กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
คำถามถึง Mars

เขียน โดย Kate Simcock

เจ้าแมวเหมียวของคุณกินปลาทูน่าจากประมง IUU และการกดขี่ขูดรีดแรงงานเรือประมงหรือไม่?

ไม่ใช่เพียงปลาทูน่า #NotJustTuna อย่างที่เรารู้กัน ในแซนวิชหรือซูชิ แต่เป็นอาหารที่สัตว์เลี้ยงของเรากินด้วย

ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป อุตสาหกรรมปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลกยังถูกตามหลอนจากเรื่องราวการกดขี่ขูดรีดแรงงาน ความทุกข์ยากของมนุษย์และการประมงทำลายล้าง ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ปเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ส่งผลิตภัณฑ์ทูน่า และอาหารทะเลอื่นๆนับหมื่นนับแสนกระป๋อง เพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารแมวบรรจุซองและบรรจุกระป๋องของบริษัทมาร์ส (Mars)

ใช่แล้ว มาร์ส บริษัทที่ขายช็อกโกแลตแท่งยี่ห้อมาร์สยังเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

บริษัทมาร์สยังเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารสัตว์หลายแบรนด์ที่คุณอาจเคยเห็นในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือในคลีนิครักษาสัตว์ แบรนด์เหล่านั้นได้แก่  IAMS วิสกัสและ Dine ซึ่งใช้ปลาทูน่าและดูเหมือนว่าวัตถุดิบทั้งหมดมาจากประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของปลาทูน่าเหล่านี้วางขายอยู่ในชั้นวางสินค้าอาหารแมวระดับบน ด้วยชื่ออย่าง ‘succulent tuna, whitebait และ snapper’ พร้อมภาพของเจ้าแมวเหมียวน่ารัก แต่ในขณะเดียวกัน เราได้ยิน เรื่องราว ของ แรงงานประมง บนเรือประมงนอกน่านน้ำ ทำงานกะละ 20 ชั่วโมง และทุกข์ทรมาจากการถูกหลอกลวง เพิ่มระดับความสะพรึงที่ต้องคิดว่าโศกนาฏกรรมของมนุษย์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเพียงเพื่อผลิตอาหารแมว

บทความของนิวยอร์คไทม์ ล่าสุดยืนยันว่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล IAMS นั้นผลิตในโรงงานปลากระป๋องของไทยยูเนี่ยนซึ่งเคยพบว่ามีการใช้ปลาจากเรือประมงที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานและแรงงานที่มาจากกระบวนการค้ามนุษย์ 

และเราเกรงว่ามันไม่หยุดอยู่แค่นั้น

เราได้สอบถามบริษัทมาร์สหลายครั้งในเรื่องความเชื่อมโยงกับไทยยูเนี่ยนและที่มาของอาหารทะเลในผลิตภัณฑ์ Whiskas  คำตอบที่เราได้คือบริษัทมาร์สไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ก่อนกระบวนการทางศาล

บริษัทมาร์สอ้างถึงคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม(Class Actions) ในแคลิฟอร์เนียที่กลุ่มคนเลี้ยงแมวได้ท้าทายผู้ผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ในชั้นศาล รวมถึง มาร์ส(Mars) และ Iams ในข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกดขี่ขูดรีดแรงงานบนเรือประมงอย่างทารุณในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล กลุ่มคนรักแมวอ้างถึงการที่พวกเขาถูกล่อลวงให้ซื้ออาหารแมวที่พวกเขาไม่ควรจะซื้อซึ่งกลายเป็นเรื่องการสนับสนุนกระบวนการกดขี่ขูดรีดแรงงานอย่างไม่ตั้งใจ 

แต่หากมาร์สไม่บอกกับเราว่าอาหารทะเลที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารแมวนั้นมาจากไหน เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า เราจะไม่สนับสนุนการกดขี่ขูดรีดแรงงานบนเรือประมง ถ้าเราซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเหล่านั้นมาให้แมวกิน

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถามมาร์สว่า “อะไรอยู่ใน Whiskas ?”

ในทางตรงกันข้าม บริษัทผลิตและจำหน่ายอาหารเลี้ยงสัตว์แห่งอื่น อย่างเช่น เนสท์เล่ ได้รับรู้ถึงกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานของตนและกำลังอยู่แถวหน้าของการเปลี่ยนแปลง เราคิดว่าถึงเวลาที่มาร์สจะทำในแบบเดียวกัน

ความจริงที่แสนเจ็บปวดคือมันยากที่จะรู้ว่าอาหารแมวบรรจุกระป๋องมาจากไหน ห่วงโซ่อุปทานนั้นคลุมเครือและการติดฉลากผลิตภัณฑ์นั้นก็แย่มาก ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าอาหารแมวบรรจุกระป๋องนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงาน คุณต้องตั้งคำถามมันทั้งหมด

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนรักแมวหรือไม่ก็ตาม ประเด็นคือว่า บริษัทระดับโลกกำลังทำเงินเข้ากระเป๋าตนเองครั้งใหญ่ และทำโดยไม่สนใจอะไร ไม่ว่าจะเป็น แรงงานประมง ปลาทูน่า หรือไม่สนใจว่าลูกค้าของพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรกับวิธีการได้มาซึ่งอาหารทะเล

อาหารแมวไม่ได้เป็นตลาดเล็กๆ เจ้าแมวเหมียวทั้งหลายกินปลามากกว่าคน เฉพาะในสหรัฐอเมริกามากเกือบเป็นสองเท่า ในขณะที่ แหล่งปลาทูน่ากำลังร่อยหรอลงอย่างรวดเร็วและคนทั่วโลกกำลังอดอยาก มีบางสิ่งบางอย่างที่ดูผิดพลาด 

หากคุณเป็นคนเลี้ยงสัตว์ คุณสามารถใช้อำนาจการซื้อของคุณปฏิเสธแบรนด์ที่ป้อนแมวของคุณด้วยปลาทูน่าจากประมง IUU และการกดขี่ขูดรีดแรงงานประมง ขั้นแรกสุด ถึงเวลาที่มาร์สต้องบอกเราว่าอาหารทะเลมากจากไหนและรับประกันว่าจะไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อาหารของตน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ออนไลน์ เพื่อถามมาร์สว่า อะไรอยู่ในอาหารแมว Whiskas ของฉัน


ที่มา: www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/mars/blog/55907




Create Date : 18 มีนาคม 2559
Last Update : 18 มีนาคม 2559 16:06:13 น. 0 comments
Counter : 1088 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com