Good1uck ... between searching 4 ...

... Faith, Hope, Destiny and s.o. 2 care 4 ...

Group Blog
 
All blogs
 

Never be the same...

จะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดี??

...

คำถาม...คำถามนี้
วนกลับมาให้เห็นกันอีกแล้ว

จะเอายังไงกับมันดี? -*-
โผล่มาอยู่ได้...

...

ทุกๆ ครั้งที่เบื่อๆ เซ็งๆ กับชีวิต
ก็จะมีแว๊บนึงที่คิดถึงคำถามนี้
ในวันที่สติไม่อยู่กับตัว
ถึงมีแสตมป์ก็ช่วยอะไรไม่ได้
ส่วนสตางค์ก็มี...แต่มีน้อย - -"

วันที่เห็นค่าตัวเองลดลง...

วันที่เบื่อกับความซ้ำซาก...จำเจ...ของชีวิต

วันที่วางแผนการณ์สำหรับอนาคต

วันที่เบื่อๆ อยากๆ...

และวันที่นั่งคุยอยู่กับความเหงาเพียงลำพัง...สองเรา

(สวีทน่าดูเลยวุ๊ย ><")

...

ทุกครั้งเวลาที่กำลังคลุกอยู่ในวง...มักจะมองไม่เห็นภาพรวม
ลืมแม้กระทั่งสิ่งที่คิดว่าจะทำ...
ซึ่งมันคือคำตอบของคำถามข้างต้น...ในเบื้องต้น

เราต้องอยู่...เพื่อดูแล "รักแท้" ของเราให้ดีๆ

คุณพ่อกับคุณแม่

คือ...คนที่เวลาจะทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงที่จะสร้างปัญหา
เวลาจะทำอะไรที่คาบเกี่ยวระหว่างดี-ไม่ดี
เป็นคนที่เราจะต้องคิดถึงก่อนเสมอ...ตั้งแต่เล็กจนโต

เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำต่อไป...ให้ดียิ่งๆ ขึ้น

เวลาที่จะทำได้...เหลืออีกเท่าไหร่...สุดที่จะรู้

คิดถึงแค่นี้ก่อนพอ

"บ้านเรา" ต้องมาก่อน... "ตัวเรา" ไว้ทีหลัง...

...

ช่วงนี้มีปฐมนิเทศ
ได้ภาพกว้างๆ อะไรหลายอย่าง

ดูโครงสร้างเงินเดือนแล้วก็โอเคนะ...ช้าๆ แต่แน่นอน
แต่มันก็น้อยนะเนี่ย - -"
เนื้องานก็โอเค...ยังไม่มีอะไรน่าเบื่อ
ตอนนี้อยากรู้โครงสร้างเงินเดือนของ ตปท. จังเลย
เห็นเค้าว่ากันว่า...เยอะนัก
พี่ที่ทำงานไล่ให้สมัครหลายทีแล้ว

กับอีกอันนึงก็คือ โครงสร้างเงินเดือนของบริษัทเอกชนใหญ่ๆ
ประมาณว่าช่วงอายุประมาณ 30-35-40-45-50 ปี
จะได้เงินเดือนประมาณเท่าไหร่กัน...ด้วยตำแหน่งอะไร?

อยากเปรียบเทียบอะไรนิดหน่อย

...

น่าจะมีเวลาทำธุรกิจของตัวเองไปได้ด้วย
แต่ว่า... จะทำอะไรนี่สิ - -a

...

ต้องหาข้อมูลเรื่องเรียนเอกต่อด้วย
คงหาดูในประเทศก่อน
เพราะต้องอยู่ดูแล "รักแท้"

"รัก" กับ "รักแท้" ต่างกันยังไง?
มันต่างกันที่ ...รักแท้นั้นมักจะดูแลไม่ได้... - -"
มั่วแล้ว ><"

รัก = ตันหา + กิเลส
รักแท้ = เมตตา + ปัญญา

อยู่ที่เราจะรู้เท่าทันมันรึเปล่า?

...

กลับมาเรื่องเรียนต่อ... ก่อนที่จะหลุดออกทะเล -*-

ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเรียนเอกต่อหรอก
แต่จังหวะและโอกาส อาจจะมาถึงซักวัน

...

ลาบวชได้ตั้งสามเดือน
ไว้อายุเท่าพระพุทธเจ้าตอนออกบวชค่อยบวชละกัน ^^

(ไม่มีใครให้เบียดอยู่แล้วนี่ -*-)

...

วางแผนลงทุนทางการเงินไว้ล่วงหน้า
ต้องกระจายความเสี่ยงให้ดีๆ
ตอนนี้สนใจคอนโดแบบไม่แพงมากเหมือนกัน
เพื่อนจะซื้อพอดีด้วย ได้อาศัยข้อมูลจากมันเลย หุหุ
แต่กว่าจะมีตังค์ผ่อนคงอีกนาน

ตอนนี้เก็บตังค์ได้ราว 70% ของรายได้
ก็มันไม่รู้จะเอาไปทำอะไร - -"

ส่งให้คุณยายใช้บ้าง
แต่กับคุณแม่ตอนนี้ไม่ได้ให้...
เพราะให้แล้วก็หมดไปกับอะไรก็ไม่รู้ ><"
ไว้ให้ทีเป็นก้อนเลยดีกว่า

ปีสองปีก่อนให้ไปแบบหมดกระเป๋า...แสนสอง
ตัดสินใจอยู่นาทีนึง...แล้วเราก็กลับมาที่จุดเริ่มต้นใหม่

...

