กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
บริษัททูน่ารายใหญ่ในสหรัฐฯเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสในทะเลและการละเมิดสิทธิมนุษยชน

วอชิงตัน ดี.ซี./ กรุงเทพฯ, 27 มีนาคม 2558- เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพีได้เปิดเผยข้อมูลรายงานการสืบสวนเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสบนเรือประมงอวนลากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลให้กับซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่และบริษัทแปรรูปอาหารทะเลทั่วสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของสำนักข่าวเอพีระบุว่าแรงงานที่ถูกกดขี่และโดนบังคับให้ทำงานในบนเรือประมงบริเวณเกาะเบนจิน่าประเทศอินโดนีเซียส่วนใหญ่มาจากเมียนมาร์ โดยสัตว์น้ำที่จับได้จะถูกส่งมายังประเทศไทยแล้วถูกส่งต่อไปยังตลาดอาหารทะเลโลก ซึ่งรวมถึงห่วงโซ่การจัดหา จัดส่งผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของสหรัฐอเมริกา

Download English version here

รายงานได้ระบุถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการตั้งคำถามถึงปลายทางของอาหารทะเลที่มาจากการใช้แรงงานทาสว่าไปสิ้นสุดที่ใด บันทึกของศุลการกรสหรัฐอเมริการะบุว่าหลายโรงงานหลายแห่งในไทยมีความเชื่อมโยงกับการทำประมงที่ขาดความรับผิดชอบที่จัดส่งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสู่สหรัฐอเมริกา การตรวจสอบของสำนักข่าวเอพียังได้เปิดเผยถึงข้อมูลแรงงานทาสที่โดนทารุณกรรมทั้งโดยการเตะ ทุบตี หรือถูกเฆี่ยน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทิ้งศพผู้เสียชีวิตลงทะเลให้ฉลามหรือเก็บไว้ในตู้แช่แข็งปลา

หนึ่งในบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้จัดหาวัตถุดิบคือคือบริษัทไทยยูเนี่ยนซึ่งเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ชิกเก้นออฟเดอะซีและกำลังอยู่ระหว่างการซื้อบริษัทบัมเบิลบี แม้ว่าสำนักข่าวเอพีไม่ได้เจาะจงในตรวจสอบการทำประมงทูน่า แต่จากเนื้อหาของรายงานได้ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับห่วงโซ่การผลิตสำหรับบริษัททูน่ารายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้การจัดอับดับผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องของกรีนพีซระบุว่าบริษัททูน่ารายใหญ่ได้แก่ ชิกเก้น ออฟ เดอะ ซี  (Chicken of the Sea) บัมเบิลบี (Bumble Bee) และสตาร์คิตส์(Starkist) มีส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐอเมริกาถึงร้อยละ 80โดยทั้งหมดได้รับคะแนนความล้มเหลวด้านความยั่งยืนและสิทธิมนุษยชน

มีแรงการกดดันต่ออุตสาหกรรมปลาทูน่าในประเทศไทยมากขึ้นในเรื่องความรับผิดชอบด้านแรงงาน ปี 2557 สหรัฐอเมริกาลดระดับประเทศไทยให้อยู่ในอันดับ 3 (Tier 3)ซึ่งเป็นอันดับที่ต่ำสุดของการจัดอันดับ เนื่องด้วยปัญหาการค้ามนุษย์ อีกทั้ง ประเทศไทยไม่สามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำในการคุ้มครองแรงงาน

บริษัทไทยยูเนี่ยนได้ตอบกลับรายงานการเปิดเผยข้อมูลของสำนักข่าวเอพีและยุติการรับซื้อสินค้าประมงจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาส อย่างไรก็ตาม รายงานของเอพีได้ตรวจสอบการส่งสินค้าจากผู้จัดหาวัตถุดิบเพียงรายเดียว ทำให้ยังคงมีข้อกังวลถึงแหล่งที่มาของอาหารทะเลของบริษัทว่ามีที่มาจากแหล่งอื่นๆอีกหรือไม่

จอห์น โฮซิวา ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ด้านมหาสมุทร กรีนพีซสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า

