"หน้าฝนมาแล้ว...ว"
Group Blog
 
All blogs
 

มื้อเช้ากับ cheese & nut แพนเค้ก

แม่แจ่มใสชอบ แพนเค้ก ทำง่าย ทานง่าย อร่อยดี

ถ้าเราผสมส่วนของแห้ง แพ็คใส่กล่องไว้เลย ยิ่งสะดวก เหมือนทำแป้งสำเร็จรูปน่ะแหละ เช้ามาก็เอาไข่ น้ำมันพืช และนมมาเติม คนๆ ทอดๆ ก็ได้ทานแล้ว

แพนเค้กมีหลายสูตร เยอะแยะไปหมด แม่แจ่มใสชอบลองไปเรื่อยๆค่ะ ใจจริงชอบทานแบบหนาๆฟูๆ แต่ส่วนมากมักเจอแบบนิ่มๆบางๆ ถ้านิ่มๆบางๆต้องยกให้ ร้าน little home บางทีไปส่งลูกที่โรงเรียน แม่แจ่มใสก็เลยไปนั่งทานกาแฟ กับแพนเค้กที่ร้านนี้กับเพื่อนๆผู้เป็นแม่บ้านอาชีพด้วยกัน นานๆทีค่ะ ไม่ไปบ่อยหรอก....

วันนี้แม่แจ่มใสลองสูตรใหม่อีกแล้ว ได้มาจากหนังสือที่ไปคุ้ยๆมาจากร้านหนังสือเก่า หนังสือชื่อ Lovin' from the Oven ทานแล้วถูกใจ ใช่เลย แบบหนาๆฟูๆ อร่อยๆ




ได้เวลาแบ่งปันความอร่อยแล้วค่ะ

ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสด 1 3/4 ถ้วย
น้ำมันพืช (แม่แจ่มใสใช้น้ำมันมะกอก) 1/4 ถ้วย
แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ชต. (เพิ่มอีกได้ค่ะ เพราะตามสูตรจะไม่ออกหวานเลย)
ผงฟู 4 ชช.
เบคกิ้งโซดา 1 ชช.
เกลือ 1/2 ชช.

แม่แจ่มใสเติม
เชดด้าชีสขูดเส้นๆ 1/4 ถ้วย และ อัลมอนต์สับๆ 1/4 ถ้วย




เริ่มทำด้วยการตีไข่ให้แตกดี เติมนม และน้ำมันลงไป ตีให้เข้ากันดี




เติมแป้งลงไป คนให้พอเข้ากันและไม่มีแป้งเป็นก้อนๆเหลือ แล้วทีนี้ก็ใส่ ชีสและอัลมอนต์ลงไป คนให้เข้ากัน

ทาน้ำมันที่กะทะบางๆ ตั้งไฟให้กะทะร้อน แต่ไฟไม่แรงนะคะ หยอดส่วนผสมลงทอดเลย แม่แจ่มใสใช้ทัพพีขนาดแบบตักแกงจืดนะคะ หยอดได้แพนเค้กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4.5 นิ้ว




สักประเดี๋ยวก็ฟู อวบ ....





พอขอบๆเริ่มแห้ง ก็กลับด้านได้ ไม่ต้องรอให้แห้งทั้งหมดเดี๋ยวจะไหม้ก่อน




กลับแล้วก็รอสักแป๊บ แป้งสุกหมดก็เอาขึ้นใส่จาน.....

...บ้านนี้มีวิธีทานแบบของใครของมัน ...แม่แจ่มใสชอบน้ำเชื่อมเมเปิ้ล พี่เก้าชอบน้ำผึ้ง ส่วนน้องสิบชอบทาเนยตอนร้อนๆให้ซึมลงในเนื้อ....ตัวใครตัวมันแล้วกัน..

ดูสิ....ฟูดีจริงๆ




สูตรที่ให้ไว้จะทำได้ ประมาณ 12 ชิ้น (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5 นิ้ว) แม่แจ่มใสทำแค่ครึ่งสูตรค่ะ แม่แจ่มใสเองน่ะทานแค่ชิ้นเดียว...ไม่ได้กลัวอ้วนหรอก ....มีอะไรบางอย่างรออยู่....

นี่ไง...



...ทำไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น...ทานซะหนึ่งชิ้น ตามด้วยกาแฟ 1 แก้ว...ยัง..ยังมีอีก..



น้ำดอกไม้ลูกโต...สุกคาต้นเลย..สอยมาเองกับมือ.. แม่แจ่มใสทานมะม่วงสุกคาต้น ชอบรสหวาน และเนื้อแข็งๆ เลยซื้อทานไม่ได้แล้ว มันไม่อร่อยเท่าน่ะ.....

อิ่มจัง....





 

Create Date : 20 เมษายน 2552    
Last Update : 20 เมษายน 2552 11:43:28 น.
Counter : 664 Pageviews.  

บะหมี่หมูกรอบ

เมื่อกลางวันแม่แจ่มใสไปจ่ายกับข้าว ฝนก็ทำท่าจะตก รีบๆซื้อของ คนเยอะมากๆ คนซื้อก็รีบ คนขายก็รีบ แม่แจ่มใสซื้อหมูสามชั้นมา 1 เส้น ราคา 47 บาท คนขายคิดราคาซ้ำสองหน โชคดีที่วันนี้แม่แจ่มใสดูใบเสร็จอีกครั้ง เกือบได้ทานหมูกรอบเส้นละเกือบร้อยซะแล้ว

วันนี้กะจะทำบะหมี่หมูกรอบคะ แต่มื้อกลางวันคงไม่ทันแล้วเพราะซื้อของเสร็จก็สิบเอ็ดโมงครึ่งแล้ว ฝนตกหนักมาก

เลยเอาไปทำทานมื้อเย็นคะ

พี่เก้ากับน้องสิบเพิ่งมาทานบะหมี่แห้งเป็นไม่กี่ปีนี้เอง แต่ก่อนทานแต่บะหมี่น้ำ แล้วก็ทานแต่บะหมี่เท่านั้น เส้นอื่นก็ไม่ชอบ เดี๋ยวนี้ทานบะหมี่แห้ง แต่ทานแบบต้องมีน้ำซุปเอาไว้ซดหนึ่งถ้วยด้วย ทานแบบกวางตุ้งเลย





แม่แจ่มใสเอาหมูสามชั้นมาต้มน้ำเดือด ไฟไม่แรงนะ เดี๋ยวน้ำซุปขุ่น ต้มประมาณ 40 นาที แล้วเอาออกใส่จาน ปล่อยให้เย็นลง จากนั้นแม่แจ่มใสก็เอาส้อมจิ้มๆๆๆๆๆ หนังหมู เวลาทอดจะได้พองๆ กรอบๆ

อีตอนจิ้มนี้โดนส้อมจิ้มนิ้วมือไปหลายที ก็จิ้มไปดูข่าวเสื้อแดงบุกพัทยาไปด้วย เฮ้อ...เบื่อจัง...เบื่อความวุ่นวายทั้งหลาย.....จิ้มแล้วก็หมักซีอิ้วขาว และพริกไทยไว้เลย

สักชั่วโมงผ่านไปแม่แจ่มใสเอาไปอบก่อนคะ ไม่กล้าทอดเลยทันที กลัวน้ำมันกระเด็น อบให้น้ำออกๆๆไปมั้ง น้ำมันกระเด็นนี่นอกจากอันตรายแล้ว ยังต้องมานั่งเช็ดเตาอีก..

อบพอแห้งค่อยเอาไปทอดให้หนังกรอบๆ ออกมาหน้าตาไม่เลวเลยนิ





จากนั้นก็ลวกผัก ลวกเส้นบะหมี่ ลูกๆทานคนละสองก้อนแน่ะ...

ส่วนน้ำต้มหมูน่ะพอเย็นตัวลงแล้ว แม่แจ่มใสเอาไปใส่ช่องแข็ง ให้ไขมันที่ลอยแข็งตัว แล้วเอาออกมาช้อนทิ้งค่ะ เติมน้ำเปล่าเพิ่ม ปรุงรสหน่อย ทำน้ำซุปให้ทานกับบะหมี่แห้ง......

หมดไปอีกหนึ่งมื้อ....อร่อยจัง....





 

Create Date : 11 เมษายน 2552    
Last Update : 11 เมษายน 2552 19:38:19 น.
Counter : 458 Pageviews.  

