เชื่อว่า หากเรามีความตั้งใจ อดทน ไม่ย่อท้อ ทุกอย่างย่อมสำเร็จ
Group Blog
 
All Blogs
 

" คุยเรื่อง ค ว า ม ลั บ กันไม๊?? "

มาคุยเรื่อง "ความลับ" กันไม๊ ไม่ใช่ของลับนะ

คิดว่าแต่ละคนคงมีเรื่องที่ไม่เคยบอกใครเลยบ้าง ที่คิดว่าเป็นความลับน่ะ
เรามาเล่ากันสักเรื่องดีไม๊ ให้มันไม่ลับอีกต่อไป

"หน้ากากดำ"
ตอนเด็ก ๆ ผมก็ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า เพราะแม่ไปส่ง ต้องออกไปพร้อมกัน
มันก็ว่าง ๆ น่ะ ไม่อ่านหนังสือในห้องสมุด ก็นั่งเล่นห้องเรียน

ผมก็เห็นในโต๊ะนักเรียนแต่ละคน ก็จะมีงานฝีมือบ้าง งานศิลปะบ้าง
ด้วยความซนของเด็กประถม ผมก็เอางานของเพื่อนมาละเลงสีบ้าง ถ้าเป็นภาพวาด ผมก็จะต่อเติม ให้รูปมันเปลี่ยนไปอีก แต่ดู ๆ แล้วก็ ไม่ใช่ว่าเลวร้ายกว่ารูปเดิมที่เพื่อนมันวาดไว้หรอกนะ

แล้วผมก็ เขียนไว้ว่า "หน้ากากดำ" ตอนนั้นก็เขียนด้วยตัวหนังสือหลาย ๆแบบ หัวกลมบ้าง เหลี่ยมบ้าง ให้เขาจับไม่ได้ สงสัยดูหนังมาก

แล้วสาย ๆ ผลก็ตามมา แหมโรงเรียนเอกชน มีแต่ลูกคนรวย ๆ ก็พากันไปฟ้องคุณครูกันใหญ่ ผมก็ทำหน้านิ่ง ๆ แต่ในใจยิ้ม เลวมากตอนนั้น

แล้วหน้ากากดำ มันก็โผล่มาเป็นระยะ ๆ ส่วนมากเป็นช่วงที่ผมเบื่ออ่านการ์ตูนห้องสมุด คือผมจะดูว่า เพื่อนมันจะคิดว่าเป็นใครน๊า ครูจะจับเราได้ไหมหว่า



แล้วสรุปว่า เด็กผู้หญิงหลายคนลงมติว่า ไอ้ดุสิตทำ
ดุสิตเนี่ย หน้าตาประมาณ ฤทธิ์ ลือชา แต่เป็นเด็กน่ะ
พวกผู้หญิงคิดว่าเขาทำ เพราะว่า หน้ามันโหดมาก!!

ผมก็ได้แต่มองดุสิตมัน สงสารก็สงสาร แต่ตอนนั้นมันก็สนุกด้วยแหละ ขอโทษนะดุสิต..


จนมาเรียนมัธยม ก็เจอไอ้ดุสิตอีก เรียนห้องเดียวกัน
ผมก็เป็นหัวหน้าห้อง ดุสิตมันจะนั่งกลาง ๆ ห้อง แล้วไม่รู้เป็นไงสิ เพื่อน ๆ จะไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่ ประมาณว่า เหมือนเป็นพวกโหด ชอบใช้กำลังอะไรอย่างนั้น
แต่ผมคบมันนะ และยังค้างหนี้ตอนประถมอยู่ด้วย

มันก็นิสัยดี เพียงแต่ตัวมันใหญ่แล้วก็หน้าโหด คุยกับใครก็เหมือนไม่เข้าหูคน ก็เลยเพื่อนน้อยเท่านั้นเอง คนอย่างนี้น่าสงสารนะ

จนใกล้จบ ผมก็เรียกดุสิตมัน ไปเล่นเกมส์ทั้งวันเลยนะ แล้วก็เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเรื่อ
มันก็คง งง ๆ นะ ว่ามึงมาใจดีกับกูทำไม?? ผมก็ยิ้ม ๆ ตบไหล่มัน "น่า.."
ผมคิดในใจนะ จริง ๆ เราก็ไม่ได้เป็นคนป้ายความผิดให้มันนะ แต่เพื่อน ๆ สรุปกันเองที่หน้ามัน
แต่ยังไงเรื่องก็มาจากเราวะ เออ ๆ วันอาทิตย์ก็เลยชวนกันไป สบายใจดี

