New year 2010


ปกติปีใหม่นี่เคนจะกลับ Niigata ทุกปี ปีที่แล้วเป็นปีแรกที่พาเรากลับ Niigata ด้วย หยุดยาวญี่ปุ่นนี่ก็เหมือนเมืองไทย รถติด คนแน่น เบียดเสียด ยิ่งไปเป็นคู่ของก็เยอะขึ้น ลำบากลำบน ปีนี้เลยตกลงกันว่าให้พ่อแม่เคนมาอยู่กับเราช่วงปีใหม่แทน ให้มากันก่อนที่จะเริ่มเข้าวันหยุด จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครเค้า

สุดท้ายก็มาสรุปว่าจะมาอยู่ที่ชิซูโอกะนี่ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.ถึง 4 ม.ค. ศิริรวม 8 วันเต็มๆ

เป็นครั้งแรกที่ต้องอยู่กับพ่อแม่เคนนานขนาดนี้ แถมไม่มีเคนอยู่ด้วย เพราะขานั้นบริษัทเริ่มปิดวันที่ 31 แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ด้วยดี ..ดีกว่าที่คิดไว้เยอะ

27 ธ.ค.
.. พ่อแม่เคนมาถึงที่นี่ประมาณบ่ายโมงครึ่งได้ จัดแจงข้าวของ สบายๆอยู่บ้านนั่นแหล่ะ

เคน.. พรุ่งนี้ข้างๆบ้านจะมีพวกชาวบ้านเอาผักผลไม้มาขาย ของน่าจะเยอะนะเพราะขายส่งท้ายสิ้นปี พ่อลองลงไปดูซิ เค้าเริ่มกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า

พ่อ.. ตั้งขายตรงไหนล่ะ ต้องเดินไปยังไง แม่เค้าคงยังไม่ตื่นหรอก

เรา.. เดี๋ยวพรุ่งนี้ก้อพาไปเองค่ะ

พ่อ.. ก้อจังตื่นไหวเหรอ

เคน.. ไม่มีทาง (ตอบแบบเร็วมากกกกกกก ไม่เกรงใจกันเลย เหอๆ)

พ่อ.. ตกลงมีพ่อพึ่งได้อยู่คนเดียวใช่มั๊ยเนี่ย 555555

น้ำเสียงนี่ภูมิใจเป็นที่สุด

28 ธ.ค.
.. ในที่สุดวันนี้ก็ตื่นเช้าได้ แต่ไม่ได้ตื่นพาพ่อไปตลาด แต่ตื่นขับรถพาเคนไปส่งที่สถานีรถไฟแทน เพราะฝนตกหนักไม่อยากขี่จักรยานไป

สายๆพาพ่อกับแม่ไปเดินเล่นในตัวเมืองชิซูโอกะ ไม่นึกว่าจะเดินกันเยอะเลยไม่ได้เอากล้องไปซะนี่

วันนี้ลมแรงสุดๆ เดินแบบเหมือนมีใครผลักอยู่ด้านหลังตลอด พ่อเคนเดินเก่งขึ้นมากกกกก ไม่น่าเชื่อ

... พ่อเคนเคยป่วยเป็นมะเร็งไขกระดูกค่ะ หมอบอกว่าระยะสุดท้าย ไม่ต้องถามว่าเหลือเวลาอีกกี่เดือน กี่ปี เพราะแค่เป็นวันยังตอบยาก แต่ท้ายที่สุดก็รักษาหาย หายมาเป็นปีที่ 3 แล้ว แต่ก็ยังเข้าไปตรวจร่างกายสม่ำเสมอ ทำกายภาพบำบัดตลอด ขยันมากๆ จากคนที่เดินไม่ได้ แถมหมอยังบอกว่าไม่มีทางกลับมาเดินได้ เพราะกระดูกบั้นเอวบางมากกกก แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่เดินเลย พ่อเคนขับรถได้ ขี่จักรยานได้ เดินขึ้นเขาได้ อาจจะต้องมีไม้เท้าช่วยบ้าง พักบ้างเป็นระยะๆ แต่ยังไงก็สุดยอด....อ่ะค่ะ

อีกอย่างนี่เป็นมะเร็งครั้งที่ 2 ครั้งแรกเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ก็รักษาหายไปแล้ว มะเร็งทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้จริงๆ

29 ธ.ค.
.. วันนี้ขับรถพาพ่อแม่เคนไปวัด Kuon-ji (久遠寺
) บนเขา Minobu-san (身延山) 1 ช.ม.ครึ่งจากที่บ้าน เรื่องขับรถนี่ไม่เป็นปัญหา แต่ขับขึ้นเขาทางเลนเดียวนี่... ยังไงก็ไม่ชินเลยจริงๆ