สลัดมันฝรั่ง..ซื้อมาทานเกิดติดใจ..ร้านหายไป..ทำเองก็แล้วกัน..

หลายปีมาแล้วมีร้านเบเกอร์รี่เล็กๆ พร้อมทั้งมีพวกอาหารพวกสลัดมันฝรั่ง ผักดองต่างๆ ขายอยู่แถวบ้าน เจ้าของเป็นเยอรมันค่ะ อร่อยชอบสลัดมันฝรั่งมาก

แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ร้านหายไป...อยากทานอีก..เลยต้องพยายามทำเอง

แรกๆแม่แจ่มใสก็พยายามทำให้เหมือนค่ะ ใส่แตงกวาดองด้วย ทำไปทำมาปรับเปลี่ยนไปเรื่อย จนทุกวันนี้มีสูตรของตัวเอง เลิกใส่แตงกวาดองค่ะ เพราะลูกไม่ชอบทาน เขี่ยกันไปเขี่ยกันมา..

สูตรปัจจุบันแม่แจ่มใสจะทำตามนี้ค่ะ สำหรับทานสามคนนะ

ต้มไข่หนึ่งฟองค่ะ ต้มให้สุกดีเลย




ส่วนมันฝรั่ง 2 หัว แม่แจ่มใสจะหั่นลูกเต๋าก่อนต้ม ส่วนใหญ่เขามักต้มก่อนค่อยหั่นเนอะ..แต่แม่แจ่มใสว่าหั่นก่อนมันต้มสุกเร็วดี..




ต้มมันฝรั่งไปสักพัก แม่แจ่มใสจะใส่แครอทหั่นลูกเต๋า ใช้ประมาณ 1/2 หัวตามไปค่ะ เพราะแครอทสุกง่ายกว่า



ระหว่างต้มไข่กับต้มผัก ก็เตรียมปรุงรสค่ะ

เครื่องปรุงที่ใช้..

ใช้มายองเนส และ มัสตาร์ตค่ะ




อันนี้แม่แจ่มใสชอบค่ะ ได้รสเค็มของโชยุ และหวานๆหน่อยด้วย
(ตอนทำแรกๆก็ใส่แต่เกลือค่ะ ทำไปทำมา..ความเป็นฝรั่งหายไปเลยนิ)



ตักมายองเนสสัก 2-3 ช้อนทานข้าว ส่วนมัสตาร์ทใช้ประมาณเกือบๆช้อนค่ะ
ใส่ลงในชามผสม ตามด้วยโชยุ น้ำส้มสายชู (ถ้าใครชอบแตงกวาดองก็ใช้แตงกวาดองให้รสเปรี้ยวได้ค่ะ) น้ำตาล (แม่แจ่มใสใช้น้ำตาลทรายแดง) เกลือนิดเดียวก่อน โรยพริกไทยด้วยนิดหน่อย คนทั้งหมดให้เข้ากันดี ไม่ต้องใส่มากนะคะ ทุกอย่างสามารถเพิ่มเติมได้ทีหลัง





จากนั้นก็เอามันฝรั่งและแครอทที่ต้มแล้วใส่ลงไป แม่แจ่มใสชอบให้มันฝรั่งเปื่อยๆค่ะ ทานแล้วรู้สึกว่ามันนุ่ม และเครื่องปรุงมันแทรกเข้าไปในมันฝรั่งดี แล้วก็ตามด้วยไข่ต้ม (อย่าลืมปอกเปลือกนะ) คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสดูค่ะ ขาดอะไรก็เติมลงไป อาจจะโรยพลาสเลย์หน่อยให้หอมๆก็ได้



พอคลุกเคล้าเข้ากันก็ทานได้เลยค่ะ จะแช่เย็นก่อนแล้วค่อยทานก็อร่อยดี เหมือนเวลาเราไปซื้อมาเก็บในตู้เย็นแล้วก็ควักออกมาทาน







ทำเอาไว้เยอะๆก็ได้นะ เอาไว้ทำไส้แซนวิช หรือไส้พายก็อร่อยดีค่ะ ถ้าอยากใส่พวกเนื้อสัตว์ด้วยก็สามารถค่ะ เช่น แฮม ไส้กรอก หรือ อาจทำเบคอนบิท เอาไว้โรยก็เยี่ยมค่ะ ตัวแม่แจ่มใสนิยมแบบไม่มีเนื้อสัตว์ ไอ้เจ้ากุ้งน้อยคอยรักในรูปนั้นของลูกสาวค่ะ ของแม่แจ่มใสน่ะมังจริงๆ....




