แค่อยากให้ทุกเรื่อง ...และแล้วก็ Happy ending
 

++ 38 สัปดาห์ กับอีก 1 วัน - ได้ฤกษ์คลอดสำหรับลูกแล้วหละ++

2 เม.ย. --38 สัปดาห์ กับ 1วัน-- เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา คุณย่า คุณลุงคุณป้า คุณอามาเยี่ยมหนูกันที่บ้านเราด้วยหละ หนูคงได้ยินเสียงญาติๆเยอะแล้วก็เสียงแม่จ้อตลอดเวลา เลยดิ้นโชว์ซะสุดฤทธิ์ทั้งที่ปกติแล้วต่อหน้าคนอื่นหนูจะเรียบร้อยมาก แม่โชว์ฝีมือทำกับข้าวด้วยนะ 1มื้อแหนะ แม่ว่ารสชาติก็พอได้นะ ไม่ขายหน้าเท่าไหร่ แต่รู้สึกมื้อนั้นทุกคนจะกินกันน้อยจัง แล้วก็ไม่มีใครชมแม่ตามมารยาทเลยว่าอร่อยหรือกินได้ แหะๆ.. หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยววัดกัน แม่ทำบุญไหว้พระขอพรให้หนูเหมือนเดิม ขอให้ลูกแข็งแรงปลอดภัย เป็นเด็กดี

ข้าวของของลูกแม่ก็เตรียมครบหมดแล้วหละ กระเป๋าไปโรงพยาบาลก็แพคเสร็จ ผ้าอ้อม เสื้อผ้าลูกแม่ทั้งซักทั้งรีด ตอนรีดแม่เหนื่อยมากเลย เพราะนั่งนานปวดหลังสุดๆ ลูกก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กสงสัยจะอึดอัด แม่ต้องคอยบอกลูกว่าแม่ทำให้หนูนะ อดทนหน่อยลูกอีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วครับ

อืม...แม่ขอชมพ่อเค้าซะหน่อย เดี๋ยวนี้พ่อเค้าน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ มาชวนลูกคุยด้วยบ่อยๆ เวลาพ่อเค้าลูบท้องลูกก็จะดิ้นคุยกับคุณพ่อใหญ่เลย พ่อเค้าว่าเดี๋ยวเค้าจะลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกหละ เร่งให้แม่พิมพ์ใบลาออกให้แทบทุกวัน แม่เลยมอบหมายหน้าที่ซักผ้าอ้อมให้พ่อแล้วอธิบายวิธีแช่ซักเรียบร้อยแต่พ่อเค้าจะรับแต่หน้าที่เล่นกับลูกซะงั้น

แล้วพ่อก็ยังเตือนให้แม่นอนดีๆเพราะกลัวลูกจะอึดอัดด้วยนะ แต่ไม่เห็นกลัวแม่จะอึดอัดบ้างเลย เพราะพ่อเค้าย้ายขึ้นมานอนข้างบนอีกแล้ว หลังจากยอมไปนอนข้างล่างไม่ถึง2อาทิตย์ มีการบอกว่า งงๆว่าแม่จัดที่นอนยังไงทำไมพ่อต้องเป็นคนลงมานอนข้างล่างคนเดียวด้วย แหม...พ่อนี่น่าจะคิดได้ช้ากว่านี้อีกซักหน่อยนะ แม่นอนข้างบนคนเดียวกลิ้งไปกลิ้งมากำลังสบายเลย

นอกจากนี้ก็มาบอกให้แม่กินแบรนด์ต่อ บอกว่าบำรุงไว้เยอะๆก่อน หลังคลอดแม่จะได้ไม่เพลียมาก แล้วก็กำชับให้แม่บอกคุณหมอด้วยว่าแม่มีคีลอยด์เป็นแผลเป็นง่าย เผื่อคุณหมอจะได้ระวังขึ้น เพราะพ่อเค้ากลัวพุงแม่จะมีแผลเป็นน่าเกลียด แม่หนะไม่แคร์หรอกกับแผลที่พุงเพราะไม่มีใครเห็นอยู่แล้วแต่เสียดายนิดหน่อยเพราะแม่อุตส่าห์ทาครีมอย่างดีพุงไม่แตกลายเลยขาวเนียนเหมือนเดิม คุณหมอยังชมเลยว่ายืดหยุ่นดีมาก (แม่เลยไม่ได้บอกคุณหมอเรื่องนี้หรอกกลัวคุณหมอว่าเรื่องมาก แค่นี้แม่ก็ว่าคุณหมอคงรำคาญแม่จะแย่แล้ว แบบว่าต้องให้คุณหมอพูดซะเหนื่อย 555ไม่เชื่อก็ลองอ่านไปเรื่อยๆสิจ๊ะ )