.. ไม่อธิบายละเอียดนะคะ เพราะไม่ใช่หน้า "ย่ำญี่ปุ่น" เก็บไว้เล่ากันอีกที ^ ^


Sanmon (三門) ประตูหลักของวัด จะเดินจากที่นี่ขึ้นไปด้านบนก็ได้ แต่คราวนี้เราเอารถขึ้นไปกัน

ก่อนขึ้นไปด้านบนก็แวะลงไปเดินกันซักหน่อย

... ณ ร้ายขายของที่ระลึก (พวกเครื่องลางทั้งหลาย)

พ่อ.. เดี๋ยวซื้อเครื่องลางให้แม่เค้าหน่อย แม่เค้าเกิดปีเสือ ก้อว่าอันไหนดี

... อยู่ๆแม่ก็เดินเข้ามา

แม่.. ทำอะไรกันอยู่เหรอ

พ่อ.. เปล่า ดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ

... ซักพักพ่อก็เดินไปจ่ายตังค์แล้วก็ยื่นเครื่องลางให้แม่ แม่เขินใหญ่ 555 รักวัย 70

จากนั้นก็ขับรถขึ้นไปด้านบนกัน แต่ก่อนเข้าไปที่ตัววัดก็ขึ้นกระเช้าไปดูวิวด้านบนที่ความสูง 1,153 เมตรกันซะหน่อย


ปกติจากด้านนี้จะมองเห็นฟูจิซังด้วย แต่มาวันนี้อดอ่ะ

แม่เคนมาชิซูโอกะทีไรไม่เคยได้เห็นฟูจิซังชัดๆซักที คราวนี้อุตส่าห์มาหน้าหนาวช่วงที่ฟ้าชิซูโอกะใสที่สุด ก็ยังโชคร้ายมาเจอวันที่มีเมฆเข้า

พ่อเคนบอกว่า แม่เคยเดินขึ้นฟูจิซังแล้วไปพูดว่า ฟูจิซังเป็นภูเขาที่เหมาะกับการดูไกลๆเท่านั้น ดูใกล้ๆแล้วไม่สวยเลย (แม่เคนเดินเขามาเยอะมาก แทบจะทุกลูกที่ดังๆในญี่ปุ่นแล้วมั้งน่ะ) หลังจากนั้นมาแม่เคนก็ยังไม่เคยได้เห็นฟูจิชัดๆอีกเลย

..ไม่เชื่ออย่าลบหลู่


เดินไปดูวิวอีกฟากที่ระดับความสูงเดียวกัน เห็นเทือกเขา South Alps อยู่ลิบๆ


วัดด้านบน Okuno-in (奥之院) ส่วนหนึ่งของวัด Kuon-ji

ด้านบนอุณหภูมิแค่ 1 องศา แต่ยังดีที่ไม่มีลม เลยเตร็ดเตร่กันไปเกือบชั่งโมง


ลงมาด้านล่างกันบ้าง คราวนี้นั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นไปที่ตัววัดหลัก Kuon-ji


เห็นเงียบๆไม่มีคนอย่างนี้ พอถึงวันปีใหม่นี่อาจจะไม่มีที่ให้เดินกันเลยก็ได้ ขนาดวันที่ไปมีรถจอดอยู่ 20 กว่าคันได้ ไม่มีคันไหนที่มาจากเมืองเดียวกันเลย เหนือสุดมาจาก Sapporo ใต้สุดก็มาจาก Kumamoto มีชื่อเสียงทั่วประเทศจริงๆ

30 ธ.ค.
.. วันนี้เดินทางไปเมืองฟุจิเอดะ พาพ่อเคนไปเยี่ยมเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันซะหน่อย


บ้านนี้เค้าปลูกผักกินเอง เห็นแปลงแค่นี้มีมันทุกอย่าง ตั้งแต่กระเทียม ต้นหอม หัวหอม หัวไชเท้า กะหล่ำปลี บล็อกคอลลี่ แครอท ผักกาด ผักสลัดนานานาชนิด มะนาว ตะไคร้ เกาัลัด ราสเบอรืรี่ และอีกมากมาย จำกันไม่หวาดไม่ไหว


ขนมญี่ปุ่นสำหรับวันปีใหม่

31 ธ.ค.
.. วันนี้เคนหยุดงานแล้ว เลยพากันไปขึ้นเขากันหน่อย


ไปซื้อเสบียงตุนไว้ระหว่างทางที่ร้านขนมปังแถวบ้านค่ะ ไปรอตั้งแต่เค้ายังไม่เปิดร้าน