 

Create Date : 05 เมษายน 2552    
Last Update : 6 เมษายน 2552 9:19:40 น.
Counter : 1523 Pageviews.  

กุ้งอบวุ้นเส้น..หรือ..วุ้นเส้นอบกุ้ง!?!

"วุ้นเส้น" เป็นเมนูที่ทั้งแม่แจ่มใสและลูกๆชอบทานกัน ทำทีไรลูกก็ชอบไม่ว่าจะเอาไปผัดใส่กะหลำปลีนิดหน่อย หรือเอาไปผัดกับไข่เจียว แม้แต่แกงโฮะของทางเหนือ แม่แจ่มใสก็ชอบทาน

กุ้งอบวุ้นเส้น เป็นอีกเมนูที่ชอบกัน แม่แจ่มใสจะใส่วุ้นเส้นเยอะๆเลย เพราะแม่แจ่มใสไม่ค่อยทานเนื้อสัตว์ ไม่ใช่มังสวิรัติ แต่พยายามจะทานเนื่อสัตว์ให้น้อยลงเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เริ่มชักชวนลูกๆให้ทานกันน้อยๆลงไป

วันนี้กุ้งอบวุ้นเส้นของแม่แจ่มใสเลยใช้วุ้นเส้น 2 ห่อ แต่ใส่กุ้งแค่ 3 ตัว ทั้งสามตัวนี่เป็นของพี่เก้าคนเดียว เพราะน้องสิบแพ้กุ้ง ทานแล้วคันปาก..ไม่รู้อยากด่าใคร...

จานนี้ไง....กำลังร้อนๆเลย





แม่แจ่มใสแช่วุ้นเส้นไว้ตั้งแต่บ่ายๆ เมื่อดำริจะทำก็แช่เลยค่ะ

พอตกเย็นก็เริ่มบรรเลง

โขลกกระเทียมพริกไทยค่ะ ใช้พริกไทยเม็ด ทั้งขาวทั้งดำเลย

แล้วเทน้ำมันพ์ชสัก 2 ช้อนโต๊ะ ลงเคลือบก้นหม้อให้ทั่ว จริงๆเขาใช้มันหมูวางก็มีค่ะ แต่แม่แจ่มใสว่าน้ำมันๆออกมาไม่ทั่วก้นหม้อแล้วทำให้วุ่นเส้นติดก้นหม้อ...เสียดายวุ้นเส้นน่ะ..

จากนั้นก็เอาขิงแก่มาฝานตามแนวขวางหนาสักเกือบครึ่งเส้นเนอะ..วางเรียงลงไปที่ก้นหม้อค่ะ






ทีนี้ก็เอาวุ้นเส้นขึ้นจากน้ำ ตัดให้สั้นพอดีทานนะคะ วางทับลงบนขิงเลย

แล้วแม่แจ่มใสก็กระแทกน้ำมันหอยลงไป ตามด้วยซอสปรุงรส ตามมาติดๆด้วยซีอิ้วขาว ทุกอย่างนี่บอกตรงๆว่าแม่แจ่มใสกะเอาค่ะ

อ้อ...ใส่น้ำมันงาลงไปด้วย..หอมน่าทานดี..

ตรงขั้นตอนนี้บางคนอาจจะคลุกวุ้นเส้นกับเครื่องปรุงเลย แต่แม่แจ่มใสไม่คลุกค่ะ ไปรอคลุกตอนใกล้ๆสุกเลย...

ไปต่อค่ะ....จากนั้นก็เอากุ้งวาง เรียงราย แล้วแต่ตกลงกันว่าจะทานคนละกี่ตัว จองกันไว้เลย ไม่ต้องมัดจำ..คนกันเอง..

แล้วโรยด้วยคื่นช่าย...ใส่เยอะๆก็ได้ค่ะ แม่แจ่มใสว่าใส่เยอะนะ พอสุกแล้วหดเหลือนิดเดียว....เจ็บจาย..ย



หน้าตาดูเข้าท่าเข้าทางนะ

ทีนี้ก็เอาน้ำซุปใสๆราดลงไปสัก 3 ทัพพี... ปิดฝาหม้อยกขึ้นตั้งเตา ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนค่ะ เดี๋ยวใหม่หมด

ดูสิ..หม้ออบประจำตระกูล..ต้องใช้สองมืออุ้มน่ะ..หนักจริงๆ..