แต่ที่เด็ดสุดคือพ่อเค้าตัดเล็บเท้าให้แม่ด้วย(จริงๆแม่ขอร้องแกมบังคับว่าถ้าไม่พาแม่ไปทำผม ทำเล็บที่ร้านก็ต้องทำให้แม่เองนะ ส่วนผมไม่ต้องก็ได้ แม่กลัวจะสวยเกินถ้าคุณพ่อเค้าตัดให้)

----------------------------------------------------------

แม่โม้มาตั้งนาน ยังไม่เข้าเรื่องฤกษ์คลอดลูกเลย 555 เอาเป็นว่าถ้าลูกไม่คลอดเองก่อนวันพฤหัสที่ 10 นี้ ลูกก็จะได้คลอดวันที่10นี่แหละ เป็นฤกษ์ที่คุณหมอจัดให้ เพราะคุณหมอจะจองห้องผ่าตัดได้สะดวก ว้าว...อีกอาทิตย์เดียวแล้วนี่นา แม่ก็ยังถามคุณหมอต่อว่า ถ้ายังไม่คลอดเองก็เลื่อนไปอีกได้มั๊ยคะ (ก็คุณหมอจองได้ทุกพฤหัสกับจันทร์อยู่แล้วนี่นา) ในใจแม่ก็คิดว่าอีกอย่างกำหนดคลอดลูกก็วันที่17เม.ย. มันก็พอดีเป๊ะเลยถ้าเลื่อนอีกสัปดาห์ เพราะแม่เห็นคุณหมอของคุณแม่คนอื่นเค้าก็บอกให้รอกำหนดคลอดหรือรอได้ถึง 42 สัปดาห์กันแหนะ

แล้วแม่ก็อยากจะรอเจ็บท้องคลอดเองเพราะอย่างที่รู้ๆกันว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วถ้าแม่ผ่า ท้องหน้าแม่ก็ต้องผ่าอีก อีกอย่างอาม่าหนูก็เล่าว่าเค้าคลอดแม่และอาอี๊อากู๋หนูตอน40สัปดาห์ไปแล้วทุกท้อง แม่ก็ว่าลูกไม่น่าจะคลอดได้เองภายในวันที่10นี้ได้หรอก เพราะตอนนี้แม่ยังไม่มีอาการเจ็บเตือนอะไรบ้างเลย (ไม่งั้นลูกต้องพยายามออกมาให้ได้ก่อนวันที่ 10 นะครับ ถ้าได้อย่างนั้นแม่จะเฮมากเลย)

แต่คุณหมอบอกว่าผ่าก่อนแค่7วันเองแม่จะรอไปทำไม จริงๆอายุครรภ์37สัปดาห์ก็พอจะผ่าได้แล้ว แล้วกำหนดคลอดของลูกก็ติดสงกรานต์อย่ารอเลย วันสงกรานต์หรือปีใหม่คนเค้าไม่อยากเข้าโรงพยาบาลกันหรอก หมอนัดแล้วก็ไม่ค่อยมากัน แม่ก็ยังซื่อบื้องงๆว่าเค้าถืออะไรกันหรอฟะแม่ไม่ยักกะรู้ ยังบอกคุณหมอไปว่า แม่ไม่ถือ

แหม...ก็แม่อยากให้ลูกพร้อมที่สุดที่จะคลอดนี่นา ถ้าเราเลือกได้ หาได้ แม่ทุกคนก็อยากจะให้สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่พอได้ แต่ถ้าลูกจะคลอดก่อนกำหนดโดยธรรมชาติแม่ก็เฉยๆเพราะลูกคงจะพร้อมเองแล้ว แม่เลยถามต่อว่า แล้วถ้าลูกยังไม่อยากออกมา แล้วไปคลอดเองหรือค่อยผ่าที่41สัปดาห์จะมีผลยังไงบ้างหรือเปล่า (กะว่าเลยสงกรานต์แล้วนะ 555) คุณหมอก็ว่าไม่ดีเอาออกมาก่อนดีกว่า

เฮ้อ...เอาเถอะ งั้นแม่ว่าฤกษ์ที่ดีที่สุดของลูกก็คือฤกษ์สะดวกของคุณหมอแหละ อย่างน้อยอยู่ในมือคุณหมอลูกก็ต้องปลอดภัยแน่นอน แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าตอนดูดวงลูกแล้วใช้ฤกษ์ตอนผ่าคลอดมาดูแล้วจะไม่แม่นนะจ๊ะ เพราะแม่พยายามเต็มที่แล้วก็เปลี่ยนฤกษ์ที่คุณหมอให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นวันที่10เม.ย.เนี่ยแหละ วันของลูกเลย 555




 

Create Date : 04 เมษายน 2551    
Last Update : 7 เมษายน 2551 22:09:44 น.
Counter : 2948 Pageviews.  

