ตราบใดที่ยังมีความหวัง มหาสมุทรก็ไม่มีวันล่มสลาย .. เรือเอสเพอรันซา สายลมแห่งความหวังกำลังจะมาเยือนน่านน้ำทะเลไทยเพื่อรณรงค์พิทักษ์รักษ์ทะเลไทยให้ยืนยาว และเพื่อปกป้องอนาคตของทุกคน

หลายคนคงคุ้นตากับภาพการทำงานของกรีนพีซพร้อมกับเรือรณรงค์ ซึ่งเรือของกรีนพีซจะออกเดินทางสู่ทะเลและมหาสมุทรของโลกเพื่อเป็นประจักษ์พยาน รวมถึงรณรงค์ปกป้องสิ่งแวดล้อมมายาวนาน

หากใครยังจำกันได้ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ได้มาเยือนประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรณรงค์การปฏิวัติพลังงาน สนับสนุนพลังงานหมุนเวียน และร่วมแรงร่วมใจสู้ให้มายาคติของถ่านหินสะอาดหมดไปจากประเทศไทย การมาแวะเวียนรณรงค์ของนักรบสายรุ้งในแต่ละครั้งนั้นเสมือนเป็นความหวังและพลังที่อยู่เคียงข้างประชาชนที่กำลังต่อสู้เรียกร้องให้อนาคตสิ่งแวดล้อมของไทยเป็นไปอย่างยั่งยืน

ในเดือนมิถุนายนพ.ศ. 2556 นี้ สายลมแห่งความหวังจะพัดผ่านทะเลไทย พร้อมกับการมาเยี่ยมเยือนน่านน้ำของไทยเป็นครั้งแรกของเรือ “เอสเพอรันซา”  ที่ชื่อมีความหมายว่า “ความหวัง”  ซึ่งเป็นเรือรณรงค์ลำใหญ่ที่สุดในสามลำของเรือกรีนพีซ เพื่อรณรงค์ให้รัฐบาลและทุกภาคส่วนร่วมมือกันปกป้องทะเลไทย รวมถึงอนุรักษ์และคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลของไทยอย่างแท้จริง

จากเรือดับเพลิงในเมืองเมอร์แมนส์ของกองทัพรัสเซีย กลายมาเป็นเรือรณรงค์ของกรีนพีซที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้เป็นแนวหน้าในการรณรงค์ของกรีนพีซหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2545 เป็นต้นมา ผลงานรณรงค์ที่โดดเด่นที่สุด คือ การยุติการล่าวาฬในเขตรักษาพันธุ์วาฬมหาสมุทรใต้ที่แอนตาร์กติกา โดยเรือเอสเพอรันซามีความพิเศษหลายประการ คือ นอกจากจะเป็นเรือลำที่ใหญ่ที่สุดด้วยขนาด 72 เมตร แล้ว ยังมีความเร็วสูงสุด 16 น๊อต ถูกออกแบบมาให้สามารถแล่นผ่านทะเลน้ำแข็งที่หนาได้ด้วยความเร็วสูง หรือแม้แต่ติดตามไปเป็นประจักษ์พยานการทำอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อมของเรือประมงได้ทันท่วงที

ก่อนหน้าที่เอสเพอรันซาจะมาเป็นเรือของกรีนพีซอย่างทุกวันนี้ วิศวกรของกรีนพีซต้องใช้เวลาหลายเดือนในการดัดแปลงเรือเอสเพอรันซาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเริ่มจากการกำจัดเยื่อหินทนไฟออกทั้งหมด เปลี่ยนระบบน้ำมันพิเศษให้เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการรั่วไหลของน้ำมัน ปรับปรุงแรงขับเคลื่อนไฟฟ้าดีเซลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างระบบทำความร้อนจากของเสีย แปลงน้ำสกปรกใต้ท้องเรือให้เป็นน้ำสะอาด ใช้สารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศที่ทำจากแอมโมเนียแทนการใช้สารฟรีออน ซึ่งทำลายโอโซนในชั้นบรรยากาศและเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อน ท้ายที่สุดคือการใช้สีทาตัวเรือที่ปราศจากสารไตรบิวทิลทิน ซึ่งเป็นสารก่อมลพิษทำอันตรายต่อสัตว์น้ำและบิดเบือนฮอร์โมน

การมาน่านน้ำไทยของเอสเพอรันซาในครั้งนี้เป็นครั้งแรก และยังเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการรณรงค์ด้านมหาสมุทรและทะเลของประเทศไทย เพื่อรณรงค์และสร้างความตื่นตัวในการปกป้องทะเลในประเทศของเราให้มากยิ่งขึ้น มาร่วมกันค้นพบความสวยงามของท้องทะเลที่จะทำให้คุณต้องหลงรักทะเลไทยยิ่งขึ้น และสำรวจวิกฤตปัญหาที่กำลังคุกคามทะเล ด้วยการมาร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางรณรงค์ของเรือเอสเพอรันซา ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าตื่นเต้น น่าจดจำ ผ่านการเยี่ยมชมเรือ พูดคุยกับกัปตันและเหล่าอาสาสมัครกรีนพีซจากทั่วโลก รวมถึงยังมีความสนุกสนานแฝงความรู้อีกมากมายจากนิทรรศการ กิจกรรมเกม และอื่นๆ ในช่วงวันที่

15-16 มิถุนายน ที่หาดสมิหลา จังหวัดสงขลา
21-23 มิถุนายน ที่อ่าวหน้าเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
27-30 มิถุนายน ที่ท่าเรือคลองเตย จังหวัดกรุงเทพฯ

ลงทะเบียนออนไลน์เข้าร่วมงาน “ยืดอายุทะเลไทยกับเรือเอสเพอรันซา” ที่กรุงเทพฯ ได้ที่นี่

มีสิ่งต่างๆ มากมายกำลังเกิดขึ้นในโลกใต้ท้องทะเล และยังมีวิกฤตปัญหาร้ายแรงที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ใต้เกลียวคลื่นสีคราม ซึ่งหากเราไม่ช่วยกันปกป้องรักษาท้องทะเลตั้งแต่ตอนนี้ เราอาจไม่สามารถฟื้นฟูทะเลให้กลับคืนสภาพสมบูรณ์ได้อีกเลย

ยามที่โลกเจ็บป่วยจากความโลภของมนุษย์จนดูเหมือนจะเกินเยียวยา ยังมีความหวังที่เกิดจากการหลอมรวมจิตวิญญาณจากผู้คนทุกวัฒนธรรมทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว ถึงเอสเพอรันซาจะเป็นเรือแห่งความหวัง แต่ความหวังอันแท้จริงของมหาสมุทรและทุกสรรพชีวิตบนโลกก็คือ “คุณ” เพราะคุณสามารถร่วมเป็นผู้พิทักษ์รักษ์ทะเลไปพร้อมกับกรีนพีซ พลังของคุณสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงและช่วยเยียวยาท้องทะเลไทยได้ ก่อนที่ระบบนิเวศทางทะเลจะล่มสลายและปลาจะหมดไปจากทะเล

ร่วมเป็นผู้พิทักษ์รักษ์ทะเลกับกรีนพีซ

//www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/45554/