"สิ่งที่สำนักข่าวเอพีค้นพบนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาแรงงานทาสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานของอาหารทะเล และได้ชี้ให้เห็นถึงการทำงานบนเรือประมงซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสภาพการทำงานที่เลวร้ายที่สุด ในขณะที่การตรวจสอบยังไม่ได้เจาะจงไปที่เรือประมงทูน่าแต่รายงานได้เชื่อมโยงปัญหาแรงงานทาสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้ากับตลาดปลาทูน่าขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือ บริษัทไทยยูเนี่ยน บริษัทดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกับการทำประมงทูน่าที่ไม่ยั่งยืนที่พบในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของบริษัทชิกเก้นออฟเดอะซี และกำลัง���ะเป็นเจ้าของกิจการบริษัทบัมเบิลบีและส่งผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต Kroger และ Walmart หากคุณรับประทานปลาทูน่าที่มาจากไทยยูเนี่ยน ไม่มีวีธีการใดที่คุณจะมั่นใจได้ว่าคุณไม่ได้รับประทานปลาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานทาสหรือการจับปลาภายใต้สภาพการทำงานที่เลวร้ายสุดๆ”

นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า

"หากไทยยูเนี่ยนมีความตั้งใจต่อการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ก็จะนำไปสู่การขจัดการใช้แรงงานทาสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนหมดไปจากห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด มิใช่แต่เพียงการยกเลิกผู้จัดหาวัตถุดิบเพียงรายเดียว การรับรองว่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ผลิตจากการใช้แรงงานทาสที่น้อยลงนั้นเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคไม่อาจยอมรับได้

ไทยยูเนี่ยนจะต้องเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารทะเลอย่างแท้จริงโดยมีมาตรการการตรวจสอบย้อนกลับในผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่เรือต้นทางที่จัดหาวัตถุดิบไปถึงการวางจำหน่าย นอกจากนี้ ควรที่จะมีการตรวจสอบจากบุคคลภายนอกและการขึ้นตรวจเรือโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าอย่างสม่ำเสมอ บริษัทควรเดินหน้าเพื่อให้แน่ใจว่าแหล่งที่มาของวัตถุดิบนั้นมาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ผลิตภัณฑ์ทูน่าที่จัดจำหน่ายโดยไทยยูเนี่ยนจะต้องไม่มีแหล่งที่มาจากเรือลำอื่น หรือการขนถ่ายในทะเลซึ่งเป็นวิธีที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการผิดกฎหมายและป้องกันการตรวจสอบย้อนกลับที่จำเป็นในการขจัดแรงงานทาสจากห่วงโซ่อุปทานของอาหารทะเล"

"แรงงานทาสถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2408 แต่บริษัทอเมริกันยังคงมีกำไรจากแรงงานทาสในเรือประมง ธุรกิจอาหารทะเลเช่น บริษัทไทยยูเนี่ยนซึ่งเกี่ยวข้องกับแรงงานทาสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนจะต้องร่วมกันแก้ปัญหาอย่างแข็งขัน มิฉะนั้นอาจไม่เป็นที่ยอมรับในตลาดอเมริกา" จอห์นกล่าวทิ้งท้าย

 

หมายเหตุ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงงานทาสและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทะเล รวมทั้งคำแนะนำสำหรับอุตสาหกรรมประมงสามารถดูได้ที่://www.greenpeace.org/international/Global/international/briefings/oceans/2014/Slavery-and-Labour-Abuse-in-the-Fishing-Sector.pdf

สามารถอ่านรายงานการตรวบสอบของสำนักข่าวเอพี ได้ที่://bigstory.ap.org/article/b9e0fc7155014ba78e07f1a022d90389/ap-investigation-are-slaves-catching-fish-you-buy

รายงานกรีนพีซเรื่องการจัดอันดับทูน่ากระป๋อง สามารถดูได้ที่://www.greenpeace.org/usa/en/media-center/news-releases/Greenpeace-Canned-Tuna-Ranking-Finds-Most-Brands-Fail-Consumers-on-Ocean-Safe-Tuna/

 

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ

ธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
อีเมล @greenpeace.org">tara.buakamsri@greenpeace.org

สมฤดี ปานะศุทธะ  ผู้ประสานงานสื่อมวลชน  กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โทร. 081 929 5747 อีเมล: @greenpeace.org">spanasud@greenpeace.org

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ - มีนาคม 27, 2558

 

ที่มา : //www.greenpeace.org/seasia/th/press/releases/Owner-of-Major-US-Tuna-Brands-Connected-to-Slavery-at-Sea-and-Human-Rights-Abuses/




Create Date : 27 มีนาคม 2558
Last Update : 27 มีนาคม 2558 18:19:55 น. 0 comments
Counter : 874 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com