++ 37 สัปดาห์ กับอีก 1 วัน - หรือแม่ต้องถูกผ่าคลอดจริงๆ++

26 มี.ค. --37 สัปดาห์ กับ 1วัน-- ครั้งนี้ก่อนพบคุณหมอแม่ดี๊ด๊าสุดๆ เพราะน้ำหนักขึ้นตามปกติดีแล้ว ผ่านมา1สัปดาห์ขึ้น 0.5กิโลเป็น 64.5 กิโล ตามที่คุณหมอสั่ง เรื่องอื่นๆปกติทุกอย่าง วัดความดันดี คุณหมอถามว่าลูกดิ้นดีมั้ยก็ดี ดีทุกอย่างเลยแต่พอคุณหมอคลำลูก (แม่เจ็บมากเลย เห็นคุณหมอคลำๆกดๆอยู่ตั้งนานแหนะ ตอนเดินกลับแม่ยังรู้สึกเจ็บๆ หน่วงๆท้องอยู่เลย) แล้วก็ขออุลตร้าซาวนด์อีกรอบ บอกว่าไม่แน่ใจทำไมหัวลูกอยู่ตำแหน่งแปลกๆ แต่ก็ซาวนด์แป๊บเดียวแหละ ดูแต่ตำแหน่งไม่ได้ดูขนาดลูกหรือน้ำหนัก แม่แทบไม่เห็นลูกเลย เสียดายจัง

สรุปคือ คุณหมอบอกว่าลูกเอาหัวลงตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แต่ท้องแม่ป้านไม่แหลม (???) หัวลูกอยู่เอียงๆไปทางซ้าย แม่ถามว่าถ้าอยู่ท่านี้จะคลอดเองลำบากหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าคลอดเองได้แต่กลัวลูกจะเอาไหล่หรือมือออก แล้วอาจจะมีรกหรือสายสะดือออกมาพร้อมกันแล้วอาจจะเป็นอันตรายกับลูกได้หากสายที่ว่าถูกรัด ออกซิเจนจะไปไม่ถึงลูกระหว่างที่คลอด ดังนั้นควรที่จะผ่าคลอดออกมาก่อนที่แม่จะปวดคลอดตามปกติ แต่แม่ก็ยังลังเลเพราะลูกยังไม่ครบกำหนดเลย

คุณหมอบอกว่ามดลูกแม่ขยายขนาดมากเหมือนคนมีลูกมาแล้ว3-4คน ลูกเลยยังดิ้นได้มาก 555 เวรกรรม...เล่าไปแม่ก็อายไปนะเนี่ย นี่ขนาดแม่เพิ่งมีลูกคนเดียวนะ แถมท้องแม่ก็ดูเล็ก เอ...หรือลูกจะตัวเล็กไปเลยยังมีทีดิ้นได้ ไม่ใช่สิก็คุณหมอเพิ่งจะบอกเองว่าลูกตัวไม่เล็ก ตอนนี้น่าจะ 2,800-2,900 กรัมได้แล้ว อ้าว...แต่ว่าคุณหมอก็วัดถุงนอนลูกได้ 30 ซ.ม.ทุกครั้ง ไม่เพิ่มขึ้นเลยนะ แล้วมันยังใหญ่ไปสำหรับลูกอีกหรอ (ไม่รู้ว่าปกติของคุณแม่คนอื่นจะมีขนาดกี่เซ็นนะ) ถ้างั้นสงกะสัยความยืดหยุ่นของถุงนอนลูกจะต้องดีมาก โอ้ย...แม่ไล่สาเหตุเถียงกับตัวเองวนไปวนมาจนงงไปหมดอีกแล้ว... ละนี่ถ้าแม่มีน้องให้หนูอีกซัก 2คน หน้าท้องขยายออกได้มากกว่านี้ ไอ้ถุงนอนใบนี้จะยืดออกมาได้ซักขนาดไหนนะ น้องของลูกคงแดนซ์กันมันกระจายกว่าลูกแน่ๆ 555

แล้วคุณหมอก็พูดถึงเคสคนอื่นว่ามีงั้นงี้ แม่ก็ใจไม่ดีเลย ถามคุณหมอว่าถ้าอาทิตย์หน้าลูกยังอยู่ท่าเดิมคุณหมอคิดว่าควรจะทำยังไง ต้องผ่าออกวันรุ่งขึ้นเลยหรือเปล่า คุณหมอก็ว่าควรที่จะผ่าคลอดออกแต่ถ้าแม่อยากเสี่ยงก็ได้ คุณอย่าซีเรียสกับการคลอดธรรมชาติมากเลย แม่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี เอาน่ารอลุ้นกันก่อนนะลูก เพราะแม่ยังรู้สึกว่าลูกดิ้นได้เรื่อยไปทั่วเลยซ้ายบ้างขวาบ้าง ไม่ได้ดิ้นแค่ตรงกลางตรงๆ สัปดาห์หน้าลูกอาจจะดิ้นไปตรงๆตอนเจอหน้าคุณหมอก็ได้เนอะ แต่จะว่าไปแม่ก็ค่อยๆทำใจขึ้นเรื่อยๆแล้วหละ เหมือนค่อยๆถูกกล่อมทุกสัปดาห์ กว่าจะถึงสัปดาห์ที่38หรือ39 แม่อาจจะเป็นฝ่ายอยากผ่าเองก็ได้

