กรีนพีซดำรงอยู่เพราะโลกอันบอบบางใบนี้สมควรมีผู้ปกป้อง โลกต้องมีวิธีแก้ปัญหา ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการลงมือทำ
 
แอพพลิเคชันที่คุณใช้อยู่ทุกวัน รักษ์โลกแค่ไหน?



บทความโดย แกรี่ คุก

คุณรู้หรือไม่ว่า บางแอพพลิเคชันที่เราใช้อยู่ทุกๆวัน สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อจะนำไปสู่อนาคตสีเขียวได้ โดยเราสามารดูได้ที่การเลือกใช้พลังงานที่จะนำมาใช้เดินระบบในศูนย์ข้อมูลของพวกเขา (และชีวิตดิจิตอลของเรา) ว่ามาจากพลังงานหมุนเวียนหรือไม่?

การปฏิวัติพลังงานมาถึงแล้ว และผู้นำด้านเทคโนโลยีทั้งหลายกำลังเปิดรับพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรและยั่งยืน แต่ก็ยังมีหลายแห่งที่ยังคงพึ่งพาถ่านหินและแหล่งพลังงานสกปรกอื่นๆที่มีส่วนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จาก เฟสบุ๊ค ถึง เน็ตฟลิกซ์ ด้านล่างนี้คือรายชื่อผู้นำด้านพลังงาน กลุ่มที่กำลังปรับตัวเองให้ดีขึ้น และกลุ่มที่ยังล้าหลังซึ่งยังคงใช้พลังงานสกปรกๆอย่างถ่านหินอยู่

ผู้นำการแข่งขัน:

เฟสบุ๊ค (เกรด: เอ)
Facebook (Grade: A)

หลังจากที่เรารณรงค์กับเฟสบุ๊ค ไม่ให้กดถูกใจถ่านหิน เมื่อปี 2554 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีนี้ได้ผลักดันเรื่องพลังงานหมุนเวียนและสร้างความเชื่อมั่นให้เราว่า ทุก ๆ การกดถูกใจและแชร์จะเป็นมิตรต่อโลกมากกว่าที่ผ่านๆมา

Activists showing Facebook signs used in the campaign against Facebook's use of coal. 13 Apr, 2011  © Peter Soerensen / Greenpeace

กูเกิล (เกรด: เอ)
Google (Grade: A)

ราชาแห่งโปรแกรมค้นหา (เสิร์ชเอนจิน) เป็นบริษัทด้านอินเทอร์เน็ตเจ้าแรกที่ลงนามในสัญญาที่มีความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการใช้พลังงานหมุนเวียนเมื่อปี 2553 และมีความคืบหน้าที่น่าดีใจที่จะไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มร้อย

วอตส์แอปป์ (เกรด: เอ)
WhatsApp (Grade: A)

ตั้งแต่ตกเป็นของเจ้าของสื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ ซึ่งก็คือ เฟสบุ๊ค ในปี 2557 ผู้ให้บริการส่งข้อความที่เป็นที่รู้จักอย่างมากนี้ ได้เข้าร่วมลงแรงเพื่อให้มีอินเทอร์เน็ต ที่จะขับเคลื่อนโดยพลังงานหมุนเวียน ข้อความวอตส์แอปป์ถึง 3 หมื่นล้านข้อความที่เราส่งกันในทุกๆวัน เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะมุ่งไปสู่อนาคตแห่งพลังงานหมุนเวียน

ไอทูนส์ (เกรด: เอ)
iTunes (Grade: A)

ตราบใดที่ยังมีดนตรี เราก็ยังมีความหวัง! แอปเปิลเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่จริงจังมากๆเรื่องการทำให้บางส่วนของพวกเขาบนโลกอินเทอร์เน็ตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า เมื่อคุณดาวน์โหลดเพลงจากไอทูนส์ แอปเปิลได้เลือกใช้พลังงานหมุนเวียนในการทำให้เพลงของคุณนั้นใช้การได้อย่างเป็นมิตรต่อโลกแล้ว

ยูทูป (เกรด: เอ)
YouTube (Grade: A)

ในปี 2558 การดูวีดิโอบนอินเทอร์เน็ตนับเป็น ร้อยละ 63 ของการใช้อินเทอร์เน็ตโลก ทำให้การดูวีดิโอเช่นนี้ ถือเป็นการใช้พลังงานที่มากที่สุด ภายในปี 2563 มีการคาดการณ์ว่าการดูวีดิโอผ่านอินเทอร์เน็ตจะเพิ่มถึงร้อยละ 80 และนั่นจะกินพลังงานเป็นอย่างมากเลยทีเดียว