เดี๋ยวนี้เป็นไงบ้างไม่รู้ จะมีเพื่อนบ้างรึปล่าว ถ้าใครรู้จักคนชื่อ ดุสิต หน้าโหด ๆ อย่าไปกลัวนะครับ เขาเป็นคนดีคนนึงเลยเชียวล่ะ แล้วบอกด้วย ว่าผมขอโต๊ดดด


...
...
นี่แหละ ความลับของผม ^____^




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2550    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 9:37:14 น.
Counter : 320 Pageviews.  

" เรื่องเรื่อยเปื่อยไม่งอก!! "



ช่วงนี้หายหน้าหายตัวไปหลาย ๆ ๆ วัน ไม่ไหว เศรษฐกิจตกสะเก็ด ไม่ค่อยมีคนใช้ตังค์เลย กุ้มๆๆ


จะไปห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ เข้ายากชิบโป๋ง ดีนะไม่ออกไปบางปะอินนู่นแน่ะ


บ้าจัง ล้างรถที ฝนตกที ไม่ล้าง แดดเปรี้ยง ขี้นกเต็มเยย เอาไงวะเนี่ย


พอเราหันมาปฏิบัติธรรม บรรดามิตรรักเพื่อนสหายเกิดอารมณ์อยากกินเหล้ากันวันละหลาย ๆ รอบ กลัวตับไม่แข็งกันหรือไงวะ พักหลังจับความได้ว่า มันจะรวมตัวแห่กันมาหักคอกินที่บ้านแล้ว

ใครที่ยังสูบบุหรี่อยู่ เลิกซะเหอะนะครับ หวังดี เพราะมีอีกหลายคนที่เลิกสูบแล้ว แต่พอได้กลิ่นที่ลอยมา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้สูบ มันอยากจะเอารองเท้าตบปากท่านเหลือเกิน เลิกแล้วก็พูดได้นี่เนาะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า [เหม็นจริง ๆ ขอบอก]


ถามผู้หญิงหลายคนแล้ว ว่า ถ้าเราแต่งงานกันมีลูก แล้วพอลูกได้ดีเลี้ยงตัวเองได้ จบปริญญามีงานทำแล้ว เราไปบวชกันนะ เกือบทุกคนทำหน้าเหมือนเห็นเราเป็นขี้ อารายว๊า


เมื่อก่อนตั้งใจจะทำห้องสมุดไว้ที่บ้าน สะสมการ์ตูนเก่า ๆ เดี๋ยวนี้ตั้งใจว่า ต่อไปวันเกิดขอเป็น หนังสือธรรมมะ แทน หันมาสะสมหนังสือธรรมมะดีกว่า เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน..


ปรกติหยุดเดือนละ 4 วัน ว่าจะคุยขอหยุดเดือนละ 3 วัน แต่หยุดติดกัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ คือ จะไปปฏิบัติธรรมที่สิงห์บุรี คิดว่าน่าอนุมัติไหม น่าจะ นะ


เมื่อวานก่อนเห็นข่าวสวนสยามเปิดตัวเครื่องเล่นใหม่ หูย ๆ ๆ อยากเล่นมาก ๆ ชอบ ๆ ๆ


ปล. ไม่ได้เจอหลาย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ วัน อยากบอกว่า คิดถึง ๆ ๆ ๆ ๆ ทุกวันเลย ^____^





เอ้อ..หนังสือข้างบน อ่านแล้ว สนุกดี ของ abook เจ๋งมาก นับถือครับ




 

Create Date : 08 มิถุนายน 2550    
Last Update : 29 มกราคม 2552 11:20:19 น.
Counter : 285 Pageviews.  