ระหว่างนั้นจะทำอะไรก็ทำค่ะ แต่คอยเงี่ยหูฟังนะ ไม่ต้องไปเปิดดูหรอก ฟังเสียงเอา

ถ้าได้ยินเสียงเดือดปุดๆ..ฟู่ๆๆ..อะไรทำนองเนี่ย ก็เปิดฝาได้เลยค่ะ แล้วก็เอาที่คีบมาจัดการกลับล่างขึ้นบน เอาบนลงล่าง ให้ทั่วถึง เป็นอันว่าสุกแน่นอน ของพวกนี้สุกง่ายค่ะ..



จะตักใส่จานหรือจะทานในหม้อก็ตามถนัด แต่หม้อใบนี้มันใหญ่เกิน แม่แจ่มใสเลยตักใส่จานค่ะ ทานร้อนๆ อร่อยดี ไอ้เจ้ากุ้ง 3 ตัว นั้นพี่เก้าลงชื่อจองไปแล้ว ยกให้เขาไป แม่แจ่มใสกวาดแต่วุ้นเส้นอยู่แล้ว..




แม่แจ่มใสไม่สามารถบอกส่วนผสมเป๊ะๆได้นะคะ เอาเป็นแนวทางล่ะกัน ทำไปชิมไป ทำบ่อยๆก็จะชำนาญ (อาจจะยังไม่เก่ง) ทำบ่อยกว่านั้นก็จะเก่ง

คุณยายของแม่แจ่มใสเคยมีร้านข้าวแกงที่เพชรบุรี ตอนเด็กๆคุณยายเลิกทำร้านแล้ว มาอยู่บ้านกรุงเทพกับแม่แจ่มใส คุณยายยึดครัวเลย แม่แจ่มใสขลุกอยู่ในครัวกับคุณยายเสมอๆ โดยเฉพาะปิดเทอม (ให้ทายสาเหตุ..เดี๋ยวเฉลยตอนท้ายนะ)......แม่แจ่มใสไม่ค่อยได้สูตรอะไรมาหรอก เพราะคุณยายก็บอกไม่ได้ว่าแค่ไหน แต่ความที่ชำนาญเขากะได้เป๊ะๆ รสเหมือนกันทุกครั้ง แต่สิ่งที่แม่แจ่มใสได้คือทักษะ การหยิบจับ ใส่อะไรบ้าง ใส่ก่อนใส่หลัง พวกนี้ค่ะ แต่ทำเองไม่ค่อยได้เรื่องเพราะชั่วโมงบินน้อย...บินไม่ถึงไหนสักที...

มาเฉลยดีกว่า..แม่แจ่มใสชอบอยู่ในครัวกับคุณยาย เพราะ...ไม่ใช่ชอบกิน...ชอบฟังละครวิทยุค่ะ....คุณยายจะมีวิทยุทรายซิสเตอร์อยู่ข้างๆตัวตลอด ไอ้เราฟังก็ติด เหมือนคนที่ดูละครทีวีน่ะคะ สมัยก่อนกลางวันไม่มีทีวีดู ฟังละครวิทยุเพลินไปเลย......

....คณะณีลิกานนท์..เสนอ..........ระหว่างเรื่องก็จะมีโฆษณา..ถ่านไฟฉายตรากบ...ยุคนี้มันต้องทันสมัย เพื่อนผมทั่วไปใช้ถ่านไฟตรากบ........




 

Create Date : 04 เมษายน 2552    
Last Update : 4 เมษายน 2552 20:27:40 น.
Counter : 519 Pageviews.  