ด้วยสภาพตอนนี้
มั่นใจ...ถ้าอยู่คนเดียว...ไม่มีอะไรต้องกังวลแน่นอน
เงินมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น
สบายๆ ชิวๆ ขำๆ ฮาๆ

เราจะมีความสุขในทุกๆ วันต่อไปนี้...ไม่ว่าจะมี หรือไม่มี "ใคร"

...


เมื่อคืนคุยโทรศัทพ์ถึงตี 4 ครึ่ง
ดีที่ตังค์หมดซะก่อน - -"
แล้วตื่น 6 โมงครึ่ง...ไปทำงาน ><"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ชาจ์จแบต 2 ชั่วโมง...จะใช้งานได้ 8 ชั่วโมง
หลังจากนั้นจะเริ่มง่วง - -"


...

^w^

มีความสุขแบบพอเพียง...




good1uck
21 ก.พ. 2549 เวลา 21:21 น.




 

Create Date : 21 มีนาคม 2549    
Last Update : 20 สิงหาคม 2549 11:35:21 น.
Counter : 325 Pageviews.  

Money Man 2

หลังจากเวียนเข้าไปตามข่าวใน web Diary
ก็เห็นประกาศแปลกๆ ... ของปลอม? ของเก๊?
อ๊ะ! น่าสนใจ ... ของปลอมทำเหมือน
ไม่รู้เหรอครับว่า ยิ่งห้ามนี่ "คน" มักจะยิ่งทำกัน
อ้ายเราก็อยากรู้อยากเห็น มาดูซะหน่อย
ไม่อยากเอา "เกณฑ์" ของคนอื่นมาตัดสินอะไรง่ายๆ

หลังจากทั้งซึนามิ... และเฮอริเคน... พัดกระหน่ำ
ก็เดินเปะปะไปเรื่อยหละคับ
ถึงแม้ว่าจะมีบ้านหลายหลัง
แต่บ้านที่พังไปจะให้ทิ้งไปเลยก็ไม่ได้หรอก
ต้องตามไปเก็บซากหน่อย เผื่อจะมีอะไรเหลืออยู่บ้าง

เหมือนมีคนชี้ทางให้ เพราะเค้าบอกว่าทางนี้อันตรายนะ อย่าไป...
งั้นทางนี้หละ ใช่เลย...
พอเดินมาทางนี้ ก็เริ่มเห็นคนหน้าตาคุ้นๆ
ดีใจครับ ที่ยังรอดชีวิตกันเยอะอยู่
บ้างก็เริ่มปรับปรุงบ้านใหม่กันแล้ว
ก็แวะเข้าไปคุยด้วยก่อนที่จะเดินทางซากบ้านของตัวเองต่อ
จะว่าไปก็โชคดีหน่อยที่ผมซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดเดิมซ้ำไว้หลายชุด
บ้านก็แบบง่ายๆ ... แบบ knock-down
หาที่ตัวเองเจอเมื่อไหร่ วันเดียว... สร้างเสร็จ

ตอนนี้หน่วยกู้ภัยส่งแผนที่บ้านผมมาให้แล้ว
แต่กระดาษดันเปียกน้ำซะฉิบ... -*-
ไว้แกะรอยได้เมื่อไหร่ คงจะได้อ่านหน้านี้ใน Dairyis นะคับ

...

ถ้าใครอ่านที่ผมเขียนในช่วงหลังๆ นี่
จะได้รับอิทธิพลมาจากการวนเวียนเข้าไปในเว็บผู้จัดการซะมาก
ก็คิดนะคับว่าตัวเองฟังความด้านเดียวรึเปล่า
ก็ไม่นะ... คุณสนธิผมก็ฟัง คุณสมัครผมก็ฟัง
ฟังมันทั้งซ้ายสุด ทั้งขวาสุด ทั้งเชียร์ ทั้งด่า...รัฐบาล
ฟังแล้วก็คิด... คงไม่มีใครพูดความจริงทั้งหมด
จะเอามาพูดก็แต่ในสิ่งที่สนับสนุนความคิดตัวเอง
และปัญหาของประเทศชาติยังมีอีกเยอะแยะ เรื่องของเรามันขี้ประติ๋วเอง
จะมาสนใจแต่เรื่องตัวเองก็ไม่ได้อยู่แล้ว
เราต้องอยู่ในสังคม จะให้บ้านเราใหญ่โตหรูหรา แต่รอบๆ บ้าน มีแต่สลัม
คงอยู่กันอย่างมีความสุขได้หรอกนะ
หลงแต่ในสิ่งสมมุติกัน...
เงินนี่เห็นกันชัดๆ ว่าสมมุติขึ้นมา ก็แค่กระดาษ ก็แค่โลหะ
เวลาธรรมชาติลงโทษจริงๆ มันช่วยอะไรได้
ดูอย่างอเมริกาตอนนี้สิ เทียบกับบ้านเราตอนซึนามิ... ไม่ต่างกันเลย

ตอนนี้สังคมของเราเข้าสู่ยุคของปัญหา?... ปัญหาที่ไม่มีใครรู้คำตอบ
ปัญหาแบบนี้ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อัดอั้นมากๆ มันก็ต้องหาทางออก... แต่ถ้ามันไม่มีทางออกหละ?