พวกยาบำรุงครั้งนี้แม่ได้เฉพาะธาตุเหล็ก เพราะแคลเซี่ยมและโฟลิคครั้งก่อนคุณหมอให้มาสำหรับ 2สัปดาห์แล้วยังมีเหลือเฟือ พวกนมแม่ก็ตุนไว้เพียบทั้งที่ก่อนหน้าถ้าหมดแล้วค่อยซื้อ แต่ตั้งแต่ช่วงสิ้นปีข้าวของราคาแพงขึ้นทุกอย่างมากๆและที่แย่สุดคือไม่มีของจะขายด้วย ไปทีไรแม่เห็นเหลืออยู่กล่องสองกล่อง บางครั้งก็ไม่มีครั้งไหนมีแม่เลยซื้อซะ เรากินกันไปได้อีกนานเลยลูก




 

Create Date : 31 มีนาคม 2551    
Last Update : 31 มีนาคม 2551 13:27:40 น.
Counter : 5189 Pageviews.  

++ 36 สัปดาห์ กับอีก 2 วัน - น้ำหนักแม่ลดได้ไงเนี่ย ++

20 มี.ค. --36 สัปดาห์ กับ 2วัน-- เที่ยวที่แล้วที่น้ำหนักแม่ขึ้นเร็วแล้วโดนคุณหมอจับตรวจเบาหวานแบบเต็มคอร์สแต่ผลออกมาไม่เป็นไร คือถ้าผิดปกติเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์จริง หลังจากกินน้ำตาล 100 กรัมแล้วเจาะเลือด4ครั้ง ผลเลือดจะต้องมากกว่าเกณฑ์ 2 ค่า ผลของแม่ออกมาผ่านฉลุยจริงด้วย คือ 84,100, 135 และ 109 ml% ตามลำดับ ส่วนเกณฑ์ที่ใช้วัดคือ 95, 180, 155 และ 140 ml%

หลังจากรู้ผลแม่เลยไปกินสเวนเซ่นส์ฉลองซะเลย อิอิ แบบว่าอยากกินมาก...อ้อนพ่อเค้าว่าหลังคลอดแม่คงไม่ได้กินไอติมหรือน้ำเย็นอีกนาน แถมเบาหวานก็ไม่ได้เป็น ถามคุณหมอก็บอกว่าปกติไม่ได้ปริ่มเกณฑ์เลยแม้แต่น้อย แถมเที่ยวที่แล้วแม่วิตกจริตกับน้ำหนักที่พุ่งปู๊ดทีเดียว 2 สัปดาห์3โล และแม่เริ่มอ่อนเพลียไม่มีแรงต้องแอบนอนตอนสายๆอีกรอบทั้งที่แม่ไม่ชอบนอนกลางวัน ทำให้ของว่างระหว่างมื้อที่เคยกินไม่ได้กิน น้ำหนักแม่เลยหายไป 8 ขีด ทั้งที่แม่ไม่ได้ตั้งใจลดแต่อย่างใด วันนี้น้ำหนักแม่เหลือ 64 โล แต่ถ้าคิดรวมๆ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาแม่ขึ้น 2โล ก็ฟังดูปกตินะ ลูกดิ้นดีทุกวัน บางวันดิ้นแรงมากๆด้วย แม่ว่าลูกต้องแข็งแรงดีแน่นอน

คุณหมอบอกว่าถ้าน้ำหนักที่ลดเป็นของแม่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นของลูกก็แย่ เที่ยวนี้คุณหมอเลยซาวนด์ดูลูกอีกครั้ง ผลออกมาว่าที่ลดเป็นของแม่ เพราะน้ำหนักลูกขึ้นปกติ จากสัปดาห์ที่ 32 ลูกหนักประมาณ 1,800 กรัม หนนี้ลูกหนัก 2,590 กรัม เฉลี่ยขึ้นสัปดาห์ละ 200 กรัม (แต่คราวนี้คุณหมอไม่ปริ้นท์รูปลูกให้เลย เสียดายจัง) แถมลูกเอาหัวลงเตรียมพุ่งออกมาแน่ๆแล้ว คุณหมอว่านับจากนี้เป็นต้นไป ลูกพร้อมที่จะออกมาดูโลกได้แล้วทุกเมื่อ ว้าว...แม่ตื่นเต้นสุดๆ ดีใจที่จะได้เจอลูกแล้วแต่แม่ยังกังวลเรื่องงานของแม่ที่ยังค้างคา พ่อเค้าก็ว่าตอนนี้ลูกยังตัวเล็กไปหน่อยที่จะคลอด งั้นเอาซัก39สัปดาห์นะลูกแม่ว่ากำลังดีเลย ฤกษ์ก็ดี แถมลูกหนักซัก 3,200 กรัม แม่บอกลูกทีไรลูกก็ดิ้นรับทุกครั้ง สัญญากันแล้วนะครับ อย่าลืมน้า