เปิดซิง...เครื่องบดกาแฟ..พร้อมเมล็ดกาแฟห่อใหม่

สืบเนื่องมาจากปลายปีที่แล้ว หลานสาวที่อยู่อเมริกา ไปเที่ยวNew Mexico มา แล้วซื้อเมล็ดกาแฟส่งมาให้ คุณเธอน่ารักมากจำได้ว่าอาคนนี้ต้มกาแฟทานทุกเช้า แต่หลานเจ้ากรรมดันลืมว่าคุณอาคนนี้ซื้อแต่กาแฟบดแล้ว เพราะไม่ใช่คอกาแฟจ๋าขนาดนั้น เลยไม่มีที่บดกาแฟ เมล็ดกาแฟก็เลยนอนนิ่งอยู่ในลิ้นชัก



ประจวบกับเพื่อนรุ่นพี่ผู้เป็นที่รักยิ่งและได้เจอกันนาน 6 ปี กลับมาจากอเมริกาเมื่อปีใหม่ ก่อนมาก็ถามแม่แจ่มใสว่าอยากได้อะไร แม่แจ่มใสไม่เคยตอบคำถามนี่ได้เลย พอนึกถึงอะไร ก็จะมีคำตอบตามมาว่าเมืองไทยก็มี เลยบอกไปว่าไม่เอาอะไรค่ะ แค่มีขนมนมเนยติดมือมาให้หลานๆดีใจกันเล่นๆก็พอ ความที่คุยกันทางเน็ตบ่อยๆ แม่แจ่มใสก็เล่าเรื่องเมล็ดกาแฟให้ฟัง ทีนี้ได้เรื่องเลย พี่เธอมาพร้อมกับเซอร์ไพรคือเครื่องบดกาแฟอันนี้ค้า...



วันนี้เพิ่งได้ฤกษ์เปิดซิงเพราะกาแฟเก่าเพิ่งหมด แม่แจ่มใสทานวันละแก้วเดียว ก็ 4 เดือนซื้อทีนึงนะคะ

ไอ้เครื่องนี้ก็ไฟ 110 ซะด้วย เดือดร้อนต้องไปรื้อเอาหม้อแปลงไฟออกมาจากห้องเก็บของ



ลองบดดูค่ะ เอาแค่พอชงสัก 4 ถ้วยพอ นั้นก็หมายความว่าอีก 4 วันค่อยงัดออกมาใหม่



ตวงเมล็ดใส่ลงไป 3 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาเรียบร้อย ปั่นสักแป๊บเดียวออกมาหน้าตาเยี่ยงนี้




ทีนี้ก็ได้เวลาต้มกาแฟแล้ว



เครื่องต้มกาแฟอันนี้อายุประมาณ 15 ปี จำได้ว่าซื้อก่อนลูกชายเกิด ซื้อเพราะเห็นมันน่ารักค่ะ ต้มได้ 1-2 แก้วเท่านั้น คนขายเข้าใจโฆษณา...เขาบอกว่า...ใช้สะดวกนะคะ เล็กๆตั้งบนโต๊ะทำงานได้ค่ะ...เพื่อวิงเวียนก็ใช้ละลายยาหอมได้....โอ้..สุดยอด.. แม่แจ่มใสขำกลิ้งเลย จำได้จนบัดเดี๋ยวนี้เลย.. ราคา 1000 บาทถ้วน ใช้ซะ15ปีแล้ว ทุกวันนี้เวลาเห็นของใหม่ๆตามห้างก็อยากได้ แต่ไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาบอกตัวเองให้ทิ้งอันเก่า มันยังอยู่ดีเหมือนเดิมค่ะ

เล่าประวัติเครื่องต้มกาแฟเพลินไป..มาชิมกาแฟดีกว่า....

...................................

ไม่อยากบอกว่า.......มันช่าง.....ห่วยจริงๆ...


กาแฟไม่หอมค่ะ กลิ่นคล้ายมีโกโก้ผสม...รสจืดมากๆ..

ว่าแล้วตอนบ่ายแม่แจ่มใสไปซื้อกาแฟ ... ตงฮู...มาทานซะดีกว่า เฮ้อ..สงสารคน New Mexico กินอะไรกันเนี่ย....




 

Create Date : 02 เมษายน 2552    
Last Update : 2 เมษายน 2552 20:28:01 น.
Counter : 537 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

MommyTammy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นSingle mom มาได้3ปี อาชีพหลักคือ เลี้ยงลูกวัยรุ่น 2 คน ดูแลบ้านช่อง หมาเล็กหมาใหญ่ อาหารการกิน งานอดิเรกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ....... ยังค้นหาตัวเองไม่เจอมั้ง......
Friends' blogs
[Add MommyTammy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.