• ชวนฝัน
• ศิลปวัฒนธรรม
• มุมมองของอารมณ์

ผ้าหมักโคลน ย้อมสีธรรมชาติ บ้านหนองสูง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร "ผ้าหมักโคลน" ผมรู้จักผ้าฝ้ายพันคอหมักโคลน จากอำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหารเมื่อหลายปีก่อน รู้สึก "ทึ่ง" ในภูมิปัญญาของชาวบ้าน ที่สามารถนำสิ่งที่มีอยู่ ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มาสร้างสรรค์ เพิ่มเติมเทคนิค เพื่อสร้างมูลค่า เรื่องราวของผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมสีธรรมชาติเมืองหนองสูงนั้น เริ่มต้นมาจากการทอดแหจับปลาของชาวเมืองหนองสูงในอดีต เคล็ดลับของการจับปลานั้น ต้องนำแห ไปย้อมกับโคลน ซึ่งจะทำให้ได้สีที่เข้ากับน้ำสามารถพลางตาของปลาได้ แถมทำให้แหที่หมักย้อมด้วยโคลน เหนียว นุ่ม ด้วยเทคนิคนี้เหตุ จึงนำมาประยุกต์ใช้กับผ้าฝ้าย ซึ่งทำให้ได้สีที่คลาสสิค หอมกลิ่นโคลน อีกทั้งย้อมด้วยสีธรรมชาติ ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดอาการแพ้ สำหรับผู้ที่แพ้สารเคมี แต่พิเศษไปกว่านั้น โคลนของเมืองหนองสูง มีลักษณะพิเศษกว่าที่อื่นๆ ตรงที่ เมื่อย้อมแล้ว จะได้ฝ้ายได้ที่เงา วับวาว ชื่อเสียงของผ้าหมักโคลน จากบ้านหนองสูง ยังไม่หยุดอยู่แค่ในหมู่บ้าน สัปดาห์ก่อน พลอยแกมเพชร แม็กกาซีนแฟชั่นนำสมัย หัวต้นๆ ของเมืองไทย ยังต้องตามมาเก็บเรื่องราวของผ้าหมักโคลน แล้วท่านละครับ ไม่สนใจเก็บไว้ซักผืนหรอ ติดตามผ้าสวยๆ ได้ที่นี่ fanpage ผ้าฝ้ายหมักโคลนย้อมสีธรรมชาติ เมืองหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร fanpage ผ้าหมักโคลนย้อมสีธรรมชาติ หรือท่านสามารถสั่งซื้อออนไลน์ "ผ้าฝ้ายหมักโคลน" อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ได้ที่นี่ www.nongsoong.com/shop/   Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2558     Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2558 13:01:15 น. Counter : 889 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ผู้ไทยไกรสรราช อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ผู้ไทยเมืองหนองสูง ชนเผ่าผู้ไทยในประเทศไทย กระจัดกระจายอยู่หลายพื้นที่ของประเทศ ส่วนมากอยู่ในเขตของอีสานเหนือ.. สกลนคร,นครพนม,มุกดาหาร แต่ที่เรารู้จักกันดี ก็คงจะมีแค่ เรณูนคร จังหวัดนครพนม  ที่ได้ชื่อลือชา ว่าสาวงามเป็นนักหนา.. ในพื้นที่ของจังหวัดมุกดาหารนั้น เผ่าผู้ไทย อพยบจากเมืองวัง เมืองเว้ มาตั้งรกราก ในพื้นที่หนองสูง,คำชะอี ซึ่งในตำนานกล่าวกันว่า.ชุมชนคนผู้ไทยที่นี่ กินพื้นที่ไปถึง อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม..ซึ่งถ้าบวกลบคูณหารกันแล้ว พื้นที่จะเกือบ เท่ากับพื้นที่ของจังหวัดมุกดาหารเลยที่เดียว ความน่ารักของเผ่าผู้ไทยหนองสูงคือ การดำรงชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ...และถ้าวันไหน เดือนไหน ได้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็จะมารวมตัว หาข้าวหาปลามาต้อนรับจนแขกบ้านแขกเมืองอิ่มหมีพลีมัน.. ย่ำค่ำ สิ่งที่ขาดเสียไม่ได้เลย คือ ฟ้อนรำบายศรี  ผูกข้อต่อแขน ให้กับแขกบ้านแขกเมืองที่มาเยี่ยมเยียนหมู่บ้าน สร้างความประทับใจยิ่งนัก Free TextEditor   Create Date : 09 มิถุนายน 2554     Last Update : 9 มิถุนายน 2554 14:15:24 น. Counter : 1513 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ผญาหยอกสาว .....สายลมหนาว พัดมาแล้ว ฤดูเปลี่ยน ได้เวียนไป แต่หว่าใจ ของชาย กะเน่าใน บ่หายกลุ้ม .....มรสุม ที่รุมเร้า อันใจดวงเหงา ๆ บ่มีมื้อ สิหายซ่วง เพราะคำลวง หลอกต้ม ให้จมใต้บ่น้ำตา .....เป็นจั่งได๋น้อหล่า กานดา แก้วตาพี่ สองเดือนเข้า ที่เจ้าหนี ไกลชีวีพี่แก้ว ไปแล้ว บ่ต่าวคืน .....ปล่อยให้พี่ สะอื้น ฝืนข่ม นอนตาหลับ ได้แต่จับ หมอนบาย บ่อนนอนที่เคยซ้น .....อีกจักโดน หน้อหล่ะน้อง สิคืนมา ต่าวหาพี่ อยากสิขอ ฮ่วมชีวี ถึงสิเป็น ไปบ่ได้ ขอให้อ้าย คิดฝ่ายเดียว .....เหลียวแหงนมอง ดวงจันทร์เสี้ยว เฮาเคยเบิ่ง ยามสุขสม กระแสลม พายพัด น้องจ่มหนาว พราวเนื้อ .....ชายกะยัง เอาเสื้อ ผืนแพรวา ให้นางอุ่น นั่นเด้ หอมละมุนกลิ่นเนื้อ นางน้อง โอบเขนย .....ยังบ่เคยคิดสิถิ่ม ให้ฉายโฉม ได้พรายโกรธ บ่เคยโทษ หยังน้อง ปกป้อง อยู่เสมอ .....แต่สหายเกลอแก้ว มาหักหลัง เฮาให้หมุ่น มันอิหยัง กันน้อคุณ คือมาเฮ็ดจั่งซี้ มันเป็นแท้แม่น จั่งได๋ .....กันต์เคยมอบใจให้ สาบาน หว่าฮักเสี่ยว แล้วเป็นหยัง คือมาเสี้ยว เที่ยวกระทืบบ่วงใจ .....คำสาบานที่ว่าไว้ หว่าเป็นหมู่ มิตรสหาย มาสลายเพราะหญิง ที่เป็นแฟน กันต์คนเค้า .....จักแม่นเอา อิหยังแท้ มาเฮ็ดใจเธอทั้งคู่ จกออกมาให้เบิ่งดู๊ หว่าใจเธอทั้งสองนั้น มันดำแท้กว่าถ่านไฟ .....บ่สงสัยเลยโตน้อง ที่แบ่งใจ ได้สอง เหยียบซ้ำคนไร้ค่า ให้เผชิญซาตา ส่ำกับหมาโตน้อย ด้อยค่า ข่าบ่มี .....เชิญซ้ำเติม ให้ป่นปี้ ชีวิตพี่ ให้หม่นหมอง สิประครองหัว หลีกไป ให้ไกลพ้น .....ใจจน ๆ คนคืออ้าย แม่นผู้ได๋ สิขันต่อ มีบ่น้อ น้ำเลี้ยง หัวใจให้ชื่นชุ่มระทวย .....รูปบ่หล่อ อีกด้วย มีบ่ คนอาสา สิหายามาปัว ให้ซ่วงหาย คลายกลุ้ม .....อยากสิมี คนมาอุ้ม มาโอ๋ ให้ใจซื่น ให้ผ่านคืน อันโศกเศร้า พอได้เว้า กล่าวจา..... พอได้เว้า..หว่ากล่าวจา....นี่แหล่ววววว "ลอก ชาวบ้านเค้ามาอีกที แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน"   Create Date : 31 ตุลาคม 2553     Last Update : 31 ตุลาคม 2553 22:23:25 น. Counter : 1723 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• อ่างกบ
• Webmaster - BlogGang