กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
อีเอชไอเอ ค.2 ความผิดซ้ำสองของกฟผ. ที่กระบี่

เสียงปืน ความรุนแรง การข่มขู่ นี่คือสมรภูมิสงครามหรือการผลักดันให้เกิดโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่



ขอบคุณรูปภาพจาก //transbordernews.in.th/

หลังจากการเกิดความรุนแรง และการละเมิดสิทธิประชาชนในกระบวนการจัดทำ ค.1 เส้นทางขนส่งถ่านหินกระบี่  แต่ความรุนแรงต่อพี่น้องชาวกระบี่ผู้ปกป้องบ้านเกิดของตนและคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินยังคงเกิดขึ้น และยิ่งทวีความรุนแรกมากขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันที่ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) กำหนดไว้ว่าจะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นกรณีการสร้างท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหินกระบี่ (อีเอชไอเอ) ครั้งที่ 2 (ค.2 ) ในวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ในที่สุดกลับจบลงด้วยการเลื่อนวันและเวลาในการจัดเวทีออกไปอย่างไม่แจ้งล่วงหน้า และไม่มีกำหนดการครั้งใหม่

ถ่านหิน ชนวนแห่งความขัดแย้งจากอำนาจผูกขาดทางพลังงาน

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เกิดกรณีการใช้ความรุนแรงของการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่บ้านคลองรั้ว อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ อีกครั้ง โดยทางเครือข่ายประชาชนภาคใต้และเครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหินได้กล่าวว่า “กฟผ.และบริษัทรับจ้างกลับใช้บริการของนักเลงอันธพาล ข่มขู่ประชาชนที่ออกมารักษาวิถีชีวิตและทรัพยากร มีการนำแพขนาดใหญ่เข้ามาเพื่อจะเข้าชนเรือประมงชาวบ้าน แต่การรวมตัวอย่างเข้มแข็งทำให้รอดพ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมีการยิงปืนข่มขู่เพื่อให้ชาวบ้านสลายตัว พฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการไม่สนใจความถูกต้อง ขอเพียงสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินให้ได้เท่านั้น” การเกิดความรุนแรงในพื้นที่อันเนื่องมาจากโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และการเข้ามามีบทบาทของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่คลองรั้วทำให้เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหินตั้งข้อสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้คือ “ผลลัพธ์ของการใช้อำนาจที่ผูกขาดมานานของระบบไฟฟ้าประเทศไทย” และ “ทำไมกระทรวงพลังงานไม่ตั้งโจทย์ว่าจะสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างไร แต่กลับไปตั้งโจทย์ว่าต้องสร้างโรงไฟฟ้าที่มาจากถ่านหินทั้งที่มีงานวิจัยหลายพื้นที่ในโลกว่าก่อผลกระทบอย่างมหาศาลและร้ายแรงที่สุดในบรรดามลพิษทางอากาศทั้งหลาย” 

ต่อมาในวันที่ 9 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันนัดหมายสำคัญของพี่น้องชาวกระบี่ผู้คัดค้านโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือคลองรั้ว กว่า 300 คนจากหลายหมู่บ้าน หลายอำเภอ หลายตำบล และหลากหลายอาชีพ ทุกคนต่างเดินทางไปยังเวทีรับฟังความคิดเห็นกรณีการสร้างท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหินกระบี่ ค.2 เพื่อแสดงออกทางความคิดเห็นของคน และปกป้องมรกตแห่งอันดามันของไทยจากการคุกคามของโรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ กฟผ.กลับแจ้งว่าอาจต้องเลื่อนวันและเวลาจัดกิจกรรมออกไปโดยไม่มีกำหนด และไม่มีการบอกล่วงหน้า หากใครที่เคยไปกระบี่คงทราบดีว่า การเดินทางข้ามเกาะ จากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก โดยการเกิดขึ้นของเวทีรับฟังความคิดเห็นในแต่ละครั้งนั้นมักแจ้งกำหนดการในช่วงเวลาสั้นๆ ล่วงหน้าเท่านั้น พี่น้องชาวกระบี่จึงกล่าวว่า “หาก กฟผ.ต้องการความเห็นประชาชนจริงๆต้องดำเนินการเวทีภายในวันและเวลาที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งข้อมูลที่สาธารณะรับรู้คือ วันที่ 9 พฤษภาคม 2557 ณ ตำบลคลองรั้ว โดยหากกฟผ.จะเลื่อนวันเวลาออกไป จำเป็นต้องแจ้งชาวบ้านทราบให้แน่ชัดและแจ้งล่วงหน้า ไม่สามารถทำได้โดยกระชั้นชิดอย่างนี้ ดังนั้นเมื่อ กฟผ.ดำเนินการไม่เป็นระบบ เวทีวันนี้ ถือว่าโมฆะ เพราะชาวบ้านเดินทางมารอร่วมเวทีเป็นเวลาหลายชั่วโมง”  

การยุติปัญหาความขัดแย้งเรื่องความมั่นคงทางพลังงานนั้น   ทางออกที่ดีที่สุดคือ เพียงแค่รัฐหันมาสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนที่ไม่สร้างมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ทำลายความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวอันงดงาม รวมถึงช่วยรักษาวิถีชีวิตของชุมชนไว้ พลังงานหมุนเวียนจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตพลังงานของไทย บางทีรัฐบาลและกฟผ. เองอาจกำลังหลงลืมไปว่าสิ่งที่พี่น้องชาวกระบี่กำลังปกป้องอยู่นั้นคือชีวิตของพวกเขา และแหล่งทำรายได้ทางเศรษฐกิจอันมหาศาลให้กับประเทศไทย ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินจะเปลี่ยนแปลงกระบี่ไปตลอดกาล                                                                                                                       

อ่านแถลงการณ์เหตุการณ์ความรุนแรงกรณีการผลักดันสร้างท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหินบ้านคลองรั้ว

ร่วมเป็นอีกพลังช่วยปกป้องกระบี่ด้วยการลงชื่อปกป้องกระบี่จากถ่านหินที่ www.protectkrabi.org


Blogpost
โดย รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์ -- พฤษภาคม 12, 2557 ที่ 11:56


Create Date : 16 มิถุนายน 2557
Last Update : 16 มิถุนายน 2557 14:49:20 น. 0 comments
Counter : 957 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com