สุดท้ายยังไงมันก็ต้องระเบิดออกมา ขึ้นอยู่แค่เพียงว่าเมื่อไหร่เท่านั้น

เหมือนดูช่างซ่อมท่อฝีมือห่วยๆ ทำงาน
มันรู้ว่าเราทำเองยังไม่ได้ ก็บอก ... เชื่อมือผม
แต่กลับทำงานแค่เพียงสักแต่ให้พ้นๆ ไป
กินค่าแรงไปวันๆ
ปะโน่น แปะนี่ เอาทางนี้ไปโปะทางนั้น โยกโน้นมานี่
ทุกจุดมีรอยรั่วซึม...
วันไหนที่กระแสน้ำไหลแรง วันนั้นได้พังกันทั้งระบบ

ทุกวันนี้การเมืองบ้านเรากลายเป็นแบบผูกขาดไปแล้ว
รัฐบาลนี้เค้าไปสัมปทานไปแล้ว 4 ปี
เค้าว่าไม่มีใครเอาเค้าลงได้... ผมไม่เชื่อ
ผมที่เป็นแต่เด็กน้อย... คนตัวเล็กๆ นี่แหละ ที่จะขอไม่เชื่อ
ไม่เชื่อว่าเค้าจะอยู่ถึง 4 ปีได้ ถ้าประชาชนต้องอยู่กันอย่างยากลำบากแบบนี้
มีอย่างที่ไหน บอกให้ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย
แต่ตัวเองกลับทำให้รายจ่ายจำเป็นเพิ่มขึ้น
ทั้งค่าน้ำมัน ค่าแก๊ซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า
และอื่นๆ ... ที่รอการแปรรูป -*-
ขณะเดียวกันก็หลอกคนที่มีเงินเยอะๆ ให้ใช้จ่ายเยอะๆ
สรุปคือให้เราทำงานรับใช้นายทุนไปวันๆ งั้นสิ
คงอยากจะให้เป็นอย่างนั้น
โครงการขายฝันของทั้งรัฐบาลและเอกชนจะได้ทำได้ต่อไป

ผมเข้าใจอ่ะนะว่า ยุคนี้มันต้องหาเงินให้ได้มากกว่าเดิม ต้องสู้กับอัตราเงินเฟ้อ
ใครออมเงินก็มีแต่จะจนลง ทุกวันๆ
แต่หารู้ไม่ว่า ยิ่งการที่นายทุนทั้งหลายทำแบบนั้น
มันยิ่งเป็นการผลักดันภาวะเงินเฟ้อให้รุนแรงยิ่งขึ้น เพราะข้าวของอะไรก็แพงไปหมด
ทุกอย่างขึ้นราคากันอย่างต่อเนื่อง
แล้วสุดท้ายใครรับกรรม ...
ก็ไม่พ้นเราๆ ท่านๆ ที่ได้เงินเดือนสูงขึ้น แต่กลับจนลง
คุณภาพชีวิตแย่ลง...
อีกหน่อยทีวีก็คงมีแต่ละครให้ดู (ยังไงก็ขอเป็นซีรี่ญี่ปุ่นละกันเน้อ)

...

บ่นมามากแล้ว
สังคมตอนนี้ต้องการทางออกคับ
ทางออกจริงๆ ที่ถูกปิดไว้ ใครมีอำนาจก็เปิดซะ
ก่อนที่มันจะระเบิดขึ้นมาเอง

อยู่เมืองไทยแล้วเศร้าใจครับ
จะหาใครมาเป็นแบบอย่างซักคนยากเหลือเกิน
พอชอบเข้าหน่อย ก็ดันไปเจอเรื่องที่เค้าเคยทำไม่ดีเอาไว้
ไม่ทำความเลวกัน... นี่จะละเว้นกันบ้างไม่ได้รึไง
ก็เข้าใจว่าคงมีแบบตามน้ำบ้าง ขัดไม่ได้บ้าง
เน่ากันทั้งคนทั้งระบบ... ประเทศไทย
พึ่งไม่ได้ทั้ง hardware และ software
เคยคิดไว้ว่า พ้นยุคผู้ใหญ่...ที่เอาแต่โกงบ้านกินเมือง
มาถึงรุ่นเราแล้วคงจะดีขึ้น
แต่ก็ลืมคิดไปว่า เด็กที่โตมาในสังคมแย่ๆ แบบนั้น... มันก็ต้องแย่เหมือนกัน

หลายคนถามหาทางออก
หลายคนถามว่าคราวหน้าจะเลือกใครดี...ในเมื่อมันไม่มีใครดีซักคน
คำตอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่...การเลือกไอ้ที่มันแย่น้อยที่สุด
หรือ ดีที่สุดในพวกเลว
เพราะว่าการเลือกแบบนั้น ไม่มีทางได้คนดีออกมา

ไม่มีดีให้เลือกก็ไม่ต้องเลือกซะ
จนกว่าจะมีคนที่ดี ที่ไว้ใจได้มาให้เลือก...ค่อยเลือก

...

ยิ่งตามข่าวก็ยิ่งว้าวุ่นใจ
สถานการณ์ไม่แน่นอน ต้องเตรียมตัวรับมือให้ดี
หลายครั้ง... คำตอบมันก็อยู่ในตัวคำถามเอง...

...

กลับมาเรื่องหนังกันดีกว่า
แล้ววันนี้ก็มาว่าด้วยเรื่องหนังภาคต่อ spider man 2
วันก่อนดูภาคแรก นั่งดูไป Money Man ก็ผุดขึ้นมาในหัว
ภาคสอง ฮีโร่ (หรือทรราช?)ของเรา
ก็ต้องต่อสู้กับเหล่าร้าย (ของใคร?) อีกครั้ง
อำนาจย่อมมีสองขั้ว (เป็นอย่างน้อย) เสมอ
จะว่าไป... จริงๆ แล้วเค้าก็ต้องสู้กับคนที่มีอำนาจในทางด้านสื่อด้วยนี่เนอะ
ใช้เงินสู้กับสื่อ... แข่งกันสร้างภาพรึเปล่า?
แล้วสุดท้าย "โจร" จะกลับใจได้มั้ย?
(แล้วคนไหนโจร?)

