ก็แค่อยากใช้ชีวิตให้คุ้ม..
บีบี ในทัศนคติของผม (ส่วนหนึ่งของต้นฉบับท่เพิ่งจะคิดเปิดเผย..555)

ผมเริ่มต้นดูบีบีด้วยเหตุผลที่จะดูเหมือนต่างจากคนดูคนอื่นๆพอสมควรครับ
ผมไม่เคยเป็นแฟนคลับใคร แม้จะชื่นชอบนิสัยบางคน และชื่นชมบางคน
แต่ผมก็ยังดูบีบี เหมือนวันที่ผมเริ่มดุบีบีครั้งแรกกับเพื่อน

ผมชอบดูบีบี ของอเมริกา หรือ ช่อง CBS ซึ่งอาจต่างจากหลายๆคนที่ผมรู้จักในเมืองไทยที่ส่วนใหญ่มักรู้จักบีบีจาก บีบีออสเตรเลีย

เหตุผลที่ผมชอบ
เพราะว่าผมรู้สึกว่าบีบีมีมิติในการติดตามทางอารมณ์มากกว่ารายการอื่นๆ
โดยยังมีสภาวะแวดล้อมที่คล้ายที่เป็นอยู่เดิม

คือ มีลักษณะเป็นบ้านธรรมดาๆหลังหนึ่งที่บังเอิยคนทั้งหมดเผอิญต้องมาอยู่ด้วยกัน และต้องดิ้นรนแข่งขันกันเพื่อที่จะอยู่ได้นานที่สุด

(ที่ผมชอบอีกอัน คือ Amazing race ซึ่งสะท้อนวุฒิภาวะและศักยภาพทางอารมณ์ (EQ) ที่จะต้องคอนโทรลให้อยุ่พร้อมๆกับการใช้ IQ ของตนเอง แต่เนื่องจากเป็นสภาพแวดล้อมเปิด มุมสะท้อนที่มองเห้นจึงค่อนข้างกว้างเกินกว่าที่จะสรุปได้ นอกจากยกเคสเป็นกรณีๆไป)

BB ในทัศนะของผม จึงเป็นการที่ตัวแทนบุคลิกภาพแต่ละกลุ่มในสังคมมาปะทะสังสรรค์ทางอารมณ์กัน ซึ่งแรงกดดันในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมปิด ทำให้เราสามารถติดตามได้ค่อนข้างละเอียด(แม้จะไม่ทั้งหมด)แต่ก็สามารถประเมินลักษณะพฤติกรรม การตอบโต้ ตอบสนองต่อสถานการณ์แบบเดียวกันที่ต่างสถานภาพกันได้

ทั้งนี้ความท้าทายเชิงจิตวิทยา คือ เราจะสังเกตเห็นพฤติกรรมของเขาออก หรือรู้ทันหรือไม่กับการแสดงออกต่างๆว่าที่จริงแล้ว เขาคิด และมีนัยยะในการแสดงออกอย่างไร รวมถึงผลที่เกิดขึ้นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปตามความคิดที่เขาคิดหรือไม่

สิ่งเหล่านี้ คือการวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงจิตวิทยา โดยไม่มองตัวบุคคล แต่มองสถานะ สถานภาพทางอารมณ์จากพื้นฐานและศึกษาพฤติกรรมวิธีคิดที่เขาเป็นตัวแทนบุคลิกภาพแต่ละกลุ่มในสังคม

งานอดิเรกของผม คือ การเก็บข้อมูลพฤติกรรมของกลุ่มบุคลิกภาพ ซึ่งออกจะเป็นงานอดิเรกที่แปลก แต่มันก็เป็นงานอดิเรกที่ทำให้งานหลักที่ผมทำโดยเฉพาะงานด้านการตลาดสามารถตอบโจทย์บางอย่างที่คนอื่นมองไม่เห็น ซึ่งอาจอธิบายได้ยากพอสมควร

สาขาวิชาหนึ่งในนิเทศศาสตร์ที่ผมเรียน และมีอิทธิพลต่อผมอย่างลึกซึ้ง คือ วิชาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ผมมักสนใจใคร่รู้อยู่เสมอว่า ทำไมพวกเขาถึงคิดอย่างนั้น และเมื่อโยน factor บางอย่างลงไป เขาจะมีพฤติกรรมอย่างไร

เรื่องที่ดูน่าแปลกใจก็คือ ยิ่งเราสามารถทำความเข้าใจได้มากเท่าไหร่ มันก็ดูเหมือนว่า การแบ่งกลุ่มคนแต่ละกลุ่มออกมาเฉพาะตามลักษณะบุคลิกภาพ(แบบที่โฆษณาเค้าชอบทำกัน...) มันมีความหมาย

เราจะพบเสมอว่า แต่ละกลุ่มนั้นที่จริงมีพฤติกรรมที่คาดเดาได้ ตามแนวทางของบุคลิกภาพทั้งด้านบวก จนไปถึงด้านลบ

การทำงานพิเศษที่บริษัทดีมาร์ ยิ่งช่วยทำให้ผมสนใจเรื่องของการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค
สิ่งเหล่านี้ศึกษาได้จริง และสามาถนำมาใช้ประกอบการวางแผนโฆษณา การออกสินค้า และการตลาดที่ตอบสนองต่อกลุ่มแต่ละกลุ่มในสังคม

เรื่องจริงที่ผมสัมผัสจากประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นก็คือ การโฆษณาและการตลาดทุกชิ้นที่ผมได้รู้จักเบื้องหลังการทำงาน ผมเห็นข้อแตกต่างระหว่างการคิดเอาเอง กับการคิดโดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานจากพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้นทุกที

