ก็แค่อยากใช้ชีวิตให้คุ้ม..
mission impossible : 3 อยากให้ลูกเต็มก็ต้องเติม

ตอน 3 นี่ว่าด้วยเรื่องการทำให้นายป่านรักน้อง แบบเน้นๆครับ

อันดับแรกที่ผมวางแผนหลังจากสังเกตอาการของนายป่านในช่วงต่างๆ
พอสรุปได้ว่า...

1.ต้องกลับมาเติมให้เขาเต็มเหมือนอย่างที่เคยได้รับก่อน..
เด็กมีความสุขก็จะมีสุขภาพจิตดี พร้อมที่จะรับสิ่งที่เราป้อน
(แหมอันนี้..พูดง่ายแต่ที่จริงทำยากพอควรครับ เพราะเวลามันต้องปันให้สองคน เวลาของชีวิตเราอีกล่ะ..อูย)

โจทย์ข้อนี้ พอบทจะแก้ง่ายก็หญ้าปากคอก...อ้าวไหงงั้น

ก็เพราะว่ามันมีเวลาหนึ่งที่เราให้เวลากับเค้าได้เต็มที่
นั่นคือเวลาที่นายธณหลับไงครับ



เวลานั้นจะเป็นเวลาที่พ่อและแม่มีเวลาให้เขาเต็มร้อย
ทั้งเล่นทั้งฟัด ทั้งกอดทั้งหอมกันให้เต็มอิ่ม

ไม่ว่าเราจะอยู่ที่บ้านหรือได้ออกไปข้างนอก..
ช่วงเวลาที่นายธณหลับก็นานพอที่จะเติมให้นายป่านหายเสียศูนย์ได้พอ

(โลกของเด็กอายุขนาดนี้ มีแต่พ่อกับแม่หรือคนที่เลี้ยงเขาเท่านั้นแหละครับ
ถ้าเขามีอาการขาดให้เราเห็น..
ก็ต้องแปลชี้ชัดอยู่แล้วว่าเราเองนั่นแหละเติมให้เขายังไม่เต็ม
ส่วนผู้ใหญ่คนไหนที่มีข้ออ้างว่าไม่มีเวลา ย้อนกลับไปดูตอน 2 นะครับ
หรือไปดูที่หัวข้อ 15 นาที)


หลังจากใช้วิธีนี้ นายป่านอาการดีขึ้นเยอะครับ
เอาล่ะ..คราวนี้ ทางสะดวกแล้วครับ

จะป้อนจะเติมอะไรก็ง่ายแล้ว อารมณ์กำลังรับ...555

คราวนี้ก็มาวางแผนเฟสสองต่อ..



2.1 ผมพยายามให้นายป่านมีส่วนร่วมกับน้องทีละน้อย
กติกาข้อแรก ทุกคนต้องพูดว่า"น้องธณของพี่ป่าน"...แฮ่ม
ห้ามขาด..น้องธณของคุณตา น้องธณของคุณยาย..น้องธณของใคร
(ทุกคำที่มีนัยเชิงเปรียบเทียบแบบนี้...งด)
จะเริ่มโพสิทีฟ ต้องงดเนกาทีฟทั้งหมดก่อน...มันถึงจะง่าย..

2.2 อะไรที่นายป่านอยากได้ต้องไปหอมน้องก่อน 1 ที
ผมสังเกตว่าเวลานายป่านอยากได้อะไร เช่น อยากดูสารคดีของโปรด
การ์ตูนส์เรื่องชอบ อันดับแรกที่ปกติให้หอมคุณพ่อ คุณแม่ 1 ที เพิ่มเมนูเข้าไปอีก คือต้องไปหอมน้องก่อนด้วยทุกครั้ง
(ซึ่งด้วยความอยากให้เราทำให้ เขาก็ยอมทำตามที่เราบอกก่อน..555)
เพื่อสร้างความเคยชินให้ซึมซับไปทีละน้อย



2.3 ทำให้เขารู้สึกเป็นคนสำคัญ แทคติกนี้ผมได้มาจากเพื่อนของผมคนนึงที่สามารถควงสาวมาเป็นแม่ของลูกได้พร้อมกันสองคนมาตลอดชีวิตที่รู้จักกัน

แทคติกนี้ง่ายๆ คือ ขณะที่อยู่กับอีกคน ต้องทำให้อีกคนรู้สึกว่าสำคัญ
ประมาณว่ากอดกะคนนี้อยู่ต่อหน้าต่อตาอีกคนแท้ๆ อีกคนไม่ว่ากลับยิ้มๆ
(อูยเป็นไปได้ไงอ่ะ...)