เคยคุยกับเพื่อนคนนึงว่าเราควรให้โอกาสคนที่เคยทำผิดจะได้มั้ย
เค้าตอบได้... แต่ผมตอบไม่
จนทุกวันนี้ไม่รู้ว่าเค้าจะพิสูจน์คำตอบของเค้าให้ผมได้รึยังว่าโจรกลับใจได้มั้ย

แบบชูวิทย์นี่เรียกว่าอะไรดี?
เฮ้ย... รายนั้นมันกลับใจจริงรึเปล่าก็ยังไม่รู้เล้ย -*-
จะเข้ามาหาอำนาจเพราะยอมโดนกระทำฝ่ายเดียวไม่ได้...
เหมือนใครบางคนรึเปล่าก็ไม่รู้

อำนาจนี่อันตรายเนอะ ทำคนที่ดี... ที่คิดว่าดี... ให้เปลี่ยนไปก็ได้

ก่อนที่จะรู้จักพอ แล้วเสียสละได้
ต้องเริ่มจากไม่แก้แค้นก่อนอื่นเลยนะเนี่ย




good1uck
21 ก.ย. 2548 เวลา 17:20 น.




 

Create Date : 21 กันยายน 2548    
Last Update : 21 กันยายน 2548 17:53:19 น.
Counter : 329 Pageviews.  

Money Man

จริงๆ ช่วงนี้ดูหนังไปเยอะมาก แต่ประเด็นที่ได้กลับไม่มาก
และคงเพราะช่วงนี้เรื่องราวอื่นๆ มีความน่าสนกว่ากันเยอะ
(เอาไว้เขียนถึงหนังแยกไปอีกอันเลยดีกว่า เดี๋ยวมันตีกัน)
เริ่มจากอะไรก่อนดี การเมือง...เศรษฐกิจ...สังคม
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็มีแต่ปัญหาทั้งนั้น
ถ้าใครอ่านตั้งแต่ช่วงแรกๆ ผมจะถามแบบหยิกแกมหยอกว่า
คุณเลือกที่จะเป็นทาสของใคร?
ฝรั่ง...จีน...ไทย...ญี่ปุ่นและอีกมากมาย
ก็พวกนายทุนทั้งหลายนั่นแหละ
จนมาถึงวันนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่คำถามนี้เกิดขึ้นมาในหัวของผม
แต่มันไม่ใช่ทางเลือกที่ให้เลือกอีกแล้ว
มันคือสิ่งที่เป็น...คือสิ่งที่เราอยู่...และมันคือความจริง...ว่า

...

ตอนนี้เราทุกคนล้วนเรามาเป็นทาสในระบบๆ นี้แล้ว
การเลือกนาย
ไม่ว่าจะเป็นนายหัว "ท่อนไม้"
หรือ "นกกระสา" ที่หลายๆ คนอาจจะเรียกเค้าว่าลูกแมวกันอยู่ตอนนี้
ผลที่ได้ก็อาจจะไม่แตกต่างกัน
สุดท้ายแล้วกบอย่างพวกเรา
ก็เป็นกบในสายตาของเหล่า "นาย" ทั้งหลายอยู่ดี

...

หลายคนอาจจะเถียงในใจ
หลายคนอาจจะบอกว่า ไม่มีใครมาบังคับเราได้ซักหน่อย
ขอแค่มีตังค์อยากจะทำอะไรก็ได้ สบายอยู่แล้ว
นั่นไง เงินนี่แหละ สิ่งที่เราๆ ตกเป็นทาส
และทำให้เราตกเป็นทาสของคนอื่นๆ ด้วย
ดูหลุมดำเมื่อวาน...ได้ฟังคำตอบแล้วเศร้าใจ
เพราะเงินตัวเดียวเท่านั้น มันทำให้ความคิดของคนเป็นไปได้ขนาดนั้นเลยเหรอ
ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้เงินมาซื้อ "วัตถุ" ซื้อ "ความสบาย"
อันนั้นเป็นตัวอย่างของคนที่ตกเป็นทาสของเงิน
แต่ก็แค่คนส่วนน้อยเท่านั้น
แล้วอย่างเราๆ หละ เป็นทาสของอะไร
ทาส...ใช้คำนี้อาจจะเข้าใจความหมายไม่ตรงกันได้
เดือนๆ นึงนี่ คุณมีรายจ่ายใหญ่ๆ อะไรบ้าง
หลักๆ ก็ค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง
(ส่วนพวกค่าช๊อบปิ้ง อันนี้ก็เห็นๆ อ่ะนะ ว่าเป็นทาสแบรนด์ไหนกัน)
คิดซะว่าเราทุกคนเหมือนกัน
คือ... ได้รับการศึกษา โดยมีพ่อแม่ ผู้ปกครองอุดหนุน
ต้นทุนในส่วนนั้น ถือว่าได้มาเปล่าๆ
ท่านให้กับเราด้วยความรักและความหวังดี
เพราะมันไม่ใช่การลงทุนที่น่าจะคุ้มค่าเลย
กับการลงทุนในการศึกษาเป็นล้านๆ เพื่อมารับเงินเดือนในหลักหมื่น
หลายคนอาจจะจะเถียงว่า สิ่งที่ได้มาไม่สามารถวัดได้เป็นตัวเงิน
ก็ไม่เถียงครับ แต่แค่อยากจะบอกว่า ต้นทุนมันสูงเกินจริงไปรึเปล่า
กลับมาๆ กลับมาเรื่องค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง
จะคิดกันแบบแต่ละคนมีทุนเริ่มต้นเท่ากันเลยนะ คือ ไม่มีอะไรเลย
เพราะความจริงหลายๆ คนอาจจะโชคดี มีทุนเริ่มต้นดี
มีบ้านให้อยู่ มีรถให้ขับ มีและมี... อะไรอีกหลายๆ
ที่คนที่รักเราเค้าเตรียมพร้อมให้อยู่แล้ว
แต่เราจะคิดแบบวัยรุ่นฝรั่งที่แยกครอบครัวออกมาเร็วกัน
หรือเหมือนเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรก็ได้
ที่ทุกๆ อย่างคือรายจ่าย