เป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เขาเห็นได้อย่างไร
เป็นไปได้อย่างไรที่คนอื่นจะสามารถอ่านและประเมินพฤติกรรมคุณออก (มากกว่าที่คุณอาจรู้จักตัวเองเสียอีก) และนำเสนอสิ่งที่โดนใจราวกับสิ่งนั้นถูกสร้างมาเพื่อคุณ..
ศัพท์ง่ายๆของผมก็คือ คำว่า โดน

มันโดนคุณ คุณก็เลยเปิดรับมัน

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมสนใจใคร่รู้เรื่องเกี่ยวกับจิตวิทยา สนใจว่าทำไมคนที่รู้และเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ถึงเข้าใจพฤติกรรมของคนอื่น รวมทั้งมีการศึกษา เก็บข้อมูล ประเมินผลได้อย่างเป็นรูปธรรม

ผมมองข้ามอะไรบางอย่างไปหรือเปล่า

และนั่นทำให้ผมมีงานอดิเรกในการนั่งนิ่งๆ เพื่อสังเกตและเก็บข้อมูลพฤติกรรมของคนแต่ละบุคลิกภาพ มันดูน่าสนุกที่จะอ่านออกว่าสิ่งที่แสดงออกอยู่นั้นแสดงนัยยะอะไร

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ คงไม่น่าแปลกใจที่ผมจะชอบดูบีบี ในครั้งแรกที่ได้รู้จัก
มันน่าสนุกที่เราจะได้เห็นมิติทางอารมณ์รอบด้าน มีเชิงลึก และมีนัยยะซับซ้อน(หรืออาจไม่ซับซ้อน)ตามลักษณะบุคลิกภาพแต่ละกลุ่ม ที่สำคัญมันเป็นสภาวะแวดล้อมที่อยู่ในลักษณะปิด(เกือบโดยสมบูรณ์) ที่เราสามารถติดตามดูพฤติกรรมของแต่ละคนและปฏิกริยาการแสดงออกของทุกคนได้มากกว่า 70-80 เปอร์เซนต์


ดูน่าสนุกสำหรับผมครับ แต่ก็คงไม่เหมือนแฟนคลับคนอื่นใช่ไหม
เราดูสิ่งเดียวกัน แต่เราอาจเสพสารที่ไม่เหมือนกัน..
แต่เราก็ดูสนุกด้วยกัน

บางทีนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงบอกได้ว่าผมไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษ
แต่ก็ยอมรับว่าผมชื่นชมหลายๆคน ในปฏิกริยาการแสดงออก

สิ่งที่เขาทำเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกสัมผัสได้ถึงตัวตน บุคลิกภาพเฉพาะตัว และเสน่ห์ที่เป็นของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญ มันสะท้อนวุฒิภาวะ และความลุ่มลึกทาง IQ และ EQ ของเขาอย่างที่ยากจะหาใครสังเกตได้ทัน

นั่นแหละ คือ มุมที่ผมชอบเหลือเกินในบีบี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีสถานการณ์และภารกิจที่ท้าทายต่อการควบคุม EQ ของคน และการประยุกต์ใช้ IQ ของคนที่มีอยู่เพื่อแก้ไขปัญหา สถานการณ์เฉพาะหน้า

มีคนไม่มากที่จะแสดงความสามารถอย่างโดดเด่นในสถานการณ์ที่กดดัน และผมว่าถ้าเรายกย่องนับถือคนที่สามารถทำอย่างนั้นได้ นอกจากความทึ่งในความสามารถที่เราต้องยอมรับว่าเขาสามารถทำได้อย่างไร

คุณอาจมองไม่เห็นว่า นี่เป็นการสร้างค่านิยมของการท้าทายและทดสอบศักยภาพของคน ถึงความสามารถในการผสานทั้ง EQ และ IQ เพื่อผ่านสถานการณ์ต่างๆ ที่มีเสน่ห์ในตัวมันเอง สำหรับเยาวชนของเรา

แต่ผมเห็นว่านี่ คือโอกาสของบีบีในเมืองไทย ที่จะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าทึ่งและท้าทาย รวมถึงเหมาะกับเยาวชนไทย


มันน่าท้าทายต่อคนดู และท้าทายต่อผู้เล่น รวมถึงท้าทายต่อเยาวชนว่า ถ้าเป็นเขาในกรณีแบบเดียวกัน สถานการณ์กดดันแบบเดียวกัน เขาจะแก้ไขอย่างไร
(อย่าลืมว่าที่มาของเกมนี้มาจากหนังสือเล่มหนึ่ง)

การคิด การหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ช่วยอะไรสำหรับเยาวชน....

(ไว้มาต่อนะครับ เป็นส่วนหนึ่งของต้นฉบับเดชคำภีร์(บีบี)เทวดา ลองแอบซุ่ม เอามาเหยาะให้คนที่ชอบวิเคราะห์ชิม เพื่อลองดูกระแสครับ...555 ไม่ค่อยเลยนะ)


Create Date : 10 กันยายน 2550
Last Update : 10 กันยายน 2550 0:30:27 น. 2 comments
Counter : 2401 Pageviews.

 
นึกๆแล้วเสียดายนะครับที่ปีนี้ไม่มี BB3
ผมชอบภาระกิจต่างๆที่สมาชิกในบ้านได้รับมาทำมาก โดยเฉพาะ BB1 ชอบมากๆ
จะรออ่านต่อครับคุณนันท์


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:13:12:19 น.  

 
emo

ยาวมากค่ะ กว่าจะอ่านจบ เฮ้อออ
บีบีสามจะมาแล้วไม่ใช่เหรอคะ
ถ้าบีบีเค้าดูแลผู้ร่วมแข่งขันแบบเอเอฟ
ให้มีผลงานออกมาบ้างก็คงดีค่ะ


โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:12:50:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

granun
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add granun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.