เวลาที่สำคัญอันนึงคือเวลานอน
เพื่อนผมอีกคนนึงที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้เคยมาเล่าในวง
ว่ามันเคยริมีบ้าง จะพลิกซ้ายพลิกขวา..นี่ไม่ได้เลยนะครับ ต้องนอนหงายกางแขนซ้ายขวานิ่งๆ ตะแคงไม่ได้
เจอทีไรไม่เคยนอนอิ่มเลย...(สมน้ำหน้ามัน...อิอิ..)

แต่เพื่อนคนนี้พลิกซ้ายพลิกขวาได้ตามใจชอบครับ..

นานมากกว่ามันจะยอมบอกเคล็ดลับ..
เคล็ดลับมันก็ง่ายแสนง่าย..
นอนพลิกซ้าย มือขวาเอื้อมไปจับมือคนขวาบีบ..
นอนพลิกขวามือซ้ายอ้อมไปจับมือคนซ้ายไว้..

ใส่ใจกันขนาดนี้ครับ ขณะที่ใส่ใจอีกคนก็ไม่เคยละความสำคัญของอีกคน
(เออ..ทำได้ไง..ความสามารถพิเศษนี้ห้ามเลียนแบบ
)

ผมก็ประยุกต์มาใช้ คือ ใช้สายตา ใช้เสียง
เช่น อุ้มนายธณ อีกมือต้องแตะนายป่าน
หรือหันไปยิ้มไปเล่นกับเขาด้วยสลับกัน..



จะหอมนายธณ ก็ต้องหันไปหอมเค้าด้วย และต้องหอมอย่างที่เคยทำ

เด็กรู้สึกได้ง่าย..ถ้าผู้ใหญ่สักแต่ว่าทำครับ
คือตัวทำ ใจไม่เต็ม...อย่าคิดนะว่าเด็กไม่รู้สึกได้

อย่าสักแต่ว่าทำ หรือฉันก็ทำแล้วเด็ดขาด..
ทุกครั้งที่คุณกอด ที่อุ้ม ที่อาบน้ำให้เขา
สัมผัสต่างๆสื่อความรู้สึกของเราไปที่เขาได้ตลอด

เวลาใดที่คุณไม่ได้ตั้งใจ ไม่ใส่ใจ หรือทำให้มันเสร็จๆไปโดยไม่ได้ใส่ความรู้สึก ความใส่ใจ หรือความรักลงไปด้วย

ไม่ว่าจะเพราะว่าคุณเหนื่อย หรือคุณกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ในขณะที่กำลังดูแลเขา
ขอเวลาขณะนั้น ปัจจุบันนั้นที่ใจจดจ่ออยู่กับเขาเถอะครับ
แค่เวลาสั้นๆที่ตัวมาพร้อมกับหัวใจให้กับลูก

อย่าคิดนะครับว่าเด็กเขาไม่รู้สึก..
เพราะสัมผัสมันแตกต่างกัน...

(แหม..เวลาอยากให้คนที่คุณรักกอด แล้วปรากฏว่าตอนนั้นคนที่คุณรักกอดคุณลวกๆอ่ะเป็นไงล่ะ..อย่ามาบอกเชียวนะว่าไม่รู้สึก)

เหนื่อยอยู่ครับ...ยอมรับ แต่ได้ผล

วิธีนี้ทำให้เด็กเต็มเร็ว และเมื่อเต็มเขาก็ไม่เปรียบเทียบกับน้อง และไม่หวงพ่อกับแม่ที่จะปันเวลาให้กับน้อง
(คุณกินกุ้งเผาจนเต็มอิ่มแล้ว คุณยังจะหวงกุ้งเผาไปให้คนอื่นกินอีกมั้ยครับ...)

หลังๆนายป่าน นานๆจะปฏิกริยา และมีทีไรก็โดนเติมไว้ก่อนเลย
และทุกครั้งที่นายป่านอยากได้อะไรต้องไปหอมน้องก่อนเรื่อยๆ
ท่าทีผูกพันเขาก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

จนวันดีเดย์ครั้งแรกที่เห็นปฎิกิริยานายป่านเปลี่ยนไป
คือวันฉีดวัคซีนครับ

เป็นวันที่นายป่านและนายธณต่างก็มีคิวต้องฉีดวัคซีนทั้งคู่
ผมเลือกให้นายธณโดนฉีดก่อน..
พร้อมกันนั้น ผมให้นายป่านไปนั่งดูด้วย แถมตอนที่น้องโดนฉีดวัคซีน
ตอนเข็มกำลังปักลงไปนี่ ผมเรียกให้นายป่านดูจะจะเลย..
นายธณโดนปักเข็มปั๊บก็ร้องจ๊าก..
ผมคอยสังเกตสีหน้านายป่านไว้ก่อนเลยดูปฏิกริยาที่เขามีต่อน้อง

เห็นแล้วโล่งไปเปลาะเลยครับเพราะเขาพยายามชี้ให้ผมไปเอาน้องออกมาไม่ยอมให้หมอฉีดยา

และได้ผลข้างเคียงครับ พอถึงคิวนายป่าน แทบหืดขึ้นคอ
ทั้งจับทั้งลอค ปากนี่แหกซะสุดเสียง
ยิ่งตอนเข็มปักเนื้อ หมอเดินยาฉีดวัคซีน...โลกแทบถล่ม..

