กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
World Meat Free Day - งดกินเนื้อสัตว์สักวันเพื่อโลก!



เขียน โดย รัตนศิริ กิตติก้องนภางค์

รู้ไหมว่าการงดกินเนื้อสัตว์นอกจากจะเป็นการช่วยชีวิตสัตว์แล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเราและสุขภาพของโลกอีกด้วย

วันนี้คือวัน World Meat Free Day หรือวันที่กำหนดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ทั่วโลกหันมาลดการบริโภคเนื้อสัตว์ เนื่องจากอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์นั้นก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างใหญ่หลวง ก่อนที่เนื้อวัว หมู หรือไก่ จะมาเป็นอาหารบนจานของเรานั้น ได้สร้างร่องรอยที่ส่งผลกระทบไปไกลถึงการทำลายป่าไม้ สร้างมลพิษให้แหล่งน้ำ และการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาล แต่ข่าวดีคือการกินของเราเนี่ยแหละที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับระบบห่วงโซ่อุปทาน และช่วยโลกให้ดีขึ้นได้

งดกินเนื้อกู้โลกได้อย่างไร

คุณอาจไม่จำเป็นต้องเลิกกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต แต่เพียงแค่หนึ่งวัน หรือหันมาปรับเปลี่ยนวิธีการกิน ไม่ว่าจะเป็นการกินเนื้อสัตว์น้อยลง หรือเลือกกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้มีที่มาจากอุตสาหกรรมที่บุกรุกทำลายป่า คุณก็ช่วยโลกของเราได้มากแล้ว 


ข้อดีของการงดเนื้อสัตว์เพียง 1 มื้อ

- ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ปริมาณมากพอที่จะต้มกาต้มน้ำให้เดือดได้  388 ครั้ง
- ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของ 9 คน
- ลดการบริโภคไขมัน 11 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเนย 2 ช้อนโต๊ะ
- ลดการบริโภค 90 แคลอรี

ข้อมูลจาก worldmeatfreeday.com

การทำปศุสัตว์ใช้ทรัพยากรมหาศาล

ร้อยละ 30 ของผืนโลกที่ไม่ได้ปกคลุมด้วยน้ำแข็งนั้นถูกใช้ไปกับการทำปศุสัตว์ หรือปลูกพืชเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์ ขณะที่ผู้คนหลายพันล้านต้องหิวโหยทุกวัน และการทำปศุสัตว์บนพื้นที่เหล่านี้ได้สร้างก๊าซเรือนกระจกมากกว่าภาคคมนาคมทั้งหมด ปัจจุบันนี้มนุษย์บริโภคเนื้อสัตว์มากถึง 230 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วถึงสองเท่า การทำปศุสัตว์นั้นต้องใช้น้ำและอาหารปริมาณมาก ซึ่งปล่อยก๊าซมีเทนและก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ รวมถึงผลิตของเสียมหาศาล หากเทียบกันแล้วโดยร้อยละ 80 ของการผลิตถั่วเหลืองทั่วโลก (ส่วนมากแล้วเป็น GMO) ถูกผลิตเพื่อเลี้ยงสัตว์สำหรับการบริโภคของมนุษย์ มีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ผลิตขึ้นเพื่อการบริโภคของมนุษย์โดยตรง ซึ่งการผลิตถั่วเหลืองนั้นใช้ปริมาณน้ำและสารเคมีจำนวนมาก (เพื่อเป็นปุ๋ยและกำจัดศัตรูพืช)

ในรายงาน What’s Feeding Our Food? โดย Friends of the Earth เผยว่า พื้นที่ป่า 6 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศลัทเวีย หรือพื้นที่สองเท่าของประเทศเบลเยียม ถูกเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นฟาร์มและปศุสัตว์ต่อปี โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นการปลูกพืชเพื่อป้อนปศุสัตว์

นอกจากนี้ปริมาณน้ำ 403,000 ลิตรที่ใช้ในกระบวนการทำปศุสัตว์เพื่อการบริโภคเฉลี่ยสำหรับคนหนึ่งคนตลอดปีนั้นเทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่เราใช้อาบน้ำตลอดทั้งปีมากถึง 6,190 ครั้ง หรือการอาบน้ำ 17 ครั้งต่อวันตลอดปี กล่าวคือ เมื่อคุณบริโภคเนื้อสัตว์เข้าไป เท่ากับว่าคุณได้บริโภคปริมาณน้ำที่สัตว์จำเป็นต้องใช้ด้วย

กินอย่างไรช่วยโลกได้

ถึงยังเลิกกินเนื้ออย่างถาวรไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณสามารถช่วยได้ เช่น เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการเลี้ยงแบบอุตสาหกรรม การซื้ออาหารหรือพืชผักจากในท้องถิ่น เลี่ยงการซื้อสินค้าที่มีขั้นตอนการผลิตหลายขั้นตอน เช่น อาหารกล่อง อาหารแช่แข็ง หันมาเลือกซื้อผักออร์แกนิค รับประทานผักพื้นบ้าน หรืออุดหนุนผลิตภัณฑ์จากการทำเกษตรกรรมเชิงนิเวศ

หรือให้ดีกว่านั้นคุณยังสามารถปลูกผักกินเองได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนได้

ข้อดีของการกินมังสวิรัติ หรือกินเนื้อสัตว์น้อยลงนั้นมีอีกมาก ที่สำคัญคือดีต่อสุขภาพของเราเอง เพราะอาหารที่ผ่านขั้นตอนการผลิตการเลี้ยงดูที่ดีนั้นย่อมดีต่อสุขภาพของเราเช่นกัน เพราะผู้บริโภคคือพลังสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง กินกู้โลก คุณก็ทำได้


ที่มา: Greenpeace Thailand





Create Date : 13 มิถุนายน 2559
Last Update : 13 มิถุนายน 2559 13:36:35 น. 1 comments
Counter : 1029 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
 
 

โดย: peepoobakub วันที่: 15 มีนาคม 2560 เวลา:16:34:23 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com