ค่ากิน... วันละร้อย เดี๋ยวนี้อาจจะไม่พอแล้วนะ
ไหนจะกินข้าวกับเพื่อนอีก ครั้งละสามร้อยเป็นมาตรฐาน
มากกว่านี้... เริ่มจะแพงแล้วนะ
เอาเป็นว่าแบบถูกๆ ค่ากินนี้ ต้องมี 3,000 หละ

ค่าอยู่... ชีวิตในเมือง
ห้องเช่านี่แบบถูกๆ รวมน้ำไฟไป 3,000 ก็ไม่รู้ว่าจะเอาอยู่มั้ย

นี่แค่ค่ากินกับค่าที่ซุกหัวนอน ก็จะเท่ากับเงินเดือนข้าราชการเอาแล้วนะ

ไหนจะค่าเดินทางอีก
แต่ถ้าอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานคงมีส่วนนี้น้อย
ถ้าไกลหละ ไป-กลับ ไกลๆ เนี่ยบางทีแค่มีแบงค์ร้อยอาจจะเอาไม่อยู่
เอาหน่ะ แบบถัวๆ ค่าเดินทาง 3,000 นี่นาจะได้กันนะ
รวมไปถึงคนใช้รถด้วย 3,000 นี่ค่าน้ำมันแค่จิ๊บๆ

ไหนๆ รวมกันได้ถึงไหนแล้ว
มีใคร"งง"ตัวเลขรึเปล่า
ง่ายๆ... แบบไหนก็ 6,000 (เป็นอย่างน้อย)
อยู่หอพัก (คอนโด...นั่นแหละเหมือนกัน -*-) ใกล้ที่ทำงานก็ 6,000
อยู่บ้านขับรถไปทำงาน ก็ 6,000
หรือจะมีรูปแบบชีวิตแบบอื่น 6,000 นี่ก็คงต้องจ่ายหละนะ
เป็นขั้นต่ำสำหรับค่ากิน ค่าอยู่ ค่าเดินทาง
นี่ขนาดยังไม่รวมค่าดูหนัง ไปเที่ยวกับแฟน ค่าเสื้อผ้า
ภาษีสังคมอื่นๆ ตั้งแต่ผ้าป่า ไปจนถึงเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนๆ
ที่แล้วแต่จะใช้จ่ายกันอีกนะ
เงินเดือนหมื่นนิดๆ นี่ไม่ต้องคิดถึงเงินเก็บกันแล้ว
เดือนชนเดือนตลอด
แล้วเราทำงานกันไปเพื่อใครเนี่ย
มีอะไรที่มันผิดไปรึเปล่า?

พูดแบบนี้หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจชัดเจน
มันก็รายจ่ายปกตินี่หว่า
จะมีชีวิตอยู่มันก็ต้องใช้
ซึ่งมันก็ใช่...
แต่อยากลงรายละเอียดลงไปอีกนิด
ลงไปในรายจ่ายตัวใหญ่ๆ จริงๆ ในแต่ละเดือนของคนหลายๆ คน
ค่าโทรศัพท์มือถือ ทั้งแบบรายเดือนและราย"ออกรุ่นใหม่"
มือถือเครื่องนึงนี่ก็ตีซะว่าเงินเดือนๆ นึงกันเลยนะ
ส่วนค่าโทรนี่ก็แล้วแต่คน
คุยเยอะเดือนนึงก็เป็นพัน
ของผมเดือนละสามร้อยได้ บางทีก็อยู่ได้สองเดือน
ไม่ค่อยได้โทรคุยกับใครทางมือถือนานๆ
โทรศัพท์บ้านก็มี แต่ส่วนใหญ่ออนไลน์เอามากกว่า
เพื่อนๆ ถ้าไม่เห็นผมออนไลน์เกินสองอาทิตย์ ไม่สิ...ซักเดือนนึงนี่
ให้สันนิษฐานเอาได้เลยว่า ตายไปแล้ว -*-
รายจ่ายเฉลี่ยสำหรับค่าโทรออก คนละ 500 หลายคนว่ามันเป็นความจำเป็น
ใช่มันเป็นความจำเป็นที่ทำให้นายของเรามีรายได้ต่อเดือน
เท่ากับ
ฐานลูกค้า คูณด้วย 500 ...สบายๆ ไปทุกๆ เดือน
ทุกๆ เดือน... จนกว่าเราจะตาย...
ไม่กี่ปีมานี่เอง ที่มือถือเข้ามาแพร่หลาย
แต่มันกลายเป็นความจำเป็นของชีวิตไปแล้ว
อยากคิดสินค้าแบบนี้ให้ได้ซักตัวจริงๆ น้า...

...