ผลจากการที่ตอนนี้น้ำหนักแม่ขึ้นมาไม่น้อยแล้ว ทำให้แม่นอนลำบากขึ้นทุกวันๆ มีบางวันแม่นอนหงายไม่ได้เลย พลิกตัวยิ่งลำบากแม่เลยอัปเปหิพ่อลงไปนอนที่พื้นข้างล่าง แล้วก็นอนขาพาดหมอนข้างให้สูงๆ ปรากฏว่าได้ผล นอกจากขาแม่จะหายบวมแล้ว แม่ยังกลับมานอนหงายได้สบายๆเหมือนเดิม

ส่วนปัญหาตอนนี้ที่แก้ไม่ได้คือ การเข้าห้องน้ำที่ถี่มาก บางคืนแม่ตื่นมาเข้าถึง 3 รอบ ถ้าเข้าเสร็จหลับต่อได้เลยก็ดี แต่บางคืนแม่ก็นอนต่อไม่หลับ แม่เริ่มฝันแปลกๆ เช่นฝันว่ามีคนบอกว่าอาการอย่างนี้คลอดคืนนี้แหละ เพราะแม่เริ่มมีปวดๆตึงๆที่ท้องนานๆทีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แถมคุณหมอก็บอกจริงๆว่าพร้อมคลอดแล้ว

ครั้งถัดไปคุณหมอเริ่มนัด 1 สัปดาห์ และคุณหมอขอเลื่อนเป็นวันพุธแทน เพราะเผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ผ่าตัดได้เลยวันพฤหัส เพราะคุณหมอคุมห้องผ่าตัดวันพฤหัสและวันจันทร์ เอ..อย่างนี้แม่เตรียมเน้นชื่อลูกวันพฤหัสเลยดีมั้ยเนี่ย แม่ทำใจแล้วหละว่าถ้าต้องผ่าก็ผ่า เราตัดสินใจเลือกคุณหมอแล้ว แถมคนแนะนำบอกว่าคุณหมอเก่งเป็นอาจารย์หมอด้วย ยังไงก็ได้แม่ขอให้ลูกปลอดภัยแม่ก็สบายใจแล้ว




 

Create Date : 26 มีนาคม 2551    
Last Update : 27 มีนาคม 2551 11:59:44 น.
Counter : 5448 Pageviews.  

++ 34 สัปดาห์ กับอีก 3 วัน - แม่น้ำตาลขึ้นอีกแล้ว กลัวถูกผ่าคลอด ฮือๆ++

7 มี.ค. --34 สัปดาห์ กับ3วัน-- สัปดาห์นี้แม่ไปหาคุณหมอปกติด้วยน้ำหนักที่ขึ้นแบบไม่ปกติ สองสัปดาห์ที่ผ่านมาแม่หนักเพิ่มถึงเกือบ 3กิโล จริงๆมันขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่สองสัปดาห์เดียวเลยแหละ แม่หนัก 64.8กิโล แล้ว จากเดิมแม่ห่วงเรื่องลูกจะตัวเล็ก เพราะแม่น้ำหนักขึ้นน้อยตอนนี้กลายเป็นขึ้นเยอะเกินซะงั้น

รวมๆแล้วน้ำหนักแม่ขึ้นมา 13กิโล ฟังดูก็เหมือนไม่เยอะนะเมื่อเทียบกับคุณแม่คนอื่นๆ ความดันก็ปกติ ตรวจปัสสาวะก็ไม่เจอน้ำตาล ไม่เจอโปรตีน แต่เท้าแม่บวมเล็กน้อย เลยถามคุณหมอรวมถึงเรื่องน้ำหนักด้วย แม่เลยถูกจับกินน้ำตาล 50 กรัมอีกรอบแล้วก็เจาะเลือด เที่ยวนี้น้ำตาลสูงถึง 151 เป็นไปได้ยังไงเนี่ย โอย...มันไม่จริงใช่มั้ย