กำลังปรับปรุง

เอทซี่ (เกรด: บี)
Etsy (Grade: B)

เอทซี่ได้เริ่มเดินไปในทางที่จะนำตลาดออนไลน์ของพวกเขาไปสู่การใช้พลังงานที่สะอาดกว่าเดิม พวกเขาได้เปลี่ยนบางส่วนของระบบการดำเนินการไปสู่ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานหมุนเวียน พวกเขาได้เริ่มเห็นความสำคัญ และเรียกร้องให้ผู้นำรัฐบาลต่างๆลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน

ลิงด์อิน (เกรด: บี)
LinkedIn (Grade: B)

การค้นหางานของคุณเพิ่มรอยเท้าคาร์บอนหรือไม่? ครั้งสุดท้ายที่เราวัดระดับ ลิงด์อิน เมื่อปี 2558 พวกเขายังอยู่ในเกรดซี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ได้ยอมรับข้อตกลงเพื่อที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มที่ และได้พลักดันให้การดำเนินการในศูนย์ข้อมูลและเครื่องใช้ต่างๆ ใช้พลังงานหมุนเวียน

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงใช้พลังงานหมุนเวียนเพียงร้อยละ 10 ลิงด์อินจำเป็นจะต้องสนใจและให้ความสำคัญมากกว่านี้ และวางแผนเพื่อดำเนินงานเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมด

สไกป์ (เกรด: บี)
Skype (Grade: B)

หากเรายังคงติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนจากทั่วโลก แต่ยังสงสัยว่าการโทรของคุณใช้พลังงานหมุนเวียนหรือไม่ นี่คือคำตอบ สไกป์เป็นแอพพลิเคชันที่มีการพัฒนาโดย ไมโครซอฟท์ เช่นเดียวกับลิงด์อิน ซึ่งเคยถูกจัดให้อยู่ในเกรด ซี มาก่อน อย่างไรก็ดี พวกเขาได้เริ่มพยายามดำเนินการอินเทอร์เน็ตจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อตามให้ทันคู่แข่งอย่างแอปปิลและกูเกิลแล้ว

Airship Flight over Facebook in Silicon Valley. Apple, Facebook and Google have committed to powering their data centers with renewable energy, and Greenpeace is challenging other tech companies (Amazon, Twitter, Netflix and Pinterest) to join them. 3 Apr, 2014  © George Nikitin / Greenpeace

ในทางกลับกัน...

ทวิตเตอร์ (เกรด: เอฟ)
Twitter (Grade: F)

ในขณะที่ทวิตเตอร์ได้กลายเป็นพื้นที่ให้กับคนที่ไม่ยอมรับและปฏิเสธประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ตัวอักษร 140 ตัว จากทวิตเตอร์ สามารถถูกเผยแพร่โดยพลังงานหมุนเวียนได้ หากทวิตเตอร์เลือกที่จะตามรอย เฟสบุ๊ค กูเกิล แอปเปิล และผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ

อเมซอน ไพรม์ (เกรด: ซี)
Amazon Prime (Grade: C)

ในขณะที่การบริการบนเว็บไซท์ของอเมซอน (Amazon Web Services - AWS) ซึ่งรวมถึงเพลงและวีดิโอจาก อเมซอน ไพรม์ ได้มีพันธะสัญญาการตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มที่ และได้ลงนามในหลายสัญญาใหญ่ๆเกี่ยวกับการใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่เหล่าลูกค้าจะสามารถทราบผลการดำเนินการที่พวกเขากำลังทำอยู่ บริษัทนี้เก็บเงียบเรื่องข้อมูลการใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนของพวกเขา การวิเคราะห์ของกรีนพีซแสดงให้เห็นว่าการบริการบนเว็บไซต์ของอเมซอนยังคงขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว ในด้านที่อาศัยพลังงานจากถ่านหินและแหล่งพลังงานสกปรกอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พลังงานหมุนเวียน

อาลีบาบา (เกรด: ดี)
Alibaba (Grade: D)

พื้นที่การตลาดออนไลน์โลกที่โด่งดังนี้ยังคงถูกดำเนินการด้วยถ่านหิน จนถึงวันนี้ยังไม่มีการประกาศออกมาว่าทางบริษัทจะหันไปส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ประธานบริหารของอาลีบาบา หรือ แจ็ค หม่า มักถูกพูดถึงว่าเป็นคนที่มักจะมีวิสัยทัศน์และมีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะฉะนั้น อะไรคือสิ่งที่ทำให้อาลีบาบายังไม่ทำให้การซื้อของของเราเป็นมิตรกับโลกมากขึ้นล่ะ?