"ใครเคยไปนั่ง ป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม"

รู้สึกว่าช่วงนี้ มีหนังสือธรรมมะ และเรื่องความว่าง ความสงบเข้ามาให้ได้ศึกษาเรื่อย ๆ

ไม่อยากให้เป็นแค่ช่วงนี้ อยากให้อยู่กับเราตลอด


จริง ๆ เชื่อไม๊ ก่อนหน้านี้จะตั้งกระทู้ว่า "เคยเล่นเวปแบบไปเรื่อย ๆ ไม๊"
คือจะบอกว่า เคยลิ้งค์ไปเวปต่าง ๆ เรื่อยเปื่อยไหม เคยเข้าไปในบอร์ดที่เราไม่รู้จัก บอร์ดแปลก ๆ ที่เป็นเฉพาะตัวของเขาไหม

ว่าแล้วผมก็เข้าไปเวปพวกรวมห้องต่าง ๆ ไปเจอห้องแฟนคลับเมย์ พิชนาถ
แล้วเลื่อนมาเรื่อย ๆ ก็ไปสะดุด ห้องเพื่อนธรรม ก็เข้าไปอ่าน
จนลิ้งค์ไปถึง วัดอัมพวัน ก่อนหน้านี้ในรถผมมีเรื่องของ พระอาจารย์จรัญ
ได้อ่านจึงเกิดความเลื่อมใสมาก จากคนที่บวชแล้วคิดจะสึก ๆ ๆ ๆ แต่กลับกลายเป็นพระที่สั่งสอนให้คนพ้นทุกข์ได้มากมาย


เคยรู้สึกไหมว่าเรื่องธรรมมะเนี่ยจะเข้ามาหาตัวเราเอง ทำให้เราได้ศึกษา ได้อ่าน ได้ปฏิบัติ ผมคิดว่า นั่นคือบุญมาถึงเราแล้ว มีหนทางที่จะพ้นทุกข์ได้แล้ว

ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะหยิบมาอ่านไหม จะลองปฏิบัติดูไหม กับการที่นอนดูละครวันละหลาย ๆ ชั่วโมง แลกกับการอ่าน หรือทำใจให้นิ่ง ละวาง ไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ


ถ้าคุณไม่เคย หรือไม่เคยคิดเลยก็ตาม คิดว่าชาติก่อนกาล เราอาจทำบุญมาด้วยกันก็ได้
ลองดูครับ คิดซะว่าเป็นพี่เป็นน้องกัน แนะนำกัน

แต่ถ้าใครที่ศึกษาอยู่ อยากถามหน่อยครับ
ใครเคยไปปฏิบัติธรรมบ้าง ที่ไหนเหรอครับ เป็นไงบ้าง


ตอนนี้รู้สึกว่า สนุกกับชีวิตมาก ถ้ามีบุญคิดว่า เดือนหน้าจะได้ไปปฏิบัติธรรมที่สิงห์บุรี วัดอัมพวา สามวันเจ็ดวันยังไม่รู้ ใครสนใจไปด้วยกันได้นะ

^_____^ ขอให้ทุกคนพ้นทุกข์คับ //www.jarun.org




 

Create Date : 25 เมษายน 2550    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 9:39:39 น.
Counter : 397 Pageviews.  

" แ ม ว แ ม ว " จนน้ำตาซึม บ้าจริง

เคยพูดถึงเรื่องของหมาไปแล้ว

คราวนี้เอ่ยเรื่อง แมว แมว กันบ้าง

เมว เอ๊ย แมวเนี่ย ในสายตาของผม มันคือสัตว์ที่กวน ๆ นะ
คือ มันเข้าใจที่เราพูด แต่มันหยิ่งไง ประมาณว่า กูไม่สน อะไรกับกูนักหนา

แต่ถ้าเวลาเราจะตั้งใจทำอะไรนี่แหละ มันก็จะมากวน ๆ ๆ ๆ ตีน

หลังจากที่บ้านเราเลิกเลี้ยงหมา เพราะต้องเสียน้ำตามากมายประดุจญาติเสีย
บ้านจึงมีกฏ "ห้ามเลี้ยงสิ่งมีชีวิตใด ๆ อีก"


ก็ผ่านไป อยู่กันแบบคน ๆ ช่วงนั้นผมก็ยังเรียนอยู่


เข้าหน้าฝน ช่วงนั้นจำได้ว่ามีพายุเข้า ฝนตกหนักแทบทุกวัน
เช้าวันหนึ่ง ตรงที่เก็บของข้างล่าง มันมีเสียง "กุก ๆ ๆ กรอบแกรบ ๆ " ไอ้ผมก็นึกว่างู คิดว่ามันเข้าบ้าน
ก็ไปเอาไม้เขี่ย ๆ "ฟ่อ.." เสียงขู่ดังสวนมาทันที