แม่เริ่มหาข้ออ้างว่าเครื่องมือคุณหมอแม่นยำหรือเปล่า เพราะเป็นเครื่องแบบสะกิดปลายนิ้วอันเล็กๆแบบที่ตรวจเองที่บ้านได้ ไม่ได้เจาะเลือดไปเป็นหลอดไปวิเคราะห์เหมือนครั้งที่แล้วที่แม่ตรวจที่โรงพยาบาล แม่จ๋อยเลย แต่ก็ยังคิดว่าเราต้องไม่เป็นไรกันนะลูก แม่มัวแต่กังวลถึงเรื่องเบาหวาน จนลืมถามถึงผลเลือดที่คราวที่แล้วคุณหมอเจาะไปตรวจ คุณหมอเองก็ไม่ได้บอก แถมครั้งนี้ก็ไม่ได้อุลตร้าซาวนด์ (แม่เริ่มเสพติดการได้เห็นหน้าลูกทุกครั้งแล้ว ทั้งที่รู้ว่าไม่จำเป็นต้องอุลตร้าซาวนด์ทุกครั้ง) เอ...จะมีอะไรหรือเปล่านะ หรือเพราะไม่มีอะไรคุณหมอเลยไม่พูดถึงเลย แม่เริ่มคิดมากอีกแล้ว


หลังจากเทสต์รอบแรก คุณหมอเลยให้แม่ไปตรวจใหม่ที่แล็ปวันรุ่งขึ้น ส่วนผลที่ห้องแล็ปจะส่งให้คุณหมอวันอาทิตย์และคุณหมอก็จะโทรมาบอกแม่อีกที เพราะคุณหมอนัดแม่ครั้งหน้าก็อีก2สัปดาห์ ถ้าน้ำตาลแม่สูงจริงๆ แม่ต้องถูกจับนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ เพื่อควบคุมน้ำตาล คุณพ่อเค้ากลัวเรื่องไม่มีคนเฝ้าแม่ถ้าต้องไปนอนจริงๆ แต่แม่ไม่กลัวอะไรเลยกับการนอนโรงพยาบาลคนเดียวแม่อยู่ได้ แค่กลัวว่าถ้าแม่เป็นเบาหวานจริงจะทำให้แม่คลอดลูกตามธรรมชาติไม่ได้มากกว่า

แม่ไม่ได้กลัวพุงไม่สวยหรือกลัวเจ็บแผลนะ เพราะแม่ไม่นิยมโชว์พุงอยู่แล้ว แถมคลอดธรรมชาติก็ปวดและเจ็บไปอีกแบบเหมือนกัน(มั๊ง) แต่แม่พิจารณาแล้วคิดว่าคลอดธรรมชาติน่าจะดีที่สุดสำหรับเรา เวลาใครถามแม่ก็จะตอบด้วยความภูมิใจและมั่นใจทุกครั้งว่าแม่อยากคลอดลูกเอง ทุกคนก็เห็นด้วย

ยิ่งคุณหมอพูดตั้งแต่ก่อนตรวจแม่ว่า ถ้าคลอดเองหมอไม่แน่ใจว่าจะจองห้องพิเศษได้หรือเปล่า แต่ถ้าผ่าคลอดเรานัดวันกัน เราจะจองห้องพิเศษได้แน่นอน และถ้าจำเป็นหมออาจเร่งคลอด เพราะคลอดก่อนดีกว่าปล่อยให้ลูกอยู่ในท้องแม่ คุณอุ้มท้องมา9เดือนคงไม่อยากเสียเวลาถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ใช่แค่เรื่องเสียเวลาหรอก แต่แม่ทุกคนต้องเสียใจมากๆแน่นอน แม่ได้ยินแล้วยิ่งเครียดไปใหญ่เพราะอุตส่าห์ยอมย้ายโรงพยาบาลมาแล้วแท้ๆ ถ้ามันมีเหตุให้แม่ต้องผ่าเพื่อความปลอดภัยของลูกแม่ก็ยอมแต่ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาจะผ่าเลยอย่างเดียวแน่ๆ

แม่ได้แต่หวังว่าคุณหมอของแม่ต้องเป็นคุณหมอที่มีจรรยาบรรณเพียงพอ ไม่เห็นแก่ความสะดวกส่วนตัว หมอที่ไม่ดีก็อาจจะมีแต่ก็น่าจะเป็นส่วนน้อยมากๆ แม่ไม่อยากมองโลกในแง่ร้ายเกินไปนัก คุณหมออาจจะแค่พูดเผื่อให้แม่เตรียมใจมั๊งถ้าจำเป็นต้องผ่าขึ้นมาจริงๆ เรื่องนี้แม่ไม่กล้าบ่นให้คุณพ่อลูกฟัง เพราะจะโดนดุว่าอยากหาเรื่องย้ายโรงพยาบาลเอง เฮ้อ......

