ประวัติหลวงพ่อปัญญานันทะ
ชื่อ: พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)เดิมชื่อ ปั่น นามสกุล เสน่ห์เจริญเกิด: เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๔ตรงกับวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีกุน ที่ตำบลคูหาสวรรค์ อำเภอเมืองจังหวัดพัทลุง เป็นบุตรของนายวัน - นางคล้าย เสน่ห์เจริญมีพี่ชาย ๑ คน พี่สาว ๒ คน และน้องสาว ๑ คนบรรพชา: พ.ศ. ๒๔๗๒ อายุ ๑๘ ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอุปนันทารามตำบลเขานิเวศน์ จังหวัดระนอง และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ใน พ.ศ. ๒๔๗๕ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ที่วัดนางลาด ตำบลเขาเจียก อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุงโดยมีพระครูจรูญกรณีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์วิทยฐานะ: ครูใหญ่ในโรงเรียนประชาบาล เงินเดือน ๆ ละ ๒๕ บาท และได้เรียนนักธรรมไปด้วย สอบนักธรรมตรีได้ที่ ๑ ทั้งมณฑลภูเก็ต หัวข้อกระทู้ธรรมในการสอบครั้งนั้น คือ "น สิยา โลกวฑฺฒโน - บุคคลไม่ควรเป็นคนรกโลก" ศึกษาภาษาบาลีที่วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร จนสอบได้ประโยค ๔ ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รับรางวัล " สังข์เงิน" เป็นเกียรติในฐานะพระภิกษุผู้เผยแพร่ธรรมะยอดเยี่ยมประจำปี ๒๕๒๐ จากสมาคมนักประชาสัมพันธ์แห่งประเทศไทย คุรุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทรวิโรฒ ได้รับถวายปริญญาสังคมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาครุศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ประวัติการทำงาน: เทศน์ครั้งแรก ที่วัดปากนคร จังหวัดนครศรีธรรมราชพ.ศ. ๒๔๗๖ ร่วมธุดงค์ไปเผยแพร่พระพุทธศาสนา ที่ประเทศพม่า ไปจำพรรษาที่สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศึกษาและปฏิบัติธรรมร่วมกับท่านพุทธทาสและท่าน บ.ช. เขมาภิรัต เป็น "สามสหายธรรม"ร่วมงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา เผยแพร่พระพุทธศาสนาด้วยการปาฐกถาธรรม ในนาม"ภิกขุ ปัญญานันทะ"ผู้สนับสนุนคนสำคัญ คือ เจ้าชื่น สิโรรส เดินทางไปเผยแพร่ธรรมะยังทวีปยุโรป และร่วมประชุมกับขบวนการศีลธรรมโลก (M.R.A.) ที่เมืองโคช์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กรมชลประทานอาราธนานิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์และได้บวช ม.ล. ชอบ อิศรศักดิ์ เป็นคนแรก ปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนาให้เป็นไปเพื่อส่งเสริมสติปัญญา ตามหลักการที่ว่า "เป็นระเบียบ เรียบง่ายประหยัด และได้ประโยชน์" แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโรฐาน เริ่มเปิดสอน พุทธศาสนาวันอาทิตย์ แก่เยาวชน แสดงธรรมเทศนาถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ แสดงพระธรรมเทศนา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชนีนาถ, องคมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่าน ในพระราชพิธี พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รามาธิบดีอันมีศักดิ์ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้รับรางวัล "นักพูดดีเด่น" ประเภทเผยแพร่ธรรม จากสมาคมฝึกการพูด เริ่มแสดงปาฐกถาธรรม ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เวลา ๘.๐๐ - ๘.๓๐ น. สถานีวิทยุกระจายเสียง เริ่มโครงการ "พระธรรมทายาท" อบรมพระภิกษุให้เป็นนักเผยแผ่ธรรมะที่ดี เป็น "ธรรมทายาท" มิใช่"อามิสทายาท" ของพระบรมศาสดา ได้รับการยกย่องและคัดเลือกให้เป็น "บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา" รับถวายที่ดิน จำนวน ๖ ไร่ เพื่อสร้างวัดปัญญานันทาราม เป็นเจ้าคณะภาค ๑๘ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐ และลาออกใน พ.ศ. ๒๕๔๑ ตำแหน่งปัจจุบัน: เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ หัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๙ ประธานมูลนิธิพุทธทาส ประธานมูลนิธิส่งเสริมแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอ สมณะศักดิ์: รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น "พระปัญญานันทมุนี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้รับพระราบทานสมณศักดิ์ เป็น "พระราชนันทมุนี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น "พระเทพวิสุทธิเมธี" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ "พระธรรมโกศาจารย์" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น "พระพรหมมังคลาจารย์" เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