ความจำเป็นของชีวิต
คนที่ใช้รถก็บอกว่ารถ จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิต
ถึงขั้นเทียบรายจ่ายให้เห็นกันเลย
ว่าต่อเดือนแล้ว ใช้รถหรือไม่ก็ไม่แตกต่างกัน
ไม่เถียงครับ เพราะผมก็คิดแบบนั้น...แต่รถนี่ท่านได้มาฟรีๆ หรือ?
ให้ซื้อรถนี่...ซื้อบ้านยังจะดีซะกว่า
ยังมีโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นบ้าง
ไม่ใช่อะไร ซื้อมาแล้วก็มีแต่จ่ายๆๆๆ...และจ่าย
จริงๆ ถ้าบ้านเรามีขนส่งมวลชนดีๆ คนก็ไม่ต้องซื้อรถกันเยอะขนาดนี้แล้ว
ตรงนี้ ใครๆ ก็รู้ บริษัทรถก็รู้
เราเลยต้องทนนั่งรถร้อนๆ ต่อมาก็เป็นรถตู้อัดๆ
เพื่อให้คนที่ทนไม่ได้ ไปเพิ่มยอดขายให้เค้าซะ
เป้าหมาย...รุ่นนี้ ปีนี้ แสนคันนะ...
แล้วก็เก่งปัญหารถติดด้วยการขยายถนน - -" ใช้อะไรคิดวะเนี่ย?
รถไฟฟ้าก็อ้างว่าคนน้อย
คนน้อยหรือยอดขายรถจะตกครับท่าน?
ตอนนี้คุณเป็นทาสของรถยี่ห้อไหนกันอยู่ครับ?
ทั้งทาสเงินผ่อนและทาสค่าอะไหล่
อดทนทำงานแทบตาย 5 ปี ได้รถมาคันนึง
ที่ใกล้จะต้องเริ่มซ่อมบ่อยแล้ว - -" คุ้มค่ามากๆ

พูดถึงบ้าน เดี๋ยวนี้ราคาก็พุ่งไปถึงไหนต่อถึงไหน
3 ล้าน 5 ล้าน นี่ได้แค่บ้านหลังเล็กๆ เองนะ
ทำงานกันเป็นสิบปีนะ กว่าที่คนธรรมดาจะได้เป็นเจ้าของบ้านอย่างแท้จริง
ไม่ใช่แค่ได้อยู่โดยจ่ายค่าเช่าให้กับธนาคาร
บ้านมันแพงเกินไปรึเปล่า? ไม่มีใครคิดว่าแพงเลยเหรอ?
เมื่อทุกจุดคิดแต่จะเอากำไร ผลผลิตสุดท้ายย่อมหาราคาถูกไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น
คนทุกคนคิดที่จะมีเงิน มีทอง
คิดที่จะร่ำรวยเหมือนๆ กัน
ไม่มีทางที่ทุกคนจะทำได้เช่นนั้น
คุณจะบอกว่าคนจนจะหมดไป
อาจจะมีวิธีที่ทำได้.. (ผมยังมองโลกในแง่ดี ทุกปัญหาย่อมมีคำตอบ)
แต่ไม่ใช่ทุกวิถีทางที่กำลังทำอยู่อย่างแน่นอน

ในทางเศรษฐศาสตร์
สิ่งต่างๆ ย่อมมีอยู่อย่างจำกัด
จะยกเว้นก็แต่ความต้องการของคนเท่านั้น... ที่ต้องการได้ไม่จำกัด
เงิน...ก็มีอยู่อย่างจำกัดเช่นกัน
การที่จะมีกระจุกอยู่แค่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
แล้วไปให้ความหวังว่า
เงินที่คนอื่นๆ มีอยู่ มันจะงอกเงยขึ้นมาได้
จนถึงแค่ขั้นที่ไม่มีคนจน
มันทำไม่ได้หรอก
เพราะแม้จะเป็น win-win รายได้เพิ่มกันหมด
แต่อัตราการเพิ่มก็ต่างกัน
หนำซ้ำ... รายจ่ายต่างๆ ยังกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ทุกตัว
เพิ่มกันชนิดที่ ดัชนีมาม่า...ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนที่สุด
ดีดตัวขึ้นมากกว่าเลขสองหลัก
คนเรามีเงินเดือนเยอะขึ้น...แต่จนลง
งงกันมั้ยคับ

เดี๋ยวนี้ดูที่เงินเดือนกันไม่ได้แล้วน้า
ต้องไปดูที่เงินเก็บแทน
เงินเดือนเป็นแสน แต่หมดทุกเดือน
มันจะมีค่าอะไรครับ
จะมีชีวิตอยู่กันเพื่อแค่วันนี้เท่านั้นเหรอ?
ชีวิตสบายๆ ที่เป็นทาสของเงิน
วันนี้คุณแน่ใจได้ยังไงว่าตอนนี้คุณกำลังใช้เงินอยู่
ไม่ใช่ว่าเงินกำลังใช้คุณหรือ?

...