ก็คงต้องรอดูใกล้ๆกำหนดคลอดอีกทีว่าจะยังไง เพราะแม่ถามคุณหมอถึงลูกว่ากลับหัวหรือยัง แม่จะได้อ่นใจว่าโอกาสคลอดเองมีสูงขึ้น แม่รู้แล้วว่า Vx ที่คุณหมอคนเดิมเขียนเมื่อเดือนที่แล้วแปลว่าหัวลงแล้ว ส่วน Br แปลว่าท่าก้น แต่ก็ยังมีโอกาสที่ลูกจะยังเปลี่ยนท่าไปมาได้เรื่อยๆ เพราะท้องแม่ยังมีที่ให้ลูกกลิ้งได้อีกเยอะเลย เที่ยวที่แล้วที่คุณหมอเขียนแม่ก็อ่านลายมือไม่ออก(ลายมือสมกับเป็นหมอจริงๆ 555) เที่ยวนี้ก็ไม่ออกเหมือนเดิม คุณหมอบอกว่าหมอคลำเห็นหัวไม่ชัด แป่ว....ถ้าแม่อยากรู้ให้คราวหน้าอุลตร้าซาวนด์ดูละกัน และท่าลูกจะแน่นอนเมื่อประมาณ 37 สัปดาห์ไปแล้ว

มาเรื่องน้ำตาลต่อ วันรุ่งขึ้น แม่ถูกตรวจแบบเต็มรูป ถูกเจาะเลือดไปเป็นหลอด 4ครั้ง งดน้ำอาหารหลังเที่ยงคืน เจาะก่อนกินน้ำตาล แล้วก็หลังกินน้ำตาล 100กรัม อีก3ครั้ง ห่างกันครั้งละชั่วโมง (ยังดีนะที่ไม่ต้องกินน้ำตาลใหม่ทุกรอบ ไม่งั้นแม่ว่าเบาหวานที่ขึ้นต้องมาจากน้ำตาลที่ใช้เทสต์นั่นแหละ นี่แค่3ครั้งที่แม่ตรวจ แม่กินน้ำตาลไปแล้วตั้ง 200กรัม ไม่ใช่น้อยเลยนะ ) เจ้าหน้าที่ที่ห้องแล็ปมือเบามากแม่ไม่เจ็บเลย เมื่อวานที่คุณหมอใช้เข็มสะกิดปลายเล็บยังเจ็บกว่าอีก (ทำไมเป็นงั้นก็ไม่รู้)

ระหว่างรอตรวจ 3 ชั่วโมง จนท.ก็ชวนแม่คุย ถามแม่ว่าทำไมคุณหมอให้มาตรวจ ตรวจเจอน้ำตาลในปัสาวะหรอ แม่ก็บอกว่าเปล่า เคยตรวจมาก่อนหรือเปล่า น้ำตาลขึ้นเท่าไหร่ เมื่อวานคุณหมอตรวจยังไง เอ...ทำไมจนท.เค้าถามอย่างนี้นะ แม่เริ่มวิตกจริตอย่างแรงอีกแล้ว จนวันนี้แม่ก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอเลย ถ้าวันอังคารยังไม่รู้ผลแม่จะโทรไปหาคุณหมอเองดีมั๊ยน้า...




 

Create Date : 10 มีนาคม 2551    
Last Update : 26 มีนาคม 2551 15:54:40 น.
Counter : 1078 Pageviews.  

++ 32สัปดาห์ กับอีก 3 วัน - ย้ายโรงพยาบาลและคุณหมอ ++

22 ก.พ. --32 สัปดาห์ กับ3วัน-- แม่เปลี่ยนโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์จากโรงพยาบาลเอกชนมาเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล เลยต้องเปลี่ยนคุณหมอด้วย ก่อนหน้าแม่โทรศัพท์ไปปรึกษาคนโน้นคนนี้เสียหลายคน ว่าควรไปที่ไหน คุณหมออะไรดี กว่าจะลงตัวที่คุณหมอคนนี้ซึ่งเป็นผู้ชาย แม่ฝากพิเศษกับคุณหมอที่คลีนิค ไปถึงเจอคุณป้าคุณน้าที่มาฝากครรภ์เหมือนแม่เพียบเลย แต่คุณหมอก็ใช้เวลากับแม่นานมาก อธิบายเรื่องต่างๆให้แม่ฟังละเอียดดี ให้แม่คอยสังเกตลูกดิ้น ว่าต้องครบอย่างน้อย 10 ครั้งในแต่ละวัน และสังเกตอาการอื่นๆที่อาจจะเป็นสัญญาณการคลอดก่อนกำหนด สรุปแม่ก็รู้สึกดีกับคุณหมอคนใหม่ที่จะต้องมาทำคลอดให้เรา เสียแต่เครื่องอุลตร้าซาวนด์ของคุณหมอสู้รุ่นที่เดิมไม่ได้ แม่เลยเห็นลูกไม่ค่อยชัดเลย

