Park”


ศาลาริมน้ำ “Ladies Pavilion” และสะพานที่เห็นไกลๆนั่น เค้าเรียกว่า “สะพาน Bow Bridge” ค่ะ คู่รักนิยมมาพายเรือเล่นกันที่นี่ แต่ส่่วนใหญ่เท่าที่เห็นจะเป็นผู้หญิงพาย ผู้ชายนั่งเฉยๆ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน


...ณ ที่แห่งนี้ มุมนี้... ชาคริตมานอนรอเจี๊ยบ... ไ่ม่ใช่ล่ะ แต่ถ้าใครรักหนังเรื่องกุมภาพันธ์ก็อาจจะอินกับบรรยากาศที่นี่ได้ไม่ยาก ^ ^


น้ำพุ Bethesda ปิดซ่อมซะงั้น - -"

ภายในสวนสาธารณะมีหนุุ่มๆสาวๆมานอนอาบแดดกันมากมายค่ะ คณะเราก็เอาบ้าง แต่เราหามุมร่มๆแล้วก็นอน....หลับเอาแรง


บรรยากาศอื่นๆภายใน Central Park

...หลังจากงีบกันไปได้พักใหญ่ๆ ก็ออกเดินกันต่อเลยที่ถนนช้อปปิ้งสายสำคัญ 5th Avenue


Display เก๋ๆ


รถฟักทองและลีมูซีนคันยักษ์

เดินดูคนดูตึกกันพอเหนื่อย เราก็มาถึงที่นี่ค่ะ


โบสถ์ Saint Patrick โบสถ์คาทอลิคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกา


...และตึก Rockefeller สูงชลูด โด่นเด่นมากๆ

ถ้าใครอยากขึ้นไปชมมหานครแห่งนี้ในมุมสูง แนะนำตึกนี้เลยค่ะ เพราะเราจะได้เห็นตึก Empire State ด้วย ราคาก็อยู่ที่ 21 ดอลล่าร์ สำหรับผู้ใหญ่
แต่ถ้าใครอยากขึ้นไปชมช่วงพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ก็ต้องยอมจ่ายมากกว่านี้นะคะ อยู่ที่ 30 ดอลล่าร์
เปิดให้ขึ้นตั้งแต่ 8:00 ~ 24:00 ไม่มีวันหยุด
ดูรายละเอียดได้ที่ Top of The Rock

...เดินชมเมืองกันไปเรื่อยๆค่ะวันนี้


มาถึงตึกที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง... ตึก Chrysler แต่เดิมเค้าตั้งใจจะสร้างตึกนี้ให้เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก แต่แล้วความสูงก็ไม่พอค่ะ เลยต้องใช้วิธีต่อส่วนยอดขึ้นไปอีก 37.5 เมตร แต่ก็ที่เป็นหนึ่งอยู่ได้แค่ปีเดียว ปีถัดไปก็ต้องยกตำแหน่งให้กับตึก Empire State ไป


เดินไปเดินมาก็มาถึง สถานีรถไฟ Grand Central Terminal ...สถานีสุดสวยในกรุงนิวยอร์ค


สถานีรถไฟแห่งนี้มีอายุเกือบ 100 ปีแล้ว ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่านี่คือสถานีรถไฟ บรรยากาศภายในสวยงาม โรแมนติคใช้ได้เลยค่ะ

แวะพักเหนื่อย หาอะไรอร่อยๆกินที่นี่กันซักพัก แล้วก็ออกไปผลาญพลังกันต่อ

เรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี World Trade Center ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเราไปดูอะไรกัน


เราไปดูซาก... จริงๆแล้วไม่ใช่ แต่เป็นสถานที่ก่อสร้างตึก World Trade Center ตึกใหม่ต่างหาก ซึ่งมีกำหนดการว่าจะสร้างเสร็จในปี 2012 ที่ความสูง 541 เมตร

เดินๆๆๆๆกันมาทั้งวัน ขอแอบไปนั่งทำโรแมนติค หลีกหนีความวุ่นวายของมหานครที่ยิ่งใหญ่นี่ซักหน่อยนะคะ ^ ^


ณ สวนสาธารณะเล็กๆบริเวณ World Financial Center Plaza พระอาทิตย์ตกดินกำลังอำลาพวกเราในเวลาเกือบๆจะสามทุ่ม



Create Date : 05 กรกฎาคม 2553
Last Update : 5 กรกฎาคม 2553 15:58:53 น. 3 comments
Counter : 1587 Pageviews.

 
ดูอากาศดี อลังการมากๆๆ น่าไปเที่ยวจัง


โดย: currywurst วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:10:37 น.  

 
เห็นชื่อบลอกแล้วรีบกดเข้ามาเลยค่ะ
NY เป็นเมืองที่ใฝ่ฝันจะไปให้ได้ซักครั้งนึงในชีวิต
ชอบรูปพระอาทิตย์ตกรูปสุดท้ายจังเลยค่ะ


โดย: khimyo (khimyo ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:23:06 น.  

 
ตามมารำลึกนิวยอร์คด้วยคนค่ะ ตอนที่ไปช่วงหน้าหนาว...Central Park อย่างหงอยเลยค่ะ สงสัยต้องไปใหม่ อยากเห็นบรรยากาศสวนสวยร่มรื่นแบบนี้บ้างจัง
ปล.เราขึ้นทั้งสองตึกส่วนตัวชอบ Rockefeller มากกว่าเพราะได้เห็น Empire State Tower และ Central Park แบบเต็มๆเลยค่ะ


โดย: IndyLand วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:56:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HappyToBeMe*
Location :
Shizuoka Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เรียนเอกญี่ปุ่น ทำงานบริษัทญี่ปุ่น แต่งงานกับคนญี่ปุ่น มาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น บางช่วงก็เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้ บางช่วงก็รักใจจะขาด ไม่นึกว่าญี่ปุ่นจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมากมายขนาดนี้เลยนะเนี่ย

เพื่อการอ่านหน้าบล็อคให้ได้ตามความตั้งใจของจขบ. ลองดาว์นโหลดฟอนต์ดู ที่นี่ เลยค่ะ
ขอขอบคุณคุณ iannnnn มากๆที่สร้างสรรค์ฟอนต์สวยๆให้ได้ใช้กันนะคะ

**สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ และ ข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดนะคะ**

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add HappyToBeMe*'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.