แถมเอาเข้าจริงๆ เงินบาทตอนนี้ก็ไม่น่าถือเอาไว้แล้วนะ
เพราะเงินมันด้อยค่าเร็วเหลือเกิน
วันนึงเราอาจจะเห็นเหรียญร้อยบาท
เหมือนที่คนญี่ปุ่นใช้ๆ กันอยู่
ที่พูดนี่ในกรณีที่ปกติมากๆ นะ... แล้วไหนจะกรณีที่ไม่ปกติที่ อาจจะเกิดขึ้นอีก

เราเป็นแค่กบกันหละครับ
จะอยู่นอกกะลา หรือว่าอยู่ในกะลา กบก็ยังเป็นกบ
เรื่องบางเรื่อง เค้าว่า... กบไม่ควรรู้ กบไม่ควรพูดถึง
มีนิทานเล่าไว้ว่าถ้าได้จูบกับเจ้าหญิง กบอย่างเราๆ จะได้เลิกเป็นกบได้
ไม่รู้ว่าจะเป็นแค่นโยบายขายฝันกันรึเปล่า
เพราะความฝันมันขายกันได้ไงครับ เห็นกันจะๆ
จากค่า sms ได้เนื้อๆ เน้นๆ ...เต็มๆ หัวใจ

นาย "นกกระสา" เค้าว่าเค้าจะอยู่จนครบเทอมนะ
ถ้าเค้าอยู่จนครบเนี่ย คนจนหมดประเทศไทยแน่ๆ... ตายหมดอ่ะนะ
คนพูด คนเตือนนี่ลูกหมามันยังฟังนะ
ไม่รู้ลูกแมวตัวนี้มันจะดื้อขนาดไหน

แล้วตอนจบของกบเลือกนายนี่จบยังไงนะ
คุ้นๆ ว่าจะเป็นโศกนาฏกรรมนะ
เมื่อวิธีการในสภา(โจ๊ก) ไม่สามารถใช้ได้
กบก็ต้องมาร้องกันนอกสภา
จะเดือนตุลาแล้วด้วย เฮ้อ...

รักมาก... ก็เกลียดมาก
จะทำอะไรระวัง yoyo-effect ด้วยละกัน

บลาๆๆ เพ้อไปเรื่อยอีกแล้วเรา
จนตีสองกว่าอีกแล้ว
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ สั้นๆ ไม่ค่อยจะได้เขียนอยู่แล้ว
ก็แถมกันอีกนิดนึง
ได้แรงบันดาลใจมาจากการดู Spider man

ไม่มีใครรู้ว่าเค้าเป็นฮีโร่หรือว่าเป็นซาตาน
อาวุธของเค้าคือเงิน... เค้าคือ Money Man
เค้าสนใจแค่เพียง Growth
เงินของเค้าหอมหวาน เพราะมันซื้อได้ทุกอย่าง
ไม่มีอะไรที่เค้าต้องการแล้วจะทำไม่ได้ เพราะว่าเค้าคือ Money Man
พลังต้องอยู่คู่กับความรับผิดชอบ
จุดจบของเค้าจะเป็นเช่นไร...ไม่มีใครรู้?
รัฐบุรุษกับทรชน อาจจะต่างกันแค่เพียงเส้นขั้นบางๆ
ผู้ที่มีพลังอำนาจมาก ล้วนต้องตายด้วยพลังอำนาจของตนเอง
แต่ถ้าทำดีแล้วก็อย่าท้อ ต้องทำต่อไปและต้องเสียสละ
เพราะคนเราไม่รู้จักพอ
ในพจนานุกรมมีมั้ย? สองคำนี้ - เสียสละ & พอ




good1uck
19 ก.ย. 2548 เวลา 02:34 น.




 

Create Date : 19 กันยายน 2548    
Last Update : 19 กันยายน 2548 3:12:47 น.
Counter : 397 Pageviews.  

B2D / Business ... Diarist ... Diaryhub

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาเขียนอีกครั้ง
หลังจาก Diaryhub ป่วยมาได้พักนึง... ราวๆ อาทิตย์นึงได้
ตอนแรกกะไว้ว่า ไดฮับกลับมาแล้วค่อยอัพ
เพราะด้วยระบบหลายๆ อย่าง อัพที่โน้นสะดวกดี

แรกเริ่มเดิมที... ช่วงแรกที่เดินหาบ้านอยู่ตามเว็บหลายๆ ที่
ก็พบว่ามี option แตกต่างกันไป
บางที่มีแอร์ เฟอร์นิเจอร์พร้อม
บางที่ก็สามารถตกแต่งเองได้แบบฟรีสุดๆ
สุดท้าย ก็... เลือกไม่ได้ เลยเปิดมันสามสี่ที่ไปเลย
อาศัย Copy & Paste เอาบางคนก็อาจจะใช้วิธีนี้เหมือนกัน
แต่บางคนก็มีแบบที่เปิดหลายที่... แต่... ในแต่ละที่ก็จะเขียนไม่เหมือนกัน
อันนี้ก็ตามแต่ความชอบแหละเนอะ

ด้วยความที่อยากจะมีเว็บส่วนตัว
เอาไว้ share ความคิดกับเพื่อนๆ กับคนอื่นๆ บ้าง
แล้วก็เผื่อจะได้ศึกษาการทำเว็บไปในตัวด้วย
แต่เอาเข้าจริงแล้ว ก็สนใจในด้านเนื้อหามากกว่า
Diaryhub ก็เลยเป็นที่แรกที่เข้าไปเขียน ก่อนที่จะ C & P
(Copy & Paste นั่นแหละ หุหุ)
ไปทั้งที่ Storythai แล้วก็ที่ Bloggang ที่นี่แหละ
ซึ่งการทำแบบนี้ก็กลายเป็นการ back up ข้อมูลของตัวเองไปในตัวด้วย
... กลายเป็นดีไป ...