ตกใจ ไอ้บ้า ขู่นึกว่างู เปิดแง้มกล่องออก ไม่เห็นอะไร
เปิดกว้างขึ้นอีก..
...
เห็นแมวลายเสือ นอนจ้องตากลับมา มันขู่ "ฟ่อ ๆ " จริง ๆ นะ

ผมก็ไปเล่าให้คนอื่นฟัง ก็มาแอบ ๆ ดูกัน แต่มันก็ขู่ตลอด [แมวยากุซ่า]
เราก็เลยเรียกมันว่า "ไอ้ฟ่อ" แต่กลางวันมันก็หายไปพัก ๆ นะ แต่มานอนบ่อย ไล่ก็ไม่สน ขู่กลับ

ผ่านไปไม่นาน ให้ตายเหอะ มันท้องครับ
มารู้ก็ตอนที่มีเสียง ลูกแมวออกมานี่แหละ เห็นมันวิ่งออกมาแว๊บ ๆ
ที่บ้านก็เลยเอานมใส่จานวางไว้ห่าง ๆ

และแล้วไอ้ฟ่อมันก็ทำการเด็ดเดี่ยวให้บ้านเราเห็น


คือ มันไปเลยไง ออกจากบ้านไปเลย ทิ้งลูกมันไว้
คิดว่ามันเห็นว่าที่บ้านสามารถเลี้ยงลูกมันได้มั้ง มันก็ไปเลยตามประสาแมวใจแตก


เหตุการณ์เป็นไปตามนั้น ทำให้ที่บ้านจึงต้องรับสมาชิกใหม่โดยปริยาย
เขาบอกว่า แมวน่ะ ถ้าคลอดลูกโทน จะให้โชค แล้วเผอิญไอ้ฟ่อออกมาตัวเดียวด้วย เราเลยคิดว่าเป็นเรื่องดี

มันตัวเล็ก ๆ ลายเสือเหมือนแม่เลย ก็เลยลงมติกันให้ชื่อ "ไอ้เสือ"
ผมจับมันมาดู อ้อ ตัวเมียนี่หว่า
เนื่องจากมันเป็นน้องสุดท้องของบ้าน ไอ้เสือจึงเป็นสีสันของทุกคน

เวลาผมนั่งอ่านหนังสือ มันก็จะมาเล่น ๆ ๆ ตะบบนิ้วตีนผมบ้าง ถ้าเอามือวางบนโซฟา มันก็จะโดดตบมือเราให้ตกใจเล่นมั่งล่ะ

แล้วทุกคนถ้าว่าง ๆ หมั่นเขี้ยว ๆ ก็จะเล่นกับมัน เรียกชื่อมัน จนมันรู้เรื่อง
สำหรับในชีวิตผมที่ผ่านมา มี ไอ้เสือนี่แหล่ะ ที่ฉลาดที่สุดในบรรดาแมวที่ผมรู้จัก
คือ มันจำชื่อมันได้ เรียกแล้วหัน แล้วตอบเรา ประมาณว่า "แง๊ว" หรือ อะไรมึง

เรียกมันทุกครั้ง มันหันมาตอบตลอด จริง ๆ นะ

ไอ้เสือรักแม่ผมมาก มันชอบเข้าไปห้องแม่ ซึ่งของกินจะเยอะมาก
พอมันจะเข้ามันก็จะยืนเขี่ยประตูมุ้งลวดให้แม่เห็น ให้ได้ยิน แม่ก็จะเปิดให้มันเข้ามา

กินปลาทู หมูย่าง ปลาดุก นั่งดูทีวีกับแม่ เรียบร้อย มันก็จะมายืนเขี่ยตรงที่เปิด
แล้วหันมา "แง๊ว..วว" คือ เปิดให้หน่อยแม่ แม่ก็จะให้มันออกไป
กลางคืนมันก็จะมาขอนอนบนโซฟาในห้องแม่ประจำ


เชื่อไม๊ ไอ้เสือ มันรู้เรื่องนะ คือ มีครั้งนึง ผมเห็นมันไปฉี่บนกระถางต้นไม้ จนต้นไม้ตาย ป้าเขาก็ไปเอากระถางคว่ำ แล้วท่านก็บ่น ๆ

มีอยู่วันหนึ่ง ผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เ ห็ น มั น นั่ ง ฉี่ ใ น โ ถ ส้ ว ม น่ ะ ! !