สาเหตุที่เปลี่ยนไม่ใช่คุณหมอคนเก่าไม่ดีอะไรหรอกนะ แม้ว่าคุณหมอจะเด็กไปซักหน่อย(คาดว่าอายุเท่าแม่เอง อิอิ...งั้นแม่ก็ยังเด็กด้วยนะ แต่ทำไมพ่อเค้าชอบเรียกแม่ว่าป้านะ) แต่แม่เริ่มไม่ไว้ใจโรงพยาบาลเอกชนมากกว่า เพราะมีแต่คนเล่าว่าจะถูกจับผ่า แล้วก็ไม่ส่งเสริมเรื่องนมแม่ด้วย ซึ่งเรื่องนี้แม่ยอมไม่ได้ ยังไงก็ต้องพยายามกันก่อน ถ้าแม่ไม่สามารถให้นมหนูได้จริงๆก็ค่อยว่ากัน

คุณหมอคนใหม่บอกว่าลูกดูเหมือนจะตัวเล็กเพราะท้องแม่เล็ก(เมื่อเทียบกับขนาดอายุครรภ์มั๊ง) แต่เดี๋ยวนี้ใครๆก็ทักว่าท้องแม่ดูใหญ่ขึ้นมากแล้วนะ แต่พออุลตร้าซาวนด์ดูคุณหมอก็บอกว่าลูกซ่อนรูป เพราะขนาดของลูกปกติทุกอย่าง คุณหมอบอกว่าลูกหนัก 1,800 กรัมแล้ว และหากลูกโตตามเกณฑ์ไปเรื่อยๆ คือ สัปดาห์ละ200กรัม ตอนคลอดลูกน่าจะหนัก 3,300 กรัม แม่ได้ยินแล้วก็ตื่นเต้นเพราะลูกหนักถึง 3,000 กรัมแม่ก็พอใจแล้ว และตอนนี้แม่กลับไม่อยากให้ลูกหนักเกินไปซะงั้น ขอแค่ลูกมีขนาดไม่เล็กเกินไปก็พอ เพราะแม่ตั้งใจว่าจะคลอดลูกเองโดยวิธีธรรมชาติ

ขนาดของลูก




เทียบกับน้ำหนักมาตรฐาน



เพราะว่าแม่เปลี่ยนคุณหมอ เที่ยวนี้แม่เลยได้ยาหน้าตาแปลกๆมากิน แต่คิดว่าก็น่าจะคล้ายๆของเดิม มีแคลเซี่ยม, บำรุงเลือด แล้วก็โฟลิค ตัวบำรุงเลือดนี้แม่ไม่แน่ใจว่าคือธาตุเหล็ก หรือมัลติวิตามินกันแน่เป็นเม็ดกลมๆสีแดงๆชมพูๆ ให้กินวันละ 2 ครั้ง แล้วคุณหมอก็เจาะเลือดแม่ไปตรวจด้วย แต่อันนี้แม่รู้ก่อนแล้วว่าวันนี้จะโดนเจาะเลือด คุณหมอมือเบาใช้ได้เลย แต่ตอนอุลตร้าซาวนด์กดท้องแม่หนักไปหน่อยไม่เหมือนกับคุณหมอผู้หญิงมือเบาสุดๆ มันก็ไม่ถึงกับเจ็บหรอกจ้ะ แต่แม่อึดอัดอยากเข้าห้องน้ำเลย ขนาดเพิ่งเข้าตอนตรวจปัสสาวะเนี่ย ไม่รู้ลูกจะอึดอัดไปด้วยไหม แต่ว่าเที่ยวนี้หนูหนีบซะแน่นเชียวสงสัยยังไม่คุ้นหน้าคุณหมอมั้ง

ครั้งนี้น้ำหนักแม่ขึ้นนิดเดียว จาก 61.2 กก.เป็น 62 เอง คงเป็นเพราะครั้งนี้ห่างจากครั้งที่แล้วแค่ 10 วัน ความดันปกติ น้ำตาลก็ไม่ขึ้น ครั้งนั้นครั้งเดียวแท้ๆที่น้ำตาลขึ้น ทำให้แม่คอยระแวงว่ามันจะขึ้นอีก แม่เริ่มกินอะไรไม่ค่อยอร่อยอีกครั้ง ทั้งที่แม่เองก็ทำกับข้าวสุดฝีมือแล้วนะ แต่แม่หวังว่าอีกหน่อยฝีมือแม่คงจะพัฒนาไปมากกว่านี้ลูกจะได้กินกับข้าวฝีมือแม่อย่างเอร็ดอร่อย




 

Create Date : 05 มีนาคม 2551    
Last Update : 5 มีนาคม 2551 11:29:18 น.
Counter : 3852 Pageviews.  

1  2  3  
 
 

Happy ending
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แค่อยากให้ทุกเรื่อง ...และแล้วก็ Happy ending
[Add Happy ending's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com