คุณแม่เขาบ่นว่าผมเรียกให้นายป่านดูทำไม..
เรียกดูแล้วก็เหนื่อยอย่างนี้

แต่พอกลับบ้านเขาถึงเข้าใจเจตนาของผมครับ

วันนี้น้องร้องไห้จ้าแปลกจากทุกวัน
นายธณยังไม่เคยฉีดวัคซีน แถมฉีดครั้งแรกก็เจอวัคซีนรวมอีกต่างหาก
ไม่ร้องกวนพ่อแม่ก็แปลกละครับ..ไข้ขึ้นหน่อยๆด้วยซ้ำ

ปฎิกริยานายป่านเปลี่ยนครับ
น้องร้องทีไร นายป่านวิ่งมาจูงมือไม่พ่อก็แม่
ปากก็บอก..แม่ค้าบน้องร้อง

จูงไปจนถึงเตียงที่น้องนอน...เออเอากะเขาสิ

คราวนี้นอกจากไม่มีปฏิกริยาลบแล้ว
หลังจากนั้นนายป่านยังสนใจใส่ใจน้องเป็นพิเศษ
เหมือนเขารู้สึกได้ว่าน้องเขาเจ็บ..

เดี๋ยวนี้
ให้ความร่วมมือวิ่งไปหยิบขวดนม ขวดน้ำให้น้อง
แอบมานอนดูน้องตอนที่ผมกับแฟนกำลังทำงานบ้าน
พยายามเล่นกับน้อง..
พยายามกอดน้อง อุ้มน้องเหมือนกับที่เราทำให้นายป่าน

แหม..ครั้งแรกที่เห็น..ผมแทบน้ำตาไหล

งานก็เยอะ ชีวิตก็มีเรื่องเหนื่อย ผู้คนก็วุ่นวาย ปากท้องครอบครัวก็ต้องวางแผน
เวลาที่ปันมาให้ลูกยิ่งเบียดเอาเวลาว่างน้อยลง

แต่วันที่เห็นผล..คุณเอ๋ยหายเหนื่อยจริงๆ..
ภาพพี่กอดน้อง หอมน้องอย่างรักใคร่
นายป่านกอดน้องอย่างทนุถนอมเหมือนเวลาที่ผมกอดเค้า..
หรือเค้ามากอดผม หรือคุณแม่

การเรียนรู้ความรู้สึกร่วมของนายป่าน..กับน้องในวันฉีดวัคซีน
ช่วยเร่งบางอย่างให้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดจริงๆครับ
(ตอนแรกกะเวลาตั้งเป้าไว้อย่างน้อยประมาณ 6 เดือน)
คราวนี้กลับกลายเป็นว่านายป่านเองหวงน้องไปซะแล้วครับตอนนี้

สรุป..ประสบการณ์หนนี้ของผม
ช่วงแรกบอกจริงๆว่าหนักใจมาก และกลัว..
(กลัวลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา)
ตั้งแต่เห็นสายตาที่เปลี่ยนไปของลูก
จนกว่าจะมาถึงวันที่ฟื้นฟูเขาไ้ด้สำเร็จ

บอกในฐานะหัวอกพ่อกับแม่เลยครับ
ว่าสิ่งที่เขาเป็น..สะท้อนสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำโดยไม่ทันคิดทั้งนั้น
สิ่งที่เราทำได้..ถ้าเรารักลูกของเราก็คือหมั่นสังเกต
ยิ่งเราช่างสังเกตเท่าไหร่ เราก็จะมีเวลาแก้ได้เร็วและทันเวลา


คราวหน้าผมจะเล่าเรื่องนายป่านเลียนแบบนิสัยเสียของพ่อเค้า
(นั่นก็คือตัวผมเองนั่นแหละ...กรรม...555)

เลี้ยงลูกไม่เคยจบจริงๆครับ..





Create Date : 24 มีนาคม 2550
Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 15:38:40 น. 16 comments
Counter : 2308 Pageviews.

 
เรื่องของเด็กเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ เลยนะคะ

เก็บข้อมูลเอาไปเลี้ยงหลานอีกแล้วค่ะ


โดย: aquaworld วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:11:32:23 น.  