คือมันเห็นเราเข้าไปฉี่ไง มันก็ชอบเข้าไปเลียกินน้ำบนพื้นห้องน้ำ มันคงเข้าใจว่าเป็นสุขา

ป้าท่านก็บ่นอีก ผมก็บอกว่า "ถ้ามันกดชักโครกได้ คงทำไปแล้วล่ะ" แค่นี้ก็ดีแล้วน่า


หลังจากนั้น ผมไปเรียน ฝนก็ตก ๆ อยู่ เห็นไอ้ฟ่อเดินสวนผ่านมาด้วย
เชื่อเลย พึ่งเคยเห็นแมวเดินไม่หนีฝนนี่แหละ


พอไอ้เสือโตเป็นสาว มันก็มีแมวมากหน้าหลายตามาจีบ ไล่กันไม่หวาดไม่ไหว
หลัง ๆ ก็เข้าใจธรรมชาติของมันเนาะ ไม่นานก็ท้อง..งง

ออกลูกมา สามตัว ลายเสือหมดเลย มีสีขาวลายเสือ แล้วก็สีส้ม ๆ ลายเสือ เอ้อ อีกตัวสีน้ำตาล ๆ มั้ง คล้าย ๆ ไอ้เสือนั่นแหละ
น่ารัก ๆ มันจะนอนรวมกัน นอนกอดกันด้วย เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้

แต่พอไอ้สามตัวนี้โต มันก็ออกจากบ้านไป มันจำชื่อตัวเองไม่ได้ด้วยล่ะ

ผ่านไปไม่นาน เฮ้อ ไม่อยากเล่าเลย แม่ผมเสีย
ท่านเป็นเบาหวาน หมอบอกหัวใจล้มเหลว
ในวันที่ผมไปงานสวดวันแรก กลับมา
คือปรกติ ไอ้เสือมันจะมานั่งรอหน้าบ้าน เวลาแม่กลับมา มันจะรู้ แล้ววิ่งพันแข้งพันขา

วันที่ผมกลับมาจากวัด เจอหน้าไอ้เสือ มันก็ร้อง "แง๊ว"ทำหน้างง ๆ ประมาณว่า "แม่ล่ะ"
ผมก็เดินขึ้นไปข้างบน เข้าไปห้องแม่ นั่งนิ่ง ไอ้เสือก็ตามขึ้นมา
มันมานั่งมองผมบนโซฟา
ผมนั่งชันเข่า มองภาพห้องรอบ ๆ ตัว เสียงสะอื้นมันออกมาแบบบังคับไม่ได้
ผมนั่งร้องไห้คนเดียว

...
...
...


ไอ้เสือมันก็ลุกมาเอาหัวถูขาผม แล้วมานอนที่ตัก
ผมก็บอกมันว่า "แม่ไม่อยู่แล้วนะ เสือ แม่เขาไปดีแล้ว.." [พิมพ์ไปน้ำตาซึมไป]


ทุกวัน ไอ้เสือมันจะมานั่งรอ นอนรอแม่ ผมก็จะไปลูบหัวมันอย่างเช่นเคย

หลังจากนั้นผมก็เรียนมหาวิทยาลัย ออกไปอยู่ข้างนอก นาน ๆ ครั้งจะกลับมา
ผมไม่ลืมที่จะซื้ออาหารดี ๆ อร่อย ๆ มาให้ไอ้เสือ อยากให้มันได้กิน

กลับมา แมวเต็มบ้านเลย มันเยอะจนอาหารเม็ดที่บ้านต้องตุนไว้หลายกระสอบทีเดียว

ผมออกไปจากบ้าน เป็นปี กลับมาเจอมัน ไอ้เสือแก่ไปมาก มันชอบนอนบนเครื่องซักผ้า

ผมเรียก "ไอ้เสือ.."
มันเงยหน้าขึ้นช้า ๆ
ยิ้ม แล้วร้อง "แง๊ว..วว"


"ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน มันก็คือเพื่อนที่ดีที่สุด ที่มีความหมายในชีวิตที่สุด คนหนึ่งเช่นกัน"


ไอ้เสือ มันจะเป็นลายเหมือเสือโคร่งน่ะ ไม่ดำเหมือนตัวนี้ แต่ท่าฉี่คงคล้ายกัน ^____^




 

Create Date : 24 เมษายน 2550    
Last Update : 1 พฤษภาคม 2550 11:56:36 น.
Counter : 2232 Pageviews.  

