กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ในการคำนวณดัชนีคุณภาพอากาศ..สำคัญอย่างไร?



เขียน โดย แก๊งค์ปิศาจฝุ่นพิษ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในอากาศที่เราหายใจอยู่นั้นมีมลพิษ…

ดัชนีคุณภาพอากาศ คือ ตัววัดที่ช่วยบอกเราได้ว่ามลพิษทางอากาศมีมากแค่ไหน แต่ที่น่าเศร้าคือ มาตรฐานในการตรวจวัดและรายงานคุณภาพอากาศของประเทศไทยยังต่ำกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และตัวเลขที่ต่างกันนี้ส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างไร?

มลพิษทางอากาศเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มีผลร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นฝุ่นพิษขนาดเล็กไม่เกิน 2.5  ไมครอน (PM2.5) หากไม่มีตัววัดอย่างดัชนีคุณภาพอากาศ เราจะมองไม่เห็นและไม่รู้ว่ามลพิษทางอากาศมีมากแค่ไหน มาตรฐานในการตรวจวัดและรายงานคุณภาพอากาศของประเทศไทยที่ยังต่ำกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดนั้นจึงเป็นเรื่องอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดค่าเฉลี่ย PM 2.5 ในการคำนวณดัชนีคุณภาพอากาศ (PM 2.5 AQI) กรณีนี้เห็นได้ชัดเมื่อต้นปีที่ผ่านมากับวิกฤตหมอกควันพิษที่เชียงใหม่จากการเผาในที่โล่งในพื้นที่เกษตรกรรมเชิงเดี่ยว  แต่กรมควบคุมมลพิษยังคงรายงานว่าอากาศที่เชียงใหม่ยังปลอดภัยแม้ว่าทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยควันพิษ เนื่องจากเป็นการวัดคุณภาพอากาศจาก PM10 คือวัดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10ไมครอน ไม่รวมค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) สถานกงสุลอเมริกาประจำประเทศไทย จังหวัดเชียงใหม่จึงเรียกร้องให้กรมควบคุมมลพิษวัดดัชนีคุณภาพอากาศ PM2.5 และเผยแพร่ข้อมูลฝุ่นมลพิษ PM2.5 รายวัน เพื่อให้ประชาชนรับทราบว่ามลพิษที่แท้จริงเป็นอย่างไร และสามารถป้องกันตนเองได้

จากตารางนี้ จะเห็นได้ชัดว่ามาตรฐานของประเทศไทยอนุญาตให้ผู้ปล่อยมลพิษสามารถปล่อยมลพิษได้ในปริมาณค่าเฉลี่ยที่มากกว่าข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เอื้อให้กับผู้ปล่อยมลพิษมากกว่าการคุ้มครองสิทธิและชีวิตของประชาชน

และแม้ว่าประเทศไทยจะกำหนดเพดานการปล่อยมลพิษไว้ระดับสูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดเพื่อให้ผู้ปล่อยมลพิษสามารถปล่อยได้มากขึ้น แต่หลายปีที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยรายปีของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน2.5 ไมครอน(PM2.5) ก็ยังสูงเกินมาตรฐานของประเทศไทยเช่นกัน

ปกติแล้วสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนจะมีอากาศดีกว่าช่วงฤดูอื่นของปี เนื่องจากฝนช่วยชะล้างมลพิษ (สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศได้ที่นี่) และเรามักจะพบกับมลพิษทางอากาศสูงในช่วงต้นปีและปลายปี ด้วยสาเหตุหลักคือ การคมนาคมขนส่ง การเผาในที่โล่ง การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิล และภาคอุตสาหกรรม

อันดับเมืองที่มีมลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5) ในประเทศไทยประมวลผล จากการรายงานข้อมูลของสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ 12 สถานีทั่วประเทศ

เดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2559 เมืองที่มีค่าเฉลี่ยรายปีของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน2.5 ไมครอน(PM2.5) สูงสุด 5 อันดับคือ เชียงใหม่ ลําปาง ขอนแก่น กรุงเทพฯ และราชบุรี ในจํานวนสถานี ตรวจวัดคุณภาพอากาศ 11 จุด มี 7 พื้นที่ที่มีความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5) เกินค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปในเวลา 1 ปี ซึ่งประเทศไทยกําหนดมาตรฐานไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และทุกพื้นที่มีความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน(PM2.5) เกินค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปในเวลา 1 ปี ตามมาตรฐานขององค์การอนามัย โลกที่กำหนดไว้ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทางออกคืออะไร?

กรมควบคุมมลพิษต้องไม่ละเลยและเพิกเฉยในการทำหน้าที่คุ้มครองชีวิตของประชาชนจากมลพิษทางอากาศ ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษดำเนินการ

  1. ติดตั้งตรวจวัดและรายงานPM2.5ในทุกสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่มีอยู่61แห่งใน29 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านทางเว็บไซต์ Air4thai.pcd.go.th และโมบายแอพพลิเคชั่น Air4Thai และใช้ค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน2.5ไมครอนในการคํานวนดัชนีคุณภาพอากาศ (PM2.5 AQI)
  2. ปรับปรุงมาตรฐานการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์(SO2),ออกไซด์ของไนโตรเจน(NOx)และฝุ่น ละอองขนาดเล็กทั้ง PM10 และ PM2.5 ให้สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
  3. กําหนดวัดค่ามาตรฐานPM2.5และปรอทที่แหล่งกําเนิดมิใช่ในบรรยากาศ รวมถึงการตรวจวัดและรายงาน การปล่อย PM2.5 และปรอทจากปล่องโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องอยู่

นี่คือทางออกทางเดียวที่จะช่วยให้เราสามารถรู้ได้ว่าอากาศที่เราหายใจนั้นมีมลพิษและอันตรายมากน้อยเพียงใด ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือการพัฒนาคุณภาพอากาศในประเทศไทย อันหมายถึงคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วย … เพราะเราทุกคนต้องการอากาศดี และคงไม่มีใครอยากอยู่ในเมืองที่ปกคลุมด้วยมลพิษทางอากาศอย่างแน่นอน

ร่วมเรียกร้องให้กรมควบคุมมลพิษใช้ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ในการคำนวณดัชนีคุณภาพอากาศ (PM 2.5 AQI) ที่นี่

#RightToCleanAir #ขออากาศดีคืนมา


ที่มา: www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/pm-25/blog/57678



Create Date : 25 ตุลาคม 2559
Last Update : 25 ตุลาคม 2559 11:13:02 น. 0 comments
Counter : 1251 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com