 
ยังไม่มีลูกให้เลี้ยงเอง

แอบเก็บประสบการณ์ ไปเลี้ยงหลานเหมือนคนข้างบนค่ะ



โดย: ++Kim Bok Sil++ วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:12:20:41 น.  

 
Have a good weekend ka


โดย: โสมรัศมี วันที่: 24 มีนาคม 2550 เวลา:13:40:48 น.  

 
แวะมาติดตามเหมือนเคยค่ะ

พี่นันท์เก่งมาก ๆ ที่ประสบความสำเร็จไปได้เปลาะนึงแล้ว มาศึกษาไว้ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มีกับเค้าเหมือนกัน >_<


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:2:21:00 น.  

 
ครอบครัวน่ารักจัง


โดย: asus IP: 125.27.2.32 วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:10:32:30 น.  

 
คุณพ่อ คุณแม่ คงจะเหนื่อยเลยนะคะเนี่ย
นับว่าเป็นคุณพ่อ คุณแม่สมัยใหม่ๆมากๆเลยนะคะ


เดี๋ยวกระต่ายมีเบบี๋ จะมาลอกวิธีบ้าง อิอิ


โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:17:36:25 น.  

 
พี่นันท์ วันนี้เป็นยังไงมาบ้างน้า..... ท่องคำบวชนาคน่ะค่ะ แวะมาถามข่าว ^_^


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:1:53:51 น.  

 
สอบผ่านแล้วครับ..
เตรียมตัวบวชเต็มร้อย..


โดย: granun วันที่: 26 มีนาคม 2550 เวลา:19:48:18 น.  

 
มีเด็กเล็กอยู่ในบ้าน ดูเหมือนตรงไหนก็สามารถทำให้เค้าเจ็บตัวได้หมดเลยนะคะ

วันนี้หลานโดนประตูหนีบมือค่ะ สงสาร


โดย: aquaworld วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:2:40:13 น.  

 
ดีใจด้วยค่ะพี่นันท์ ในที่สุดก็ทำได้ ^_^

แง่ะ พี่ฮุ้ง น่าฉงฉานเจ้าแหลมเจง ๆ เยย


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:3:09:49 น.  

 
ขอบคุณนะครับที่แวะไปเยี่ยมเยียน

ผมเคยมาแล้วทีนึง
ตอนบล๊อกเดี้ยงอะ เลยไม่ได้เม้น



ชุดสองออกมะไหร่อุดหนุนด้วยนะครับ
เร็วๆ นี้ อาจจะมีงานพิเศษ เป็นเพลงธรรมะ
ฟังเพลงพูดคุยโหลดธรรมะฟรีกว่าหื่นไฟล์
บล๊อกผมเลยคับพี่น้อง


โดย: โฉ คับ (Jocho_Cup ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:12:26:35 น.  

 
อูยย..ฮุ้ง อ่านแล้วใจหายแวบ..

เจ้าสัวก็เคยโดนประตูหนีบมือไปทีนึงเหมือนกัน..
เล็บแตกเลือดสาดเลยแหละ..ต้องพาไปหาหมอ..

แบบเลือดไหลเอยมาก ต้องให้โอ๋เอาผ้ารัดและกดไว้ตึงๆ ขนาดนั้นเชียว..

เดี๋ยวจะไปค้นมาเล่า..

หายเร็วๆนะ...


...........................................................

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมบลอกครับ คุณโจโฉ..


โดย: granun วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:18:55:59 น.  

 
ครอบครัวน่ารักนะครับ


โดย: นิรมาณ วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:23:32:03 น.  

 
มาเก็บรายละเอียดไปเลี้ยงลูกค่า ขอบคุณนะคะสำหรับข้อคิดและประสบการณ์ดี ๆ ไว้มาเยี่ยมใหม่ค่า


โดย: LeoLion วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:14:28:26 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาซึม หุหุ อยู่คนเดียว ก็เลยไม่ต้องอายคน

ชอบความคิดและไอเดียของเจ้าของบล๊อก

ผมอยากจะให้เพื่อนๆบล๊อกเข้ามาอ่านเรื่องนี้กันครับ


โดย: yyswim วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:21:44:11 น.  

 
ดีจริงๆเลยครับทำให้ผม

มีกำลังใจเลี้ยงลูกขึ้นเยอะเลย

ความรู้สึกของเด็กละเอียดอ่นจริงๆครับ

บางครั้งเวลาลูกงอนผม

มักเข้าไปแอบในห้องนั้งนิ่งๆ

แต่เวลาปกติลูกผมร่าเริง อามรมณ์ดี

เป็นเด็กจิตใจดี

แต่บางครั้งก็เฮี้ยวน่าดูเล่นผมเหนื่อยเลย


โดย: ป๊ามือใหม่ IP: 61.7.182.232 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:40:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

granun
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add granun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.