"เรื่อง ห ม า ๆ แล้วคิดถึงหมา"

อ่ า น เ รื่ อ ง ห ม า ๆ แ ล้ ว คิ ด ถึ ง ห ม า

เมื่อก่อนนี้อยู่ที่บ้านเก่า ที่ตลิ่งชัน มันจะแบบ สวน ๆ หน่อย ดีๆ อากาศดีมาก
ตอนนั้น ที่บ้านไม่ได้เลี้ยงอะไรเลย

แล้วอยู่ ๆ ก็มีหมาแม่ลูกอ่อน มานอนท้องใหญ่อยู่ใต้ถุนบ้าน [บ้านผมเป็นแบบสองชั้น แล้วยกพื้นมีใต้ถุน บ้านไม้แบบสมัยก่อนน่ะ]

ใครก็เข้าใกล้ไม่ได้เลยนะ มันคำรามขู่

...
...
ผ่านไปไม่กี่วัน ผมย่อง ๆ ไปดู ได้ยินเสียงลูกหมา เห็นมันวิ่งไว ๆ

เฮ้ย อ อ ก ลู ก ม า เ ต็ ม เ ล ย

ด้วยความที่ว่า ที่บ้านไม่เลี้ยงสัตว์ไง แต่ว่า มันเกิดมาแล้วในอาณาเขตบ้านเรา ก็ต้องรับเลี้ยงไปโดยปริยาย..

ผมกับพี่น้องก็ช่วยกันตั้งชื่อ อย่างสนุกสนาน คือมันตัวเล็ก ๆ น่ารักๆ มีสีน้ำตาลเข้ม น้ำตาลอ่อน ดำ มีแบบลาย ๆ

เราก็ตั้งชื่อกัน เคนชิโร่ โตโต้ ป๊อบอาย ฯลฯ อะไรที่มันเท่ห์ ๆ ก็ตั้งๆกัน
จนเหนื่อย

หันไป อ้าว ยั ง เ ห ลื อ อี ก ตั ว นี่ ห ว่ า

แล้วไม่รู้จะตั้งอะไรแล้ว เออ ชื่อ "ตัวเล็ก" ล่ะกัน เพราะมันตัวน้อยนึง..


สรุป ผ่านไปไม่นาน ไอ้ที่ชื่อเท่ห์ๆ ทั้งหลายน่ะ ไปหมดเลย
หายบ้าง โดนงูเขมือบบ้าง วิ่งตกน้ำตกท่าบ้าง

ไม่น่าเชื่อ เหลือไอ้ตัวเล็ก เพียงตัวเดียว


...
...
พอมันโตเป็นหมาวัยรุ่น ไอ้ตัวเล็กนี่กัดหมารุ่นใหญ่เขาไปทั่ว
แต่ถึงมันจะซ่ายังไง มันก็ต้องแพ้ประสบการณ์

"ไอ้โบ้" หมาซอยกอไผ่ บ้านไกล ๆ ไอ้ตัวเล็กพาหมาลูกน้องแถวบ้านไปเหยียบ
ไม่นาน มันก็ร้องโอดโอย วิ่งหางจุกตูดกลับมา ทั้งลูกพี่ลูกน้องเลย

คือ ไอ้โบ้ เนี่ยมันเป็นหมาลูกครี่ง ร็อดกับพันทาง มันก็เลยใหญ่ ๆ กว่าตัวอื่น แต่ออกจะบื้อ ๆ หน่อย ผมชอบให้มันกินหนม ผมกลับมาบ้านมันจะรีบวิ่งมาเลยนะ
น้ำลายย้อย ๆ ยิ้ม ๆ[คิดว่านะ] ผมก็จะเอาลูกชิ้นปิ้งลูกสุดท้ายให้มันกิน
แต่ว่าถ้าให้ตอนยังคาไม้อยู่ มันจะงง ๆ มากเลย กินลำบาก คือมันก่งก๊งน่ะ