ช่วงเดือนที่แล้ว มีเพื่อนในไดฮับคนนึงพูดถึงการแฮกค์เว็บไดฮับ
ก็เลยได้ฤกษ์มาจัดระบบใน Bloggang ใหม่
ทำหน้าทำตาใหม่ แล้วก็จัดหมวดหมู่ให้กลับมาอ่านง่ายขึ้น
(เผื่อวันหน้าวันหลังได้บอกกล่าวเพื่อนๆ มากขึ้น
จะได้เข้ามาอ่านกันได้ แบบไม่งงๆ)

ไปๆ มาๆ ก็มีวันนี้... วันที่เริ่มอัพจาก Bloggang
(เออ... ต้องเหนื่อยหาที่ back up ข้อมูลเพิ่มอีกแล้วสิเนี่ย )
วันนี้... วันที่ไดฮับไม่สบาย... ด้วยโรคมันนี่ซินโดรม
มันนี่... ทำให้ทั้งมันนั่น และมันโน่น ...เดือดร้อน

...เอาเพื่อนบ้านเราคืนมานะ...

...

หลายต่อหลายครั้ง... ปัญหาส่วนใหญ่ระหว่างคนที่เรียกกันว่าเพื่อน...
เรียกกันว่าพี่... เรียกกันว่าน้อง...
เกิดเพราะ เงิน แล้วก็ผู้หญิง (หรือผู้ชาย)
เรื่องเงิน... อาจจะทำให้เราเสียเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบปีได้
ทำทุกครั้ง... ที่มีเพื่อนมาชวนลงทุนทำอะไรกัน
มันเลยไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเรา
ตัวอย่างก็มีให้เห็นกันทั่วไป แค่ทำรายงาน...
ยังมีคน "กินแรง" กันอย่างเอร็ดอร่อย
แล้วยิ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ ถ้าการจัดการไม่ดี อย่าไปยุ่งจะดีกว่า
เพราะใจคนนี่มันยากแท้หยั่งถึง... ไม่ว่าจะเป็นใจของใคร
เพราะขนาดใจของเราเองบางครั้งยังไม่รู้ใจตัวเองเลย

จนทุกวันนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะจัดสรรผลประโยชน์ยังไง
ระหว่างคนลงทุน กับ คนลงแรง และคนที่ลงทั้งทุน...ลงทั้งแรง
ความจริงจังของคนเรามันก็ต่างกัน เวลาที่ให้ได้ก็ต่างกัน
คนมีแฟนก็ต้องเอาเวลาไปดูแลแฟนด้วย... อันนี้เราก็เข้าใจ
มากคนก็มากความ... จริงแท้แน่นอน

ลองคิดดูสิ เอาเงินรัฐสร้างเขื่อน วางสายส่ง
อยู่ๆ จะเอามาแบ่งขายในตลาดหุ้นได้ไงว้า เอ๊ะ... เกี่ยวกันมั้ย?

อาจจะมึนๆ เพราะตอนที่เขียนอยู่ ก็ดูถึงพริกถึงขิง เอ๊ย.. ถึงเนื้อถึงตัว
ถึงลูกถึงคนเว้ย
เออ... นั่นแหละ ดูไปเขียนไป ดูเจ้าของโรงนวดทะเลาะกันออกทีวี
แถมวันนี้ยังเห็นข่าวค่ายเพลงยักษ์ take over หนังสือพิมพ์ใหญ่อีก
การเมืองเรื่องผลประโยชน์... จริงแท้แน่นอน




 

Create Date : 14 กันยายน 2548    
Last Update : 14 กันยายน 2548 1:01:22 น.
Counter : 397 Pageviews.  

Red light

ไฟแดง... หลายๆ คนก็คงเคยฝ่ากัน... ไม่ใช่และ -*-
ไฟแดง... หลายๆ คนก็คงจะติดกันจนเบื่อ...อยู่ทุกวี่ทุกวันอยู่แล้ว

ผมมีเรื่องจะมาถามความเห็น... เกี่ยวกับไฟแดงนี่แหละ

(ตอบๆ กันหน่อยละกันน้า...)

ถ้า...คุณขับรถไปตามถนนในชนบท ท่ามกลางทุ่งหญ้าโล่งกว้าง
และเกิดไปติดไฟแดงอยู่ที่สี่แยก ที่ไม่มีรถคันอื่นอยู่อีกเลย
มองไปทางไหนสุดลูกหลูกตาก็...ไม่มีรถ ไม่มีคน ไม่มีควาย และไม่มีเต่า...

แล้วคุณเลือกที่จะทำอย่างไร?
(ไม่อยากทำตัวเลือกให้เป็นการชี้นำ)

หลายคนคงมีทั้งที่ตอบว่ารอไฟเขียว แล้วก็บอกว่าฝ่าไปเลย
แต่ผลก็คงตะแตกต่างกันไป (มีติดอ่างด้วย - -")
เป็นผม ผมจะรอจนกว่าไฟจะเขียว แต่...
จากนั้นจะรีบไปแก้ที่ระบบ "ไฟเขียว-ไฟแดง"
ที่มันไม่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของคน
กฎไม่ได้มีไว้ฝ่าอย่างเดียว... มีไว้ให้เราคอยแก้ไขด้วย

แต่เอาเข้าจริง...ถ้ารีบมากๆ
ก็อาจจะทนรอได้ไม่ถึงเหมือนกันแฮะ


"..."

อาจจะงงกันว่าถามทำไม ลองตอบๆ เหตุผลกันมาก่อนละกัน
อยากรู้ว่ามีคนคิดคล้ายๆ กันมั้ย... ก็เท่านั้นเอง ^^




 

Create Date : 09 กันยายน 2548    
Last Update : 9 กันยายน 2548 1:55:02 น.
Counter : 624 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  

h-h
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add h-h's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.