"... เรื่องเกี่ยวกับกรรมนี้มันเกี่ยวกับจารีตด้วย
เกี่ยวกับยุคสมัยด้วยเช่นกัน
เกี่ยวกับยุค เกี่ยวกับสมัย
เพราะว่าเรื่องของกรรมมันเกี่ยวกับเจตนา
พวกกฏหมายก็ดีอะไรก็ดีพวกนี้
มันก็มีผลต่อความรู้สึกของเรา
สมมุติแต่ก่อนไม่มีกฎหมาย
ในด้านพวกเกี่ยวกับลิขสิทธ์อะไรต่างๆ
เราก็ไม่มีความคิดที่จะไปขโมยเค้า
เราก็ใช้ไปอย่างงั้นแหละ
ก็ไม่รู้สึกที่จะต้องขโมยใครอะไรมา
แต่พอหลังๆชักจะมีกฏหมายพวกนี้มาอะไรมา
แล้วเราก็รู้เรื่องด้วย
ทีนี้พอรู้เรื่องแล้วก็ชักจะมีปัญหาขึ้นมา
กฏเกณฑ์ กฏระเบียบ กฏหมาย จารีต
มันมีผลต่อกรรมต่อความรู้สึก
เพราะเจตนานั่นเองเป็นกรรม
ตอนนี้เรามาดูด้านกรรมบถ คือตอนมันออกมา
ถ้าคิดจะไปเอาของเค้ามา
โดยที่เค้าไม่อนุญาตไม่ให้ไม่บอกเค้าก่อน
ไม่ว่าจะแง่ใดแง่หนึ่ง
..ใช้ๆไปเถอะ..ไม่เป็นไรหรอก..
..ซอฟท์แวร์มัน..ช่างมันเถอะ..
..คนอื่นเค้าก็ใช้กัน..เราก็เอามั่ง..
ตอนยังไม่รู้มันก็ไม่คิดจะขโมยใครเหมือนกันนะ
มันก็ไม่มีความรู้สึกจะเป็นเจตนาที่เป็นกรรมชั่วร้าย
แต่พอมันรู้เรื่องนี่ล่ะ เอาแล้ว
ฉะนั้นพวกจารีตพวกอะไรต่างๆ
มีผลเยอะในด้านของกรรม
ด้านกฎหมายด้านอะไรต่อมิอะไรพวกนี้
ตอนไม่มีกฎหมายเราก็ไม่ได้คิดจะล่วงอะไรมัน
ใช่ไหม มันก็อยู่ของมันดีๆนะแหละ
แต่พอมีกฏหมาย
กฎหมายให้เสียภาษี แต่เดิมไม่ได้เสีย
ตอนนี้มีกฎหมายแล้ว ก็ไม่เสียเหมือนเดิม
ตอนไม่มีกฎหมายนี่เราไม่คิดขโมยนะ
แต่ตอนมีกฎหมายแล้วเรารู้ว่ามีกฎหมายแล้ว
ตอนนี้เราคิดจะเลี่ยงแล้ว
ความคิดมันต่างกัน เจตนามันต่าง
พอเจตนาต่าง กรรมมันก็เลยต่าง
..."