เน็ตฟลิกซ์ (เกรด: ดี)
Netflix (Grade: D)

เน็ตฟลิกซ์ได้เปลี่ยนวิถีการดูโทรทัศน์ของเรา แต่โชคไม่ดีนักที่พวกเขาไม่ได้คิดการณ์ไกลในเรื่องการใช้พลังงานของพวกเขาด้วย ในขณะที่ผู้นำที่แท้จริงด้านเทคโนโลยีมากมายอย่าง กูเกิล แอปเปิล และเฟสบุ๊ค กำลังใช้พลังงานสะอาดในการดำเนินระบบแอพพลิเคชันของเรา เน็ตฟลิกซ์กลับยังคงติดอยู่กับพลังงานสกปรกอย่างถ่านหิน


คนดูโทรทัศน์จำนวนมาก กำลังขอให้เน็ตฟลิกซ์เดินตามรอยเท้าของบริษัทเทคโนโลยีสร้างสรรค์บริษัทอื่น ๆ โดยล้มเลิกการใช้พลังงานจากถ่านหิน และให้การชมซีรี่ส์และหนังของพวกเรามาจากพลังงานหมุนเวียน

ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้เน็ตฟลิกซ์หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างเต็มร้อย!

อ่านข้อมูลคะแนนของบริษัทต่างๆ พร้อมคำอธิบาย ในรายงาน Greenpeace’s 2017 Clicking Clean ที่ clickclean.org

แกรี่ คุก เป็นนักรณรงค์อาวุโส ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กรีนพีซ สหรัฐอเมริกา

ที่มา : www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/58554


ติดตามกรีนพีซเพิ่มเติมที่




Create Date : 03 พฤษภาคม 2560
Last Update : 3 พฤษภาคม 2560 11:05:49 น. 0 comments
Counter : 788 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

greenpeacethailand
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ในพ.ศ.2514 กลุ่มนักกิจกรรมกลุ่มเล็กๆ จากเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวิสัยทัศน์แห่งโลกสีเขียวและมีสันติสุข ได้แล่นเรือหาปลาเก่าๆ ออกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา นักกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกรีนพีซ เชื่อว่าบุคคลไม่กี่คนสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ภาระกิจของพวกเขาคือการ "เป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ" ของการทดลองนิวเคลียร์ใต้ดินที่เกาะอัมชิตกา ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งตะวันตกของรัฐอลาสก้า ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อัมชิตกาเป็นสถานหลบภัยของนากทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ 3,000 ตัว และเป็นบ้านของนกอินทรีย์หัวล้าน เหยี่ยวต่างถิ่น และ สัตว์ป่าอื่นๆ มากมาย

ถึงแม้ว่าเรือเก่าๆ ของพวกเขา คือ ฟิลลิส คอร์แมก ถูกขัดขวางก่อนที่จะไปถึงอัมชิตกา แต่การเดินทางครั้งนี้จุดประกายเล็กน้อยให้แก่ความสนใจของสาธารณชน

สหรัฐอเมริกายังคงจุดระเบิดอย่างหนักหน่วง แต่เสียงเพรียกแห่งเหตุผลมีผู้ได้ยินแล้ว การทดลองนิวเคลียร์บนเกาะอัมชิตกาได้สิ้นสุดลงในปีเดียวกัน และเกาะแห่งนั้นได้ถูกประกาศให้เป็นสถานหลบภัยของนกทั้งหลาย

ปัจจุบัน กรีนพีซเป็นองค์กรนานาชาติที่ให้ความสำคัญแก่การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก


คุณพร้อมที่จะร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือยัง?
มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ตอนนี้!


หลายคนอาจจะคิดว่าการดูแลรักษาโลกเป็นเรื่องยาก แค่ลำพังเราอาจทำอะไรได้ไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่เพียงสองมือเล็กๆของเราก็สามารถทำเพื่อโลกได้มากมาย อ่านต่อ

ติดตามกรีนพีซเพ่ิมเติมได้ที่:

Facebook | Twitter | Instagram | YouTube
[Add greenpeacethailand's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com