เป้าหมายของเราวันนี้คือเขา Hamaishi-dake (浜石岳) ที่ความสูง 707 เมตร แม่เคนอยากเดินตั้งแต่ด้านล่างเลย แต่พ่อเดินไม่ไหวก็เลยไปเริ่มกันระหว่างทาง

ระหว่างทางเจอสตรอเบอร์รี่ภูเขา ดอกไฮเดรนเยียแห้งคาต้น และสารพันไม้ที่ถ้าเราไม่รู้จักเราก็จะมองไม่เห็นมัน แต่มากับผู้เชี่ยวชาญเรื่องภูเขาอย่างแม่เคน อธิบายมันได้ทุกต้น ต้นไหนคนปลูก ต้นไหนขึ้นเองตามธรรมชาติ ต้นไม้ประเภทเดียวกันแถบนี้ต้นเป็นแบบนี้ แต่แถบอื่นๆจะต่างกันไปแบบนั้น สนแบบนี้มีที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ถ้าที่ยุโรปต้องพันธุ์นี้ โอ๊ย....ข้อมูลแน่นมากๆ ทำให้เดินเขาสนุกขึ้นเยอะ แต่ที่สำคัญ ....จำไม่ได้หรอกค่ะ 555


วิวด้านบน ซึ่งเราควรจะเห็นฟูจิซังจากที่นี่ แต่ก็ดันมีเมฆมาบังซะนี่ ด้านบนมีหิมะตกลงมาปรอยๆละลายภายใน 30 วิ เฮ้อ..หิมะเค้าตกกันโครมๆ (แม่เคนบอกว่าก่อนมานี่ บ้านที่ Niigata หิมะสูง 40 กว่าซ.ม.) ที่ชิซูโอกะนี่จะไม่มีหิมะตกกับเค้าบ้างเลยจริงๆน่ะเหรอ

ที่นี่เราบอกแม่เคนทีเล่นทีจริงว่า ลองขอโทษฟูจิซังดูซิ เผื่อเค้าจะโผล่ออกมาให้เห็นบ้าง ^ ^


ขากลับแวะซื้อ Sakura-ebi ซักหน่อย ที่นี่มีของแปลกๆขายด้วย อย่าง แกงกะหรี่ Sakura-ebi, ราเมง Sakura-ebi, ข้าวเกรียบชาเขียวหน้า Sakura-ebi ..ช่างคิดกันเหลือเกิน


แวะซื้อมื้อเย็นกันที่ตลาดปลาแถวบ้าน ชีวิตนี้เคยได้กินแต่ Maguro (Tuna) แบบเนื้อแดงปกติ วันนี้นี่ครั้งแรกในชีวิตที่ได้กิน Chu-toro กับ Oo-toro อร่อยสมราคามากกกกกก ถ้าพ่อแม่เคนไม่มา สงสัยชาตินี้คงไม่ได้กิน เหอๆ


ระหว่างทาง เกือบแล้ว คำขอโทษเกือบเป็นผล

1 ม.ค.
.. วันนี้วันดีปีใหม่ ออกไปไหว้ศาลเจ้าตามธรรมเนียมคนญี่ปุ่นกันซะหน่อย


ปกตินี่เค้าต้องไปกันแต่เช้า ส่วนบ้านเราไปเอาสายๆขี้เกียจไปเบียดคนกัน


Nasubi (茄子) หรือมะเขือม่วงญี่ปุ่น

ว่ากันว่าในวันปีใหม่ถ้าใครฝันเห็นฟูจิซัง (ความรุ่งเรืองที่แผ่ขยายออกไป), เยี่ยว (โลดแล่นโบยบินในที่สูง) หรือมะเขือ (พ้องเสียงกับคำที่แปลว่า “ทำให้สำเร็จ”) ก็จะโชคดีตามนั้น ในวันปีใหม่นี่แม่เคนเลยเอา “มะเขือ” มาให้กิน (ไม่ได้ฝันถึงได้กินก็ยังดี 55) มะเขือจริงๆนะคะ แต่ไม่รู้ว่าใส่สีหรือเอามาทำตอนที่มันยังไม่แก่ถึงได้เขียวขนาดนี้

2 ม.ค.
.. วันนี้พาไปเดินกันอีกรอบ ขับรถขึ้นไปที่ Satta Pass (薩埵峠) เดินไม่ไกลแค่ 1 กิโลเท่านั้น