แ ต่ กั บ ห ม า ด้ ว ย กั น มั น ไ ม่ เ ค ย ป ร า ณี

แล้วไอ้ตัวเล็ก หมาตัวดีของผม ม้านนน ก็ชอบไปแหย่ คือพยายามจะไปเยี่ยวบ้านเขาให้ได้น่ะ ว่ามันก็ไม่ฟัง


มีอยู่วันหนึ่ง ไอ้ตัวเล็กกลับมา เลือดเต็มหลังเลย ที่บ้านตกใจกันใหญ่
ลุงผมต้องใส่ยาให้มัน คิดว่า มันคงไปโดนรุมจากหมาบ้านอื่น ที่ไกล ๆ หน่อย
ลุงว่า "ยังดีนะ ที่มันพาตัวเองกลับมาบ้านได้ ไม่นั้นคงตายแน่"

ไม่สบายไปสองวัน หายงิ่ดเลย จ๋อยสิมึง


หลังจากนั้นมา มันก็มีรอยบากกลางหลัง เป็นรูปไนกี้เลย อันใหญ่ๆ กลางหลัง
พี่ผมบอกว่า "ไอ้นี่ ไปแอบรับสปอนเซอร์มานี่หว่า" ไปนั่น

หลังจากไอ้โบ้ไป มันคงแก่แล้วล่ะ ไอ้ตัวเล็กก็คุมบรรดาหมา ๆในละแวกนั้นทั้งหมด เป็นเจ้าพ่อหมาไปซะแล้ว

เคยเห็นครั้งนึง ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่นอกชาน เห็นหมามันกัดกัน ขู่ๆ วนไปวนมา
ไอ้ตัวเล็กเดินออกมา "เฮ้ย มึงจะกัดกันทำไม เราเป็นหมานะเว้ย ไม่ใช่คน ไป ๆ"

แล้วมันก็แยกจากกัน [คือมันไม่ได้พูดหรอกนะ แต่คิดว่าที่มันคำรามน่าจะประมาณนี้]


เวลากลับบ้านทีไร เห็นแล้ว.. มันวิ่ง งงงงง ยิ้ม ตรงมาเลย
แล้วมันก็จะโดด ๆ ๆ สองขา จะตะกายเราน่ะ
"ตัวเล็ก อย่า" ผมบอกปุ๊บ มันหยุดปั๊บ..!!

แ ล้ ว มั น ก็ ต ะ ก า ย ใ ห ม่ หมดเลย เสื้อ กางเกง เลอะไปหมด
แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก ก็มันหมานี่เนาะ

...
...
ตัวเล็กอยู่นานมาก เป็นหมาแก่เลย ทุกคนในบ้านรักมันมาก
จนถึงวันนั้น..

แน่นอน งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา มันก็มีจำนวนอายุขัยของมัน

ผมจำได้แน่นอน วันที่ทุกคนยืนเรียงกันอยู่ข้างหลัง

ผมกำจอบไว้แน่น ขุดหลุมไปพร้อมกับหยดน้ำตาที่มันไหลออกมา อย่างห้ามไม่ได้
ผมค่อย ๆ จับร่างนิ่งของมัน วางลงพื้น แล้วกลบมันเบา ๆ ถึงจะรู้ว่ามันจากไปแล้วก็เถอะ


จากนั้นมา ที่บ้านเราตั้งใจเลยว่า จะไม่เลี้ยงหมาอีก ไม่อยากเสียใจกันอีกแล้ว



...
...
...

ปัจจุบัน ผมกลับไปเยี่ยมบ้าน แ ม ว เ ต็ ม บ้ า น เ ล ย . . ! !

ป้าบอกว่า "มันแอบมาคลอดทิ้งไว้ แล้วก็ไป.."

ก็เหมือนเดิมแหละครับ ^____^





 

Create Date : 17 เมษายน 2550    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 9:40:49 น.
Counter : 804 Pageviews.  

1  2  3  

Gorra
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Gorra's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.