Satta Pass เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสาย Tokaido (東海道) เส้นทางสายหลักของญี่ปุ่นทางฝั่งตะวันออก เป็นเส้นทางที่คนญี่ปุ่นสมัยโบราณใช้เดินเท้าไปยังเมืองต่างๆ เราเลยมาตามรอยกันหน่อย


ด้านบนมีซากุระบานแล้วด้วย เร็วเกินไปป่าวเนี่ย


วิวระหว่างทาง ..ภูเขานี่ก็เลียบชิดขอบทะเลเหลือเกิน ถ้าจะเดินทางยังไงก็ไม่มีทางเลือกต้องใช้เดินขึ้นเขาเอาเท่านั้น

..วันนี้เห็นฟูจิซังเต็มๆ แม่เคนดีใจมากกกกกก ยังกะเด็กอ่ะ


วิวมุมนี้คุ้นๆกันบ้างไหมเอ่ย ถนนหลักสาย 1 หรือที่เรียกว่าสาย Tokaido (東海道) ในปัจจุบันสร้างบนชายฝั่งกันเลย ส่วนทางด่วน Tomei (東名) ก็ตกไปอยู่ในทะเลซะ

เคนบอกว่าถ้ามีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้น Tomei หักตกทะเล ส่วน Tokaido ก็คงโดนหินบนภูเขานี่ถล่ม แถมรถไฟ JR สาย Tokaido นี่ก็วิ่งเลียบตีนเขาขนานไปกับตัวถนนก็คงจะไม่เหลือซากเช่นกัน ถ้าถึงวันนั้นขึ้นมาจริงๆ ถนนหลักสายเส้นเลือดใหญ่ของญี่ปุ่นเกิดขาดขึ้นมา ญี่ปุ่นคงจะวุ่นวายกันน่าดู

ทางที่นี่เดินขึ้นนิดเดียวก็เป็นทางราบแล้วไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่

พ่อเคน... นี่มันทางสำหรับคนแก่นี่ ไม่ใช่สำหรับพ่อนะ พ่อยังไม่แก่ซักหน่อย

เคน... อ๋อเหรอ


พ่อเคนบอกหนาวๆอยากกินราเมง มื้อเที่ยงนี้เลยพาไปกินร้านเจ้าประจำ อร่อยเหมือนเดิม ^ ^


ต่อกันด้วยของหวานร้านที่คอนเฟิร์มแล้วว่า “อร่อยชัวร์ !”

3 ม.ค.
.. พาไปขึ้นเขาอีกรอบ ไม่รู้ว่าบ้านนี้เค้าชอบขึ้นเขากัน หรือว่าญี่ปุ่นมันมีแต่เขาให้ขึ้นกันแน่


วันนี้พาไปขึ้น Sugio-yama (杉尾山) ที่ความสูง 563 เมตร แต่วันนี้เราไม่เดิน พาพ่อเดินทุกวันเดี๋ยวจะกลายเป็นหักโหมเกินไป เลยเอารถขึ้นไปถึงที่กันเลย

...เห็นฟูจิซังอยู่ลิบมากๆๆๆๆๆๆ


ดอกไม้แห้งแถวนั้น อยู่ๆก็หลงดอกไม้แห้งหน้าหนาวขึ้นมาเฉยเลย

4 ม.ค.
.. พ่อแม่เคนออกเดินทางออกจากชิซูโอกะประมาณ 10 โมงครึ่ง ถึงนีงาตะประมาณ 4 โมงเย็นได้ กลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง จะว่าดีก็ดี จะว่าเหงาก็เหงา แต่ให้ดูด้วยกันตลอดคงไม่เอา 5555



Create Date : 05 มกราคม 2553
Last Update : 5 มกราคม 2553 8:31:48 น. 0 comments
Counter : 985 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

HappyToBeMe*
Location :
Shizuoka Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เรียนเอกญี่ปุ่น ทำงานบริษัทญี่ปุ่น แต่งงานกับคนญี่ปุ่น มาใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น บางช่วงก็เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้ บางช่วงก็รักใจจะขาด ไม่นึกว่าญี่ปุ่นจะมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมากมายขนาดนี้เลยนะเนี่ย

เพื่อการอ่านหน้าบล็อคให้ได้ตามความตั้งใจของจขบ. ลองดาว์นโหลดฟอนต์ดู ที่นี่ เลยค่ะ
ขอขอบคุณคุณ iannnnn มากๆที่สร้างสรรค์ฟอนต์สวยๆให้ได้ใช้กันนะคะ

**สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพ และ ข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุดนะคะ**

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add HappyToBeMe*'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.